📷เมืองในประเทศลาวที่ผมหลงรักมากที่สุดตอนนี้💞
⛰🌫“ ห น อ ง เ ขี ย ว “ เมืองงอยใหม่ // ลาว 🇱🇦
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
,,,,,,,,,City of mist and peace,,,,,,,,,,
.
คือที่นี่เนี่ยมีแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่สวยมากกกกก//
กิจกรรมให้ทำก็หลากหลายและยังคงความเป็นธรรมชาติที่สมบูรณ์
ปราศจากสิ่งปรุงแต่ง เหมือนได้ย้อนอดีตกลับไปอีกครั้ง
เหมาะโค้ตรๆกับคนที่อยากหนีความวุ่นวาย
ต้องการมาสัมผัสใกล้ชิดกับธรรมชาติ
มานอนให้หมอกกอด และให้หัวใจได้พักผ่อน
.
ไหนๆ มาดูดิ้ มันน่าสนใจยังไง มาทำไร ทำไมผมถึงรักมันได้ขนาดนี้?
📍ชมทะเลหมอกยามเช้า
▪ เดินสำรวจป่า
📍 ปืนเขาชมวิวพ้อยสุดพีค
▪ เที่ยวถ้ำ
📍พายเรือคายัค
▪ ชมวิถีชีวิตชาวบ้านชนบท
📍 ปั่นจักรยานชมวิว
▪ เดินเล่นตลาดเช้าแบบสบายๆ
📍 นั่งเล่นนอนชิล ฟังเพลง จิบเบียร์ ร้านบาร์ตอนกลางคืน
โอยยย พอละ ฮ่าๆ แค่นี้คงจะเพียงพอให้ทุกคนเลือกหนองเขียวเข้าไปอยู่ในลิสเที่ยวได้แล้วมั้งครับ
.
🌈ช่วงเวลาที่เหมาะสม : เที่ยวได้ตลอดทั้งปี (แนะนำ ต.ค.-ก.พ.) 🌧
เอาหละ อ่านให้จบ แล้วปักหมุดตามไปได้เลย ลุยยย📌
.
ฝาก Like ฝาก Share ด้วยน้าาาา
ติดตามรีวิวอื่นๆได้ที่ Fanpage : Getout Thailand
https://www.facebook.com/getoutTH/
ขอบคุณครับ ^_^
.
#หนองเขียว #NongKhiaw
#เมืองงอย #MuangNgoi
#ลาว #Laos #GetoutThailand
#Backpacker #Travel
เป้าหมายของทริปนี้ที่เราเลือกมาเมืองหนองเขียว
คงจะหนีไม่พ้นPha Daeng Peak Viewpoint
วิวพ้อยผาแดงที่เอาเป็นรูปเปิดอัลบั้มนี่เองครับ ^^
.
C i t y_ o f _ m i s t _A n d _ p e a c e
หนองเขียว (Nong Khiaw) หรือ เมืองงอยใหม่ (New Muang Ngoi) ตั้งอยู่ใกล้ๆกับ เมืองงอยเก่า (old Muang Ngoi)
.
2 เมืองนี้เป็นเมืองขนาดเล็กๆ ที่เชื่อมต่อกัน ตั้งอยู่กลางภูเขาริมฝั่งแม่น้ำอูแม่น้ำสายใหญ่ทางตอนเหนือของประเทศลาว ห่างจากหลวงพระบางเป็นระยะทางประมาณ 150 กิโลเมตร
กระทู้นี้ถือโอกาสแนะนำให้รู้จักทั้งสองเมืองเลยละกันเพราะสามารถไปเที่ยวพร้อมกันได้เลยแล้วกัน จัดทริปให้ที่นี่ซัก 3 วัน กำลังดีครับ
ปล.(ทริปนี้ผมไปแวะแค่หนองเขียว 2 วัน 1 คืน)
.
ที่มาของทั้งสองเมืองอย่าง หนองเขียวกับเมืองงอยเก่า
.
ถึงจะเป็นเมืองคนละเมืองกันแต่ก็มีความสัมพันธ์และเชื่อมโยงกันแบบที่สามารถท่องเที่ยวทั้งสองเมืองควบคู่กันได้ เมืองงอยเป็นเมืองเก่าแก่ริมน้ำอูตอนกลาง
.
