ตอนที่ 1 Bali มีแต่ Cool การเดินทางครั้งนี้ ผม วางแผนเตรียมตัว ในการเดินทาง อยู่หลายเดือน ไปยังสถานที่ต่างๆ ทั้งเช่ารถพร้อมคนขับให้มารับจากสนามบิน ไปพักที่เมืองอูบุด และครั้งนี้ผมก็ตั้งใจที่จะเช่า “มอเตอร์ไซต์ขับเอง”ในบาหลีด้วยเพื่อเป็นการประหยัด ซึ่งก็ประหยัดจริงๆ โดยการเช่ามอเตอร์ไซต์ จากเจ้าของบ้านที่ผมพักกอยู่ใจดีมากๆ 🛵สถานที่ ที่ไปในบาหลีแต่ละที่นั้นสวย และธรรมชาติมากๆทั้งบ้านเมืองวัฒนธรรม น้ำตก แม่น้ำ ภูเขา ในแต่ละที่มีความสวยงาม แตกต่างกันไป และมีวัดที่เป็นสถานที่เกี่ยวกับศาสนาของคนที่นี่ ที่ผมวางแพลนไว้สามารถได้ไปตามเก็บทุกที่ได้หมด 🥗“อาหารการกิน”ผม ก็กินตามร้านทั่วไปเลยครับ อาหารพื้นเมือง และก็ตามซุปเปอร์ทั่วไป 🏠แล้วที่พักก็พัก แบบถูกๆ ที่นี่มีเยอะหลายราคา ผมอยู่ในบาหลี 5 วัน จากนั้นบินต่อไปที่เกาะ ชวา เพื่อไป “โบรโม่🌋” แต่ตอนนี้ ตามมาดูบาหลีกันดีกว่า ว่าเราไปใหนมาบ้าง อ่านบาหลีเส็จแล้วอย่าลืมอ่าน "โบรโม่" ต่อนะครับ
Instragram:  Jazzperlion
ตอนที่2ครับ https://ppantip.com/topic/38231822




เตรียมตัวก่อนขึ้นบิน : วันนี้เรามาถึงสนามบินดอนเมืองก่อนเวลานานมากกก บิน 06.00 น. มาถึงตั้งแต่03.00 น. ตามคาดเป็นคิวแรกที่ได้ Check in ก็นั่งรอชิวๆ  เราบินสายการบิน Air Asia จองช่วงมีโปร ไปกลับตกคนละ 5000 บาท

นั่งรอกันไปเรื่อย : เนื่องจากมีเวลาแสนยาวนาน ก็นั่งถ่ายรูปเล่น ดูผู้คน และก็พบว่า คนไทยไปบาหลีเยอะอยู่นะ


คนมาเยอะแล้วว

ทริปนี้เราไปกันแบบ Backpacker เพราะมันสะดวกในการเดินทางมากที่สุด กระเป๋าที่เลือกใช้สำคัญมาก เพราะแม้ว่าน้ำหนักจะเยอะแต่ไม่ทำให้เกิดอาการเจ็บหลังเลยสักนิด เราใช้กระเป๋าทั้งหมด 3 ใบ ใบแรก Deuter 12 กก. ใบที่สอง Osprey 7 กก. และใบสุดท้าย กระเป๋ากล้อง อุปกรณ์ครบครัน 10 กก. รวม 29 กก. แต่เชื่อไหมว่าเราไม่ได้รู้สึกว่ามันหนักหนาอะไรขนาดนั้น กลับเดินทางได้แบบสบายๆเลยด้วยซ้ำ
การเดินทางในบาหลี 2 วัน เราติดต่อรถแท็กซี่ (รถรับจ้างส่วนตัว)ล่วงหน้า ผ่าน คุณแหม่ม บาหลี เป็นบริษัทจัดหารถแท็กซี่ที่คนไทยรู้จักดี สะดวกมาก คนขับรถดี และพาไปทุกที่ๆเราอยากไป
นี่เป็นอาหารเมื้อแรกที่กินในบาหลี : มันคือ หมูกรอบกินกะน้ำจิ้ม และผัดผักโขมใส่พริกและเนื้อมะพร้าวขูดฝอยๆปรุงรส รสชาติก็ดีนะ แต่ออกจะแปลกๆหน่อย

