วันเที่ยวที่ 1
เช้าวันอาทิตย์ที่สดใส 14 oct 2018
ต้อนรับด้วยเรื่องเมื่อคืนที่ลงเครื่องมา เพื่อนสาว 2 คนมาคนละสายการบิน นางได้ติดตม.เป็นที่เรียบร้อย กับการเที่ยวเกาหลีครั้งแรก
แต่ด้วยหน้าที่การงานที่เป็นหลักแหล่งของพวกเราที่สามารถยืนยันตัวตนว่าเรามีงานมีการทำนะจ๊ะ เค้าก็เลยปล่อยมาอย่างง่ายดาย
แต่เรื่องไม่จบเท่านั้น กระเป๋าเดินทางก็สลับกันอีกจ้าาาาา ติดต่อเจ้าหน้าสนามบิน โพสเพจถาม จนได้ความว่า มีน้องคนไทยหยิบสลับกันไป เฮ้อ!!!
ก็รอกว่าน้องจะเอากระเป๋ามาคืนกว่าจะดำเนินเรื่องเสร็จก็ปาไป ประมาณ 10 โมง จึงได้ฤกษ์เดินทางเข้าโซล
ถึงที่พักแต่แต่ละตน ของเราพักที่ vestin hostel myeongdong ก็จะเที่ยงหร่ะ ก็ฝากกระเป๋าไว้แล้วนัดเพื่อนมาที่สถานี myeongdong
หาข้าวกลางวันกินกัน เดินผ่านร้านกุ้งทอดปูทอดน่ากิน ก็แวะกินรองท้องซักหน่อย 5000 วอน ประมาณ 150 บาท
แล้วเดินมาต่อด้วยร้านของทอด+โอเด้ง+ต๊อก โดนกันไปคนละนิดคนละหน่อย ร้องท้องงงงงงง
อันนี้เป็นแป้งกรอบนอกนุ่มใน ห่อชีส+ไส้กรอก กัดไปชีสก็จะยืดๆ 3000 วอน = 90 บาท
ร้านแรกที่กินก็เดินงงๆไปเจอร้านนี้ ป้าเชื้อเชิญอย่างดี อ่ะ ลองดู ขึ้นลิฟไปชั้น 2 ประตูเปิดออก เจอร้านอาหารขนาดย่อมเยา มีคนเกาหลีนั่งกินอยู่ประมาณ 2-3 โต๊ะ อ่ะๆ ลองดู
สั่ง อาหารมา 4 อย่าง กินกัน 5 คน ที่นี่เค้าให้เยอะจริงนะคะ อิ่มมากจริงๆ
จาจังมยอน
บิบิมบับ ที่ไม่มีเนื้อสัตว์ แต่ก็อร่อยนะ
มันดู ไส้หมูสับ
คัลกุกซู ก๊วยเตี๋ยวเกาหลี ซดน้ำซุบร้อนๆ คล่องคอดี
สรุปร้านงงๆ ที่เข้าไป รวมราคา 38000 วอน หาร 5 ก็ตกคนละ 7600 วอน = 228 บาท
ก็ถือว่า 1 อิ่ม กินที่ไทยหารๆร้านแบบนี้ก็ราคาพอๆกันแหละ
พออิ่มท้องเราก็แยกย้ายกันกลับไป check in ของที่พัก มันก็บ่าย 2 พอดี แล้วตั้งใจนัดกันไปไหว้พระทำบุญแก้เคราะห์ต้นทริปกันสักหน่อย
แต่เพื่อนอีก 2 คนโรยราเต็มที เพราะเหนื่อยกับการตามหากระเป๋าทั้งคืน ไม่ได้งีบกันเลย จึงขอพักยกขาสูงก่อน
มีเราและน้องสาว 2 คนที่พอมีแรง ไปวัดกัน
วัดที่ไป คือวัด พงอึนซา Bongeunsa Temple ตามรีวิวว่าเป็นวัดที่เก่าแก่ ที่สุดในโซล
วิธีการเดินทาง ไป Bongeunsa Temple รถไฟใต้ดินสาย 9 สีน้ำตาลอ่อน ลงสถานีพงงึนซา (Bongeunsa) ทางออกที่ 1
ออกจากสถานีเดินตรงไป ประมาณ 300 เมตร
คราวที่แล้วก็มาแล้ว คราวนี้ก็มาอีกเนื่องจากต้องกลับมาแก้บน น้องสาวบอกไว้ว่าถ้ามาอีกรอบจะมาทำบุญ บริจาคที่นี่
วัดนี้ร่มรื่นดี เย็นสบายมาก แนะนำให้เดินขึ้นไปด้านบนนะ อดทนเดินขึ้นไปหน่อย จะเจออะไรสวยๆเยอะเลย