ต่อมาเมื่อมีการตัดถนนจากหลวงพระบางเลียบลำน้ำอูมาถึงก็ได้มีการสร้างสะพานข้ามแม่น้ำบริเวณหนองเขียว เพื่อการเดินทางต่อไปยังแขวงซำเหนือให้สามารถเดินทางได้สะดวกขึ้น ทำให้บริเวณที่ตั้งสะพานกลายเป็นชุมชนใหม่ มีชาวบ้านจากเมืองงอยเก่าย้ายถิ่นไปตั้งบ้านเรือนบริเวณพื้นที่หนองเขียวมากขึ้น และเมื่อมีการพัฒนาด้านการท่องเที่ยว หนองเขียวจึงดูเหมือนเป็นชุมชนใหญ่ที่คึกคักและมีสีสันเจริญและเป็นที่นิยมกว่าเมืองงอย
.
นี่คือสะพานข้ามลำน้ำอูยาวประมาณ 200 เมตร ที่พูดถึงก่อนหน้านี้ ปัจจุบันตามริมลำน้ำเกิดเป็นชุมชนขนาดใหญ่ขึ้น สร้างเป็นร้านอาหารและที่พักจำนวนมาก แต่ยังคงความธรรมชาติของ*หนองเขียว (เมืองงอยใหม่) ไว้อย่างลงตัว
.
วิวสะพานนี้เป็นอีกหนึ่งวิวไฮไลต์แลนด์มาร์คของหนองเขียวเลยครับ ใครมีโอกาสไป อย่าลืมหามุมเด็ดๆมาอวดด้วยละ อิอิ
เอาหล่ะครับ สำหรับใครสนใจจะไปเที่ยวหนองเขียวหรือเมืองงอย ก็ทำยังไงก็ได้ให้เอาตัวมาอยู่ที่
*****ห ล ว ง พ ร ะ บ า ง*****
แนะนำจั
ดแพลนรวมกับทริปหลวงพระบางได้เลย รังรองไม่ผิดหวัง *
.
- ขาไปจากหลวงพระบางใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมงโดยรถยนต์และรถประจำทาง
.
- ขากลับสามารถเลือกกลับได้ทั้ง รถยนต์ รถประจำทาง หรือออออ ใครมีเวลาไม่รีบร้อนสามารถเลือกเดินทางกลับด้วยการโดยสารเรือได้ครับ จะล่องตามน้ำอูเชื่อมต่อกับแม่น้ำโขง ที่บ้านปากอู ซึ่งเป็นที่ตั้งของถ้ำติ่งแล้วล่องโขงสู่หลวงพระบางต่อใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง หรือจะกลับทางรถยนต์ก็ได้ ตามความต้องการเลยจ้าา
พอจะรู้จักกับหนองเขียวแล้วใช่มั้ย งั้นมาเริ่มมาเริ่มกันเถอะ
Start Trip : LaungPraBang – Nong Kiew
*เริ่มทริปด้วยการแนะนำค่าเงินของที่ลาวเรียกเป็น กีบ ปัจจุบัน 10000 กีบ ~ 38 บาทไทย ตีไป 40 บาทแล้วกันคิดง่ายๆ ^^
มาเริ่มด้วยการเดินทางจากหลวงพระบาง
- รถโดยสารไปหนองเขียว เป็นรถตู้ครับตามภาพเลยนั่งได้ประมาณ 10-14 คน
- รอบรถขาไป 09.30 น. /11.00 น./14.30 น.
- ราคาค่าตั้ว ซื้อเองจากท่ารถ 50000 กีบ (ต้องหารถไปซื้อเอง และมาขึ้นรถเอง ) ถ้าซื้อจากที่พัก 65000-70000 กีบ
.
ผมเลือกรอบ 09.30 น. ได้ราคา 65000 กีบ มีรถมารับหน้าที่พักเลย ไปสถานีรถครับ แนะนำซื้อกับที่พักเลยครับ จะได้ไม่ต้องยากหารถไปท่ารถอีก ราคาที่เดินสอบถามหลายๆร้านจะอยู่ที่ 65000-75000 กีบ
ออกจากหนองเขียว 09.30 น. ใช้ระยะเวลาประมาณ 3 ชม. ถึงหนองเขียวประมาณ 12.30 น.ครับ ทางค่อนข้างไม่ได้ดีมากเท่าไหร่ 55+ แต่วิวระหว่างทางของผมวันนั้น ด้วยที่เป็นหน้าฝน ฝนตกประปราย บอกเลยว่าความเขียว ความหมอกเต็มไปหมด โคตรฟิน พอจะทำให้ลืมบรรยากาศความแออัดในรถตู้ได้บ้าง รอบผมไปฝรั่งทั้งคันครับ!!
