>>> ครั้งแรกของกันและกัน และความฝันของ "แม่" ที่เป็นจริง @ โขน~ศาลาเฉลิมกรุง ชุด “หนุมาน”

เมื่อประมาณกลางๆเดือน ตอนที่กำลังนอนไถทวิตเตอร์เพลินๆ ก็สะดุดตาทวิตเชิญชวนให้ไปดูการแสดง โขน ที่ศาลาเฉลิมกรุง ตอนหนุมาน เพราะแทบไม่มีคนไปดูเลย ที่สำคัญ ผู้สูงอายุ ลดราคาเยอะมาก ก็เลยส่งภาพไปหาแม่ว่าอยากไปดูมั๊ย แป๊บเดียวเท่านั้น รีบตอบมาเลยว่า ไปๆๆ

         ต้องเกริ่นก่อนนะคะว่า แม่เราเป็นแม่บ้านแบบเต็มสูบบบ ล้านเปอร์เซนต์ คือไม่ได้ทำงาน อยู่บ้านเลี้ยงลูกตั้งแต่เราเกิด พอเราเริ่มโต แม่ก็ไม่ค่อยอยากไปไหน บางทีก็ห่วงพ่อบ้าง พ่อไม่ให้ไปบ้าง เราเคยชวนไปเที่ยวในเมืองบ่อยๆก็บ่นขี้เกียจบ้าง รถติดบ้าง  ก็เลยกลายเป็นว่า กว่า 30 ปี ชีวิตแม่ดูแลแต่ครอบครัวอย่างเดียว มีไปห้างใกล้บ้านเสาร์อาทิตย์ หรือไปต่างจังหวัดบ้างถ้าพ่อพาไป แต่ถ้านอกเหนือจากนี้คือไม่ได้ไปเลย ไม่เคยขึ้นรถไฟฟ้า รถใต้ดิน ไม่ได้ขึ้นรถเมลล์มา 30 ปี มาคราวนี้ได้โอกาสดี เพราะเห็นบ่นอยากดูโขนมานานมาก แต่อะไรหลายๆอย่างไม่ลงตัว พอคราวนี้ยอมไป ก็คงต้องเอาให้คุ้ม เลยจะพาไปเดินงานหนังสือที่ศูนย์สิริกิติ์ด้วยเลย

          เนื่องจากบ้านอยู่ไกลมากกกกกก เลยต้องวางแผนการเดินทางซะหน่อย ก็คือ ต้องขับรถจากแถวซาฟารีเวิล์ด >>> เอารถไปจอดที่อาคารจอดแล้วจร ลาดพร้าว>>>ต่อรถใต้ดิน ไปศูนย์สิริกิติ์ >>> ต่อรถใต้ดินไปหัวลำโพง >>> ต่อ TAXI ไปศาลาเฉลิมกรุง  [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

          พอมาถึงสถานีรถไฟฟ้า แม่แอบกังวล เพราะเป็นครั้งแรกในชีวิต กลัวมึนกลัวเมา เราก็ปลอบว่าไม่มีอะไรน่ากลัวหรอก นั่งแว้บเดียว เดี๋ยวก็ถึง

         


           พอถึงศูนย์สิริกิติ์ ถามว่า เป็นไงมั่ง เมามะ แม่ตอบมาว่า "ไม่เมา แต่ทำไมขับกระชากจัง หรือปกติก็แบบนี้" 5555555  ปกติก็แบบนี้จ้าาาาาา น่าจะเป็นช่วงโค้งของทาง เลยสั่นๆหน่อย แม่บอกมาอีกว่า "ก็ไม่หน่อยนะ" 5555555

            สรุป ไม่เมา แต่แม่คอมเมนท์ว่า บันไดเลื่อน เลื่อนเร็วมาก ก้าวไม่ค่อยทัน (อันนี้ความผิดเราเอง รู้งี้น่าจะพาลงลิฟท์)