เข้ามาเรื่อยๆเดินขึ้นบันได ใต้ตึกที่เห็นด้านหน้า หรือจะเดินขึ้นทางลาดด้านขวา
ก็จะมาเจอลานกว้างๆที่มีเจดีย์ และยังไม่หมดเท่านั้นถ้าเดินขึ้นไปด้านบนด้วยบันไดทางขวามือ ก็จะเจอวิวสวยๆอีก
แถมมีพระองค์ใหญ่ให้สักการะกันด้วย
วิวที่มองจากด้านบนของวัด
รอบวัด
ไหนๆก็มาทางนี้ทั้งทีก็เลยขอแวะ SM TOWN นอกแพลนที่วางไว้หน่อยแล้วกัน ตามสไตล์ติ่งแบบเรา เดินไปไม่ยากเลย แค่ข้ามถนนหน้าวัดพงอึนซาไปอีกฝั่ง จะเดินเลาะถนนไปหรือจะเข้าไปใน coex แล้วเดินทะลุตรงไปเรื่อยๆก็ถึงเหมือนกัน
บอกก่อนว่าบางรูปก็เป็นของปีที่แล้วนะ เพราะคราวนี้ที่ไปไม่ได้เดินละเอียด แค่แวะไปดูราคาอัลบั้ม ซื้อของนิดๆหน่อยๆ
ปีที่แล้วกับปีนี้เค้าก็ยังจัดวางบางอย่างเหมือนๆเดิม
เดินมาเรื่อยๆจนเจอป้ายนี้
ตรงใต้ตึกมีเสาเก๋ๆไว้ถ่ายรูปกันเพลินๆก่อนเข้าไปในตึกเยอะแยะ
และเราก็ไม่พลาดจ้า คนละ 10 กว่ารูป
พอใจแล้วก็วิ่งเข้าตึก ขึ้นบันไดเลื่อน ไปสู่โลกติ่งของเราเลยจ้าาาา
ใต้ตึกก็มีมุมนั่งไว้ถ่ายรูปเล่นได้เหมือนกัน
เดินเล่นใน SM TOWN สักพัก ดูนาฬิกาก็เกือบจะ 5 โมงเย็น ก็ตามแพลนที่วางกันไว้ เราก็เดินทางไปดูน้ำพุสายรุ้งที่สะพานบันโพกันต่อ
การเดินทางก็ง่ายๆ จาก รถไฟใต้ดินสาย 9 สีน้ำตาลอ่อน สถานี Bongeunsa ก็ย้อนกลับไปลงสถานี Express Bus Terminal
ออกที่ 8-1
ออกมาจาก ทางออก 8-1 เดินตรงยาวไปเลยค่ะ
จนเจอทางเลี้ยวขวาก็เดินเลี้ยวขวามาเรื่อยๆ
เดินเรียบถนนยกระดับตรงมาเรื่อยๆ
ระหว่างทางจะมีป้ายบอกเป็นระยะว่า Banpo Bridge ก็มาถูกทางแล้วค่ะ
จนถึงทางลอดลงอุโมงค์ ทางเข้ามีป้ายปากทางเขียนว่า Hangang Park ก็เดินลงไปเลยจ้า
จะเงียบๆหน่อยนะไม่ต้องกลัวไฟสว่างอยู่ มีคนเดินไปมาบ้าง
เดินลงไปจะเจอทางแยกแรก ให้เดินลงอุโมงค์ทางขวาลงมาอีก
จนเจอทางออกหน้าตาแบบนี้
เราก็เดินตรงเรียบขวามาเรื่อยๆเลยค่ะ พาพ้นออกมา ก็จะเจอกับลานกิจกรรม จะมีเด็กมาปั่นจักรยาน
เล่นสเก็ตบอร์ดเป็นกลุ่มๆ (คล้ายๆใต้สะพาน พระราม 8)
ไม่รอช้า เราก็เดินตรงไปริมแม่น้ำเลยค่ะ ไปหาที่จับจองเพื่อรอดูน้ำพุตามรอบการแสดงได้เลย
อ่อ!!! ลืมบอกอย่างนึง ระหว่างทางจะมี ร้าน 7-11 และ ร้าน CU เราหาซื้อขนมเครื่องดื่มติดมือไปนั่งกินด้วยก็ดีนะ ได้บรรยากาศดี
เพราะคนเกาหลีส่วนใหญ่เค้าสั่งไก่เดริเวอรี่มาส่งเพื่อล้อมวงกินกัน แต่เราสั่งไม่เป็นเลยซื้อขนมกับเครื่องดื่ม ไปนั่งกินระหว่างรอ
ส่วนรอบการแสดง เราเอาข้อมูลจาก เพจ Seoul Cafe
ขออนุญาตเพจเองลิ้งค์ มาแปะนะคะ เป็นเพจที่ดีมาก ใครเตรียมตัวไปเที่ยวเกาหลีมาตามดูวิธีการเดินทางได้ที่นี่เลยช่วยได้เยอะมากค่ะ
