หุ่นยนต์ดูดฝุ่นในสมัยนี้ก็มีหลากหลายแบบให้เลือกใช้งาน แต่ก็ไปสะดุดตากับฟีเจอร์ของ Mister Robot Hybrid Camera Map หุ่นยนต์ดูดฝุ่น + ถูพื้นเปียก ที่เหมาะสำหรับคนที่ค่อนข้างขี้เกียจกวาดและถูพื้นบ้านอย่างเราๆ อีกทั้งยังมีราคาที่ไม่แพงมาก วันนี้ก็เลยจัดมารีวิวให้ได้ชมกันว่าหุ่นยนต์ดูดฝุ่นรุ่นนี้จะเป็นอย่างไร และจะทำงานอย่างไรในกรณีที่ทั้งดูดฝุ่นและถูพื้นเปียกได้ในเครื่องเดียวหรือที่เรียกว่าระบบ Hybrid นั่นเอง

แกะกล่อง

ก่อนอื่นมาดูตัวกล่องกันก่อน ตัวกล่องมีขนาดค่อนข้างใหญ่ เพราะมีการใส่ที่กันกระแทกให้กับหุ่นยนต์อย่างดี ด้านหน้าเขียนฟีเจอร์ไว้อย่างชัดเจนว่าเป็น Hybrid ที่สามารถทำความสะอาดได้ทั้งการดูดฝุ่นและถูพื้นเปียก ใช้ระบบจำลองพื้นที่ทำความสะอาดด้วยกล้อง Camera Map


ด้านข้างกล่อง จะมีบอกฟีเจอร์เด่นๆ ของหุ่นยนต์ดูดฝุ่นรุ่นนี้ Mapping Clean ทำความสะอาดอย่างมีระบบ ไม่เดินมั่ว, แบตเตอรี่ 2,600mAh ทำงานได้ยาวนาน, HEPA Filter สามารถกรองฝุ่นได้ถึง 0.03 ไมครอน, Water Tank ถังใส่น้ำเมื่อเปลี่ยนมาเป็นโหมดถูพื้น, Auto charge  กลับแท่นชาร์จเองอัตโนมัติเมื่อทำความสะอาดเสร็จหรือแบตเตอรี่ใกล้จะหมด และทำงานเสียงเบา 60 เดซิเบล


ภายในกล่องจะมี หุ่นยนต์ดูดฝุ่นพร้อมอุปกรณ์ นอกจากนี้ยังมีแท่นชาร์จ, อะแดปเตอร์สายชาร์จ, รีโมท, อุปกรณ์สำรอง (แปรงยาง V Shape, แผ่นกรอง, แปรงปัดด้านข้าง 2 ชิ้น, ผ้าไมโครไฟเบอร์), แปรงปัดและหวีทำความสะอาด, คู่มือการใช้งานและใบรับประกัน


ดีไซน์ของหุ่นยนต์ดูดฝุ่นรุ่นนี้ เป็นแบบกลม ด้านบนมีกล้องสำหรับส่องเพื่อนำทางในการเดินทำความสะอาด มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 310 มิลลิเมตร สูง 72 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 2.5 กิโลกรัม


ด้านหน้าจะเป็นสลักเปิดสำหรับนำถังเก็บเศษฝุ่นออก และสามารถเปลี่ยนมาใส่ถัง Water Tank เพื่อใช้ถูพื้นแบบเปียกได้ เพียงแค่กดสลักแล้วดึงออกมา


Water Tank เก็บน้ำได้มากถึง 300 มิลลิลิตร ด้านล่างจะมีที่ติดผ้าไมโครไฟเบอร์มาให้ (สามารถแกะผ้าออกมาซักทำความสะอาดได้) โดยจะต้องทำการนำถังเก็บฝุ่นออกและเปลี่ยนเป็นถัง Water Tank ใส่เข้าไปแทน ระบบจะหยุดทำการดูดฝุ่นเพื่อไม่ให้ละอองน้ำถูกดูดเข้าไปภายในเครื่องป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหาย  ระบบ Air Pump Water Tank (แท๊งค์น้ำระบบปั๊มลม) จะช่วยควบคุมการปล่อยหยดน้ำออกมาจาก Water Tank ในขณะที่กำลังเดินทำความสะอาดเท่านั้น และเมื่อทำความสะอาดครบพื้นที่แล้วเครื่องกลับเข้าสู่แท่นชาร์จ น้ำก็จะหยุดไหลอัตโนมัติ ซึ่งข้อดีของ ระบบ Air Pump Water Tank นี้ก็คือ น้ำจะไม่เจิ่งนองบนพื้น เปรียบเหมือนเอาผ้าหมาดมาถูพื้นบ้านนั่นเอง ไม่ต้องมาตามเช็ดน้ำหรือรอให้พื้นแห้งเป็นเวลานาน ถือได้ว่าเป็นระบบใหม่ล่าสุดของหุ่นยนต์ดูดฝุ่นและถูพื้นแบบเปียกเลยก็ว่าได้


