สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 11
การมีรถสักคัน อยู่ที่การบริหารจัดการครับ
1. ก่อนอื่น ต้องปรับทัศนคติก่อน ว่ารถที่เราซื้อ คือ "พาหนะ" หรือ "เครื่องแสดงฐานะ" ถ้าท่าน ว. บอกว่า "ประโยชน์แท้ / ประโยชน์เทียม" นั่นเอง
ส่วนตัวผมมองว่ารถคือ พาหนะ ดังนั้น อะไรก็ตามที่พาเราจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งได้ อย่างสบาย ปลอดภัย ถือว่าใช้ได้ ภาพลักษณ์ช่างแม่มัน
2. ถ้ามองว่ารถคือ พาหนะ ก็ให้เลือกรถตลาดที่มีอะไหล่เยอะ ผมเลือกรถยี่ห้อเดียวกับแท๊กซี่เลย อะไหล่แท้ เทียบ เหมือนแท้ มือสอง เชียงกง ของแต่ง เพียบ!
3. เสียที่ไหนก็ซ่อมได้ ไม่ต้องถึ่งยานแม่ (ผมเคยเอาอีเหลืองเก่าๆ ไปแม่ฮ่องสอน แล้วไปเสียที่ปาย ช่างที่นั่นก็ซ่อมได้ แล้วไปเที่ยวต่อได้ 55+)
***** การบำรุงรักษา (จะโดนหนักก็ตรงนี้)
1. น้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ สารพัดกรอง หาซื้อเอง แล้วหาช่างประจำข้างนอก เปลี่ยนให้ (คุณเข้าศูนย์ก็ถูกฟันมาตั้งแต่ค่าน้ำมัน ยันค่าแรง ยังไม่รวม VAT 7% (อย่างรถเก๋ง น้ำมันเครื่อง 700 กรอง 100 ค่าเปลี่ยน 100-200 พันเดียวก็จบหรือถูกกว่านั้น)
2. ยางรถ ช่วงที่จนๆ ผมเปลี่ยนทีละ 2 เส้น วิ่งจนหัวล้าน อย่าไปเชื่อที่ให้เปลี่ยนตามระยะมาก แต่ให้ใช้ยางดีๆ หน่อย พวกยางถูกๆ อย่าไปเอา พวกนี้ดอกไม่หมด บวมแล้ว แต่ถ้ามีเงินบ้าง จะ 4 เส้นเลยก็ไม่ว่ากัน สำคัญคือ "อย่าขับเร็ว" ถ้าขับไม่เร็ว มันจะระเบิดบ้าง ก็ไม่ใช่ปัญหารุนแรง
3. แก๊สอ่ะ ติดไปเหอะ แต่ต้อง LPG นะ (แต่ต้องรถที่ติดได้นะ รถตลาด พวกโตโยต้าอ่ะ ไม่มีปัญหา) ค่าน้ำมันจากกิโลละ 2-3 บาทกว่า จะเหลือแค่ 0.80 - 1 บาทกว่าๆ เท่านั้น ถูกกว่าครึ่งๆ อย่าไปฟังไอ้คนที่บอกว่า ติดแล้วเครื่องพัง มันบางรุ่นที่ไม่ควรติด แต่รถตลาดอ่ะ ติดๆ ไป สิ่งที่ต้องดูแลก็ไม่ได้เยอะแยะอย่างที่คิด
3.1 หัวเทียน กรอง เปลี่ยนบ่อยหน่อย (หัวเทียนธรรมดาหัวละ 70-80 ก็วิ่งได้ 40,000 กว่าโลแล้ว อย่าเว่อร์)
3.2 รถที่ไม่ได้มีระบบปรับวาวล์อัตโนมัติ ก็ไปตั้งวาวล์สัก 100,000 โลทีนึง พันกว่าบาทเอง
3.3 ถ้าพัง ก็พังแค่ฝาสูบ ทำทีก็ยังคุ้มกับค่าน้ำมัน และที่สำคัญ มันไม่พังง่ายๆ หรอก ถ้าไม่ได้วิ่งเดือนละเป็นหมื่นๆ โลนะ
4. ประกัน ผมเลือกชั้น 3 เท่านั้น เพราะชนมา เราซ่อมเองเร็วกว่า ดีกว่า เลือกอะไหล่ได้เองด้วย ไม่แพงอย่างที่คิดหรอก (ถ้าซ่อมเป็น)
