เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เคยกล่าววาจาสุดคลาสสิคว่า "เกมรุกทำให้คุณชนะ แต่เกมรับทำให้คุณเป็นแชมป์" แน่นอนว่าประโยคนี้แสดงให้เห็นว่าเกมรับมีความสำคัญมากแค่ไหน เพราะอาจจะสามารถเปลี่ยนแปลงผลการแข่งขันให้คุณเป็นแชมป์ หรือพลาดแชมป์ได้เลย
ย้อนไปในฤดูกาล 2011-12 แมนฯ ซิตี้ กับ แมนฯ ยูไนเต็ด มี 89 คะแนนเท่ากัน โดย "เรือใบสีฟ้า" ยิงได้ 93 ประตูเสีย 29 ลูก ขณะที่ "ผีแดง" ยิงได้ 89 ประตู เสีย 33 ลูก เห็นไหมว่าการเสียประตูน้อยยิงได้เยอะทำให้ ทีมดังในถิ่นเอติฮัด สเตเดี้ยม คว้าแชมป์ลีกไปครอง
สำหรับตอนนี้เกมลีกเพิ่งผ่านไป 3 เดือนกว่าๆ อาจจะเป็นเพียงแค่ช่วงต้นฤดูกาล แต่ก็ถือว่ามีความสำคัญมากๆ เพราะเริ่มต้นดีย่อมได้เปรียบ โดยตอนนี้มี 5 สโมสรจาก 5 ลีกชั้นนำในยุโรปที่มีสถิติเกมรับดีที่สุด (เสียประตูน้อยที่สุด) ประจำฤดูกาล 2018-19
5. อินเตอร์ มิลาน
ทัพ "งูใหญ่" เหมาะสมกับตำแหน่งนี้เพราะพวกเขาทำผลงานดีเยี่ยมด้วยการขึ้นมาอยู่ในอันดับ 2 ในตารางลีกกัลโช่ เซเรีย อา ด้วยคะแนน 22 แต้ม พร้อมกับสถิติชนะ 7, เสมอ 1 และแพ้ 2 เกมเท่านั้นในฤดูกาล 2018-19
ยิ่งไปกว่านั้นสโมสรดังแห่งเมืองมิลาน ตะบันตาข่ายคู่แข่งไปเบาะๆ 16 ลูก และเสียเพียงแค่ 6 ประตูเท่านั้น (เฉพาะในเซเรีย อา) งานนี้ต้องขอบคุณสองภูผาหิน ชูเอา มิรันด้า กับ มิลาน สคริเนียร์ ที่ทำให้เกมรับของ อินเตอร์ แกร่งยากจะเจาะเข้าไปทำประตู
ขณะเดียวกัน ซาเมียร์ ฮันดาโนวิช ผู้รักษาประตู ยังโชว์ฟอร์มสุดยอดด้วย ฉะนั้นหาก อินเตอร์ อยากมีลุ้นไล่บี้เบียดลุ้นแชมป์สคูเด็ตโต้ กับ ยูเวนตุส จ่าฝูง พวกเขาจำเป็นต้องรักษาเกมรับที่เหนียวแน่นแบบนี้ต่อไป ส่วนเกมรุกต้องขยันยิงประตูให้ได้อย่างต่อเนื่องด้วย
4. ปารีส แซงต์-แชร์กแมง
นี่เป็นอีกหนึ่งทีมที่มีสถิติคล้ายๆ กัน โดย ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ยอดทีม ลีก เอิง ฝรั่งเศส เสียแค่ 6 ประตูเท่านั้นในฤดูกาลนี้ และนั่นเป็นเหตุผลให้ทีมดังในกรุงปารีส รั้งตำแหน่งจ่าฝูงต่อไป
"เปแอสเช" เก็บชัยชนะในเกมลีก 11 แมตช์ พร้อมกับยิงไป 39 ประตู โดยทีมของกุนซือโทมัส ทูเคิ่ล เป็นทีมเดียวใน 5 ลีกชั้นนำของยุโรป ที่เก็บชัยชนะเรียบวุธในเกมลีก แน่นอนว่านี่ความความสำเร็จที่พวกเขามีเหนือกว่า อินเตอร์ มิลาน แม้ว่าพวกเขาจะเสียประตูเท่ากันก็ตาม
จากสามประสานสุดฮอตได้แก่ คีลิยัน เอ็มบัปเป้, เอดินสัน คาวานี่ และ เนย์มาร์ ที่กำลังอยู่ในช่วงท็อปฟอร์ม เพราะทั้งสามคนช่วยกันยิงประตูรวมกันถึง 23 ลูกในเวลานี้ (อาจจะมากกว่านั้นในอนาคต) ขณะที่เกมรับทีมมีกำแพงเหล็กก็คือ ติอาโก้ ซิลวา, มาร์กินโญส และ เพรสแนล คิมเปมเบ้ ช่วยให้ทีมมีแนวรับสุดแกร่ง ซึ่งไม่ปล่อยให้เกมรุกของคู่แข่งเข้ามาวุ่นวายได้ง่ายๆ
3. แอตเลติโก มาดริด
ทัพ "ตราหมี" เป็นที่ขึ้นชื่อลือชาเรื่องเกมรับที่เหนียวแน่นอยู่แล้ว และสโมสรแห่งนี้เสียแค่ 5 ประตูในฤดูกาลนี้เท่านั้น
สโมสรประจำกรุงมาดริด ปัจจุบันรั้งอันดับ 4 ในตารางลา ลีกา สเปน โดยเก็บชัยชนะ 5 แมตช์, เสมอ 4 แมตช์ และแพ้แค่เกมเดียวเท่านั้น แน่นอนว่าสถิติที่ยอดเยี่ยมในเกมรับของพวกเขามาจากการที่ทีมมี ดีเอโก้ โกดิน หัวใจสำคัญของแผงหลัง แอต.มาดริด
โกดิน ซึ่งเป็นกัปตันทีมชาติอุรุกวัย และแอต.มาดริด เล่นเคียงข้างกับ สเตฟาน ซาวิช และ โฮเซ่ คีเมเนซ โดยทั้งสามคนจัดการทำให้เกมรุกคู่แข่งต้องหงอยไปเลย ถ้าทีมของกุนซือดีเอโก้ ซิเมโอเน่ อยากที่จะคว้าแชมป์ลีกเมืองกระทิงดุในฤดูกาลนี้ พวกเขาต้องมี 3 แข้งแนวรับอยู่ช่วยทีมอย่างต่อเนื่อง กระนั้นทีมชุดนี้จำเป็นต้องเน้นเกมรุกบ้าง เพื่อที่จะได้ผลการแข่งขันในด้านบวก
2. ลิเวอร์พูล
ลิเวอร์พูล ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นในฤดูกาลนี้โดยพวกเขารั้งอันดับ 2 หรือหากมองแบบเข้าข้างก็รั้งตำแหน่งจ่าฝูงร่วมกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วยการมี 26 คะแนนเท่ากัน โดย "หงส์แดง" เก็บชัยชนะ 8 แมตช์ และเสมอแค่ 3 ซึ่งเท่ากับ "เรือใบสีฟ้า"
นอกจากนี้ "เดอะ เร้ดส์" ยังเป็นหนึ่งในสามทีมลีกผู้ดีที่ยังไม่แพ้ใครในฤดูกาลนี้ โดยมี แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ เชลซี ร่วมด้วยช่วยกันไร้พ่าย ขณะเดียวกันทีมของกุนซือเจอร์เก้น คล็อปป์ เสียแค่ 4 ประตูเท่านั้นในฤดูกาลนี้
ต้องยอมรับว่านักเตะใหม่ที่คว้าตัวมาทั้ง อลิสซง เบ็คเกอร์ นายทวารชาวบราซิเลียน โชว์ฟอร์มสุดหนึบนับตั้งแต่มาเฝ้าเสาให้ "หงส์แดง" ขณะที่เซนเตอร์แบ็กหอคอยคู่อย่าง เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ และ โจ โกเมซ แข็งแกร่งจนเกมรุกคู่แข่งต้องหงอยหากต้องปะทะกับสองแข้งนี้
กระนั้นแม้ว่าพวกเขาจะเสียแค่ 4 ประตูก็ตาม แต่ก็ไม่ใช่ทีมที่มีสถิติเกมรับที่ดีที่สุดในฤดูกาลนี้
1. แมนเชสเตอร์ ซิตี้