จากรูปนี้ ตรงกรอบสีเหลืองจะเป็นช่องใส่แปรง ในรูปจะเป็นแปรงขน ที่ช่วยในการปัดเศษฝุ่นขึ้นมาเพื่อให้ง่ายต่อการดูดเข้าไปภายในกล่องเก็บฝุ่น และยังมีแปรงปัดด้านซ้าย-ขวา 2 ข้างเพื่อช่วยในการปัดเศษฝุ่น เศษผมเข้ามาในช่องดูดฝุ่น ปลายสุดยังมีล้อแบบหมุนสำหรับบังคับทิศทางการเดินนั่นเอง ส่วนแถบสีเงินข้างๆ จะเป็นแถบสำหรับชาร์จกับแท่นชาร์จ


ตรงกลางมีล้อยางขนาดใหญ่ 2 ล้อ เป็นล้อหลักสำหรับการเดินทำความสะอาด ซึ่งจะมีลักษณะเหมือนโช๊ค จะทำให้หุ่นยนต์ดูดฝุ่นเดินในพื้นที่ต่างระดับนิดหน่อยได้ เช่น เดินบนพรม เดินข้ามสายไฟ และยังช่วยยกตัวเองออกมาจากที่แคบได้อีกด้วย


รอบๆ ตัวเครื่องจะมียางสำหรับกันกระแทกอยู่ ตรงนี้ก็ช่วยในการป้องกันความเสียหายกับสิ่งของและตัวหุ่นยนต์ดูดฝุ่นเองด้วย


แปรงที่ติดมากับตัวเครื่องจะเป็นแบบแปรงขน เหมาะกับการทำความสะอาดพื้นพรม หรือผ้า ช่วยในการปัดเศษฝุ่น ผงชิ้นใหญ่ๆ ขึ้นมา  จะไม่ค่อยเหมาะกับการเก็บเศษเส้นผม หรือขนสัตว์เลี้ยง เพราะจะทำให้ไปติดพันกับตัวแปรง ซึ่งต้องคอยทำความสะอาดบ่อยๆ


และทาง Mister Robot ก็ได้แถมแปรงยาง V Shape มาให้ด้วย  ซึ่งแปรงนี้จะเน้นการใช้งานกับที่ที่มีเศษฝุ่น ขนสัตว์เลี้ยงและเศษเส้นผมเยอะๆ เพราะเส้นผมจะไม่ไปติดตัวแปรงยาง แถมยังง่ายต่อการทำความสะอาดและยังช่วยปัดเศษฝุ่นให้ลอยขึ้นมาในช่องดูดฝุ่นโดยตรง  ดังนั้นการเลือกใช้แปรงก็ขึ้นอยู่กับลักษณะพื้นผิวและความสกปรกของห้องด้วย หากมีเส้นผมเยอะแนะนำให้ใช้เป็นแปรงยาง V Shape จะดีกว่า

เริ่มต้นใช้งาน

หลังจากที่ได้เห็นรูปร่างหน้าตากันไปแล้ว ก็เริ่มใช้งานกันดีกว่า ตามที่อ่านคู่มือมา เขาบอกว่า ก่อนเริ่มใช้ทำความสะอาด ให้ทำการชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มเสียก่อน ซึ่งก็จะอยู่ที่ 6-8 ชั่วโมง วิธีชาร์จเราสามารถใช้อะแดปเตอร์เสียบชาร์จเข้ากับหุ่นยนต์ดูดฝุ่นโดยตรงหรือจะชาร์จผ่านแท่นชาร์จก็ได้ อย่าลืมเปิดสวิตช์ข้างตัวเครื่องก่อนด้วยนะ


ในการเริ่มใช้งานสามารถกดปุ่มได้ที่ตัวเครื่อง หรือใช้รีโมทในการสั่งงานก็ได้ โดยที่รีโมทจะมีปุ่ม Play/Pause มาให้ เราสามารถกดปุ่มนี้เพื่อเริ่มทำความสะอาดได้เลย หรือหากต้องการตั้งเวลาทำความสะอาดไว้ล่วงหน้าก็สามารถทำได้