            พอมาถึงศูนย์สิริกิติ์ ก็กะว่าจะเดินช้อปปิ้งลั๊ลลา แต่กลายเป็นว่าขอนั่งพัก เราเลยแซวว่า อะไร ยังไม่ทันจะเดิน เหนื่อยแล้วเหรอ แม่ตอบมาว่า ไม่ใช่ แต่เหมือนรองเท้าจะบีบ มันเจ็บ

             แว้กกกกกก !!! ซวยละทีนี้ จะทำไงดี ก็เลยให้แม่นั่งรอ เราก็ไปเดินหาซื้อรองเท้า ซึ่งความหวังริบหรี่ เพราะนี่มันงานหนังสืองายยยยยย จะมีรองเท้าขายไหมเล่าาาาาา ก็เดินวนหานานมาก็ไม่มี เลยเดินไป 7-11 สรุป มีอยู่คู่สุดท้าย ใส่ได้รึเล่าไม่รู้ เอามาก่อนแก้ขัด

            [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

            พอได้รองเท้าละ ทีนี้เดินตัวปลิว ยุให้ซื้อนิยาย แต่ไม่เอาบอกแพง จะซื้อแต่หนังสือทำเค้ก กับ งานฝีมือ แต่พอเจอนิยาย 2 เล่มร้อย ทีนี้คิดหนักเลยจ้าาาา 555

            


            


             สรุปงานหนังสือ แม่หมดไป 500 กว่าบาท ส่วนลูกหมดเท่าไหร่เหรอ ??? หมดตัวจ้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา 5555 (แม่แอบมอง แล้วพูดว่า ปกติมาทุกครั้งซื้อเยอะแบบนี้เลยเหรอ)

             ใกล้ๆ 5 โมงเย็น ก็ออกจากงานหนังสือ ตอนแรกกะจะนั่งรถใต้ดินไปหัวลำโพง แล้วต่อรถไปศาลาเฉลิมกรุง แต่คิดไปคิดมา นั่ง TAXI ทีเดียวเลยดีกว่า ราคาน่าจะพอๆกัน

             ระหว่างทาง แม่ก็บรรยายว่า เนี่ยๆๆ ตอนนั้นแม่ทำงานอยู่แถวนี้ มาเจอพ่อแถวนั้น  โอ้วโหวววว ตึก loxley ยังอยู่เลยนะนี่ แกก็บรรยายความทรงจำของแกไปเรื่อย ได้แต่พูดว่า ไม่ได้มา 30 กว่าปี มีแต่ตึกสูงไปหมด จำไม่ได้แล้วว่าตรงไหนเป็นตรงไหน เปลี่ยนไปหมดแล้ว

             พอรถเข้าเยาวราช แม่ก็ตื่นเต้นกว่าเดิม พูดเล่าเรื่องสมัยอดีตกาล เคยมาซื้อของ มากินข้าว เดี๋ยวนี้อยากกินก็ไม่มีปัญญามา ต้องใช้ลูกมาอย่างเดียว บลาๆๆๆๆ 5555

             


              สุดท้ายเราเลือกลงที่ดิโอลสยาม เพราะจะทานข้าวก่อนเข้าชมโขน แล้วก็จะหาซื้อรองเท้าให้แม่เปลี่ยนด้วย (แอบแซวว่า นี่แกล้งเจ็บเท้าเพราะอยากได้ใหม่ปะเนี่ย 555)

              


              พอเดินช้อปปิ้ง กินข้าวจากดิโอลสยาม ก็ได้เวลาที่เรารอคอยแล้ว เดินออกมาจากดิโอล หันหน้าไปทางถนนเจริญกรุง ก็จะเห็นศาลาเฉลิมกรุงแล้วจ้าาาา ซึ่ง ณ เวลานั้น แม่ดูตื่นเต้นมากกกกกกกกก

              


               