http://seoulcafe2013.blogspot.com/2014/09/banpo-bridge.html
รอบการแสดงน้ำพุที่สะพานพันโพ ปี 2018 (แสดงรอบละ 20 นาที)
- เมษายน-มิถุนายน, กันยายน-ตุลาคม
วันจันทร์-ศุกร์ มีรอบ 12:00, 20:00, 20:30, 21:00
วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุด มีรอบ 12:00, 19:30, 20:00, 20:30, 21:00
- กรกฎาคม-สิงหาคม
วันจันทร์-ศุกร์ มีรอบ 12:00, 19:30, 20:00, 20:30, 21:00
วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุด มีรอบ 12:00, 19:30, 20:00, 20:30, 21:00, 21:30
*งดการแสดงในช่วงฤดูหนาว เดือนพฤศจิกายน-มีนาคม
ที่น้ำพุก็จะเปิดเพลงไปเรื่อยๆแล้วน้ำก็ออกมา มีไฟสีรุ้งตามจังหวะเพลง บรรยากาศดีมากกกกกกกกก
มีทั้งวัยรุ่น ครอบครัว มานั่งชิวกัน อยากจะนั่งนานๆ แต่คือหนาวจับใจ ลมพัดตึงมากค่ะ
เราดูรอบ 19.30 เสร็จก็เดินถ่ายรูปกับแก๊งค์
ของจริงมันสวยและได้บรรยากาศมากกว่าในรูปเยอะ ต้องไปสัมผัสเองนะ จริงๆ ^^
นั่งดูเดินดู ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ จนรอบ 20.00 มาอีกครั้ง ก็นั่งดูสักพักแล้วก็แยกย้ายกันกลับ
ก่อนกลับไปนอน แน่นอนจ้า ไหนๆก็มาถึงแหล่งช๊อปทั้งที ก็เดินให้ขาหลุดเลยจ้า
เราเดินย้อนกลับมาทางที่เดินไปสะพาน จะมีทางลงเพื่อไปถึง GOTO MALL ไปถึงบางร้านก็เริ่มจะเก็บของกันแล้ว แอบเสียดาย
แต่ร้านขายของเยอะมาก ยาวสุดลูกหูลูกตาเลย ร้อยละ 80 จะเป็นเสื้อผ้านะที่เห็น ส่วนท้ายๆจะเป็นของตกแต่งบ้าน ต้นไม้ ร้านดอกไม้
ราคาเสื้อผ้าราคาเริ่มต้นที่เดินผ่านนะ 3000 วอนขึ้นไป 90 บาท บ้าไปแล้ว อาจจะเป็นมือสองมั้ง แต่คุณภาพโอเคเลยนะ
แล้วก็ทั่วไปก็ 10,000 15,000 20,000 วอน ประมาณนี้โดยส่วนมาก ใครมาดูน้ำพุทั้งทีแนะนำว่าไม่ควรพลาดเลยจ้า
ยิ่งมาวันแรกบอกเลยว่า อาจล้มละลายได้ ช๊อปกันหอมปากหอมคอก็แยกย้ายกันกลับที่พัก
หมดไป 1 วันดีๆ วันที่ 2 เราไปเที่ยวที่ไหนอีกบ้าง อย่าเพิ่งเบื่อกันนะ จะรีบมาอัพให้อ่านกันจ้า
เที่ยวเกาหลี ดียังไง ต้องไปเอง 2018
เช้าวันอาทิตย์ที่สดใส 14 oct 2018
ต้อนรับด้วยเรื่องเมื่อคืนที่ลงเครื่องมา เพื่อนสาว 2 คนมาคนละสายการบิน นางได้ติดตม.เป็นที่เรียบร้อย กับการเที่ยวเกาหลีครั้งแรก
แต่ด้วยหน้าที่การงานที่เป็นหลักแหล่งของพวกเราที่สามารถยืนยันตัวตนว่าเรามีงานมีการทำนะจ๊ะ เค้าก็เลยปล่อยมาอย่างง่ายดาย
แต่เรื่องไม่จบเท่านั้น กระเป๋าเดินทางก็สลับกันอีกจ้าาาาา ติดต่อเจ้าหน้าสนามบิน โพสเพจถาม จนได้ความว่า มีน้องคนไทยหยิบสลับกันไป เฮ้อ!!!
