กรกฎาคม 2561 ได้พาสองเฒ่าขับรถไปเที่ยวปากซอง ลาวใต้ ทีแรกทั้งคู่อิดออดไม่อยากไป บอกว่าเคยไปแล้วลำบากมาก ถนนหนทางก็ไม่ดี ของกินก็หายาก คือสองคนเขาเคยไปกันเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน แบบว่ายังจำไม่เคยลืมเลือน ตอนนั้นจำไม่ได้ว่าตะล่อมกล่อมยังไงจนยอมไปปากซอง ปรากฏว่าติดใจ กลับมาบอก "ตุลานี้พ่อว่าง พาพ่อกับแม่ไปเที่ยวหลวงพระบางหน่อยเป็นไง ขับรถไปกันนี่แหละ จะได้ไปเที่ยวไหนสะดวกๆ " น้านน.. ติดใจซะงั้น ได้เลย! เมื่อขอมาลูกก็จัดให้ นี่ก็คือที่มาของทริปขับรถไปเที่ยวหลวงพระบางในครั้งนี้
ก่อนอื่นต้องขออธิบายสักหน่อย คือลาวใต้น่ะตั้งแต่ปากเซไปจนถึงปากซอง ไปจำปาสักดอนเดช คอนพะเพ็ง ถนนหนทางมันสร้างใหม่ค่อนข้างดีเลยทีเดียว แต่.... ทางลาวเหนือนั้นหน้ามือเป็นหลังมือ คือตั้งแต่เลยเวียงจันทน์ ขึ้นไปวังเวียง หลวงพระบาง หรือเหนือขึ้นไปอีกเนี่ย ทางมันทรหดพอสมควร อาจด้วยเพราะภูมิประเทศหรืออะไรก็แล้วแต่ จากประสบการณ์ของตัวเองที่เคยไปแล้วสองครั้ง ทำให้รู้ว่านั่งจนเจ็บตูด (กระดอน) ปวดขา (เกร็ง ช่วยคนขับเบรค) มันเป็นยังไง แต่งานนี้คิดเหรอเราจะบอกสองเฒ่าอย่างนั้น ประกอบกับเส้นทางที่ไปทางด่านนากระเส็ง อ.ท่าลี่ จ.เลย เขาว่า (ย้ำนะว่า "เขาว่า") ทางค่อนข้างดีและไม่ไกล แค่สามร้อยกว่าโล อีกทั้งเส้นนี้เราก็ยังไม่เคยไป จึงเลือกเส้นทางนี้ โดยที่สองเฒ่าคงคิดในใจว่าแค่สามร้อยกว่ากิโล ทางเขาก็ว่าดี คงใช้เวลาขับรถสัก ห้าหกชั่วโมงแบบชิลๆ กระมัง 555
ดังนั้น ออกเดินทาง คืน 28 ต.ค. 61 เราขับรถจากบ้านที่ขอนแก่น มาค้างคืนที่ จ.เลย เพื่อจะได้ข้ามด่านแต่เช้า ปรากฏว่าด้วยหลายเหตุผล กว่าจะข้ามได้ก็ปาเข้าไปเกือบ 11 โมงเช้า จากที่วางแผนว่าจะขับแบบชิลๆ ไซด์ซีอิ้งไปเรื่อยๆ ก็ต้องปรับโหมดเป็น ฟาสต์แอนด์ซีเรียส (ซีเรียสจริงๆ เพราะไม่รู้จักทาง น้องจีก็มาดันเจ๊งไม่ยอมบอกทาง แล้วก็กลัวจะค่ำกลางทางด้วย)
ไอ้ขาวคู่ใจ งานนี้ต้องใช้เขา
ป้ายบอกทางไปหลวงพระบาง ที่ทางแยก อ.ท่าลี่
เช้า 29 ต.ค.61
เมื่อถึงด่านก็จัดการเรื่องเอกสารทั้งคนทั้งรถ แล้วก็ข้ามสะพานมิตรภาพแม่น้ำเหือง