             
              ด้วยกระแสแห่งโซเชี่ยล ที่บอกต่อๆกัน บอกเลยว่า คนเยอะมากๆๆๆๆ คงเพราะเป็นวันศุกร์ด้วย แล้วน่าจะเป็นรอบสุดท้ายของเดือนนี้ เพราะเดือนพฤศจิกายน จะมีแสดงโขนพระราชทานที่ศูนย์วัฒนธรรม ก็เลยจะงดที่ ศาลาเฉลิมกรุงไป 1 เดือน แล้วจะเริ่มแสดงใหม่ วันที่ 6 ธันวาคม ค่ะ

             


              


            ส่วนตัว ขอสารภาพอย่างจริงใจว่า ความรู้เรื่องรามเกียรติ์ นั้นมีน้อยนิดมากๆ และไม่เคยดูโขน มาก่อนในชีวิต ถึงแม้ตอนเรียนจะเรียนวิทยาลัยด้านศิลปะ และเขียนลายไทยบ่อย แต่ก็รู้แค่ว่ากำลังเขียนใครอยู่ แต่ไม่เคยจำเรื่องราวเลย เอาเป็นว่า รู้แค่ในเรื่องจะมี พระราม (พระเอก) พระลักษณ์ (น้องพระราม) สีดา (ต้นเหตุของสงคราม) ทศกัณฐ์ (มี10หน้าและเป็นยักษ์) หนุมาน (เป็นลิงและเป็นลูกพระพาย หาวเป็นดาวเป็นเดือน) จบ ค่ะ รู้แค่นี้จริงๆ 55555555555 ความรู้คืนครูคืนอาจารย์ไปหมด ตอนก่อนจะเข้าไปชม ยังพูดกับแม่ว่า "จะดูรู้เรื่องมั๊ยเรา"

             พอถึงเวลา 19.15 เจ้าหน้าที่ก็เปิดให้คนทะยอยเข้าไป ซึ่งตอนนั้นรู้สึกได้ถึงความขลัง และบรรยากาศที่คึกคักมาก ก็รู้สึกตื่นเต้นอยู่เหมือนกัน

            


              พอฉากแรกเริ่มแสดง ม่านเปิดออก มีนางรำ รำออกมา แม่ถึงกับอุทานว่า "สวยมากกกกก" (เราว่าแม่แอบน้ำตาคลอ เพราะเสียงเครือๆ เหมือนฝันได้เป็นจริงซะที)

             ในส่วนของการแสดง จะมีทั้งหมด 8 ฉากค่ะ จะเริ่มตั้งแต่ ปูพื้นว่า หนุมานเป็นใคร เรื่องราวต่างๆ ในแต่ละฉาก จะเน้นตอนสำคัญๆ อาทิ ตอนหนุมานแอบเข้าไปในสวนของพระนางอุมาเทวี ฉากที่ต้องไปให้พระรามลูบหลัง 3 ที เพื่อลบคำสาป ฉากจองถนน ฉากไปขโมยหัวใจทศกัณฑ์จากฤาษี ตอนนี้ฮามากกกกกกกก น่าจะเป็นตอนที่ให้คนดูได้ผ่อนคลาย มีการใช้ภาษาปกติพูดคุยกัน ซึ่งฉากอื่นๆจะเป็นการขับเสภา ก็ยอมรับว่า ฟังไม่รู้เรื่องบ้าง ต้องอ่านซับที่เป็นภาษาอังกฤษด้านบนเอา คือ ไม่ได้กระแดะนะคะ แต่ต้องยอมรับว่า บางคำเป็นศัพท์สูง ก็ไม่ค่อยรู้เรื่องเหมือนกัน มีตอนนึงฤาษีถามหนุมานว่า เห้ยๆๆ ทำไมวันนี้คนเยอะจังวะ สงสัยเค้ารู้ว่า โรงละครจะปิดตัว หนุมานตกใจ ถามฤาษีว่า จริงเหรอ ฤาษีตอบว่า เอ้าาาา เมิงไม่ค่อยเข้าประชุมไง เลยไม่รู้ 55555555

