สวัสดีค่าาาาาา ยังคงอยู่กันที่ประเทศนิวซีแลนด์ กับการรีวิว Road trip ที่ไปมาเมื่อหลายเดือนก่อน
ฝากติดตามได้ในเพจ : https://www.facebook.com/goeatanything/

มาถึงเมืองแห่งลม Wellington ประเทศ New Zealand ได้ยังไม่ทันได้ซึมซับอะไร
วันรุ่งขึ้นตื่นมาแต่เช้ามืดก็ต้องออกเดินทางไปเกาะใต้ทันที!
(การเดินทางทั้งหมดนี้สนับสนุนโดยญาติผู้พี่ที่อาศัยและมีครอบครัวอยู่ที่นี่จ้า
ทั้งรถและที่พักต่างๆ จึงไม่สามารถลงรายละเอียดเรื่องค่าใช้จ่ายเหล่านั้นได้นะคะ)
ออกเดินทางต้นเดือน กรกฏาคม 2018 ที่ผ่านมาค่ะ

Day1
เดินทางไปเกาะใต้โดยนั่งเรือเฟอร์รี่ข้ามฟากจาก Wellington-ท่าเรือเมืองPicton ใช้เวลาเดินทางราวๆ3ชม.ครึ่ง
รอบแรกเรือออก9โมงเช้า แต่เราควรมาถึงก่อนซัก40นาที-1ชม.เพื่อเช็คอินรถนะจ๊ะ
การขับรถเข้าเรือเฟอร์รี่นั้นก็ไม่ได้ยากเย็นแสนเข็ญซักเท่าไหร่สำหรับผู้หญิงตัวเล๊กเล็กอย่างเราๆ
เพราะเค้าจะจัดเป็นแถวๆไว้ก่อน และมีเจ้าหน้าที่คอยโบกให้ตลอดทาง
ข้อมูลจองเรือ ferry : https://www.greatjourneysofnz.co.nz/interislander?_ga=2.164891767.996369443.1540783966-818218124.1538627686


จอดรถแล้วให้รีบลงไปจับจองที่นั่งให้ไว วิ่งได้วิ่ง ล้มไม่ต้องลุก กลิ้งต่อไปโล้ด!
ที่นั่งวิวสวยๆ นั่งสบายปรับเบาะเอนนอนได้มีไม่เยอะนะจ๊ะ
อ่ะ เสบียงพร้อม! หมอนพร้อม!

ใกล้ถึงฝั่งแล้ว อากาศครึ้มเหลือเกิน อากาศก็หน๊าวววว ฟันออกปากไม่แพ้กัน งึกๆ

ลงเรือประมาณเที่ยงครึ่ง ก็ต้องรีบขับรถตรงดิ่งไปเมือง Christchurch ทันที เพราะเดี๋ยวฟ้าจะมืดซะก่อน

ผ่านเมือง Kaikoura ก็แวะทักทายน้องๆหน่อยนึง
ดีที่ฝนไม่ตกและพอจะมีแดดบางๆ น้องๆเลยขึ้นมาผึ่งพุงกันตามโขดหิน นอนกลิ้งกันสบายใจเฉิบ
ขอเตือนว่าอย่าพยายามลงไปใกล้มาก เพราะอาจจะโดนน้องขู่คำรามได้

ผ่านพ้นเมืองนี้ไปก็ขับยาวๆไปอีก2ชม.ครึ่งเลยนะ กว่าจะเจอเมือง เจอห้องน้ำ
รวมๆที่ขับมาจากท่าเรือ picton จนถึง Christchurch ก็ประมาณ5-6ชม.

นาฬิกาบอกเวลาประมาณ 5โมงนิดๆฟ้าก็มื๊ดมืด อย่างกับ2ทุ่มกว่าบ้านเรา
เราพักกันที่บ้านเพื่อนของพี่ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 15นาทีเท่านั้นเอง
แยกย้ายกันเข้านอนสำหรับการเดินทางวันแรก

Day2-3
เข้าเมือง Christchurch เรายังไม่มีซิมการ์ดและอินเตอร์เน็ตเลยต้องอาศัยไปคอยต่อไวไฟสาธารณะเล่นเอา
ส่วนการสำรวจเมืองนั้นคือการเดินล้วนๆ
ไปค่ะ!


