กระทู้นี้เจ้าของกระทู้ยืม ID คุณสามี มาเล่าประสบการณ์การทำ IUI ที่โรงพยาบาลศิริราชให้เพื่อนๆที่อยากได้ข้อมูล ลองเอาไว้พิจารณานะคะ
ปกติเจ้าของกระทู้ตามอ่านและเก็บประสบการณ์จากสมาชิกในพันทิพ มานานมากแล้วค่ะ
แล้วเคยตั้งใจว่าวันนึงเราจะเอาประสบการณ์นั้นๆ มาอัพเดทให้เพื่อนๆฟังบ้าง
จขกท. เป็นคนต่างจังหวัดค่ะ แต่งงานได้ประมาณ 5 เดือน จึงเริ่มปรึกษาหมอสูติที่จังหวัดตัวเองก่อน ไม่ต้องแปลกใจนะคะ ทำไมปรึกษาหมอเร็ว เพราะก่อนแต่งงานได้ 2 ปี จขกท. มีปัญหาเรื่องประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอค่ะ 3-4 เดือนมาที บางทีก็ต้องกินยาเพื่อให้มา สรุปผลที่ตรวจเจอคือ จขกท. เป็น PCOS ค่ะ พบถุงน้ำในรังไข่ทั้งสองข้างค่อนข้างมาก คุณหมอเห็นว่าจขกท. ได้กินยาคุมกำเนิดเพื่อให้ประจำเดือนมาประมาณ 6 เดือนก่อนแต่ง เพื่อพร้อมจะตั้งครรภ์หลังแต่งงานเลย จึงเริ่มการรักษากันเลย โดยยังไม่สนใจสามีค่ะ รักษาจขกท. คนเดียวก่อน มีการตรวจฮอร์โมนไทรอยด์กับ Prolactin ผลออกมาปกติทั้งคู่ คุณหมอเริ่มต้นให้ยาให้ประจำเดือนมา แล้วให้ยากระตุ้นไข่ตก Clomiphene citrate 50 mg 1 เม็ดก่อนนอน ต่อเนื่อง 5 วัน ปรากฏ U/S แล้วไม่เจอไข่ซักใบเลยค่ะ T.T หลังจากนั้นก็ได้ยา Metformin 500 mg มาทานต่อเนื่อง แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าไข่จะตกเลยค่ะ และประจำเดือนก็ยังไม่มาต่อไป
จขกท. ก็พยายามไม่คิดมาก ลองกินยาบำรุงไปเรื่อยๆ ใครว่าอะไรดีก็หามากินค่ะ ยกเว้นอย่างเดียวคือพวกยาจีน จขกท. ไม่ค่อยเชื่อทางนี้เท่าไหร่ ไปแก้บนที่พม่า ก็ยังไปบนท่านต่อเรื่องให้มีลูก พอปล่อยเวลาไป 3เดือน คิดว่าถึงเวลาต้องหาที่รักษาใหม่แล้ว เลยหาข้อมูลและตัดสินใจเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลศิริราชค่ะ เริ่มด้วยการทำบัตรผ่านระบบออนไลน์แล้วโทรไปจองคิว ขอเป็นคลินิกนอกเวลา ปรากฎต้องรอคิวต่ออีกเกือบสองเดือน ก็รอค่ะ มาถึงขนาดนี้แล้ว (ที่จริงตอนคุณพ่อจขกท. มาผ่าเข่า เคยบอกกับตัวเองว่าไม่มาแล้วนะที่นี่ หาที่จอดรถยากมากกก เดินทางมาก็ไกล สรุปเลือกมาเอง 555)
และแล้วก็ถึงวันนัดซักทีค่ะ ได้พบกับคุณหมอจปรัฐ คุณหมอน่ารักมาก พูดน้อย พูดตรง แล้วแอบติดตลก เราแจ้งถึงประวัติการรักษา แล้วแอบขอคุณหมอว่าขอยากระตุ้นไข่ตัวแรงเลยได้มั้ยคะ พร้อมรับอาการข้างเคียงค่ะ 555 คุณหมอยังให้เป็นยากินอยู่ค่ะ โดยเริ่มจาก ยากระตุ้นให้ประจำเดือนมาก่อน แล้ววันที่ 2 ของการมีประจำเดือนให้ไปตรวจฮอร์โมนที่รพ.ใกล้บ้านตามรายการ (FSH,LH,Prolactin,Estradiol) และวันที่3ของการมีประจำเดือนให้เริ่มทาน Letrozole 1 เม็ด หลังอาหาร 3 เวลา 5 วัน ส่วนผลตรวจของสามีเชื้อดีเว่อร์ค่ะ ปริมาณมากกว่าค่าปกติ 3 เท่าได้