อันดับ 1 ต้องบอกว่าคู่ควรจริงๆ นั่นก็คือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดย "เรือใบสีฟ้า" โชว์ฟอร์มได้สุดเริ่มระเบิดระบือไกลทั้งเกมรุก และเกมรับ แน่นอนว่าพวกเขาเป็นสโมสรที่ยิงประตูได้มากที่สุดในเกมพรีเมียร์ลีก เมื่อซัดไปแล้ว 27 ประตู และเสียแค่ 3 ลูกเท่านั้น
สำหรับตอนนี้ก็เหมือนกับ ลิเวอร์พูล พวกเขารั้งอันดับจ่าฝูง แต่มองในแง่บวกสำหรับสาวก "เดอะ ค็อป" ก็คือการรั้งจ่าฝูงร่วมกับ "หงส์แดง" โดยมี 26 คะแนน พวกเขายังไม่แพ้ใครในฤดูกาลนี้ (เช่นเดียวกับ ลิเวอร์พูล กับ เชลซี) ต้องยอมรับว่าเกมรับที่เหนียวแน่นมาจากฟอร์มแกร่งของ จอห์น สโตนส์ และ เอมเมอริค ลาป๊อร์กต์ ที่ช่วยให้เกมรับของทีมยากจะเจาะได้
1
ในกรณีของ ลาป๊อร์กต์ ถือว่าทำให้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือ ไม่ผิดหวังที่อยากได้ตัวมาร่วมทีมให้ได้ และเป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่าเงินทุกเพนนีที่สโมสรทุ่มซื้อนักเตะรายนี้คุ้มค่าจริงๆ นอกจากนี้ "เป๊ป" ยังมีเซนเตอร์แบ็กที่สามารถช่วยทีมได้อีกทั้ง แว็งซองต์ กอมปานี และ นิโกลัส โอตาเมนดี้
แน่นอนว่าหาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อยากที่จะป้องกันแชมป์ลีกสูงสุดเมืองผู้ดี พวกเขาต้องมีสถิติเกมรับที่ยอดเยี่ยมแบบนี้ต่อไป ส่วนเกมรุกอย่างที่บอกด้วยสไตล์ของ กวาร์ดิโอล่า คงไม่มีอะไรต้องกังวล
credit : www.siamsport.co.th
หลังเหนียวมีชัยไปกว่าครึ่ง! เผย 5 ทีมเกมรับแน่น
ย้อนไปในฤดูกาล 2011-12 แมนฯ ซิตี้ กับ แมนฯ ยูไนเต็ด มี 89 คะแนนเท่ากัน โดย "เรือใบสีฟ้า" ยิงได้ 93 ประตูเสีย 29 ลูก ขณะที่ "ผีแดง" ยิงได้ 89 ประตู เสีย 33 ลูก เห็นไหมว่าการเสียประตูน้อยยิงได้เยอะทำให้ ทีมดังในถิ่นเอติฮัด สเตเดี้ยม คว้าแชมป์ลีกไปครอง
สำหรับตอนนี้เกมลีกเพิ่งผ่านไป 3 เดือนกว่าๆ อาจจะเป็นเพียงแค่ช่วงต้นฤดูกาล แต่ก็ถือว่ามีความสำคัญมากๆ เพราะเริ่มต้นดีย่อมได้เปรียบ โดยตอนนี้มี 5 สโมสรจาก 5 ลีกชั้นนำในยุโรปที่มีสถิติเกมรับดีที่สุด (เสียประตูน้อยที่สุด) ประจำฤดูกาล 2018-19
5. อินเตอร์ มิลาน
ทัพ "งูใหญ่" เหมาะสมกับตำแหน่งนี้เพราะพวกเขาทำผลงานดีเยี่ยมด้วยการขึ้นมาอยู่ในอันดับ 2 ในตารางลีกกัลโช่ เซเรีย อา ด้วยคะแนน 22 แต้ม พร้อมกับสถิติชนะ 7, เสมอ 1 และแพ้ 2 เกมเท่านั้นในฤดูกาล 2018-19
ยิ่งไปกว่านั้นสโมสรดังแห่งเมืองมิลาน ตะบันตาข่ายคู่แข่งไปเบาะๆ 16 ลูก และเสียเพียงแค่ 6 ประตูเท่านั้น (เฉพาะในเซเรีย อา) งานนี้ต้องขอบคุณสองภูผาหิน ชูเอา มิรันด้า กับ มิลาน สคริเนียร์ ที่ทำให้เกมรับของ อินเตอร์ แกร่งยากจะเจาะเข้าไปทำประตู