ตม. ด่านนี้ ทั้งฝั่งไทยและลาวเฟรนลี่มาก ให้คำแนะนำดี พี่ ตม.ฝั่งไทยน่ารักมากแถมย้ำเราว่าเมื่อข้ามไปแล้วให้ไปซื้อประกันฝั่งเขาด้วยนะ ไม่งั้นถูกจับปรับแพงไม่คุ้ม แต่เนี่ยแหละคือส่วนนึงที่ทำให้เกิดความล่าช้า เพราะฝั่งลาวตามปกติด่านอื่นๆ ที่เราเคยเข้าม จะมีซุ้มขายประกันให้เลือกเพียบ แต่ไม่รู้เพราะอะไรที่นี่ วันนี้ ไม่มีซักเจ้า เอาแล้วทำยังไงดี จังหวะนั้นมีเจ้าหน้าที่ลาวมาถามว่ามีปัญหาอะไร ก็ตอบไป เขาเลยแนะนำว่าวันนี้คนขายประกันไม่มา แต่มีจุดที่เขาขายอยู่ พอออกจากด่านแล้วฝั่งขวาจะเห็นเป็นออฟฟิศอยู่ ก็เลยมาตามที่เจ้าหน้าที่แนะนำ ปรากฏว่ามีอยู่ประมาณหกเจ็ดออฟฟิศ ถามเจ้านึงก็บอกไม่ได้ขาย ไปดูอีกเจ้านึงเห็นมีป้ายขายแต่ไม่มีคนอยู่ สรุปวนดูแล้วถามออฟฟิศที่สี่ถึงมีขาย ซื้อไป 60,000 กีบ/ 7 วัน เสียเวลาไปอีกเกือบๆ ชั่วโมง
จากนั้นขับมาสักพักก็ถึงเมืองแก่นท้าว เราแลกเงินกีบที่นี่ ได้เรท 265 กีบ/ 1 บาท น้อยกว่าเมื่อสองสามเดือนก่อนนิดหน่อย ที่เมืองนี้ก็เปลี่ยนมาใช้ซิมลาว เติมไป 10,000 กีบ สมัครเน็ตใช้ได้ 7 วัน
ทางแยกไปไชยบุรี อยู่ที่เมืองนี้
จากนั้นก็ตั้งพิกัดไปหลวงพระบาง แต่... พี่จีมันบอกให้อ้อมไปทางเชียงของ กับ ทางด่านห้วยโก๋น จ.น่าน ดันไม่แสดงเส้นทางที่เราต้องการไปให้ เอาไงล่ะที่นี้ ถามสิครับ และก็ถามไปตลอดทาง และคนลาวอัธยาศัยดีมาก แนะนำเส้นทางให้เราอย่างดี ทุกๆคนที่เราขอความช่วยเหลือ บางคนถึงขนาดจะขับมอเตอร์ไซค์พาไปถึงทางแยกก็มี (กว่าจะถึงหลวงพระบางเราถามไป ราวๆ สี่ครั้ง)
และเล้วพอออกพ้นแก่นท้าวราวๆ ยี่สิบนาที ถนนจากเรียบๆ ปกติ ก็กลายเป็นแบบนี้
จากนั้นอารมณ์ช่างภาพของพ่อเราก็เริ่มหมดลง จากนี้ไปจนเกือบถึงหลวงพระบางแทบไม่มีรูป อาจเพราะเราขับแบบฟาสต์ ตั้งใจให้ถึงก่อนค่ำ สองเฒ่าอารมณ์ทีแรกจะนั่งดูวิวแบบชิลๆ เลยกลายเป็น มือนึงจับเบาะ อีกมือกำที่จับแน่น ในใจคงเริ่มคิดว่าทำไมไม่เหมือนตอนพาไปลาวใต้น้อ 555
วิวข้างทางช่วงไชยบุรี - หลวงพระบาง ทางดีขึ้น ช่างภาพเราเริ่มมีอารมณ์ถ่ายบ้าง
แล้วก็มาถึงหลวงพระบางจนได้ เกือบหนึ่งทุ่ม เข้าพักที่วิลล่า รัตนากร ( 40 us) หัองค่อนข้างดีทีเดียว มีอาหารเช้าแบบเป็นเซตให้ เราจองไว้สามคืน
เช็คอินแล้วหาอะไรกินแถวๆ ที่พัก เดินไปเจอร้านปลาจุ่ม ซี้นจุ่ม จำชื่อร้านไม่ได้ อร่อยดี ไม่แพงด้วย สั่งปลาจุ่มชุดนึง กับ เนื้อควายจุ่ม เนื้อวัวไม่มี (แม่ไม่แตะเลย กินแต่ปลา) ค่าเสียหาย 140,000 กีบ ช่วงนี้ไม่ต้องถามหารูปประกอบเพราะช่างภาพเรา เมื่อยจัดบอกรีบกินรีบไปนอนพักกันเถอะ 555
พอผู้เฒ่าเข้านอน เราก็จัดยาแก้เมื่อยไปสองขวด หลับสบาย ...