.
ถึงสถานีรถ แนะนำซื้อขากลับไว้เลย
มีรอบ 09.00 น./11.00 น./12.30 น.
ราคา 40000 กีบ
.
จากท่ารถก็นั่งตุ้กตุ้กเข้ามาตรงตัวเมืองหนองเขียว 10000 กีบ หรือใครอยากชิล ก็เดินไปได้ครับ 10-15 นาทีก็ถึงตัวเมืองหนองเขียว ก็เดินหาที่พักเลยครับราคาโคตรจะถูกครับ แนะนำริมน้ำตื่นมาจะได้ฟินๆกับหมอกยามเช้า ราคาไม่แพงเลยตกราคาประมาณ 200-400 บาท /ห้อง
วิ ว ร ะ ห ว่ า ง ท า ง
เมืองหนองเขียว เหมือนย้อนประเทศไทยกลับสมัย 50 ปีก่อน เมืองเล็กๆ ผู้คนยิ้มแย้ม น่ารัก เงียบสงบ ธรรมชาติสีเขียว ลงตัวสุดดๆ
เดินเล่นในตัวเมืองหนองเขียวก็จะเห็นหมอกแบบนี้อยู่รอบตัว 360 องศา มานอนเฉยๆ กับหนังสือเล่มโปรดซักเล่ม ยังควรมาเลย อิ่มใจแล้วววว โอย อยากกลับไปอีกโว้ยยย ^^
เอาหละ หลังจากรถตุ้กๆ มาส่งกลางเมืองหนองเขียว เราก็เดินถามหาที่พักได้เลยครับ ไม่ได้จองมา เพราะลองหาแล้วในพวกเวปที่ให้จองมีน้อยมาก แต่มาเดินหาเองมีเยอะพอสมควร แต่ช่วงไฮซีซั่นหน้าหนาว ตค-มค ไม่อยากเสี่ยงก็จองมาก่อนก็ได้นะครับ ตามใจ ^^
และนี่คือวิวจากหน้าห้องพักของผม
ได้ราคา ค่าห้อง 400 บาท ไปสองคน ตกคนละ200 เอง ดีลลครับป้า ^^
หลังจากเข้าที่พักเก็บกระเป๋า ออกมากินข้าว พร้อมลุยกับจุดเป้าหมายสำคัญของทริปนี้ก่อนเลย เพราะผมมีเวลาอยู่ที่นี่แค่ 2 วัน พรุ่งนี้จองขากลับไว้ 11 โมงเช้า วิวพ้อยผาแดง ก็ต้องจัดบ่ายวันนี้แหละจ้าาา ถามทางกับชาวบ้านได้เลย ไม่มีใครไม่รู้จักครับ ^^
.
นี่เป็นถนนเส้นหลักหลังจากผ่านตัวสะพานมาแล้ว
เดินจากร้านอาหารแถวๆที่พัก ก็เดินตามถนนเส้นหลักในภาพก่อนหน้านี้ไปประมาณ 800 เมตรเห็นจะได้ ซ้ายมือก็จะเจอทางเข้า ซึ่งเป็นจุดเริ่มเดิน วิวผาแดงครับ
ค่าเข้า : 20000 กีบ ได้ตั้วเล็กๆมา 1ใบ จ่ายยยยไป ลุยยยยย
.
พร้อมมั้ยวัยรุ่นนนนเอ้ยยยยย คือตอนแรกที่พักบอกว่า วันนี้ขึ้นไม่ไหวหรอกนายเอ้ยยยย ไม่แนะนำ อันตราย เพราะฝนเพิ่งตกไป แล้วก็ไม่รู้จะตกอีกมั้ยยย ขณะนั้นเวลา 14.30 น.โดยประมาณ มองฟ้าแล้ว เมฆก็อึมครึมซะเหลือเกิน
แต่มาแล้วนิ!! ลองดูหน่อยแล้วกัน ใจมันต้องมาาา อิอิ เริ่มเดินเวลา 15.00 น.โดยประมาณ ระยะทางเอาเรื่องอยู่ครับชาวบ้านด้านล่างบอกว่า ใช้เวลาประมาณ 1.30 ชม.
