วันที่ 1 ตามรีวิวได้ที่ :
https://ppantip.com/topic/38205660
วันที่ 2 ตามรีวิวได้ที่ :
https://ppantip.com/topic/38206603
วันนี้นัด 07.00 น. เพื่อมาหาอาหารทานที่ 7-11 พอได้เวลาก็เดินทางไป Taipei Main Station (BL11 → BL12) ออกจากสถานีแล้ว ให้เดินตรงไปจนถึงทางแยก มองไปทางขวา จะเห็น Exit M2 พอขึ้นมาพ้นทางออก ก็จะเห็นที่จอดรถบัสของ Kuo-Kuang motor สาย 1815 ซึ่งจะใช้เดินทางไปเที่ยว Yehliu Geopark (ไม่แน่ใจถามพนักงานดูก็ได้)
ขึ้นรถแล้ว ให้แตะบัตร Easy Card ที่เครื่องอ่านบัตร แล้วหาที่นั่ง รถจะวิ่งไปประมาณชั่วโมงก็ถึง (เปิด App. Bus+ แล้วใส่ตัวเลข 1815 เข้าไป จะสามารถดูได้ว่าขณะนั้นรถวิ่งไปถึงไหนแล้ว) หรือพอเห็นภาพนี้ก็กดกริ่งลงได้เลย
ตอนลงรถให้แตะบัตร Easy Card ที่เครื่องอ่านบัตรอีกที (จะได้คิดค่ารถตามระยะทาง)
จากป้ายรถเมล์เดินย้อนกลับมา จะเห็นทางสามแยก ก็ให้เดินไปตามรูป
ไปถึง Yehliu Geopark ให้ไปซื้อบัตรผ่านประตูคนละ 80NT
อุทยานธรณีเย่หลิว (Yehliu Geopark, 野柳地質公園)
หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติของไต้หวัน ตั้งอยู่ทางตอนเหนือสุดของเมืองนิวไทเป (New Taipei City) เขตตำบลว่านหลี่ (Wanli District) ด้วยความโดดเด่นทางธรณีวิทยากับหินรูปร่างแปลกตา ซึ่งภูมิทัศน์หินของเย่หลิวถือเป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลกอีกแห่งหนึ่งเลยก็ว่าได้
พื้นที่ของอุทยานเย่หลิวมีลักษณะเป็นแหลมทอดยาวออกไปในทะเลยาว 1,700 เมตร มีอายุยาวนานนับล้านปี เป็นแนวหินปูนเกิดจากการเคลื่อนตัวทางธรณีวิทยาจากเทือกเขา Datun และอิทธิพลของคลื่นลมทะเลทำให้เกิดการผุกร่อนเปลี่ยนแปลงเป็นรูปร่างในลักษณะแปลกตาแตกต่างกันออกไป นับเป็นภูมิทัศน์ทางธรณีวิทยาที่หาได้ยากและสวยงามเป็นอย่างยิ่ง และจากความแปลกตานี้เองที่ทำให้อุทยานเย่หลิวกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจบวกกับความช่างจินตนาการที่มีการเปรียบเทียบลักษณะของหินแต่ละชิ้นกับรูปทรงต่างๆ ของผู้คน อาทิ หินรองเท้านางฟ้า (仙女鞋), หินทะเลเทียน (燭台石), หินช้าง, หินไอศกรีม, หินเศียรเจ้าหญิงและอื่นๆ อีกมากมาย และที่เป็นไฮไลท์และมีนักท่องเที่ยวเข้าคิวรอถ่ายรูปด้วยมากที่สุดคือ หินเศียรราชินี Queen’s Head, (女王頭) ซึ่งรอให้คุณไปพิสูจน์ด้วยตาตัวเอง