5. เวลาขับน่ะ อย่าให้เร็วนัก ไปเรื่อยๆ ประหยัดดี ก่อนออกตัว ตั้งสติก่อนว่า "เมิงจะเดินทาง หรือไปหาเรื่องคนอื่นเค้า" มองคันอื่นเป็นก้อนหินริมทางไป มันจะวิ่งเชี่ยยังไงก็ช่างมัน (แต่ถ้ากวนมากๆ ก็จัดสักหน่อยพอหอมปากหอมคอ ไม่ต้องถึงขนาดไปยิงกันนะ เอาแค่พอเลือดลมสูบฉีด ขำขำ แล้วแยกย้าย)
6. เส้นทางอ่ะ ศึกษาบ้าง จะได้ไม่ต้องอ้อม ไม่ต้องเสียค่าทางด่วนทุกครั้ง
7. เครื่องยนต์กลไก รู้ไว้บ้าง อย่าลืมว่า เราใช้ชีวิตในรถ รถมันดูแลชีวิตเรา ศึกษาไว้บ้าง อย่างน้อยก็ไม่ให้ถูกช่างฟันเอา ช่างที่ไม่มีจรรยาบรรณ มักจะหากินกับความไม่รู้ของเรานี่แหละ
แค่นี้ รถที่มี ก็จะเป็นสิ่งวิเศษ ที่พาคุณไปทุกที่ ที่ต้องการ นอกจากจะเป็นความสะดวกสบาย ยังเป็นการซื้อเวลา และเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ให้เราได้อีกด้วย
ทั้งนี้ อยู่ที่ว่า "เราต้องการอะไรจากรถเรา" เดี่ยวนี้รถมือสองดีๆ ราคาหลักหมื่น ดีๆ ทั้งนั้น ไม่ดีอย่างเดียวคือ มันเก่า ดูไม่ดีในสายตาคนอื่น ก็เท่านั้นแหละ
แต่ก็นะ จะไปแคร์อะไร ในเมื่อเราอยู่ในรถของเรา ถ้าแอร์เย็น เพลงเพราะ กันแดด กันฝนได้ พาเราไปที่ไหนก็ได้ ก็น่าจะพอแล้ว เอาตังไปทำอย่างอื่นดีกว่าที่ต้องไปเสียค่าผ่อน ค่าประกัน ค่าน้ำมัน และค่าโง่จากร้านอะไหล่ และช่างที่ไม่ดี ที่พร้อมจะฟันเราให้เหวอะหวะเป็นชิ้นๆ
เตือนสติไว้ รถป้ายแดง 1.5 ล้าน ผ่านไปปีนึง ราคามือสองเหลือ 9 แสน
ถ้าเราจะใช้รถเก่าหน่อยสัก 5-10 ปี แต่ราคาเหลือแค่ 2-3 แสน แล้วประหยัดโครตๆ แล้วเอาตังไปเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ให้ตัวเอง วิ่งสบายๆ ไม่ต้องกังวลเรื่องผ่อน ไม่ดีหรือ?
นี่ก็มุมมองหนึ่ง ของคนที่ใช้รถเยอะมากๆ คนนึงครับ
1. ก่อนอื่น ต้องปรับทัศนคติก่อน ว่ารถที่เราซื้อ คือ "พาหนะ" หรือ "เครื่องแสดงฐานะ" ถ้าท่าน ว. บอกว่า "ประโยชน์แท้ / ประโยชน์เทียม" นั่นเอง
ส่วนตัวผมมองว่ารถคือ พาหนะ ดังนั้น อะไรก็ตามที่พาเราจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งได้ อย่างสบาย ปลอดภัย ถือว่าใช้ได้ ภาพลักษณ์ช่างแม่มัน
2. ถ้ามองว่ารถคือ พาหนะ ก็ให้เลือกรถตลาดที่มีอะไหล่เยอะ ผมเลือกรถยี่ห้อเดียวกับแท๊กซี่เลย อะไหล่แท้ เทียบ เหมือนแท้ มือสอง เชียงกง ของแต่ง เพียบ!