คือช่วงที่ไปเป็นหน้าฝน!!ด้วยความที่คิดว่าจะไปเอาแต่หมอกกกก แต่ไม่ห่วงสภาพตัวเอง ว่าถ้าเจอฝน ถ้าฝนตกหนักจะเจออะไรบ้าง นี่คือสภาพจ้าา รอติดตาม จะถึงยอดไหม!!
ส่วนน้องที่ไปด้วยกัน น้องบอกว่าพี่ไปเลยนะ ไม่ไหวแล้ว ทาง
มากก ขอรออยู่ข้างล่าง!!! ฮ่าๆ ตรูก็เอาว่ะ ไปคนเดียวก็ได้55+
เจอป้ายนี้ ฮอดเคิ่งทางแล้วเด้ออออ เวลา 16.00 โดยประมาณ ตอนนั้นดีใจนะ ยิ้มได้อยู่นิดนึง เงยหน้ามองฟ้าครึ้มๆ มาคนเดียว ยิ่งขึ้นไปป่ายิ่งทึบ ทางก็เละขึ้นเรื่อยๆ เอาไงดีต่อวัยรุ่น!!
Pha Daeng Peak Viewpoint ของตรู
อย่างที่บอกไฮไลต์ที่ผมมาเยือนหนองเขียวครั้งนี้ก็คือวิวพ้อย ผาแดงครับ คือจะบอกว่าระยะทางเดินตอนแรกๆก็พอไหวอ่ะนะ แต่สักพักนี่เริ่มชัน ชันแล้วชันอีก โคตรพ่อโคตรแม่ชัน ก็ว่าเดินป่า ออกกำลังกายมาอยู่บ้าง ทำไมมันเหนื่อยขนาดนี้ แล้ววันที่ผมไปฝนดันตกมาแล้วววว คือบางช่วงนี่ต้องปีน ต้องคลานจ้า!!!
ค รึ่ ง ท า ง เ อ า ไ ง ต่ อ ดี ? ? ?
.
ผมตัดสินใจลุยไปต่อจากป้ายครึ่งทางได้อีกประมาณ 20 นาที จากการคาดเดาคือน่าจะอีกประมาณ 20 นาทีน่าจะถึงยอดผาแดง
ภาพนี้น่าจะเป็นภาพที่ดีที่สุดที่พอจะเก็บมาฝากได้สำหรับทริปนี้ ^^
.
ใช่แล้วครับ เหมือนฟ้ากลั้นแกล้งๆฝนเทลงมาจ้าและทางก็สุดๆจริงๆ จากที่เละอยุ่แล้ว ยิ่งเละไปอีก แล้วก็เริ่มมืดๆแล้วด้วย ผมเลยตัดสินใจลงก่อนครับ เอาความปลอดภัยตัวเองดีกว่า แต่วิวในภาพก็พอจะแทนความรู้สึกที่ปีนขึ้นมาได้บ้างอยู่
.
ผมสัญญาตัวเองว่าจะกลับไปใหม่
เดี๋ยวเจอกันใหม่นะ ผาแดง!!!
นี่คือสภาพรองเท้าหลังจากลงมาถึงถนนด้านล่างงง ครั้งหน้าจะกลับมาซ่อมแน่นอน ไม่ต้องห่วง เพราะครั้งนี้ถึงจะขึ้นไม่ถึงยอดผาแดง แต่โครตรักความลงตัวธรรมชาติที่นี่ไปแล้วอ่ะ
คือเดินเล่นในหมู่บ้านชุมชนที่นั้นก็จะเจอกับวิถีชีวิตของชาวบ้านรูปแบบต่างๆซึ่งมันเรียลจริงๆ ด้วยความที่นักท่องเที่ยวไม่พลุกพล่าน เลยมีเวลาสัมผัสกับคนในพื้นที่ค่อนข้างมาก คุยไทยไปเค้าก็เข้าใจ แต่ก็แอบพูดลาวได้อยู่นิดนึงงงง 55+
นี่ก็ชาวบ้านทอผ้ากันอยู่ ก็ไปนั่งเล่นคุยกับป้าอยู่แปบนึงพอให้หายเหนื่อยจากการปีนผาแดง มา ฮ่าๆ
อีกสถานที่ท่องเที่ยวของที่นี่ คือ ถ้ำผาตอก Pha Tok Cave อยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 2-3 กม. เดินเลยไปจากป้ายวิวผาแดงก็ได้ ปั่นจั้กก้าไปก็ดี มอไซด์ก็ได้ เอาไงก็เอา วันนั้นแบตกล้องหมด ไม่มีภาพมาฝาก T T
[CR] ไปให้หมอกกอด*หนองเขียว : เมืองงอย : รักจังลาว*
⛰🌫“ ห น อ ง เ ขี ย ว “ เมืองงอยใหม่ // ลาว 🇱🇦
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
,,,,,,,,,City of mist and peace,,,,,,,,,,
.