ออกจาก Yehliu Geopark ให้เดินกลับมาทางเดิม จนถึงปากทาง ข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามขามา เพื่อขึ้นรถบัสสาย 790 เดินทางไปเมือง Keelung
(เนื่องจากวันนี้ฝนตกทั้งวัน จึงทำให้มีอุปสรรคในการเที่ยว เจอทั้งฝนทั้งลม)
Keelung จีหลง
ตั้งอยู่ในพื้นที่แหลมตะวันออกเฉียงเหนือของไต้หวัน เมืองจีหลง (Keelung) เคยถูกเรียกว่า “Jilong” ซึ่งหมายความว่า สุ่มไก่ แต่ต่อมาเปลี่ยนเป็น “Keelung” ซึ่งหมายความว่า “มั่งมีที่ดินและเจริญรุ่งเรือง” ตราบจนปัจจุบัน ความคึกคักและพลุกพล่านของจีหลง คล้ายคลึงกับฮ่องกงจนถึงกับมีคนเปรียบเปรยว่า จีหลงเสมือนเป็นฮ่องกงเล็กๆ เลยทีเดียว
เมืองจีหลง มีพื้นที่ 132.7589 ตารางกิโลเมตร ซึ่ง 95% ของพื้นที่เป็นเนินเขา มีทิวเขาเป็นแนวแบ่งเขตแดนจากเมืองอื่นทั้งทางทิศตะวันออก,ตะวันตกและทิศใต้ ส่วนทางตอนเหนือของเมืองหันหน้าเข้าสู่ทะเลตงไห่ ซึ่งเป็นที่ตั้งของท่าเรือน้ำลึกสากล
ปัจจุบัน เมืองจีหลง ได้กลายเป็นเมืองท่าที่สำคัญที่สุดทางภาคเหนือของไต้หวัน นับว่าเป็นเมืองที่อยู่เหนือสุดของไต้หวัน เมืองท่าแห่งนี้มีการขนส่งทางทะเลอย่างคับคั่ง ทำให้เกิดธุรกิจขึ้นบริเวณท่าเรือ ตามประวัติศาสตร์ จีหลงเป็นเมืองที่มีความสำคัญในการคมนาคมขนส่งและเป็นฐานทัพที่สำคัญของไต้หวัน ลักษณะต่างๆเหล่านี้เป็นบ่อเกิดทางด้านวัฒนธรรมและความสวยงามทางทัศนียภาพของเมือง ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถพบเห็นป้อมปราการและปืนใหญ่ในอดีตได้
การคมนาคมของเมืองจีหลง เจริญพัฒนาอย่างมาก การต่อเรือ, อุตสาหกรรมเคมี, การผลิตถ่านหินและการแปรรูปสินค้าอาหารทะเลเป็นกิจการที่มีการพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ เมืองจีหลงยังเป็นเมืองการประมงที่สำคัญอีกเมืองหนึ่ง ปีหนึ่งๆเมืองจีหลง มีฝนตกกว่า200 วัน จึงทำให้ได้ฉายาว่า “The Rainy Port” การที่จีหลงอยู่ติดกับทะเลและมีการทำการประมงจำนวนมาก ส่งผลให้ตามตรอก ซอก ซอย มีร้านอาหารทะเล ขายอยู่แน่นขนัดตามถนนหนทาง
รถวิ่งประมาณชั่วโมง ก็ถึงเมือง Keelung (ดู App. Bus+) พอถึงป้ายท่าเรือก็ลงได้
(แปะบัตร Easy Card ทั้งขาขึ้นและขาลง)
ลงจากรถ ฝนยังตกไม่หยุด ทำให้เดินเล่นริมทะเลไม่ได้ จึงค่อยๆลัดเลาะไปตามชายคา ไปไหว้พระที่ Dianji Temple
จากวัด Dianji Temple เดินไปทานอาหารที่ร้าน
