น่าจะยังไม่สายไปสำหรับการไว้อาลัยให้กับคุณวิชัย ศรีวัฒนประภา บุคคลทรงคุณค่าอีกคนหนึ่งของโลกกลมๆใบนี้ จริงๆแล้วอยากเขียนประวัติส่วนตัว การมาซื้อทีม หรืออดีตที่หล่อหลอมให้เลสเตอร์ ซิตี้กลับมายิ่งใหญ่ แต่คิดว่าหลายๆคนน่าจะได้อ่านจากช่องทางอื่นๆกันเยอะแล้ว (รวมถึงทาง Pantip ด้วย) เลยอยากเขียน ในแง่มุมของการนำชีวิตและวิธีคิดของท่านมาเรียนรู้และปรับใช้กับชิวิตของเราๆกัน ( ข้อมูลมาจาก Web The Standard :
https://thestandard.co/podcast/thesecretsauce54/)
1. ใจใหญ่ ใจกว้าง : คุณวิชัยเป็นตัวอย่างหนึ่งของการนำวิถีการใช้ชีวิตแบบใจใหญ่ ใจกว้าง มาใช้แล้วประสบผลสำเร็จ คุณวิชัยเป็นคนใจกว้างมักเป็นหัวโจกนำเพื่อน ไม่กลัวคน ชอบเอาเงินค่าขนมไปเลี้ยงเพื่อนๆ แค่เจอกันวันแรกก็พกขนมมาแจกคนอื่นแล้ว
ถอดบทเรียนมาใช้ชีวิตของผมคือ ต้องให้ใจแก่บุคคลอื่นก่อน ก่อนที่จะให้บุคคลอื่นมาทำอะไรให้เรา
2. ใจสู้ : สิ่งหนึ่งที่หลายๆ คนพูดคือ คุณวิชัยทำงานหนักมาก คุณต๊อบ อัยยวัฒน์ ลูกชายเล่าให้ฟังว่า สิ่งที่จำได้ตั้งแต่เด็ก คือภาพคุณพ่อทำงานหนัก ออกจากบ้านแต่เช้า กลับอีกทีตอนดึกและยังคงทำงานต่อ ทำให้ไม่ค่อยมีเวลาให้ลูกเท่าไร และสังเกตได้ว่าทั้ง คิงเพาเวอร์ และเลสเตอร์ ซิตี้ ก็ได้ฝ่าฟันวิกฤตหลายๆ อย่างมา และยังคงตั้งอยู่ได้ แสดงให้เห็นถึงความสู้ไม่ถอยอย่างแท้จริง
ถอดบทเรียนชีวิตง่ายเลยคือ ไม่ว่าจะทำงาน หรือทำสิ่งใดก็แล้วแต่ ต้องมีใจที่สู้เข้าไว้ อย่าท้อถอยง่ายๆ แม้จะประสบความผิดหวัง และ ความล้มเหลว แต่ขอให้ใจสู้เข้าไว้ จะประสบความสำเร็จแน่นอน
3. ตั้งใจ : “ทำอะไรให้ทำให้สุด” คือคติการทำงานของคุณวิชัย และหลายๆ เหตุการณ์แสดงให้เห็นว่าคุณวิชัยเป็นคนที่ทำงานหนักอย่างแท้จริง
ถอดบทเรียนเรื่องนี้ง่ายๆว่า การทำงานหนัก และตั้งใจทำ เพื่อสิ่งหนึ่งสิ่งใดในชีวิต ผลลัพธ์ที่ได้จะประสบความสำเร็จเสมอ
4. ให้ใจ : เป็นอีกหนึ่งบทเรียนอันทรงคุณค่าจากคุณวิชัย ในช่วงปี 2549 คือช่วงที่กิจการดิวตี้ฟรีของครอบครัวสั่นคลอนพอสมควร สืบเนื่องจากเหตุการณ์การปิดสนามบินสุวรรณภูมิเป็นระยะเวลา 2 เดือน ทั้งๆ ที่เพิ่งเปิดให้บริการไม่นานด้วยซ้ำ ช่วงนั้นคิง เพาเวอร์ ไม่มีรายรับเลย แต่เพราะต้องจ่ายเงินเดือนพนักงานตามปกติ วิชัยจึงไปดำเนินเรื่องกู้ยืมเงินจากธนาคารมาจ่ายเงินเดือนพนักงานกว่า 1,000 คนตามปกติ เพราะมองว่าพนักงานคือคนสำคัญขององค์กร และเข้าใจดีว่าทุกคนต่างก็มีภาระที่ต้องแบกรับ ผลสุดท้ายครอบครัวคิงเพาเวอร์ ก็ผ่านวิกฤตในครั้งนั้นมาได้พร้อมกับได้ใจพนักงานในองค์กรทุกคนเป็นของแถม นี่คือศิลปะในการซื้อใจของวิชัย และ คิงเพาเวอร์ เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่มีโครงการ CSR ที่ดีและเห็นผลอย่างมาก ตัวอย่างการบริจาค 100 ล้าน ให้โครงการก้าวคนละก้าว ,ทำโครงการ FOX Hunt ให้โอกาสนักเตะเยาวชนไทยไปฝึกฟุตบอลกับสโมสรเลสเตอร์ซิตี้, มอบทุนการศึกษาให้เยาวชนไทยไปศึกษาในต่างประเทศปีละนับร้อยล้านบาท นี่เป็นแค่ตัวอย่างเท่านั้น
ถอดบทเรียนว่าเมื่อพร้อมคุณควรหันกลับมาทำอะไรให้ประเทศชาติ ให้พัฒนาขึ้น และควรให้โอกาสคน และนี่คือบทเรียน 4 ข้อคิดที่ได้จากคุณ วิชัย ศรีวัฒนประภา
ท้ายสุดนี้ ขอกล่าวคำแสดงความเสียใจแก่ครอบครัวญาติพี่น้อง และโลกใบนี้อีกครั้งที่ได้สูญเสียบุคคลที่ทรงคุณค่าอีกคนหนึ่งไปครับ
ถอดบทเรียนชีวิตอันทรงคุณค่าของ คุณวิชัย ศรีวัฒนประภา บุคคลดีๆ ที่โลกควรจำ
น่าจะยังไม่สายไปสำหรับการไว้อาลัยให้กับคุณวิชัย ศรีวัฒนประภา บุคคลทรงคุณค่าอีกคนหนึ่งของโลกกลมๆใบนี้ จริงๆแล้วอยากเขียนประวัติส่วนตัว การมาซื้อทีม หรืออดีตที่หล่อหลอมให้เลสเตอร์ ซิตี้กลับมายิ่งใหญ่ แต่คิดว่าหลายๆคนน่าจะได้อ่านจากช่องทางอื่นๆกันเยอะแล้ว (รวมถึงทาง Pantip ด้วย) เลยอยากเขียน ในแง่มุมของการนำชีวิตและวิธีคิดของท่านมาเรียนรู้และปรับใช้กับชิวิตของเราๆกัน ( ข้อมูลมาจาก Web The Standard : https://thestandard.co/podcast/thesecretsauce54/)
1. ใจใหญ่ ใจกว้าง : คุณวิชัยเป็นตัวอย่างหนึ่งของการนำวิถีการใช้ชีวิตแบบใจใหญ่ ใจกว้าง มาใช้แล้วประสบผลสำเร็จ คุณวิชัยเป็นคนใจกว้างมักเป็นหัวโจกนำเพื่อน ไม่กลัวคน ชอบเอาเงินค่าขนมไปเลี้ยงเพื่อนๆ แค่เจอกันวันแรกก็พกขนมมาแจกคนอื่นแล้ว ถอดบทเรียนมาใช้ชีวิตของผมคือ ต้องให้ใจแก่บุคคลอื่นก่อน ก่อนที่จะให้บุคคลอื่นมาทำอะไรให้เรา