คือที่นี่เนี่ยมีแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่สวยมากกกกก//
กิจกรรมให้ทำก็หลากหลายและยังคงความเป็นธรรมชาติที่สมบูรณ์
ปราศจากสิ่งปรุงแต่ง เหมือนได้ย้อนอดีตกลับไปอีกครั้ง
เหมาะโค้ตรๆกับคนที่อยากหนีความวุ่นวาย
ต้องการมาสัมผัสใกล้ชิดกับธรรมชาติ
มานอนให้หมอกกอด และให้หัวใจได้พักผ่อน
.
ไหนๆ มาดูดิ้ มันน่าสนใจยังไง มาทำไร ทำไมผมถึงรักมันได้ขนาดนี้?
📍ชมทะเลหมอกยามเช้า
▪ เดินสำรวจป่า
📍 ปืนเขาชมวิวพ้อยสุดพีค
▪ เที่ยวถ้ำ
📍พายเรือคายัค
▪ ชมวิถีชีวิตชาวบ้านชนบท
📍 ปั่นจักรยานชมวิว
▪ เดินเล่นตลาดเช้าแบบสบายๆ
📍 นั่งเล่นนอนชิล ฟังเพลง จิบเบียร์ ร้านบาร์ตอนกลางคืน
โอยยย พอละ ฮ่าๆ แค่นี้คงจะเพียงพอให้ทุกคนเลือกหนองเขียวเข้าไปอยู่ในลิสเที่ยวได้แล้วมั้งครับ
.
🌈ช่วงเวลาที่เหมาะสม : เที่ยวได้ตลอดทั้งปี (แนะนำ ต.ค.-ก.พ.) 🌧
เอาหละ อ่านให้จบ แล้วปักหมุดตามไปได้เลย ลุยยย📌
.
ฝาก Like ฝาก Share ด้วยน้าาาา
ติดตามรีวิวอื่นๆได้ที่ Fanpage : Getout Thailand
https://www.facebook.com/getoutTH/
ขอบคุณครับ ^_^
.
#หนองเขียว #NongKhiaw
#เมืองงอย #MuangNgoi
#ลาว #Laos #GetoutThailand
#Backpacker #Travel
คงจะหนีไม่พ้นPha Daeng Peak Viewpoint
วิวพ้อยผาแดงที่เอาเป็นรูปเปิดอัลบั้มนี่เองครับ ^^
.
C i t y_ o f _ m i s t _A n d _ p e a c e
หนองเขียว (Nong Khiaw) หรือ เมืองงอยใหม่ (New Muang Ngoi) ตั้งอยู่ใกล้ๆกับ เมืองงอยเก่า (old Muang Ngoi)
.
2 เมืองนี้เป็นเมืองขนาดเล็กๆ ที่เชื่อมต่อกัน ตั้งอยู่กลางภูเขาริมฝั่งแม่น้ำอูแม่น้ำสายใหญ่ทางตอนเหนือของประเทศลาว ห่างจากหลวงพระบางเป็นระยะทางประมาณ 150 กิโลเมตร
กระทู้นี้ถือโอกาสแนะนำให้รู้จักทั้งสองเมืองเลยละกันเพราะสามารถไปเที่ยวพร้อมกันได้เลยแล้วกัน จัดทริปให้ที่นี่ซัก 3 วัน กำลังดีครับ
ปล.(ทริปนี้ผมไปแวะแค่หนองเขียว 2 วัน 1 คืน)
.
ที่มาของทั้งสองเมืองอย่าง หนองเขียวกับเมืองงอยเก่า
.
ถึงจะเป็นเมืองคนละเมืองกันแต่ก็มีความสัมพันธ์และเชื่อมโยงกันแบบที่สามารถท่องเที่ยวทั้งสองเมืองควบคู่กันได้ เมืองงอยเป็นเมืองเก่าแก่ริมน้ำอูตอนกลาง
.