ขณะเดียวกัน ซาเมียร์ ฮันดาโนวิช ผู้รักษาประตู ยังโชว์ฟอร์มสุดยอดด้วย ฉะนั้นหาก อินเตอร์ อยากมีลุ้นไล่บี้เบียดลุ้นแชมป์สคูเด็ตโต้ กับ ยูเวนตุส จ่าฝูง พวกเขาจำเป็นต้องรักษาเกมรับที่เหนียวแน่นแบบนี้ต่อไป ส่วนเกมรุกต้องขยันยิงประตูให้ได้อย่างต่อเนื่องด้วย
4. ปารีส แซงต์-แชร์กแมง
นี่เป็นอีกหนึ่งทีมที่มีสถิติคล้ายๆ กัน โดย ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ยอดทีม ลีก เอิง ฝรั่งเศส เสียแค่ 6 ประตูเท่านั้นในฤดูกาลนี้ และนั่นเป็นเหตุผลให้ทีมดังในกรุงปารีส รั้งตำแหน่งจ่าฝูงต่อไป
"เปแอสเช" เก็บชัยชนะในเกมลีก 11 แมตช์ พร้อมกับยิงไป 39 ประตู โดยทีมของกุนซือโทมัส ทูเคิ่ล เป็นทีมเดียวใน 5 ลีกชั้นนำของยุโรป ที่เก็บชัยชนะเรียบวุธในเกมลีก แน่นอนว่านี่ความความสำเร็จที่พวกเขามีเหนือกว่า อินเตอร์ มิลาน แม้ว่าพวกเขาจะเสียประตูเท่ากันก็ตาม
จากสามประสานสุดฮอตได้แก่ คีลิยัน เอ็มบัปเป้, เอดินสัน คาวานี่ และ เนย์มาร์ ที่กำลังอยู่ในช่วงท็อปฟอร์ม เพราะทั้งสามคนช่วยกันยิงประตูรวมกันถึง 23 ลูกในเวลานี้ (อาจจะมากกว่านั้นในอนาคต) ขณะที่เกมรับทีมมีกำแพงเหล็กก็คือ ติอาโก้ ซิลวา, มาร์กินโญส และ เพรสแนล คิมเปมเบ้ ช่วยให้ทีมมีแนวรับสุดแกร่ง ซึ่งไม่ปล่อยให้เกมรุกของคู่แข่งเข้ามาวุ่นวายได้ง่ายๆ
3. แอตเลติโก มาดริด
ทัพ "ตราหมี" เป็นที่ขึ้นชื่อลือชาเรื่องเกมรับที่เหนียวแน่นอยู่แล้ว และสโมสรแห่งนี้เสียแค่ 5 ประตูในฤดูกาลนี้เท่านั้น
สโมสรประจำกรุงมาดริด ปัจจุบันรั้งอันดับ 4 ในตารางลา ลีกา สเปน โดยเก็บชัยชนะ 5 แมตช์, เสมอ 4 แมตช์ และแพ้แค่เกมเดียวเท่านั้น แน่นอนว่าสถิติที่ยอดเยี่ยมในเกมรับของพวกเขามาจากการที่ทีมมี ดีเอโก้ โกดิน หัวใจสำคัญของแผงหลัง แอต.มาดริด
โกดิน ซึ่งเป็นกัปตันทีมชาติอุรุกวัย และแอต.มาดริด เล่นเคียงข้างกับ สเตฟาน ซาวิช และ โฮเซ่ คีเมเนซ โดยทั้งสามคนจัดการทำให้เกมรุกคู่แข่งต้องหงอยไปเลย ถ้าทีมของกุนซือดีเอโก้ ซิเมโอเน่ อยากที่จะคว้าแชมป์ลีกเมืองกระทิงดุในฤดูกาลนี้ พวกเขาต้องมี 3 แข้งแนวรับอยู่ช่วยทีมอย่างต่อเนื่อง กระนั้นทีมชุดนี้จำเป็นต้องเน้นเกมรุกบ้าง เพื่อที่จะได้ผลการแข่งขันในด้านบวก
2. ลิเวอร์พูล