สรุปค่าใช้จ่ายวันแรก
ค่าตรวจของผู้ชาย1,470 บาท (ตรวจเชื้อ+ค่าบริการ+ค่าธรรมเนียมแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์)
ค่าแล็บของผู้ชาย1,540 บาท (ตรวจเลือด)
ค่าตรวจของผู้หญิง 1,250 บาท (ค่าบริการ+ค่าแพทย์+ค่ายา)
ค่าแล็บของผู้หญิง 980 บาท(ตรวจเลือด)
หลังจากจขกท. กลับมาต่างจังหวัด ก็ไปตรวจฮอร์โมน ตามที่รพ. ศิริราชกำหนดมา เสียค่าใช้จ่าย 2,000 บาท (อันนี้ค่าใช้จ่ายจะแพงกว่ารพ.รัฐ)
และหลังจากประจำเดือนหมด จขกท. ได้ไปทำการฉีดสี เพื่อดูการตันของท่อนำไข่ ซึ่งตรงนี้คุณหมอแจ้งว่าให้ไปทำแถวบ้านก็ได้ เพราะถ้ารอคิวที่รพ. จะอีก 2 เดือนเช่นกัน จขกท. เลยไปทำการฉีดสีที่รพ.เอกชน ดีตรงไว ไม่ต้องรอคิว ค่าใช้จ่ายประมาณ 3,600 บาท (ขั้นตอนนี้เจ็บสุดละค่ะ มันหน่วงท้องมาก อยากจะลุกตอนนั้นเลย )
และถึงวันที่ต้องพบคุณหมอเป็นครั้งที่ 2 ค่ะหมอนัดU/S ดูว่ามีไข่โตกี่ใบ หลังจากที่กินยาไป สรุป มี 2 ใบ ใบนึงขนาด 17 mm อีกใบหมอบอกโตไม่ทันละ สรุปว่าได้ไข่ 1 ใบ T.T คุณหมอดูค่าฮอร์โมนที่ไปตรวจมา คุณหมอบอกฮอร์โมนน่าเกลียดจัง 555 แล้วก็ปลอบใจต่อว่ายังดีที่มีมา 1 ใบ แล้วคุณหมอถามว่าจะไป xx กันเองหรือจะฉีดเชื้อดี ทางเราตอบเลยค่ะ ฉีดเชื้อค่ะ (ถึงแม้เชื้อของสามีจะดีและแข็งแรง แต่เอาชัวร์สุดก่อน) คุณหมอเลยให้ไปฉีดยากระตุ้นไข่ตก Pregnyl 5000 IU วันนี้เลยที่รพ. แล้วนัดมาฉีดเชื้อช่วงเย็นวันพรุ่งนี้
ค่าใช้จ่ายวันที่ 2 อยู่ที่ 2,236 บาท (ค่าฉีดยา+ค่าบริการ+ค่าU/S+ค่าแพทย์+ค่ายา)
ครั้งที่3 วันนี้สามีเก็บเชื้อช่วงกลางวัน 13.00 น.แล้วจขกท.ได้ฉีดเชื้อช่วง 16.00 น. พยาบาลแจ้งก่อนฉีดว่า มีไข่โต 1 ใบ ขนาก17 mm ,เยื่อบุโพรงมดลูก 7.5 mm (ค่าปกติ 8 mm ถือว่ายังอยู่ในเกณฑ์) ,เชื้อของสามี มี 60 ล้านตัว (ปกติ>20 ล้านตัว) ,การเคลื่อนตัวไปข้างหน้าของเชื้อ ได้ 95% (ปกติ >91%) ตอนทำไม่เจ็บเลยค่ะ แค่อายหมออย่างเดียว >< แต่หลังจากทำและวันรุ่งขึ้น จขกท. หน่วงท้องด้านขวามาก น่าจะเหมือนคนที่ปวดท้องประจำเดือน (ปกติตัวเองไม่เคยปวด) แต่ก็เดินไปมาปกติ แค่ไม่ยกของหนักเฉยๆค่ะ พยาบาลบอกว่าทำทุกอย่างได้ปกติเลยนะ
ค่าใช้จ่ายวันที่ 3 อยู่ที่ 3,320 บาท (ค่าบริการ+ค่าเตรียมน้ำเชื้อ+ค่าฉีดน้ำเชื้อ IUI + ค่าแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ )
เดี๋ยวมาเขียนต่อนะคะ
แบ่งปันประสบการณ์+ค่าใช้จ่าย การทำ IUI ที่โรงพยาบาลศิริราชครั้งแรกค่ะ
ปกติเจ้าของกระทู้ตามอ่านและเก็บประสบการณ์จากสมาชิกในพันทิพ มานานมากแล้วค่ะ
แล้วเคยตั้งใจว่าวันนึงเราจะเอาประสบการณ์นั้นๆ มาอัพเดทให้เพื่อนๆฟังบ้าง
จขกท. เป็นคนต่างจังหวัดค่ะ แต่งงานได้ประมาณ 5 เดือน จึงเริ่มปรึกษาหมอสูติที่จังหวัดตัวเองก่อน ไม่ต้องแปลกใจนะคะ ทำไมปรึกษาหมอเร็ว เพราะก่อนแต่งงานได้ 2 ปี จขกท. มีปัญหาเรื่องประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอค่ะ 3-4 เดือนมาที บางทีก็ต้องกินยาเพื่อให้มา สรุปผลที่ตรวจเจอคือ จขกท. เป็น PCOS ค่ะ พบถุงน้ำในรังไข่ทั้งสองข้างค่อนข้างมาก คุณหมอเห็นว่าจขกท. ได้กินยาคุมกำเนิดเพื่อให้ประจำเดือนมาประมาณ 6 เดือนก่อนแต่ง เพื่อพร้อมจะตั้งครรภ์หลังแต่งงานเลย จึงเริ่มการรักษากันเลย โดยยังไม่สนใจสามีค่ะ รักษาจขกท. คนเดียวก่อน มีการตรวจฮอร์โมนไทรอยด์กับ Prolactin ผลออกมาปกติทั้งคู่ คุณหมอเริ่มต้นให้ยาให้ประจำเดือนมา แล้วให้ยากระตุ้นไข่ตก Clomiphene citrate 50 mg 1 เม็ดก่อนนอน ต่อเนื่อง 5 วัน ปรากฏ U/S แล้วไม่เจอไข่ซักใบเลยค่ะ T.T หลังจากนั้นก็ได้ยา Metformin 500 mg มาทานต่อเนื่อง แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าไข่จะตกเลยค่ะ และประจำเดือนก็ยังไม่มาต่อไป
จขกท. ก็พยายามไม่คิดมาก ลองกินยาบำรุงไปเรื่อยๆ ใครว่าอะไรดีก็หามากินค่ะ ยกเว้นอย่างเดียวคือพวกยาจีน จขกท. ไม่ค่อยเชื่อทางนี้เท่าไหร่ ไปแก้บนที่พม่า ก็ยังไปบนท่านต่อเรื่องให้มีลูก พอปล่อยเวลาไป 3เดือน คิดว่าถึงเวลาต้องหาที่รักษาใหม่แล้ว เลยหาข้อมูลและตัดสินใจเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลศิริราชค่ะ เริ่มด้วยการทำบัตรผ่านระบบออนไลน์แล้วโทรไปจองคิว ขอเป็นคลินิกนอกเวลา ปรากฎต้องรอคิวต่ออีกเกือบสองเดือน ก็รอค่ะ มาถึงขนาดนี้แล้ว (ที่จริงตอนคุณพ่อจขกท. มาผ่าเข่า เคยบอกกับตัวเองว่าไม่มาแล้วนะที่นี่ หาที่จอดรถยากมากกก เดินทางมาก็ไกล สรุปเลือกมาเอง 555)
และแล้วก็ถึงวันนัดซักทีค่ะ ได้พบกับคุณหมอจปรัฐ คุณหมอน่ารักมาก พูดน้อย พูดตรง แล้วแอบติดตลก เราแจ้งถึงประวัติการรักษา แล้วแอบขอคุณหมอว่าขอยากระตุ้นไข่ตัวแรงเลยได้มั้ยคะ พร้อมรับอาการข้างเคียงค่ะ 555 คุณหมอยังให้เป็นยากินอยู่ค่ะ โดยเริ่มจาก ยากระตุ้นให้ประจำเดือนมาก่อน แล้ววันที่ 2 ของการมีประจำเดือนให้ไปตรวจฮอร์โมนที่รพ.ใกล้บ้านตามรายการ (FSH,LH,Prolactin,Estradiol) และวันที่3ของการมีประจำเดือนให้เริ่มทาน Letrozole 1 เม็ด หลังอาหาร 3 เวลา 5 วัน ส่วนผลตรวจของสามีเชื้อดีเว่อร์ค่ะ ปริมาณมากกว่าค่าปกติ 3 เท่าได้