ก็รอกว่าน้องจะเอากระเป๋ามาคืนกว่าจะดำเนินเรื่องเสร็จก็ปาไป ประมาณ 10 โมง จึงได้ฤกษ์เดินทางเข้าโซล
ถึงที่พักแต่แต่ละตน ของเราพักที่ vestin hostel myeongdong ก็จะเที่ยงหร่ะ ก็ฝากกระเป๋าไว้แล้วนัดเพื่อนมาที่สถานี myeongdong
หาข้าวกลางวันกินกัน เดินผ่านร้านกุ้งทอดปูทอดน่ากิน ก็แวะกินรองท้องซักหน่อย 5000 วอน ประมาณ 150 บาท
แล้วเดินมาต่อด้วยร้านของทอด+โอเด้ง+ต๊อก โดนกันไปคนละนิดคนละหน่อย ร้องท้องงงงงงง
อันนี้เป็นแป้งกรอบนอกนุ่มใน ห่อชีส+ไส้กรอก กัดไปชีสก็จะยืดๆ 3000 วอน = 90 บาท
ร้านแรกที่กินก็เดินงงๆไปเจอร้านนี้ ป้าเชื้อเชิญอย่างดี อ่ะ ลองดู ขึ้นลิฟไปชั้น 2 ประตูเปิดออก เจอร้านอาหารขนาดย่อมเยา มีคนเกาหลีนั่งกินอยู่ประมาณ 2-3 โต๊ะ อ่ะๆ ลองดู
สั่ง อาหารมา 4 อย่าง กินกัน 5 คน ที่นี่เค้าให้เยอะจริงนะคะ อิ่มมากจริงๆ
จาจังมยอน
บิบิมบับ ที่ไม่มีเนื้อสัตว์ แต่ก็อร่อยนะ
มันดู ไส้หมูสับ
คัลกุกซู ก๊วยเตี๋ยวเกาหลี ซดน้ำซุบร้อนๆ คล่องคอดี
สรุปร้านงงๆ ที่เข้าไป รวมราคา 38000 วอน หาร 5 ก็ตกคนละ 7600 วอน = 228 บาท
ก็ถือว่า 1 อิ่ม กินที่ไทยหารๆร้านแบบนี้ก็ราคาพอๆกันแหละ
พออิ่มท้องเราก็แยกย้ายกันกลับไป check in ของที่พัก มันก็บ่าย 2 พอดี แล้วตั้งใจนัดกันไปไหว้พระทำบุญแก้เคราะห์ต้นทริปกันสักหน่อย
แต่เพื่อนอีก 2 คนโรยราเต็มที เพราะเหนื่อยกับการตามหากระเป๋าทั้งคืน ไม่ได้งีบกันเลย จึงขอพักยกขาสูงก่อน
มีเราและน้องสาว 2 คนที่พอมีแรง ไปวัดกัน
วัดที่ไป คือวัด พงอึนซา Bongeunsa Temple ตามรีวิวว่าเป็นวัดที่เก่าแก่ ที่สุดในโซล
วิธีการเดินทาง ไป Bongeunsa Temple รถไฟใต้ดินสาย 9 สีน้ำตาลอ่อน ลงสถานีพงงึนซา (Bongeunsa) ทางออกที่ 1
ออกจากสถานีเดินตรงไป ประมาณ 300 เมตร
คราวที่แล้วก็มาแล้ว คราวนี้ก็มาอีกเนื่องจากต้องกลับมาแก้บน น้องสาวบอกไว้ว่าถ้ามาอีกรอบจะมาทำบุญ บริจาคที่นี่
วัดนี้ร่มรื่นดี เย็นสบายมาก แนะนำให้เดินขึ้นไปด้านบนนะ อดทนเดินขึ้นไปหน่อย จะเจออะไรสวยๆเยอะเลย
เข้ามาเรื่อยๆเดินขึ้นบันได ใต้ตึกที่เห็นด้านหน้า หรือจะเดินขึ้นทางลาดด้านขวา
ก็จะมาเจอลานกว้างๆที่มีเจดีย์ และยังไม่หมดเท่านั้นถ้าเดินขึ้นไปด้านบนด้วยบันไดทางขวามือ ก็จะเจอวิวสวยๆอีก