สถานที่แรกที่เราไป Pura taman ayun เป็นวัดที่ไกด์บอกว่ากำแพงสร้างจากดินภูเขาไฟ ซึ่งตอนที่เราไปมีงานฉลองพอดี เกี่ยวกับการภาวนา เซ่นไหว้

Pura taman ayun : ศาสนสถานที่นี่ดูขลังและเป็นสถาปัตยกรรมที่งดงาม

Pura taman ayun : อีกมุมหนึ่งของวัด เหมือนวิหาร ซึงหลังคาแต่ละชั้นมองใกล้ๆเหมือนทำจากใบไม้

Pura taman ayun : สงบ และศักดิ์สิทธิ์
Pura taman ayun
วันที่เราไปถึง เป็นช่วงการฉลอง จึงมีคนมากเป็นพิเศษ และทุกคนล้วนแต่งชุดพื้นเมืองบาหลีพร้อมของเซ่นไหว้ต่างๆ
Tanat lot temple : อีกมุมหนึ่งที่สวยไม่แพ้กัน
Tanat lot temple ตั้งกล้องถ่ายคู่ซะหน่อย
Tanat lot temple : พระอาทิตย์เริ่มตกแล้ววว
เช้าวันที่ 2 เราตื่น03.00 เพื่อเตรียมเดินทาง 2 ชม.และเราก็มาถึง Pura luhur lempuyung อากาศเย็นสบายและบรรยากาศสวยมาก เรามาถึงกลุ่มที่ 2 จึงไม่ต้องรอถ่ายรูปนานเลย ที่เดินทางเช้าๆ ก็จะได้เปรียบในเรื่องการถ่ายรูปแบบไม่ต้องรอ ได้รูปสวยๆแบบไม่ยากPura luhur lempuyung : ข้างหลังเป็นภูเขาไฟ แต่มีหมอกบังเลยไม่เห็น ไม่เป็นไร แค่นี้ก็สวยสมกับที่ตั้งใจมาแล้วว
Pura luhur lempuyung 1 2 3 Jump!
Pura luhur lempuyung : มุมสูงจากวัด
Pura luhur lempuyung : บันไดขึ้นวัด วัดที่นี่จะจำกัดคนเข้า เราไม่สามารถเข้าวัดได้ เค้าอนุญาตเฉพาะคนที่จะมาภาวนาเท่านั้น (ที่สังเกตเห็น มีคนสวมชุดขาวคล้ายพราหมณ์ ขึ้นไปได้) และต้องใส่โสร่ง แม้ว่าจะใส่กางเกงขายาว กระโปรงยาวปิดตาตุ่มก็ตาม เราเลยต้องเช่าโสร่ง จริงๆก็สวยดีนะ บังเอิญมันตัดกับสีเสื้อ เลยออกมาพอดีๆๆ
Pura luhur lempuyung : บันไดวัดดูลึกลับเหมือนเมืองศักดิ์สิทธิ์
Water Palace : สถานที่ต่อมาที่เรามาถึง เป็นอุทยานที่มีปลาคาร์พเยอะมาก เราชอบการออกแบบของเค้า คือ วงกลมๆนั่นเป็นทางเดินที่เราสามารถเดินไปให้อาหารปลาได้ใกล้ชิดมาก ถ่ายรูปสวยอากาศดีสุด
Water palace : สะพานนี้ก็สวยดีนะ
จาก Water palace  เราก็มาตามหาน้ำตก ที่ชื่อว่า Tuked cepung lempuyung ทางลงไปน้ำตกชันและไกลมากก เดินจนเหนื่อยบอกเลย
Tuked cepung lempuyung : ยิ่งใหญ่สมกับที่เดินทางมา
ทางขึ้น-ลง ไปน้ำตก  Tibumana waterfall
น้ำตกต่อมานี้ชื่อว่า Tibumana waterfall คนมาเล่นน้ำที่นี่เยอะมากๆ น้ำสะอาด ใส และเย็นสบาย น้ำตกของบาหลีจะไหลมาจากที่สูงมากกก และมีช่องที่ให้แสงผ่านพอดี นี่แหละ ความงามจากธรรมชาติที่แท้จริง
ถ่ายรูปน้ำตกเสร็จเรามาต่อกันที่  Giant Swing มาแล้วก็ต้องเล่นสิ หวาดเสียวจริงๆ โดยเฉพาะรอบที่หันหน้าออก แต่ไม่ต้องห่วงเค้ามี Safety อย่างดี พอเล่นเสร็จก็อยากเล่นอีก ระหว่างรอ เค้าจะมีชา กาแฟให้เราชิมฟรี!! นับแล้วประมาณ 10 กว่ารส มีชารสแปลกๆ ที่ชอบสุดคือ ชามังคุด เฮ้ย! อร่อยอ่ะ เลยซื้อกลับบ้าน และทีเด็ดคือ "กาแฟขี้ชะมด" อันนี้ต้องซื้อ ก็ลองสิ มาทั้งที แก้วละ 300 กว่า ถือว่าถูกกว่าไทย ชิมแล้วไม่ถูกจริต เลยเอาไว้อย่างนั้นแหละ  555+
รังนก : ถ่ายรูปฟรี เพราะจ่ายค่าชิงช้าไปแล้ววว
รังนก อีกแบบ บรรยากาศธรรมชาติดี ชิววว
มุมถ่ายรูป เค้าออกแบบมาดี มันดูเหมือนเราอยู่กลางป่าเลยย
กาแฟขี้ชะมด และ ชา แบบต่างๆ หลายรสชาติมีให้เลือกชิม
ร้านขายชา กาแฟขี้ชะมด และของที่ระลึก มีทุกรสให้เลือกซื้อ หลังจากเราชิมแล้วถูกใจก็ซื้อกลับมาดื่มที่บ้านได้ ราคาห่อเล็กประมาณ 300 บาท ถือว่าแพงใช้ได้เลยแหละ
Telgellalang Rice terrace : นาขั้นบันได
Telgellalang Rice terrace :
ตลาดแถวนาขั้นบันได ยืนดูเฉยๆระหว่างรอรถมารับ เหมือนตลาดนักท่องเที่ยวบ้านเราา