สรุปค่าใช้จ่ายวันแรก
ค่าตรวจของผู้ชาย1,470 บาท (ตรวจเชื้อ+ค่าบริการ+ค่าธรรมเนียมแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์)
ค่าแล็บของผู้ชาย1,540 บาท (ตรวจเลือด)
ค่าตรวจของผู้หญิง 1,250 บาท (ค่าบริการ+ค่าแพทย์+ค่ายา)
ค่าแล็บของผู้หญิง 980 บาท(ตรวจเลือด)
หลังจากจขกท. กลับมาต่างจังหวัด ก็ไปตรวจฮอร์โมน ตามที่รพ. ศิริราชกำหนดมา เสียค่าใช้จ่าย 2,000 บาท (อันนี้ค่าใช้จ่ายจะแพงกว่ารพ.รัฐ)
และหลังจากประจำเดือนหมด จขกท. ได้ไปทำการฉีดสี เพื่อดูการตันของท่อนำไข่ ซึ่งตรงนี้คุณหมอแจ้งว่าให้ไปทำแถวบ้านก็ได้ เพราะถ้ารอคิวที่รพ. จะอีก 2 เดือนเช่นกัน จขกท. เลยไปทำการฉีดสีที่รพ.เอกชน ดีตรงไว ไม่ต้องรอคิว ค่าใช้จ่ายประมาณ 3,600 บาท (ขั้นตอนนี้เจ็บสุดละค่ะ มันหน่วงท้องมาก อยากจะลุกตอนนั้นเลย )
และถึงวันที่ต้องพบคุณหมอเป็นครั้งที่ 2 ค่ะหมอนัดU/S ดูว่ามีไข่โตกี่ใบ หลังจากที่กินยาไป สรุป มี 2 ใบ ใบนึงขนาด 17 mm อีกใบหมอบอกโตไม่ทันละ สรุปว่าได้ไข่ 1 ใบ T.T คุณหมอดูค่าฮอร์โมนที่ไปตรวจมา คุณหมอบอกฮอร์โมนน่าเกลียดจัง 555 แล้วก็ปลอบใจต่อว่ายังดีที่มีมา 1 ใบ แล้วคุณหมอถามว่าจะไป xx กันเองหรือจะฉีดเชื้อดี ทางเราตอบเลยค่ะ ฉีดเชื้อค่ะ (ถึงแม้เชื้อของสามีจะดีและแข็งแรง แต่เอาชัวร์สุดก่อน) คุณหมอเลยให้ไปฉีดยากระตุ้นไข่ตก Pregnyl 5000 IU วันนี้เลยที่รพ. แล้วนัดมาฉีดเชื้อช่วงเย็นวันพรุ่งนี้
ค่าใช้จ่ายวันที่ 2 อยู่ที่ 2,236 บาท (ค่าฉีดยา+ค่าบริการ+ค่าU/S+ค่าแพทย์+ค่ายา)
ครั้งที่3 วันนี้สามีเก็บเชื้อช่วงกลางวัน 13.00 น.แล้วจขกท.ได้ฉีดเชื้อช่วง 16.00 น. พยาบาลแจ้งก่อนฉีดว่า มีไข่โต 1 ใบ ขนาก17 mm ,เยื่อบุโพรงมดลูก 7.5 mm (ค่าปกติ 8 mm ถือว่ายังอยู่ในเกณฑ์) ,เชื้อของสามี มี 60 ล้านตัว (ปกติ>20 ล้านตัว) ,การเคลื่อนตัวไปข้างหน้าของเชื้อ ได้ 95% (ปกติ >91%) ตอนทำไม่เจ็บเลยค่ะ แค่อายหมออย่างเดียว >< แต่หลังจากทำและวันรุ่งขึ้น จขกท. หน่วงท้องด้านขวามาก น่าจะเหมือนคนที่ปวดท้องประจำเดือน (ปกติตัวเองไม่เคยปวด) แต่ก็เดินไปมาปกติ แค่ไม่ยกของหนักเฉยๆค่ะ พยาบาลบอกว่าทำทุกอย่างได้ปกติเลยนะ
ค่าใช้จ่ายวันที่ 3 อยู่ที่ 3,320 บาท (ค่าบริการ+ค่าเตรียมน้ำเชื้อ+ค่าฉีดน้ำเชื้อ IUI + ค่าแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ )
เดี๋ยวมาเขียนต่อนะคะ