ลิเวอร์พูล ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นในฤดูกาลนี้โดยพวกเขารั้งอันดับ 2 หรือหากมองแบบเข้าข้างก็รั้งตำแหน่งจ่าฝูงร่วมกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วยการมี 26 คะแนนเท่ากัน โดย "หงส์แดง" เก็บชัยชนะ 8 แมตช์ และเสมอแค่ 3 ซึ่งเท่ากับ "เรือใบสีฟ้า"
นอกจากนี้ "เดอะ เร้ดส์" ยังเป็นหนึ่งในสามทีมลีกผู้ดีที่ยังไม่แพ้ใครในฤดูกาลนี้ โดยมี แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ เชลซี ร่วมด้วยช่วยกันไร้พ่าย ขณะเดียวกันทีมของกุนซือเจอร์เก้น คล็อปป์ เสียแค่ 4 ประตูเท่านั้นในฤดูกาลนี้
ต้องยอมรับว่านักเตะใหม่ที่คว้าตัวมาทั้ง อลิสซง เบ็คเกอร์ นายทวารชาวบราซิเลียน โชว์ฟอร์มสุดหนึบนับตั้งแต่มาเฝ้าเสาให้ "หงส์แดง" ขณะที่เซนเตอร์แบ็กหอคอยคู่อย่าง เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ และ โจ โกเมซ แข็งแกร่งจนเกมรุกคู่แข่งต้องหงอยหากต้องปะทะกับสองแข้งนี้
กระนั้นแม้ว่าพวกเขาจะเสียแค่ 4 ประตูก็ตาม แต่ก็ไม่ใช่ทีมที่มีสถิติเกมรับที่ดีที่สุดในฤดูกาลนี้
1. แมนเชสเตอร์ ซิตี้
อันดับ 1 ต้องบอกว่าคู่ควรจริงๆ นั่นก็คือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดย "เรือใบสีฟ้า" โชว์ฟอร์มได้สุดเริ่มระเบิดระบือไกลทั้งเกมรุก และเกมรับ แน่นอนว่าพวกเขาเป็นสโมสรที่ยิงประตูได้มากที่สุดในเกมพรีเมียร์ลีก เมื่อซัดไปแล้ว 27 ประตู และเสียแค่ 3 ลูกเท่านั้น
สำหรับตอนนี้ก็เหมือนกับ ลิเวอร์พูล พวกเขารั้งอันดับจ่าฝูง แต่มองในแง่บวกสำหรับสาวก "เดอะ ค็อป" ก็คือการรั้งจ่าฝูงร่วมกับ "หงส์แดง" โดยมี 26 คะแนน พวกเขายังไม่แพ้ใครในฤดูกาลนี้ (เช่นเดียวกับ ลิเวอร์พูล กับ เชลซี) ต้องยอมรับว่าเกมรับที่เหนียวแน่นมาจากฟอร์มแกร่งของ จอห์น สโตนส์ และ เอมเมอริค ลาป๊อร์กต์ ที่ช่วยให้เกมรับของทีมยากจะเจาะได้
1
ในกรณีของ ลาป๊อร์กต์ ถือว่าทำให้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือ ไม่ผิดหวังที่อยากได้ตัวมาร่วมทีมให้ได้ และเป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่าเงินทุกเพนนีที่สโมสรทุ่มซื้อนักเตะรายนี้คุ้มค่าจริงๆ นอกจากนี้ "เป๊ป" ยังมีเซนเตอร์แบ็กที่สามารถช่วยทีมได้อีกทั้ง แว็งซองต์ กอมปานี และ นิโกลัส โอตาเมนดี้
แน่นอนว่าหาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อยากที่จะป้องกันแชมป์ลีกสูงสุดเมืองผู้ดี พวกเขาต้องมีสถิติเกมรับที่ยอดเยี่ยมแบบนี้ต่อไป ส่วนเกมรุกอย่างที่บอกด้วยสไตล์ของ กวาร์ดิโอล่า คงไม่มีอะไรต้องกังวล
credit : www.siamsport.co.th