ต่อมาเมื่อมีการตัดถนนจากหลวงพระบางเลียบลำน้ำอูมาถึงก็ได้มีการสร้างสะพานข้ามแม่น้ำบริเวณหนองเขียว เพื่อการเดินทางต่อไปยังแขวงซำเหนือให้สามารถเดินทางได้สะดวกขึ้น ทำให้บริเวณที่ตั้งสะพานกลายเป็นชุมชนใหม่ มีชาวบ้านจากเมืองงอยเก่าย้ายถิ่นไปตั้งบ้านเรือนบริเวณพื้นที่หนองเขียวมากขึ้น และเมื่อมีการพัฒนาด้านการท่องเที่ยว หนองเขียวจึงดูเหมือนเป็นชุมชนใหญ่ที่คึกคักและมีสีสันเจริญและเป็นที่นิยมกว่าเมืองงอย
.
นี่คือสะพานข้ามลำน้ำอูยาวประมาณ 200 เมตร ที่พูดถึงก่อนหน้านี้ ปัจจุบันตามริมลำน้ำเกิดเป็นชุมชนขนาดใหญ่ขึ้น สร้างเป็นร้านอาหารและที่พักจำนวนมาก แต่ยังคงความธรรมชาติของ*หนองเขียว (เมืองงอยใหม่) ไว้อย่างลงตัว
.
วิวสะพานนี้เป็นอีกหนึ่งวิวไฮไลต์แลนด์มาร์คของหนองเขียวเลยครับ ใครมีโอกาสไป อย่าลืมหามุมเด็ดๆมาอวดด้วยละ อิอิ
เอาหล่ะครับ สำหรับใครสนใจจะไปเที่ยวหนองเขียวหรือเมืองงอย ก็ทำยังไงก็ได้ให้เอาตัวมาอยู่ที่
*****ห ล ว ง พ ร ะ บ า ง*****
แนะนำจั
ดแพลนรวมกับทริปหลวงพระบางได้เลย รังรองไม่ผิดหวัง *
.
- ขาไปจากหลวงพระบางใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมงโดยรถยนต์และรถประจำทาง
.
- ขากลับสามารถเลือกกลับได้ทั้ง รถยนต์ รถประจำทาง หรือออออ ใครมีเวลาไม่รีบร้อนสามารถเลือกเดินทางกลับด้วยการโดยสารเรือได้ครับ จะล่องตามน้ำอูเชื่อมต่อกับแม่น้ำโขง ที่บ้านปากอู ซึ่งเป็นที่ตั้งของถ้ำติ่งแล้วล่องโขงสู่หลวงพระบางต่อใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง หรือจะกลับทางรถยนต์ก็ได้ ตามความต้องการเลยจ้าา
พอจะรู้จักกับหนองเขียวแล้วใช่มั้ย งั้นมาเริ่มมาเริ่มกันเถอะ
Start Trip : LaungPraBang – Nong Kiew
*เริ่มทริปด้วยการแนะนำค่าเงินของที่ลาวเรียกเป็น กีบ ปัจจุบัน 10000 กีบ ~ 38 บาทไทย ตีไป 40 บาทแล้วกันคิดง่ายๆ ^^
มาเริ่มด้วยการเดินทางจากหลวงพระบาง
- รถโดยสารไปหนองเขียว เป็นรถตู้ครับตามภาพเลยนั่งได้ประมาณ 10-14 คน
- รอบรถขาไป 09.30 น. /11.00 น./14.30 น.
- ราคาค่าตั้ว ซื้อเองจากท่ารถ 50000 กีบ (ต้องหารถไปซื้อเอง และมาขึ้นรถเอง ) ถ้าซื้อจากที่พัก 65000-70000 กีบ
.
ผมเลือกรอบ 09.30 น. ได้ราคา 65000 กีบ มีรถมารับหน้าที่พักเลย ไปสถานีรถครับ แนะนำซื้อกับที่พักเลยครับ จะได้ไม่ต้องยากหารถไปท่ารถอีก ราคาที่เดินสอบถามหลายๆร้านจะอยู่ที่ 65000-75000 กีบ
ออกจากหนองเขียว 09.30 น. ใช้ระยะเวลาประมาณ 3 ชม. ถึงหนองเขียวประมาณ 12.30 น.ครับ ทางค่อนข้างไม่ได้ดีมากเท่าไหร่ 55+ แต่วิวระหว่างทางของผมวันนั้น ด้วยที่เป็นหน้าฝน ฝนตกประปราย บอกเลยว่าความเขียว ความหมอกเต็มไปหมด โคตรฟิน พอจะทำให้ลืมบรรยากาศความแออัดในรถตู้ได้บ้าง รอบผมไปฝรั่งทั้งคันครับ!!