แถมมีพระองค์ใหญ่ให้สักการะกันด้วย
วิวที่มองจากด้านบนของวัด
รอบวัด
ไหนๆก็มาทางนี้ทั้งทีก็เลยขอแวะ SM TOWN นอกแพลนที่วางไว้หน่อยแล้วกัน ตามสไตล์ติ่งแบบเรา เดินไปไม่ยากเลย แค่ข้ามถนนหน้าวัดพงอึนซาไปอีกฝั่ง จะเดินเลาะถนนไปหรือจะเข้าไปใน coex แล้วเดินทะลุตรงไปเรื่อยๆก็ถึงเหมือนกัน
บอกก่อนว่าบางรูปก็เป็นของปีที่แล้วนะ เพราะคราวนี้ที่ไปไม่ได้เดินละเอียด แค่แวะไปดูราคาอัลบั้ม ซื้อของนิดๆหน่อยๆ
ปีที่แล้วกับปีนี้เค้าก็ยังจัดวางบางอย่างเหมือนๆเดิม
เดินมาเรื่อยๆจนเจอป้ายนี้
ตรงใต้ตึกมีเสาเก๋ๆไว้ถ่ายรูปกันเพลินๆก่อนเข้าไปในตึกเยอะแยะ
และเราก็ไม่พลาดจ้า คนละ 10 กว่ารูป
พอใจแล้วก็วิ่งเข้าตึก ขึ้นบันไดเลื่อน ไปสู่โลกติ่งของเราเลยจ้าาาา
ใต้ตึกก็มีมุมนั่งไว้ถ่ายรูปเล่นได้เหมือนกัน
เดินเล่นใน SM TOWN สักพัก ดูนาฬิกาก็เกือบจะ 5 โมงเย็น ก็ตามแพลนที่วางกันไว้ เราก็เดินทางไปดูน้ำพุสายรุ้งที่สะพานบันโพกันต่อ
การเดินทางก็ง่ายๆ จาก รถไฟใต้ดินสาย 9 สีน้ำตาลอ่อน สถานี Bongeunsa ก็ย้อนกลับไปลงสถานี Express Bus Terminal
ออกที่ 8-1
ออกมาจาก ทางออก 8-1 เดินตรงยาวไปเลยค่ะ
จนเจอทางเลี้ยวขวาก็เดินเลี้ยวขวามาเรื่อยๆ
เดินเรียบถนนยกระดับตรงมาเรื่อยๆ
ระหว่างทางจะมีป้ายบอกเป็นระยะว่า Banpo Bridge ก็มาถูกทางแล้วค่ะ
จนถึงทางลอดลงอุโมงค์ ทางเข้ามีป้ายปากทางเขียนว่า Hangang Park ก็เดินลงไปเลยจ้า
จะเงียบๆหน่อยนะไม่ต้องกลัวไฟสว่างอยู่ มีคนเดินไปมาบ้าง
เดินลงไปจะเจอทางแยกแรก ให้เดินลงอุโมงค์ทางขวาลงมาอีก
จนเจอทางออกหน้าตาแบบนี้
เราก็เดินตรงเรียบขวามาเรื่อยๆเลยค่ะ พาพ้นออกมา ก็จะเจอกับลานกิจกรรม จะมีเด็กมาปั่นจักรยาน
เล่นสเก็ตบอร์ดเป็นกลุ่มๆ (คล้ายๆใต้สะพาน พระราม 8)
ไม่รอช้า เราก็เดินตรงไปริมแม่น้ำเลยค่ะ ไปหาที่จับจองเพื่อรอดูน้ำพุตามรอบการแสดงได้เลย
อ่อ!!! ลืมบอกอย่างนึง ระหว่างทางจะมี ร้าน 7-11 และ ร้าน CU เราหาซื้อขนมเครื่องดื่มติดมือไปนั่งกินด้วยก็ดีนะ ได้บรรยากาศดี
เพราะคนเกาหลีส่วนใหญ่เค้าสั่งไก่เดริเวอรี่มาส่งเพื่อล้อมวงกินกัน แต่เราสั่งไม่เป็นเลยซื้อขนมกับเครื่องดื่ม ไปนั่งกินระหว่างรอ