อาหารอร่อย ราคาไม่แพง สั่งไป 7 จาน ราคา 390NT
เนื่องจากฝนตกตลอด จึงไม่ได้เดินชมเมือง ตัดสินใจเดินทางไป Jiufen Old Street เลย
จากร้านอาหาร เดินกลับมาทางเดิม จนถึงฝั่งตรงข้ามกับทึ่ลงรถตอนมา เดินไปแถวใต้สพานลอยข้ามถนน เพื่อขึ้นรถบัสสาย 788 ไป Jiufen
รถวิ่งประมาณชั่วโมง ก็มาถึง Jiufen Old Street (ให้แปะบัตรทั้งขี้นและลง)
ลงรถแล้วเดินตรงไปข้างหน้าไม่ไกลก็ถึง จะมีนักท่องเที่ยวเดินกันเยอะ ไม่ต้องกลัวหลง (ฝนตก ลมแรง เพราะอยู่บนเขา 5 โมงเย็น ฟ้าก็เริ่มมืดแล้ว)
Jiufen Old Street
ถนนสายเก่าในจิ่วเฟิ่น (Jiufen Old Street, 九份) เป็นถนนท่องเที่ยวหลักอยู่ที่ย่านเมืองเก่าโดยสองข้างทางจะเต็มไปด้วยร้านค้าท้องถิ่นในบรรยากาศบ้านเรือนและอาคารเก่าๆ เช่น โรงน้ำชา ร้านขายของที่ระลึก ร้านขายขนมและอาหารต่างๆ โดยเฉพาะขนมเฉพาะสูตรเมืองจิ่วเฟิ่นเช่น บัวลอยเผือก ลูกชิ้นปลาสูตรโบราณ และโรตีสายไหม โดยจะมีการประดับโคมไฟสีแดงอยู่ที่ด้านบนถนนที่เป็นทางลาดชันและขั้นบันไดด้วย ซึ่งในโซนนี้เองที่จะเห็นโรงน้ำชาที่เป็นอาคารไม้ตั้งเรียงรายลดหลั่นกันไปเหมือนกับในรูปภาพที่สวยงามจนเป็นแรงบันดาลใจให้กับภาพยนตร์ Animation เรื่องดังจากค่าย Studio Ghibli เรื่อง Spirited Away
เดินเข้าไปในถนนคนเดิน สองข้างทางเป็นร้านค้า ทางเดินค่อนข้างลำบากเนื่องจากฝนตก ทำให้นักท่องเที่ยวต้องกางร่มเดิน ต้องคอยหลบร่มที่จะมาเกี่ยวหน้าเกี่ยวตา
เดินไปได้ 1/3 ของถนน ได้ของฝากมา 2-3 อย่าง ก็ตัดสินใจกลับ คิดว่าโอกาสหน้าจะมาเดินเที่ยวใหม่
ออกมาที่ปากทางเข้า จะมีห้องน้ำสาธารณะ จัดการทำธุระให้เรียบร้อย ก็เดินไปขึ้นรถกลับ
ขากลับต้องเดินไปขึ้นรถอีกที่ ตรงปากทางออกให้เลี้ยวขวาเดินขึ้นเนินไป จะเห็นป้ายรถเมล์อยู่ฝั่งตรงข้าม
รถเมล์สาย 965 จะวิ่งไปสุดที่ Banqiao Bus Stop แต่จะวิ่งผ่านป้าย MRT Ximen Station (รถออกทุกๆ 40 – 60 นาที)
รถเมล์สาย 1062 จะวิ่งไปสุดที่ MRT Zhongxiao Fuxing Station (รถออกทุกๆ 20 – 30 นาที)
ขึ้น MRT สายสีน้ำเงินจาก Zhongxiao Fuxing Station BL15 → Ximen Station BL11 กลับที่พัก
ยังไม่มีใครง่วงนอน เลยเดินหาของว่างทานกันแถวๆ Ximen
ฝนตกโปรยๆตลอด เลยกลับไปพักผ่อน
อย่าลืมไปรับ Voucher ที่เคาน์เตอร์โรงแรมด้วย