พรุ่งนี้ก็เลยจะชดเชยสองเฒ่าสักหน่อย ให้ไปนั่งเรือชมวิวแม่น้ำโขงแบบไฮๆ จองเรือของ mekhong kingdoms ให้ ส่วนเราขอพักเพราะขากลับไปทางวังเวียง เวียงจันทน์ จากที่เคยไปเส้นทางหนักกว่านี้เยอะ แต่เราจะยังไม่บอกสองเฒ่าหรอก จะเป็นยังไงรอดูต่อไปครับ
ขับรถไปหลวงพระบางแบบพกพา ... (พาผู้เฒ่าไป)
ก่อนอื่นต้องขออธิบายสักหน่อย คือลาวใต้น่ะตั้งแต่ปากเซไปจนถึงปากซอง ไปจำปาสักดอนเดช คอนพะเพ็ง ถนนหนทางมันสร้างใหม่ค่อนข้างดีเลยทีเดียว แต่.... ทางลาวเหนือนั้นหน้ามือเป็นหลังมือ คือตั้งแต่เลยเวียงจันทน์ ขึ้นไปวังเวียง หลวงพระบาง หรือเหนือขึ้นไปอีกเนี่ย ทางมันทรหดพอสมควร อาจด้วยเพราะภูมิประเทศหรืออะไรก็แล้วแต่ จากประสบการณ์ของตัวเองที่เคยไปแล้วสองครั้ง ทำให้รู้ว่านั่งจนเจ็บตูด (กระดอน) ปวดขา (เกร็ง ช่วยคนขับเบรค) มันเป็นยังไง แต่งานนี้คิดเหรอเราจะบอกสองเฒ่าอย่างนั้น ประกอบกับเส้นทางที่ไปทางด่านนากระเส็ง อ.ท่าลี่ จ.เลย เขาว่า (ย้ำนะว่า "เขาว่า") ทางค่อนข้างดีและไม่ไกล แค่สามร้อยกว่าโล อีกทั้งเส้นนี้เราก็ยังไม่เคยไป จึงเลือกเส้นทางนี้ โดยที่สองเฒ่าคงคิดในใจว่าแค่สามร้อยกว่ากิโล ทางเขาก็ว่าดี คงใช้เวลาขับรถสัก ห้าหกชั่วโมงแบบชิลๆ กระมัง 555
ดังนั้น ออกเดินทาง คืน 28 ต.ค. 61 เราขับรถจากบ้านที่ขอนแก่น มาค้างคืนที่ จ.เลย เพื่อจะได้ข้ามด่านแต่เช้า ปรากฏว่าด้วยหลายเหตุผล กว่าจะข้ามได้ก็ปาเข้าไปเกือบ 11 โมงเช้า จากที่วางแผนว่าจะขับแบบชิลๆ ไซด์ซีอิ้งไปเรื่อยๆ ก็ต้องปรับโหมดเป็น ฟาสต์แอนด์ซีเรียส (ซีเรียสจริงๆ เพราะไม่รู้จักทาง น้องจีก็มาดันเจ๊งไม่ยอมบอกทาง แล้วก็กลัวจะค่ำกลางทางด้วย)
ไอ้ขาวคู่ใจ งานนี้ต้องใช้เขา
ป้ายบอกทางไปหลวงพระบาง ที่ทางแยก อ.ท่าลี่
เช้า 29 ต.ค.61
เมื่อถึงด่านก็จัดการเรื่องเอกสารทั้งคนทั้งรถ แล้วก็ข้ามสะพานมิตรภาพแม่น้ำเหือง
ตม. ด่านนี้ ทั้งฝั่งไทยและลาวเฟรนลี่มาก ให้คำแนะนำดี พี่ ตม.ฝั่งไทยน่ารักมากแถมย้ำเราว่าเมื่อข้ามไปแล้วให้ไปซื้อประกันฝั่งเขาด้วยนะ ไม่งั้นถูกจับปรับแพงไม่คุ้ม แต่เนี่ยแหละคือส่วนนึงที่ทำให้เกิดความล่าช้า เพราะฝั่งลาวตามปกติด่านอื่นๆ ที่เราเคยเข้าม จะมีซุ้มขายประกันให้เลือกเพียบ แต่ไม่รู้เพราะอะไรที่นี่ วันนี้ ไม่มีซักเจ้า เอาแล้วทำยังไงดี จังหวะนั้นมีเจ้าหน้าที่ลาวมาถามว่ามีปัญหาอะไร ก็ตอบไป เขาเลยแนะนำว่าวันนี้คนขายประกันไม่มา แต่มีจุดที่เขาขายอยู่ พอออกจากด่านแล้วฝั่งขวาจะเห็นเป็นออฟฟิศอยู่ ก็เลยมาตามที่เจ้าหน้าที่แนะนำ ปรากฏว่ามีอยู่ประมาณหกเจ็ดออฟฟิศ ถามเจ้านึงก็บอกไม่ได้ขาย ไปดูอีกเจ้านึงเห็นมีป้ายขายแต่ไม่มีคนอยู่ สรุปวนดูแล้วถามออฟฟิศที่สี่ถึงมีขาย ซื้อไป 60,000 กีบ/ 7 วัน เสียเวลาไปอีกเกือบๆ ชั่วโมง
