สวัสดีครับวันนี้ผมก็จะมาเล่าประสบการณ์การรักษาสิวโดยไม่ใช้ยาที Happiness acne beauty center ครับก่อนอื่นเลยก็ต้องขอบอกก่อนว่านี่ไม่ใช่การรักษาครั้งแรกเพราะว่าก่อนหน้านี้ก็ได้ไปรักษาที่คลินิกทั่วไปมาเยอะเหมือนกันแต่ก็ หายไปแค่ตอนใช้ยาเท่านั้นพอหยุดใช้สิวก็กลับมาอีก
-สำหรับใครที่ขี้เกียจอ่านยาวๆนะครับผมแบ่งเป็นหัวข้อต่างๆเอาไว้แล้วครับเลือกอ่านดูได้เลย ^_^
ช่วงเริ่มเป็นสิว
เริ่มเป็นสิวมาตั้งแต่ช่วงขึ้น ม.ปลาย ครับเป็นสิวอุดตันตามปกตินี่แหละตอนแรกก็ไม่รักษาอะไรนะเราก็ปล่อยไปเรื่อยๆเพราะคิดว่าเป็นช่วงเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนในร่างกายผ่านไปสักพักทีนี้เริ่มมีสิวอักเสบขึ้นมาแล้วสิ พอถึงตรงนี้เริ่มคิดได้ครับคงปล่อยไปเรื่อยๆไม่ได้แล้วเพราะมันเริ่มขึ้นเยอะเรื่อยๆช่วงนี้ก็เริ่มหาหมอสิวทั่วๆไปครับก็ได้ยามากิน(จะเป็นยาแก้อักเสบซะส่วนใหญ่)ได้ยามาได้พักนึงสิวก็หายจริงครับแต่พอหยุดยาสิวก็เริ่มกลับมาขึ้นใหม่ เราก็เริ่มลองเปลี่ยนคลินิกดูหรือไม่ก็ซื้อยามาทาเองก็เป็นแบบนี้เหมือนเดิมวนไปเรื่อยๆ จนถึงตอนช่วงหลังนี่แหละที่สิวขึ้นแบบเยอะเป็นว่าเล่นเลยและเป็นสิวอักเสบเกือบทั้งหมด

ตอนนี้แบบว่าต้องการให้สิวมันหายไปให้ไวเลยๆแต่ก็ไม่อยากกลับไปรักษาโดยการกินยาอีก(หลายๆคนก็น่าจะรู้ว่ายาแก้อักเสบกินมากๆมันก็ไม่ดีใช่มั้ยล่ะ)ทีนี้ก็เริ่มหาวิธีรักษาละ ก็ตามมาพวกเว็บต่างๆอินเทอร์เน็ตนี่ล่ะจนไปเจอกระทู้นึงในพันทิป “เขาบอกว่ารักษาสิวโดยไม่ใช้ยา” เราก็เฮ้ย!! ไหนลองเข้าไปอ่านดูซิ สุดท้ายก็ได้เข้ามารักษาที่HABCนี่แหละครับ
ต่อจากนี้จะเป็นตอนเริ่มรักษาHABCแล้วนะครับ
ตอนแรกเราก็เริ่มจากลองโทรเข้าไปปรึกษาก่อนครับว่าเป็นแบบนี้ๆควรจะทาอย่างไง พอได้ลองพูดคุยก็ตัดสินใจเข้าไปหาที่ศูนย์ครับ ในเมื่อมาถึงที่แล้วก็เลยตัดสินใจลองรักษาดูครับเราก็ลงไป 1 คอร์ส
วิธีการรักษาเบื้องต้น(แต่ละคนจะแตกต่างไปตามผิวแต่ละคนนะครับ)
ว่าด้วยวิธีการรักษาของที่นี่นะครับสาหรับผมแล้วจะค่อนข้างแตกต่างกับการรักษาตามคลินิกทั่วไปสักหน่อย ถ้าเป็นคลินิกทั่วไปจะเป็นการให้ยามาทานให้ยามาทาหน้าแล้วก็อาจจะมีฉีดหรือกดสิวบ้าง แต่ที่HABC จะไม่มีการกด ฉีด หรือว่าทานยาครับเพราะที่นี่จะเป็นการใช้ทรีทเม้นต์มาร์กและผลิตภัณฑ์ รวมถึงควบคุมในเรื่องการกินอาหารควบคู่กับการออกกาลังกายครับ เรียกง่ายๆว่าเป็นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมกันเลย และส่วนของการรักษาจะค่อยๆปรับเปลี่ยนไปตามผิว ณ ขณะนั้นและปรับให้เข้ากับแต่ละบุคคลครับ เพราะว่าคนเราเองจะมีลักษณะของผิวที่แตกต่างกันอยู่แล้ว
แล้วก็ทางศูนย์จะให้ผลิตภัณฑ์เรากลับมาทำที่บ้านด้วยครับ(เป็นสารสกัดจากธรรมชาติครับ เหมาะสาหรับคนที่ผิวแพ้ง่ายเป็นอย่างมาก)แต่เราก็ต้องควบคุมอาหารกับการออกกาลังกายด้วยนะ
หลังจากการรักษา
หลังจากการรักษาที่กล่าวมาข้างต้นนะครับถ้าเป็นอาการแบบผมขอใช้คาว่า“ค่อนข้างหนักเลยละกัน”