[CR] 1 ผู้ใหญ่ 5 สว. ลุยไต้หวันครั้งแรก ขึ้น THSR MRT Bus Boat & Walk วันที่ 3
วันที่ 2 ตามรีวิวได้ที่ : https://ppantip.com/topic/38206603
วันนี้นัด 07.00 น. เพื่อมาหาอาหารทานที่ 7-11 พอได้เวลาก็เดินทางไป Taipei Main Station (BL11 → BL12) ออกจากสถานีแล้ว ให้เดินตรงไปจนถึงทางแยก มองไปทางขวา จะเห็น Exit M2 พอขึ้นมาพ้นทางออก ก็จะเห็นที่จอดรถบัสของ Kuo-Kuang motor สาย 1815 ซึ่งจะใช้เดินทางไปเที่ยว Yehliu Geopark (ไม่แน่ใจถามพนักงานดูก็ได้)
ขึ้นรถแล้ว ให้แตะบัตร Easy Card ที่เครื่องอ่านบัตร แล้วหาที่นั่ง รถจะวิ่งไปประมาณชั่วโมงก็ถึง (เปิด App. Bus+ แล้วใส่ตัวเลข 1815 เข้าไป จะสามารถดูได้ว่าขณะนั้นรถวิ่งไปถึงไหนแล้ว) หรือพอเห็นภาพนี้ก็กดกริ่งลงได้เลย
ตอนลงรถให้แตะบัตร Easy Card ที่เครื่องอ่านบัตรอีกที (จะได้คิดค่ารถตามระยะทาง)
จากป้ายรถเมล์เดินย้อนกลับมา จะเห็นทางสามแยก ก็ให้เดินไปตามรูป
ไปถึง Yehliu Geopark ให้ไปซื้อบัตรผ่านประตูคนละ 80NT
อุทยานธรณีเย่หลิว (Yehliu Geopark, 野柳地質公園)
หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติของไต้หวัน ตั้งอยู่ทางตอนเหนือสุดของเมืองนิวไทเป (New Taipei City) เขตตำบลว่านหลี่ (Wanli District) ด้วยความโดดเด่นทางธรณีวิทยากับหินรูปร่างแปลกตา ซึ่งภูมิทัศน์หินของเย่หลิวถือเป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลกอีกแห่งหนึ่งเลยก็ว่าได้
พื้นที่ของอุทยานเย่หลิวมีลักษณะเป็นแหลมทอดยาวออกไปในทะเลยาว 1,700 เมตร มีอายุยาวนานนับล้านปี เป็นแนวหินปูนเกิดจากการเคลื่อนตัวทางธรณีวิทยาจากเทือกเขา Datun และอิทธิพลของคลื่นลมทะเลทำให้เกิดการผุกร่อนเปลี่ยนแปลงเป็นรูปร่างในลักษณะแปลกตาแตกต่างกันออกไป นับเป็นภูมิทัศน์ทางธรณีวิทยาที่หาได้ยากและสวยงามเป็นอย่างยิ่ง และจากความแปลกตานี้เองที่ทำให้อุทยานเย่หลิวกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจบวกกับความช่างจินตนาการที่มีการเปรียบเทียบลักษณะของหินแต่ละชิ้นกับรูปทรงต่างๆ ของผู้คน อาทิ หินรองเท้านางฟ้า (仙女鞋), หินทะเลเทียน (燭台石), หินช้าง, หินไอศกรีม, หินเศียรเจ้าหญิงและอื่นๆ อีกมากมาย และที่เป็นไฮไลท์และมีนักท่องเที่ยวเข้าคิวรอถ่ายรูปด้วยมากที่สุดคือ หินเศียรราชินี Queen’s Head, (女王頭) ซึ่งรอให้คุณไปพิสูจน์ด้วยตาตัวเอง
