ตอนเกิดเหตุ รถผมและคู่กรณีขับอยู่ในเลนขวา รถคู่กรณีเบรคกระทันหัน ในขณะที่ผมไม่ทันสังเกตุ ทำให้ผมเบรคไม่ทันและชนเข้าที่ท้ายรถคู่กรณี ทำให้บริเวณกระโปรงหลังรถยุบ มีการโทรเรียกตำรวจ และลงท้ายที่ สน.
ผมโดนปรับข้อหาขับรถประมาท และตกลงเรื่องค่าซ่มกันทีหลัง โดยตกลงกันว่าให้คู่กรณีเอารถไปซ่อมแล้วส่งบิลค่าซ่อมของอู่ที่คู่กรณีเอารถไปประเมิน
ด้วยความที่ว่าทางผมลองปรึกษาช่างที่อู่ที่ใช้บริการบ่อย ให้ช่างดูรูปถ่าย ช่างตีราคาไว้ไม่เกิน 2500 อย่างมากก็ 4000-5000 บาท ซึ่งผมคิดว่าราคานี้ก็โอเค
เมื่อคู่กรณีเอารถไปประเมินค่าซ่อม ปรากฏว่า ช่างตีราคาซ่อมทั้งหมด 12000 กว่าบาท มีทั้งค่าฝาปิดท้าส(ผมเข้าใจว่าใช่ฝากระโปรงใหม่รึเปล่า)ประมาณ 4500 บาท ค่าเซนเซอร์(ซึ่งจากที่ดู ไม่ได้ชนที่เซนเซอร์) ค่ากระจกบังลม ค่าสีต่าง ๆ ค่าเคาะ(ถ้าเปลี่ยนใหม่ ทำไมมีค่าเคาะ) ค่าแรงอีกประมาณ 2500 บาท ผมเห็นแล้วคิดว่ามันน่าจะเกินไปรึเปล่าครับ ทางผมจึงไม่ยอมและปรึกษาญาติที่เป็นทนาย เขาให้คำแนะนำว่าให้เสนอคู่กรณีว่าให้มาซ่อมที่อู่ที่เราดูไว้รวมทั้งให้ค่าน้ำมันไปกลับ เพราะราคาที่ตีมาสูงเกินเหตุ ถ้าไม่ได้คงต้องมีการฟ้องร้อง
หลังโทรตกลงกันแล้วจากนั้นก็เหมือนฝ่ายคู่กรณียอมทำตามที่ฝ่ายผมเสนอ แต่หลังจากนั้นคู่กรณีได้บอกทางข้อความมาว่า ต้องเปลี่ยนกระโปรงหลังใหม่เท่านั้น ไม่ยอมรับการเคาะและโป๊วสีธรรมดา(ซึ่งแผลไม่มีถลอก แค่ยุบเล็กน้อย) หลังจากนั้นได้โทรคุยกันอีกครั้งว่าฝ่ายผมไม่โอเค ถ้าไม่ยอมทำแบบนี้ ให้ทำการฟ้องได้เลย
อยากสอบถามว่าในกรณีเกิดการฟ้องร้องขึ้น ฝ่ายไหรจะเป็นผู้เสียหายครับ (ขออภัยครับ แอคเคาท์นี้ผมลงรูปอะไรไม่ได้เลย)
สอบถามเรื่องการเรียกร้องค่าเสียหายกรณีไม่มีประกันทั้งคู่
ผมโดนปรับข้อหาขับรถประมาท และตกลงเรื่องค่าซ่มกันทีหลัง โดยตกลงกันว่าให้คู่กรณีเอารถไปซ่อมแล้วส่งบิลค่าซ่อมของอู่ที่คู่กรณีเอารถไปประเมิน
ด้วยความที่ว่าทางผมลองปรึกษาช่างที่อู่ที่ใช้บริการบ่อย ให้ช่างดูรูปถ่าย ช่างตีราคาไว้ไม่เกิน 2500 อย่างมากก็ 4000-5000 บาท ซึ่งผมคิดว่าราคานี้ก็โอเค
เมื่อคู่กรณีเอารถไปประเมินค่าซ่อม ปรากฏว่า ช่างตีราคาซ่อมทั้งหมด 12000 กว่าบาท มีทั้งค่าฝาปิดท้าส(ผมเข้าใจว่าใช่ฝากระโปรงใหม่รึเปล่า)ประมาณ 4500 บาท ค่าเซนเซอร์(ซึ่งจากที่ดู ไม่ได้ชนที่เซนเซอร์) ค่ากระจกบังลม ค่าสีต่าง ๆ ค่าเคาะ(ถ้าเปลี่ยนใหม่ ทำไมมีค่าเคาะ) ค่าแรงอีกประมาณ 2500 บาท ผมเห็นแล้วคิดว่ามันน่าจะเกินไปรึเปล่าครับ ทางผมจึงไม่ยอมและปรึกษาญาติที่เป็นทนาย เขาให้คำแนะนำว่าให้เสนอคู่กรณีว่าให้มาซ่อมที่อู่ที่เราดูไว้รวมทั้งให้ค่าน้ำมันไปกลับ เพราะราคาที่ตีมาสูงเกินเหตุ ถ้าไม่ได้คงต้องมีการฟ้องร้อง
หลังโทรตกลงกันแล้วจากนั้นก็เหมือนฝ่ายคู่กรณียอมทำตามที่ฝ่ายผมเสนอ แต่หลังจากนั้นคู่กรณีได้บอกทางข้อความมาว่า ต้องเปลี่ยนกระโปรงหลังใหม่เท่านั้น ไม่ยอมรับการเคาะและโป๊วสีธรรมดา(ซึ่งแผลไม่มีถลอก แค่ยุบเล็กน้อย) หลังจากนั้นได้โทรคุยกันอีกครั้งว่าฝ่ายผมไม่โอเค ถ้าไม่ยอมทำแบบนี้ ให้ทำการฟ้องได้เลย
อยากสอบถามว่าในกรณีเกิดการฟ้องร้องขึ้น ฝ่ายไหรจะเป็นผู้เสียหายครับ (ขออภัยครับ แอคเคาท์นี้ผมลงรูปอะไรไม่ได้เลย)