ผ่านมาซักสองวันถ้าใครเดินๆเริ่มเมื่อย อยากหาเน็ตเล่นแบบฟรีๆ แนะนำให้เดินเข้า Christchurch Art Gallery
เน็ตฟรี เงียบ ห้องน้ำสะอาด ที่นั่งสบาย อุ่น แถมมีปลั๊กให้ชาร์ตโทรศัพท์ได้อีกเด้อ เริ่ด!

Day4
วันนี้ขับรถไปนั่ง Gondola กันค่ะ
ราคาสำหรับผู้ใหญ่คนล่ะ 28ดอล
แต่มีราคาเหมาสำหรับครอบครัวด้วยนะ ถ้าช่วงปิดเทอมเด็กๆเข้าฟรี
จริงๆเมื่อคืนฝนตก ก็เสี่ยงเหมือนกันว่าเช้านี้เราจะเห็นวิวสวยๆรึเปล่า แต่ไหนๆมาแล้วก็เสี่ยงให้มันรู้ไป

เอาจริงนะ Gondola แต่ล่ะที่แต่ล่ะประเทศมันจะสวยไม่สวยก็ขึ้นอยู่กับธรรมชาติรอบๆ และอากาศที่เจอ
สำหรับที่นี่เราว่าสวย คุ้มค่าจริงๆ ถ้ามีเวลาก็ควรมา!

อากาศวันนี้ประมาณ 10องศา ลมไม่แรง แถมแดดออกพร้อมต้อนรับคณะทัวร์จากไทยแลนด์ได้เป็นอย่างดี


ช่วงบ่าย-เย็นก็กลับไปเดินเตร็ดเตร่ในเมืองเหมือนเดิม


Day5-6

Botanic garden เป็นอีกที่ที่มีอยู่ในทุกๆเมือง (คิดว่านะ) เป็นสวนใหญ่ๆมีต้นไม้ ดอกไม้ สระน้ำ เป็ดและคาเฟ่สวยๆ
เหมาะแก่การไปเดินทอดน่อง สูดออกซิเจน ฟอกปอด พักสมอง
แต่เดินไปซักครึ่งทางจะเริ่มปวดขาก็ให้เลี้ยวเข้าคาเฟ่ไปนั่งจิบกาแฟร้อนๆให้ร่างการอบอุ่น
หลังจากนั้นก็เดินต่อ แล้วก็เมื่อยอีก ก็ให้เดินกลับไปปคาเฟ่อีกรอบ
โอ๊ย!
พอแล้ว!


อีกสถานที่แนะนำมากๆ ขีดเส้นใต้คำว่ามากๆ
ควรไปก่อนพระอาทิตย์จะตกซัก2ชม.
ทำไมล่ะ?
เพราะว่ามันไกล!
ไม่ใช่!

คืองี้นะจริงจังล่ะ
ระหว่างทางที่ขับไปวิวโคตรเทพ สวยหลักล้านก็ยังน้อยไป แถมขากลับช่วงพระอาทิตย์ใกล้ตก
ฟ้าเป็นสีส้มสลับกับชั้นก้อนเมฆ ทะเลสีครามนิ่งๆ หน้าผา โขดหินและหาดทราย แค่ขับรถดูวิวก็คุ้มแล้ว เกินจะบรรยาย
สถานที่นั้นก็คือ Godley head park

ไปเถอะนะ ถือว่าพี่ขอ


Day7

วันนี้เป็นวันที่รอคอยอีกวันของทริปนี้ เพราะเราจะไป สกีๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ความสุขเล็กๆของการได้เห็นหิมะก้อนขาวๆ ของคนที่เกิดในประเทศเมืองร้อนอย่างเรา
ถึงแม้อากาศจะหนาวเหน็บก็ไม่หวั่น

รีวิวลานสกีเต็มๆ : https://ppantip.com/topic/37906916