จากนั้นขับมาสักพักก็ถึงเมืองแก่นท้าว เราแลกเงินกีบที่นี่ ได้เรท 265 กีบ/ 1 บาท น้อยกว่าเมื่อสองสามเดือนก่อนนิดหน่อย ที่เมืองนี้ก็เปลี่ยนมาใช้ซิมลาว เติมไป 10,000 กีบ สมัครเน็ตใช้ได้ 7 วัน
ทางแยกไปไชยบุรี อยู่ที่เมืองนี้
จากนั้นก็ตั้งพิกัดไปหลวงพระบาง แต่... พี่จีมันบอกให้อ้อมไปทางเชียงของ กับ ทางด่านห้วยโก๋น จ.น่าน ดันไม่แสดงเส้นทางที่เราต้องการไปให้ เอาไงล่ะที่นี้ ถามสิครับ และก็ถามไปตลอดทาง และคนลาวอัธยาศัยดีมาก แนะนำเส้นทางให้เราอย่างดี ทุกๆคนที่เราขอความช่วยเหลือ บางคนถึงขนาดจะขับมอเตอร์ไซค์พาไปถึงทางแยกก็มี (กว่าจะถึงหลวงพระบางเราถามไป ราวๆ สี่ครั้ง)
และเล้วพอออกพ้นแก่นท้าวราวๆ ยี่สิบนาที ถนนจากเรียบๆ ปกติ ก็กลายเป็นแบบนี้
จากนั้นอารมณ์ช่างภาพของพ่อเราก็เริ่มหมดลง จากนี้ไปจนเกือบถึงหลวงพระบางแทบไม่มีรูป อาจเพราะเราขับแบบฟาสต์ ตั้งใจให้ถึงก่อนค่ำ สองเฒ่าอารมณ์ทีแรกจะนั่งดูวิวแบบชิลๆ เลยกลายเป็น มือนึงจับเบาะ อีกมือกำที่จับแน่น ในใจคงเริ่มคิดว่าทำไมไม่เหมือนตอนพาไปลาวใต้น้อ 555
วิวข้างทางช่วงไชยบุรี - หลวงพระบาง ทางดีขึ้น ช่างภาพเราเริ่มมีอารมณ์ถ่ายบ้าง
แล้วก็มาถึงหลวงพระบางจนได้ เกือบหนึ่งทุ่ม เข้าพักที่วิลล่า รัตนากร ( 40 us) หัองค่อนข้างดีทีเดียว มีอาหารเช้าแบบเป็นเซตให้ เราจองไว้สามคืน
เช็คอินแล้วหาอะไรกินแถวๆ ที่พัก เดินไปเจอร้านปลาจุ่ม ซี้นจุ่ม จำชื่อร้านไม่ได้ อร่อยดี ไม่แพงด้วย สั่งปลาจุ่มชุดนึง กับ เนื้อควายจุ่ม เนื้อวัวไม่มี (แม่ไม่แตะเลย กินแต่ปลา) ค่าเสียหาย 140,000 กีบ ช่วงนี้ไม่ต้องถามหารูปประกอบเพราะช่างภาพเรา เมื่อยจัดบอกรีบกินรีบไปนอนพักกันเถอะ 555
พอผู้เฒ่าเข้านอน เราก็จัดยาแก้เมื่อยไปสองขวด หลับสบาย ...
พรุ่งนี้ก็เลยจะชดเชยสองเฒ่าสักหน่อย ให้ไปนั่งเรือชมวิวแม่น้ำโขงแบบไฮๆ จองเรือของ mekhong kingdoms ให้ ส่วนเราขอพักเพราะขากลับไปทางวังเวียง เวียงจันทน์ จากที่เคยไปเส้นทางหนักกว่านี้เยอะ แต่เราจะยังไม่บอกสองเฒ่าหรอก จะเป็นยังไงรอดูต่อไปครับ