            ขออนุญาตนำภาพบางฉาก จากเพจศาลาเฉลิมกรุงมาให้ชมค่ะ ในรูปว่าสวยแล้ว ของจริง สวยมากๆๆๆๆๆๆๆจริงๆ

              


                                                                      
ฉากรบ


               


                                                          
ฉากตอนหนุมานได้อวยยศ


               


               
นักแสดงออกมาขอบคุณผู้ชม


              

              
              พอแสดงเสร็จ นักแสดงจะออกมายืนให้ถ่ายรูปกันค่ะ  คนเยอะมากจริงๆ ไม่มีที่จะเดินเลย (ภาพจากเพจศาลาเฉลิมกรุง)

              
              



               



                


               
คุณแม่ ไม่มีพลาดดดดดดดดด ยิ้มแก้มปริ


              
                การแสดงใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงค่ะ เต็มอิ่มมากๆ สวย งดงามมาก แถมสนุกด้วยค่ะ ครั้งแรกของเรา ถือว่าประทับใจมากๆ คิดว่าถ้ามีโอกาสคงพาแม่ไปอีก ส่วนแม่ไม่ต้องถาม ปลื้มมากกกกกกกก พูดตลอดว่า ดีใจได้มาดู ขอบคุณลูกมากๆ (แหมะ ดราม่าๆๆ) ฝันเป็นจริงซะที อยากดูมานาน ตอนเด็กๆเคยดูครั้งสองครั้ง คราวนี้ได้ดูใกล้มากๆ สวยมากๆ คิดถึงคุณตา คุณยาย ถ้ายังอยู่ คงอยากมาดูเหมือนกัน (ดราม่าตลอดทางกลับบ้าน 555)

                สรุปออกจากบ้านเกือบเที่ยง กลับถึงบ้าน เที่ยงคืน ตอนแรกคิดว่าแม่จะเหนื่อย แต่เปล่าเลย ดูยังตื่นเต้น พูดเรื่องโขนไม่หยุดเลยจ้า ^^ เป็นครั้งแรกของเราที่ได้ดูโขน และฝันของแม่ก็ได้เป็นจริง ได้ไปงานหนังสือครั้งแรก ได้นั่งรถใต้ดินครั้งแรกด้วย แถมยังได้พาไปย้อนอดีต ระลึกถึงความหลัง คนเก่า วันเก่าๆ ให้พอได้อมยิ้มและแอบน้ำตาคลอคิดถึงคนที่จากไป ^^  

                ส่วนใครที่สนใจอยากไปชม โขน ที่ศาลาเฉลิมกรุง ตอนหนุมาน สามารถเข้าชมได้อีกครั้งในวันที่ 6 ธันวาคม เป็นต้นไป และจะแสดงทุกวันพฤหัส - ศุกร์ เวลา 19.30 น. บัตรราคา 1200 1000 800 ถ้าผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ลด 50% แต่ถ้า 65 ปีขึ้นไป บัตรจะเหลือ 200 บาท (แต่แม่ อายุ 64 ตอนไปซื้อบัตร ก็คิด 200 นะคะ) สามารถซื้อบัตรได้ที่ เวบ ไทยทิคเกตเมเจอร์ และ ที่ศาลาเฉลิมกรุงค่ะ แต่หากต้องการใช้ส่วนลด จะต้องซื้อที่เคาท์เตอร์ไทยทิคเกต กับที่ศาลาเฉลิมกรุงเท่านั้นค่ะ ไปดูกันเยอะๆนะคะ เพราะเห็นว่า แสดงมานานแล้ว แต่คนดูบางครั้งน้อยกว่าคนแสดงอีกค่ะ ไปให้กำลังใจและช่วยต่อลมหายใจ โขน ไทย กันเยอะๆนะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่