.
ถึงสถานีรถ แนะนำซื้อขากลับไว้เลย
มีรอบ 09.00 น./11.00 น./12.30 น.
ราคา 40000 กีบ
.
จากท่ารถก็นั่งตุ้กตุ้กเข้ามาตรงตัวเมืองหนองเขียว 10000 กีบ หรือใครอยากชิล ก็เดินไปได้ครับ 10-15 นาทีก็ถึงตัวเมืองหนองเขียว ก็เดินหาที่พักเลยครับราคาโคตรจะถูกครับ แนะนำริมน้ำตื่นมาจะได้ฟินๆกับหมอกยามเช้า ราคาไม่แพงเลยตกราคาประมาณ 200-400 บาท /ห้อง
วิ ว ร ะ ห ว่ า ง ท า ง
เมืองหนองเขียว เหมือนย้อนประเทศไทยกลับสมัย 50 ปีก่อน เมืองเล็กๆ ผู้คนยิ้มแย้ม น่ารัก เงียบสงบ ธรรมชาติสีเขียว ลงตัวสุดดๆ
เดินเล่นในตัวเมืองหนองเขียวก็จะเห็นหมอกแบบนี้อยู่รอบตัว 360 องศา มานอนเฉยๆ กับหนังสือเล่มโปรดซักเล่ม ยังควรมาเลย อิ่มใจแล้วววว โอย อยากกลับไปอีกโว้ยยย ^^
เอาหละ หลังจากรถตุ้กๆ มาส่งกลางเมืองหนองเขียว เราก็เดินถามหาที่พักได้เลยครับ ไม่ได้จองมา เพราะลองหาแล้วในพวกเวปที่ให้จองมีน้อยมาก แต่มาเดินหาเองมีเยอะพอสมควร แต่ช่วงไฮซีซั่นหน้าหนาว ตค-มค ไม่อยากเสี่ยงก็จองมาก่อนก็ได้นะครับ ตามใจ ^^
และนี่คือวิวจากหน้าห้องพักของผม
ได้ราคา ค่าห้อง 400 บาท ไปสองคน ตกคนละ200 เอง ดีลลครับป้า ^^
หลังจากเข้าที่พักเก็บกระเป๋า ออกมากินข้าว พร้อมลุยกับจุดเป้าหมายสำคัญของทริปนี้ก่อนเลย เพราะผมมีเวลาอยู่ที่นี่แค่ 2 วัน พรุ่งนี้จองขากลับไว้ 11 โมงเช้า วิวพ้อยผาแดง ก็ต้องจัดบ่ายวันนี้แหละจ้าาา ถามทางกับชาวบ้านได้เลย ไม่มีใครไม่รู้จักครับ ^^
.
นี่เป็นถนนเส้นหลักหลังจากผ่านตัวสะพานมาแล้ว
เดินจากร้านอาหารแถวๆที่พัก ก็เดินตามถนนเส้นหลักในภาพก่อนหน้านี้ไปประมาณ 800 เมตรเห็นจะได้ ซ้ายมือก็จะเจอทางเข้า ซึ่งเป็นจุดเริ่มเดิน วิวผาแดงครับ
ค่าเข้า : 20000 กีบ ได้ตั้วเล็กๆมา 1ใบ จ่ายยยยไป ลุยยยยย
.
พร้อมมั้ยวัยรุ่นนนนเอ้ยยยยย คือตอนแรกที่พักบอกว่า วันนี้ขึ้นไม่ไหวหรอกนายเอ้ยยยย ไม่แนะนำ อันตราย เพราะฝนเพิ่งตกไป แล้วก็ไม่รู้จะตกอีกมั้ยยย ขณะนั้นเวลา 14.30 น.โดยประมาณ มองฟ้าแล้ว เมฆก็อึมครึมซะเหลือเกิน
แต่มาแล้วนิ!! ลองดูหน่อยแล้วกัน ใจมันต้องมาาา อิอิ เริ่มเดินเวลา 15.00 น.โดยประมาณ ระยะทางเอาเรื่องอยู่ครับชาวบ้านด้านล่างบอกว่า ใช้เวลาประมาณ 1.30 ชม.