ออกจาก Yehliu Geopark ให้เดินกลับมาทางเดิม จนถึงปากทาง ข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามขามา เพื่อขึ้นรถบัสสาย 790 เดินทางไปเมือง Keelung
(เนื่องจากวันนี้ฝนตกทั้งวัน จึงทำให้มีอุปสรรคในการเที่ยว เจอทั้งฝนทั้งลม)
Keelung จีหลง
ตั้งอยู่ในพื้นที่แหลมตะวันออกเฉียงเหนือของไต้หวัน เมืองจีหลง (Keelung) เคยถูกเรียกว่า “Jilong” ซึ่งหมายความว่า สุ่มไก่ แต่ต่อมาเปลี่ยนเป็น “Keelung” ซึ่งหมายความว่า “มั่งมีที่ดินและเจริญรุ่งเรือง” ตราบจนปัจจุบัน ความคึกคักและพลุกพล่านของจีหลง คล้ายคลึงกับฮ่องกงจนถึงกับมีคนเปรียบเปรยว่า จีหลงเสมือนเป็นฮ่องกงเล็กๆ เลยทีเดียว
เมืองจีหลง มีพื้นที่ 132.7589 ตารางกิโลเมตร ซึ่ง 95% ของพื้นที่เป็นเนินเขา มีทิวเขาเป็นแนวแบ่งเขตแดนจากเมืองอื่นทั้งทางทิศตะวันออก,ตะวันตกและทิศใต้ ส่วนทางตอนเหนือของเมืองหันหน้าเข้าสู่ทะเลตงไห่ ซึ่งเป็นที่ตั้งของท่าเรือน้ำลึกสากล
ปัจจุบัน เมืองจีหลง ได้กลายเป็นเมืองท่าที่สำคัญที่สุดทางภาคเหนือของไต้หวัน นับว่าเป็นเมืองที่อยู่เหนือสุดของไต้หวัน เมืองท่าแห่งนี้มีการขนส่งทางทะเลอย่างคับคั่ง ทำให้เกิดธุรกิจขึ้นบริเวณท่าเรือ ตามประวัติศาสตร์ จีหลงเป็นเมืองที่มีความสำคัญในการคมนาคมขนส่งและเป็นฐานทัพที่สำคัญของไต้หวัน ลักษณะต่างๆเหล่านี้เป็นบ่อเกิดทางด้านวัฒนธรรมและความสวยงามทางทัศนียภาพของเมือง ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถพบเห็นป้อมปราการและปืนใหญ่ในอดีตได้
การคมนาคมของเมืองจีหลง เจริญพัฒนาอย่างมาก การต่อเรือ, อุตสาหกรรมเคมี, การผลิตถ่านหินและการแปรรูปสินค้าอาหารทะเลเป็นกิจการที่มีการพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ เมืองจีหลงยังเป็นเมืองการประมงที่สำคัญอีกเมืองหนึ่ง ปีหนึ่งๆเมืองจีหลง มีฝนตกกว่า200 วัน จึงทำให้ได้ฉายาว่า “The Rainy Port” การที่จีหลงอยู่ติดกับทะเลและมีการทำการประมงจำนวนมาก ส่งผลให้ตามตรอก ซอก ซอย มีร้านอาหารทะเล ขายอยู่แน่นขนัดตามถนนหนทาง
รถวิ่งประมาณชั่วโมง ก็ถึงเมือง Keelung (ดู App. Bus+) พอถึงป้ายท่าเรือก็ลงได้
(แปะบัตร Easy Card ทั้งขาขึ้นและขาลง)
ลงจากรถ ฝนยังตกไม่หยุด ทำให้เดินเล่นริมทะเลไม่ได้ จึงค่อยๆลัดเลาะไปตามชายคา ไปไหว้พระที่ Dianji Temple
จากวัด Dianji Temple เดินไปทานอาหารที่ร้าน