3. เสียที่ไหนก็ซ่อมได้ ไม่ต้องถึ่งยานแม่ (ผมเคยเอาอีเหลืองเก่าๆ ไปแม่ฮ่องสอน แล้วไปเสียที่ปาย ช่างที่นั่นก็ซ่อมได้ แล้วไปเที่ยวต่อได้ 55+)
***** การบำรุงรักษา (จะโดนหนักก็ตรงนี้)
1. น้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ สารพัดกรอง หาซื้อเอง แล้วหาช่างประจำข้างนอก เปลี่ยนให้ (คุณเข้าศูนย์ก็ถูกฟันมาตั้งแต่ค่าน้ำมัน ยันค่าแรง ยังไม่รวม VAT 7% (อย่างรถเก๋ง น้ำมันเครื่อง 700 กรอง 100 ค่าเปลี่ยน 100-200 พันเดียวก็จบหรือถูกกว่านั้น)
2. ยางรถ ช่วงที่จนๆ ผมเปลี่ยนทีละ 2 เส้น วิ่งจนหัวล้าน อย่าไปเชื่อที่ให้เปลี่ยนตามระยะมาก แต่ให้ใช้ยางดีๆ หน่อย พวกยางถูกๆ อย่าไปเอา พวกนี้ดอกไม่หมด บวมแล้ว แต่ถ้ามีเงินบ้าง จะ 4 เส้นเลยก็ไม่ว่ากัน สำคัญคือ "อย่าขับเร็ว" ถ้าขับไม่เร็ว มันจะระเบิดบ้าง ก็ไม่ใช่ปัญหารุนแรง
3. แก๊สอ่ะ ติดไปเหอะ แต่ต้อง LPG นะ (แต่ต้องรถที่ติดได้นะ รถตลาด พวกโตโยต้าอ่ะ ไม่มีปัญหา) ค่าน้ำมันจากกิโลละ 2-3 บาทกว่า จะเหลือแค่ 0.80 - 1 บาทกว่าๆ เท่านั้น ถูกกว่าครึ่งๆ อย่าไปฟังไอ้คนที่บอกว่า ติดแล้วเครื่องพัง มันบางรุ่นที่ไม่ควรติด แต่รถตลาดอ่ะ ติดๆ ไป สิ่งที่ต้องดูแลก็ไม่ได้เยอะแยะอย่างที่คิด
3.1 หัวเทียน กรอง เปลี่ยนบ่อยหน่อย (หัวเทียนธรรมดาหัวละ 70-80 ก็วิ่งได้ 40,000 กว่าโลแล้ว อย่าเว่อร์)
3.2 รถที่ไม่ได้มีระบบปรับวาวล์อัตโนมัติ ก็ไปตั้งวาวล์สัก 100,000 โลทีนึง พันกว่าบาทเอง
3.3 ถ้าพัง ก็พังแค่ฝาสูบ ทำทีก็ยังคุ้มกับค่าน้ำมัน และที่สำคัญ มันไม่พังง่ายๆ หรอก ถ้าไม่ได้วิ่งเดือนละเป็นหมื่นๆ โลนะ
4. ประกัน ผมเลือกชั้น 3 เท่านั้น เพราะชนมา เราซ่อมเองเร็วกว่า ดีกว่า เลือกอะไหล่ได้เองด้วย ไม่แพงอย่างที่คิดหรอก (ถ้าซ่อมเป็น)
5. เวลาขับน่ะ อย่าให้เร็วนัก ไปเรื่อยๆ ประหยัดดี ก่อนออกตัว ตั้งสติก่อนว่า "เมิงจะเดินทาง หรือไปหาเรื่องคนอื่นเค้า" มองคันอื่นเป็นก้อนหินริมทางไป มันจะวิ่งเชี่ยยังไงก็ช่างมัน (แต่ถ้ากวนมากๆ ก็จัดสักหน่อยพอหอมปากหอมคอ ไม่ต้องถึงขนาดไปยิงกันนะ เอาแค่พอเลือดลมสูบฉีด ขำขำ แล้วแยกย้าย)
6. เส้นทางอ่ะ ศึกษาบ้าง จะได้ไม่ต้องอ้อม ไม่ต้องเสียค่าทางด่วนทุกครั้ง