คือช่วงที่ไปเป็นหน้าฝน!!ด้วยความที่คิดว่าจะไปเอาแต่หมอกกกก แต่ไม่ห่วงสภาพตัวเอง ว่าถ้าเจอฝน ถ้าฝนตกหนักจะเจออะไรบ้าง นี่คือสภาพจ้าา รอติดตาม จะถึงยอดไหม!!
ส่วนน้องที่ไปด้วยกัน น้องบอกว่าพี่ไปเลยนะ ไม่ไหวแล้ว ทางมากก ขอรออยู่ข้างล่าง!!! ฮ่าๆ ตรูก็เอาว่ะ ไปคนเดียวก็ได้55+
เจอป้ายนี้ ฮอดเคิ่งทางแล้วเด้ออออ เวลา 16.00 โดยประมาณ ตอนนั้นดีใจนะ ยิ้มได้อยู่นิดนึง เงยหน้ามองฟ้าครึ้มๆ มาคนเดียว ยิ่งขึ้นไปป่ายิ่งทึบ ทางก็เละขึ้นเรื่อยๆ เอาไงดีต่อวัยรุ่น!!
Pha Daeng Peak Viewpoint ของตรู
อย่างที่บอกไฮไลต์ที่ผมมาเยือนหนองเขียวครั้งนี้ก็คือวิวพ้อย ผาแดงครับ คือจะบอกว่าระยะทางเดินตอนแรกๆก็พอไหวอ่ะนะ แต่สักพักนี่เริ่มชัน ชันแล้วชันอีก โคตรพ่อโคตรแม่ชัน ก็ว่าเดินป่า ออกกำลังกายมาอยู่บ้าง ทำไมมันเหนื่อยขนาดนี้ แล้ววันที่ผมไปฝนดันตกมาแล้วววว คือบางช่วงนี่ต้องปีน ต้องคลานจ้า!!!
ค รึ่ ง ท า ง เ อ า ไ ง ต่ อ ดี ? ? ?
.
ผมตัดสินใจลุยไปต่อจากป้ายครึ่งทางได้อีกประมาณ 20 นาที จากการคาดเดาคือน่าจะอีกประมาณ 20 นาทีน่าจะถึงยอดผาแดง
ภาพนี้น่าจะเป็นภาพที่ดีที่สุดที่พอจะเก็บมาฝากได้สำหรับทริปนี้ ^^
.
ใช่แล้วครับ เหมือนฟ้ากลั้นแกล้งๆฝนเทลงมาจ้าและทางก็สุดๆจริงๆ จากที่เละอยุ่แล้ว ยิ่งเละไปอีก แล้วก็เริ่มมืดๆแล้วด้วย ผมเลยตัดสินใจลงก่อนครับ เอาความปลอดภัยตัวเองดีกว่า แต่วิวในภาพก็พอจะแทนความรู้สึกที่ปีนขึ้นมาได้บ้างอยู่
.
ผมสัญญาตัวเองว่าจะกลับไปใหม่
เดี๋ยวเจอกันใหม่นะ ผาแดง!!!
นี่คือสภาพรองเท้าหลังจากลงมาถึงถนนด้านล่างงง ครั้งหน้าจะกลับมาซ่อมแน่นอน ไม่ต้องห่วง เพราะครั้งนี้ถึงจะขึ้นไม่ถึงยอดผาแดง แต่โครตรักความลงตัวธรรมชาติที่นี่ไปแล้วอ่ะ
คือเดินเล่นในหมู่บ้านชุมชนที่นั้นก็จะเจอกับวิถีชีวิตของชาวบ้านรูปแบบต่างๆซึ่งมันเรียลจริงๆ ด้วยความที่นักท่องเที่ยวไม่พลุกพล่าน เลยมีเวลาสัมผัสกับคนในพื้นที่ค่อนข้างมาก คุยไทยไปเค้าก็เข้าใจ แต่ก็แอบพูดลาวได้อยู่นิดนึงงงง 55+
นี่ก็ชาวบ้านทอผ้ากันอยู่ ก็ไปนั่งเล่นคุยกับป้าอยู่แปบนึงพอให้หายเหนื่อยจากการปีนผาแดง มา ฮ่าๆ
อีกสถานที่ท่องเที่ยวของที่นี่ คือ ถ้ำผาตอก Pha Tok Cave อยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 2-3 กม. เดินเลยไปจากป้ายวิวผาแดงก็ได้ ปั่นจั้กก้าไปก็ดี มอไซด์ก็ได้ เอาไงก็เอา วันนั้นแบตกล้องหมด ไม่มีภาพมาฝาก T T
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้