2. ใจสู้ : สิ่งหนึ่งที่หลายๆ คนพูดคือ คุณวิชัยทำงานหนักมาก คุณต๊อบ อัยยวัฒน์ ลูกชายเล่าให้ฟังว่า สิ่งที่จำได้ตั้งแต่เด็ก คือภาพคุณพ่อทำงานหนัก ออกจากบ้านแต่เช้า กลับอีกทีตอนดึกและยังคงทำงานต่อ ทำให้ไม่ค่อยมีเวลาให้ลูกเท่าไร และสังเกตได้ว่าทั้ง คิงเพาเวอร์ และเลสเตอร์ ซิตี้ ก็ได้ฝ่าฟันวิกฤตหลายๆ อย่างมา และยังคงตั้งอยู่ได้ แสดงให้เห็นถึงความสู้ไม่ถอยอย่างแท้จริง ถอดบทเรียนชีวิตง่ายเลยคือ ไม่ว่าจะทำงาน หรือทำสิ่งใดก็แล้วแต่ ต้องมีใจที่สู้เข้าไว้ อย่าท้อถอยง่ายๆ แม้จะประสบความผิดหวัง และ ความล้มเหลว แต่ขอให้ใจสู้เข้าไว้ จะประสบความสำเร็จแน่นอน
3. ตั้งใจ : “ทำอะไรให้ทำให้สุด” คือคติการทำงานของคุณวิชัย และหลายๆ เหตุการณ์แสดงให้เห็นว่าคุณวิชัยเป็นคนที่ทำงานหนักอย่างแท้จริง ถอดบทเรียนเรื่องนี้ง่ายๆว่า การทำงานหนัก และตั้งใจทำ เพื่อสิ่งหนึ่งสิ่งใดในชีวิต ผลลัพธ์ที่ได้จะประสบความสำเร็จเสมอ
4. ให้ใจ : เป็นอีกหนึ่งบทเรียนอันทรงคุณค่าจากคุณวิชัย ในช่วงปี 2549 คือช่วงที่กิจการดิวตี้ฟรีของครอบครัวสั่นคลอนพอสมควร สืบเนื่องจากเหตุการณ์การปิดสนามบินสุวรรณภูมิเป็นระยะเวลา 2 เดือน ทั้งๆ ที่เพิ่งเปิดให้บริการไม่นานด้วยซ้ำ ช่วงนั้นคิง เพาเวอร์ ไม่มีรายรับเลย แต่เพราะต้องจ่ายเงินเดือนพนักงานตามปกติ วิชัยจึงไปดำเนินเรื่องกู้ยืมเงินจากธนาคารมาจ่ายเงินเดือนพนักงานกว่า 1,000 คนตามปกติ เพราะมองว่าพนักงานคือคนสำคัญขององค์กร และเข้าใจดีว่าทุกคนต่างก็มีภาระที่ต้องแบกรับ ผลสุดท้ายครอบครัวคิงเพาเวอร์ ก็ผ่านวิกฤตในครั้งนั้นมาได้พร้อมกับได้ใจพนักงานในองค์กรทุกคนเป็นของแถม นี่คือศิลปะในการซื้อใจของวิชัย และ คิงเพาเวอร์ เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่มีโครงการ CSR ที่ดีและเห็นผลอย่างมาก ตัวอย่างการบริจาค 100 ล้าน ให้โครงการก้าวคนละก้าว ,ทำโครงการ FOX Hunt ให้โอกาสนักเตะเยาวชนไทยไปฝึกฟุตบอลกับสโมสรเลสเตอร์ซิตี้, มอบทุนการศึกษาให้เยาวชนไทยไปศึกษาในต่างประเทศปีละนับร้อยล้านบาท นี่เป็นแค่ตัวอย่างเท่านั้น ถอดบทเรียนว่าเมื่อพร้อมคุณควรหันกลับมาทำอะไรให้ประเทศชาติ ให้พัฒนาขึ้น และควรให้โอกาสคน และนี่คือบทเรียน 4 ข้อคิดที่ได้จากคุณ วิชัย ศรีวัฒนประภา
ท้ายสุดนี้ ขอกล่าวคำแสดงความเสียใจแก่ครอบครัวญาติพี่น้อง และโลกใบนี้อีกครั้งที่ได้สูญเสียบุคคลที่ทรงคุณค่าอีกคนหนึ่งไปครับ