พาหนะในการเดินทางไปทางเหนือของบาหลี "มอเตอร์ไซด์" เช่าจากที่พักแรกของเรา ถูกจนน่าตกใจ สองวันเค้าคิดเราแค่ 300 บาทเอง  จริงๆเที่ยวที่นี่ เช่ามอไซด์จะสะดวกมากแต่ 2 วันแรก เราไปที่ไกลๆ เช่ารถจะปลอดภัยกว่า ใช้รถอะไรต้องดูระยะทางเป็นหลัก
วันที่ 3 : วันนี้เราเช่ามอเตอร์ไซด์ขับเอง จาก เจ้าของที่พักนั่นแหละ ราคาถูกมาก ชิวสุดๆ  เราได้แวะไป Pura taman kemuda sarawati ซึ่งอยู่ติดกับ star buck ในเมืองอูบุด ที่นี่เป็นบ่อบัว มีประตูสวยดี
Pura taman kemuda sarawati
Pura taman kemuda sarawati
จากนั้นเดินขึ้นมาถ่ายรูปกันต่อที่ Campuhan Ridge Walk ทางเดินไกลพอสมควร ถ้าอยากถ่ายรูปสวยๆต้องใส่เสื้อผ้าสีตัดกับวิว เหมือนในรูป ถ้ามาเช้าคนจะไม่เยอะมาก แต่เห็นคนมาเดินออกกำลังกายกันเยอะอยู่นะ
Campuhan Ridge Walk
วันที่ 4 เมื่อเราถึงเมือง ทางเหนือของบาหลีบอกได้เลยว่าอากาศที่นี่ดีมากๆ เย็นสบาย ตื่นเช้าเรามาตามเก็บ Gate ของเมืองนี้กัน ตรงนี้คือ Handara golf resort ถ้าใครจะถ่ายรูปตรงนี้ เค้าจะเก็บค่าเข้าไปถ่ายรูป ก็จ่ายได้ ไม่แพงมาก เช่นเดียวกันอยากถ่ายแบบชิวๆ ไม่ต้องรอ ต้องมาเช้าๆๆๆๆ
Handara golf resort : ประตูสวรรค์
Handara golf
ขับรถมาจาก Handara golf resort ไม่ไกลเราก็มาที่ Ulun danu bratan เหมือนหลุดมาอีกเมืองนึงเลย สถาปัตยกรรมงามสุด
Ulun danu bratan
https://ppantip.com/t