อาหารอร่อย ราคาไม่แพง สั่งไป 7 จาน ราคา 390NT
เนื่องจากฝนตกตลอด จึงไม่ได้เดินชมเมือง ตัดสินใจเดินทางไป Jiufen Old Street เลย
จากร้านอาหาร เดินกลับมาทางเดิม จนถึงฝั่งตรงข้ามกับทึ่ลงรถตอนมา เดินไปแถวใต้สพานลอยข้ามถนน เพื่อขึ้นรถบัสสาย 788 ไป Jiufen
รถวิ่งประมาณชั่วโมง ก็มาถึง Jiufen Old Street (ให้แปะบัตรทั้งขี้นและลง)
ลงรถแล้วเดินตรงไปข้างหน้าไม่ไกลก็ถึง จะมีนักท่องเที่ยวเดินกันเยอะ ไม่ต้องกลัวหลง (ฝนตก ลมแรง เพราะอยู่บนเขา 5 โมงเย็น ฟ้าก็เริ่มมืดแล้ว)
Jiufen Old Street
ถนนสายเก่าในจิ่วเฟิ่น (Jiufen Old Street, 九份) เป็นถนนท่องเที่ยวหลักอยู่ที่ย่านเมืองเก่าโดยสองข้างทางจะเต็มไปด้วยร้านค้าท้องถิ่นในบรรยากาศบ้านเรือนและอาคารเก่าๆ เช่น โรงน้ำชา ร้านขายของที่ระลึก ร้านขายขนมและอาหารต่างๆ โดยเฉพาะขนมเฉพาะสูตรเมืองจิ่วเฟิ่นเช่น บัวลอยเผือก ลูกชิ้นปลาสูตรโบราณ และโรตีสายไหม โดยจะมีการประดับโคมไฟสีแดงอยู่ที่ด้านบนถนนที่เป็นทางลาดชันและขั้นบันไดด้วย ซึ่งในโซนนี้เองที่จะเห็นโรงน้ำชาที่เป็นอาคารไม้ตั้งเรียงรายลดหลั่นกันไปเหมือนกับในรูปภาพที่สวยงามจนเป็นแรงบันดาลใจให้กับภาพยนตร์ Animation เรื่องดังจากค่าย Studio Ghibli เรื่อง Spirited Away
เดินเข้าไปในถนนคนเดิน สองข้างทางเป็นร้านค้า ทางเดินค่อนข้างลำบากเนื่องจากฝนตก ทำให้นักท่องเที่ยวต้องกางร่มเดิน ต้องคอยหลบร่มที่จะมาเกี่ยวหน้าเกี่ยวตา
เดินไปได้ 1/3 ของถนน ได้ของฝากมา 2-3 อย่าง ก็ตัดสินใจกลับ คิดว่าโอกาสหน้าจะมาเดินเที่ยวใหม่
ออกมาที่ปากทางเข้า จะมีห้องน้ำสาธารณะ จัดการทำธุระให้เรียบร้อย ก็เดินไปขึ้นรถกลับ
ขากลับต้องเดินไปขึ้นรถอีกที่ ตรงปากทางออกให้เลี้ยวขวาเดินขึ้นเนินไป จะเห็นป้ายรถเมล์อยู่ฝั่งตรงข้าม
รถเมล์สาย 965 จะวิ่งไปสุดที่ Banqiao Bus Stop แต่จะวิ่งผ่านป้าย MRT Ximen Station (รถออกทุกๆ 40 – 60 นาที)
รถเมล์สาย 1062 จะวิ่งไปสุดที่ MRT Zhongxiao Fuxing Station (รถออกทุกๆ 20 – 30 นาที)
ขึ้น MRT สายสีน้ำเงินจาก Zhongxiao Fuxing Station BL15 → Ximen Station BL11 กลับที่พัก
ยังไม่มีใครง่วงนอน เลยเดินหาของว่างทานกันแถวๆ Ximen
ฝนตกโปรยๆตลอด เลยกลับไปพักผ่อน
อย่าลืมไปรับ Voucher ที่เคาน์เตอร์โรงแรมด้วย
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้