7. เครื่องยนต์กลไก รู้ไว้บ้าง อย่าลืมว่า เราใช้ชีวิตในรถ รถมันดูแลชีวิตเรา ศึกษาไว้บ้าง อย่างน้อยก็ไม่ให้ถูกช่างฟันเอา ช่างที่ไม่มีจรรยาบรรณ มักจะหากินกับความไม่รู้ของเรานี่แหละ
แค่นี้ รถที่มี ก็จะเป็นสิ่งวิเศษ ที่พาคุณไปทุกที่ ที่ต้องการ นอกจากจะเป็นความสะดวกสบาย ยังเป็นการซื้อเวลา และเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ให้เราได้อีกด้วย
ทั้งนี้ อยู่ที่ว่า "เราต้องการอะไรจากรถเรา" เดี่ยวนี้รถมือสองดีๆ ราคาหลักหมื่น ดีๆ ทั้งนั้น ไม่ดีอย่างเดียวคือ มันเก่า ดูไม่ดีในสายตาคนอื่น ก็เท่านั้นแหละ
แต่ก็นะ จะไปแคร์อะไร ในเมื่อเราอยู่ในรถของเรา ถ้าแอร์เย็น เพลงเพราะ กันแดด กันฝนได้ พาเราไปที่ไหนก็ได้ ก็น่าจะพอแล้ว เอาตังไปทำอย่างอื่นดีกว่าที่ต้องไปเสียค่าผ่อน ค่าประกัน ค่าน้ำมัน และค่าโง่จากร้านอะไหล่ และช่างที่ไม่ดี ที่พร้อมจะฟันเราให้เหวอะหวะเป็นชิ้นๆ
เตือนสติไว้ รถป้ายแดง 1.5 ล้าน ผ่านไปปีนึง ราคามือสองเหลือ 9 แสน
ถ้าเราจะใช้รถเก่าหน่อยสัก 5-10 ปี แต่ราคาเหลือแค่ 2-3 แสน แล้วประหยัดโครตๆ แล้วเอาตังไปเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ให้ตัวเอง วิ่งสบายๆ ไม่ต้องกังวลเรื่องผ่อน ไม่ดีหรือ?
นี่ก็มุมมองหนึ่ง ของคนที่ใช้รถเยอะมากๆ คนนึงครับ
แสดงความคิดเห็น
คิดดูการมีรถคันนึงมันก็มีค่าใช้จ่ายเยอะนะ
ลองคิดดูคร่าว ๆ
1. ค่าเชื้อเพลิงกิโลเมตร ละ 2 บาทกว่า คือจ่ายไปแล้ว 6xx,xxx กว่าบาท หกแสนกว่าบาท โอ้วพระเจ้า
2. ค่าเข้าศูนย์ทุกระยะ 10,000 กิโลเมตร 30 ครั้งถูก ๆ เลยคือ 2,xxx บาท ที่จริงอาจมีมากกว่านี้แล้วแต่ครั้งใหญ่ ตีเป็นเงิน 6x,xxx -1xx,xxx บาท นี่ถ้าเป็นรถอะไหล่แพง ซ่อมแพง ไม่อยากคิด หมดตูดอีกเท่าไหร่ ขึ้นยานแม่ ทะเลาะกับบริษัทให้รับผิดชอบ เสียเวลา
3. ค่าประกันชั้น 1 ตลอดเวลา 10 ปี ปีแรกเซลแถมมาให้ ต่อไปจ่ายเอง ตกประมาณ 130,000 บาท
4. ค่ายาง เส้นละ 2,xxx -3,xxx กว่าบาท เป็นเงิน 12000 บาทขึ้นไป ใช้ยาง 1 แสนโลเปลี่ยน เปลี่ยนยางมา 3 ชุด เพราะใช้ถนอม เป็นเงิน 36000 บาทขึ้นไป
5.ค่าซ่อมเบรค ช่วงล่าง อื่น ๆ นิดหน่อย หลายหมื่นลืมนับ
6. ไม่นับราคาตก จากที่ซื้อมา 1.2 ล้าน ตอนนี้ขายได้ราคาเพราะเป็นรถตลาด ก็เหลือ 4-5 แสน
สรุปรวมนี่ 10 ปีก็หมดเงินไปกับรถ หลักล้านบาทเลยนะนี่