ส่วนรอบการแสดง เราเอาข้อมูลจาก เพจ Seoul Cafe
ขออนุญาตเพจเองลิ้งค์ มาแปะนะคะ เป็นเพจที่ดีมาก ใครเตรียมตัวไปเที่ยวเกาหลีมาตามดูวิธีการเดินทางได้ที่นี่เลยช่วยได้เยอะมากค่ะ
http://seoulcafe2013.blogspot.com/2014/09/banpo-bridge.html
รอบการแสดงน้ำพุที่สะพานพันโพ ปี 2018 (แสดงรอบละ 20 นาที)
- เมษายน-มิถุนายน, กันยายน-ตุลาคม
วันจันทร์-ศุกร์ มีรอบ 12:00, 20:00, 20:30, 21:00
วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุด มีรอบ 12:00, 19:30, 20:00, 20:30, 21:00
- กรกฎาคม-สิงหาคม
วันจันทร์-ศุกร์ มีรอบ 12:00, 19:30, 20:00, 20:30, 21:00
วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุด มีรอบ 12:00, 19:30, 20:00, 20:30, 21:00, 21:30
*งดการแสดงในช่วงฤดูหนาว เดือนพฤศจิกายน-มีนาคม
ที่น้ำพุก็จะเปิดเพลงไปเรื่อยๆแล้วน้ำก็ออกมา มีไฟสีรุ้งตามจังหวะเพลง บรรยากาศดีมากกกกกกกกก
มีทั้งวัยรุ่น ครอบครัว มานั่งชิวกัน อยากจะนั่งนานๆ แต่คือหนาวจับใจ ลมพัดตึงมากค่ะ
เราดูรอบ 19.30 เสร็จก็เดินถ่ายรูปกับแก๊งค์
ของจริงมันสวยและได้บรรยากาศมากกว่าในรูปเยอะ ต้องไปสัมผัสเองนะ จริงๆ ^^
นั่งดูเดินดู ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ จนรอบ 20.00 มาอีกครั้ง ก็นั่งดูสักพักแล้วก็แยกย้ายกันกลับ
ก่อนกลับไปนอน แน่นอนจ้า ไหนๆก็มาถึงแหล่งช๊อปทั้งที ก็เดินให้ขาหลุดเลยจ้า
เราเดินย้อนกลับมาทางที่เดินไปสะพาน จะมีทางลงเพื่อไปถึง GOTO MALL ไปถึงบางร้านก็เริ่มจะเก็บของกันแล้ว แอบเสียดาย
แต่ร้านขายของเยอะมาก ยาวสุดลูกหูลูกตาเลย ร้อยละ 80 จะเป็นเสื้อผ้านะที่เห็น ส่วนท้ายๆจะเป็นของตกแต่งบ้าน ต้นไม้ ร้านดอกไม้
ราคาเสื้อผ้าราคาเริ่มต้นที่เดินผ่านนะ 3000 วอนขึ้นไป 90 บาท บ้าไปแล้ว อาจจะเป็นมือสองมั้ง แต่คุณภาพโอเคเลยนะ
แล้วก็ทั่วไปก็ 10,000 15,000 20,000 วอน ประมาณนี้โดยส่วนมาก ใครมาดูน้ำพุทั้งทีแนะนำว่าไม่ควรพลาดเลยจ้า
ยิ่งมาวันแรกบอกเลยว่า อาจล้มละลายได้ ช๊อปกันหอมปากหอมคอก็แยกย้ายกันกลับที่พัก
หมดไป 1 วันดีๆ วันที่ 2 เราไปเที่ยวที่ไหนอีกบ้าง อย่าเพิ่งเบื่อกันนะ จะรีบมาอัพให้อ่านกันจ้า