และเมื่อเปิดให้หุ่นยนต์ดูดฝุ่นทำความสะอาดแบบ Auto พร้อมกับสังเกตการเดินของหุ่นยนต์ จะเดินแบบมีเส้นทางแบบแผน เก็บทำความสะอาดได้ครอบคลุม และถ้าเป็นพื้นที่ต่างระดับหรือขั้นบันไดหุ่นยนต์ก็จะไม่ตกลงไป เพราะมีกล้องและเซ็นเซอร์ที่ช่วยในการสร้างแผนที่ของห้องเพื่อเดินทำความสะอาด การหลบสิ่งกีดขวางก็ทำได้ค่อนข้างดี ยิ่งถ้าเป็นสิ่งของชิ้นใหญ่ๆ จะแทบไม่ชนเลย แต่พอเป็นกรงแมว ก็อาจจะดูงงๆ ว่าผ่านไปได้หรือเปล่า ตรงนี้ก็เข้าใจได้ว่ากรงแมวเป็นลักษณะกรงซี่เล็กๆ เมื่อยิงแสงอินฟาเรดจะทะลุไป เลยอาจทำให้เกิดความสับสนเล็กน้อยได้ เรื่องของเสียง จะบอกว่าทำงานได้เบาจริงๆ เบากว่าหุ่นยนต์ดูดฝุ่นรุ่นอื่นๆ พอสมควรเลย แต่ถ้าเป็นโหมด Max ก็จะมีเสียงดังขึ้นมาหน่อย แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่รับได้


หลังจากทำความสะอาดเสร็จ ก็จะเดินกลับแท่นชาร์จแบบอัตโนมัติ พร้อมกับขึ้นสถานะไฟสีส้ม เท่าที่สังเกตก็เดินทำความสะอาดจนครบพื้นที่ของห้องเท่าที่จะเดินไปได้ และอีกจุดนึงที่สังเกตก็คือ หากเป็นประตูกระจก ตัวหุ่นยนต์จะไม่ทราบว่าผ่านไปไม่ได้จะเดินตรงไปชนขอบประตูถึงจะทราบว่าไม่สามารถเดินไปได้ คิดว่าน่าจะเป็นเรื่องของแสงอินฟาเรดที่อาจจะทะลุกระจกออกไปได้


มาดูผลการทำความสะอาดกัน เศษฝุ่น, เส้นผม ขนแมว ถูกดูดขึ้นมาหมด


เมื่อดูดฝุ่นเสร็จ ก็ถึงคราวถูพื้น ก็นำ Water Tank ไปเติมน้ำ การเติมน้ำก็ไม่ควรเติมเกิน 300 มิลลิลิตร เมื่อใช้งานเสร็จ ก็ควรถอด Water Tank ออกทำความสะอาดและเก็บให้เรียบร้อย


ลักษณะการเดินถูพื้นก็จะใช้หลักการเดียวกันกับการเดินดูดฝุ่นทำความสะอาด เดินเป็นแบบแผน มีเส้นทาง ไม่เดินมั่ว ส่วนของพื้นที่ผ่านการถูก็จะไม่เปียกแค่รู้สึกหมาดๆ ถือว่าทำได้ดีเลย

สรุป

เป็นหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่มีฟีเจอร์ครบสำหรับการเป็นหุ่นยนต์ดูดฝุ่น ไม่ว่าจะเป็นเซ็นเซอร์การเดินทำความสะอาดที่เป็นเส้นทางแบบแผน, แปรงต่างๆ และแรงดูดทำงานได้เป็นอย่างดี มีแปรงยางที่ไม่ต้องกังวลเรื่องเส้นผมไปติดและทำความสะอาดง่าย ที่สำคัญคือมีเสียงการทำงานที่เบา อีกทั้งยังมี Air Pump Water Tank สำหรับการถูพื้นแบบเปียกมาให้อีก ครบครันในการทำความสะอาดเลย อีกทั้งยังสามารถตั้งเวลาทำความสะอาดล่วงหน้าได้ แทบไม่ต้องมาสั่งงานเองเลย สะดวกสบายสุดๆ ใครที่ไม่ค่อยมีเวลาทำความสะอาดหรือมีสัตว์เลี้ยง หุ่นยนต์ดูดฝุ่นรุ่นนี้ถือว่าตอบโจทย์เลย