ผมใช้เวลาประมาณ2เดือน ในการเคลียร์สิวอักเสบ(ในช่วงนี้จะไม่มีสิวอักเสบที่บวมๆเหมือนตอนแรกแล้วครับจะเหลือเป็นรอยแดงๆ)
หลังจากนี้หน้าผมจะมีรอยแดงๆตามภาพด้านบนครับ ทางศูนย์เขาก็ไม่ปล่อยให้หน้าผมเป็นรอยแดงๆแบบนี้ครับ ขั้นตอนต่อไปเมื่อไม่มีสิวอักเสบแล้วทีนี้ก็สามารถลบรอยได้แล้ว(ตอนที่มีสิวอักเสบขึ้นอยู่เยอะๆเราไม่สามารถลบรอยได้ครับ มันจะโดนเม็ดสิวเดี๋ยวทีนี้อักเสบไปกันใหญ่) รวมขั้นตอนการลบรอยของผมเฉลี่ยแล้วใช้เวลาประมาณ2เดือนได้ครับ รอยก็จะหายไปประมาณรูปด้านล่างครับ

(รูป 4 เดือนหลังจากการรักษาตั้งแต่วันแรก)

รอยแดงเริ่มจางหายไปแล้วครับจนจะมองไม่เห็นแล้วครับ ก็ไม่คิดว่าจากที่สิวเต็มหน้าในวันนั้นจนถึงตอนนี้มันดีขึ้นจริงๆ ก็ต้องขอบคุณคนที่เขียนรีวิวไว้ก่อนหน้านะครับที่ทาให้เข้ามาอ่านกระทู้ไปรักษาแล้วก็รักษาหายได้ ^_^

Before

After

สรุปแบบสั้นๆง่ายสาหรับคนขี้เกียจอ่านแบบยาวๆนะครับ
เริ่มรักษา > เวลาผ่านมาประมาณ2เดือนสิวอักเสบยุบตัวและไม่มีบนใบหน้า
>เริ่มการรักษารอยแดง > ผ่านไป2เดือนรอยแดงจนแทบมองไม่เห็นบนใบหน้า
****แต่ว่าทั้งนี้ทั้งนั้นการที่เราได้ผลลัพธ์จากการรักษาส่วนหนึ่งแล้วก็อยู่ที่ตัวเราด้วยครับเพราะถ้าเรายิ่งปฏิบัติตัวได้ตามคาแนะนาที่ทางศูนย์บอกได้มากเท่าไรผลลัพธ์ที่เห็นก็จะออกมาไวมากขึ้นครับ *****
อ่อๆ เกือบลืม ตรงนี้ติดว่าน่าจะเป็นปัญหาคาใจใครหลายคนเลยแหละเวลาไปรักษาสิว หลายๆคนที่ไปรักษาสิวที่ต่างๆหรือตามรีวิวคลินิกต่างๆที่ผมไปอ่านมานะ จะชอบถามว่าคลินิกนี้ คลินิกนั้น เลี้ยงไข้มั้ย ?
-ผมตอบตามที่ผมรู้ก่อนแล้วกันนะ เอาที่HABCก่อนละกันที่นี่ไม่ได้เลี้ยงไข้นะครับสบายใจได้ แต่ตรงนี้ในมุมมองของผมนะผมว่าไม่มีคลินิกไหนเขาเลี้ยงไข้หรอกครับ มีแต่ “ คนไข้เลี้ยงไข้เอง ” มากกว่า หมายถึงว่า บางทีคลินิกเขาแนะนาแล้วให้เราปฏิบัติตัวแบบนี้แบบนั้นแล้วแต่เราทาไม่ได้มากกว่า เช่น ห้ามกินแบบนี้นะ ควรเลี่ยงการกระทาแบบนี้ การกินแบบนี้ บลาๆ ก็ว่าไป แต่เราก็ยังทาอยู่ ถ้าเราสามารถปฏิบัติตัวได้ควบคู่ไปกับการรักษา รักษาที่ไหนก็หายได้ครับ
สุดท้ายแล้วครับใครที่อ่านมาถึงตรงนี้ก็ฝากอะไรสักหน่อยนะครับ
เวลา 4 เดือนมันอาจจะดูนานนะครับแต่ว่าในระยะเวลา 4 เดือนนี้มันทาให้เราได้ปรับอะไรในชีวิตหลายๆอย่างครับ ใครที่กาลังเป็นสิวอยู่ก็เอาใจช่วยนะครับหรือว่าถ้าใครอยากลองวิธีการรักษาแบบผมก็ลองเข้าไปปรึกษาหรือขอคำแนะนาจากที่ศูนย์ก็ได้ครับ ผมก็ขอจบการเล่าประสบการณ์ในการรักษาสิวแบบไม่ใช้ยาไปก่อนนะครับ ขอบคุณทุกๆคนที่แวะเข้ามาอ่านนะครับ ^_^