เมื่อไม่นานมานี้ ผมได้มีโอกาสได้ไปสัมผัสบรรยากาศสถานที่หนึ่ง ซึ่งผมเองตอนแรกก็มองว่าราคาบัตรค่อนข้างแพงและสูงมากๆ แต่ก็มีกระแสของคนที่ไปมาแล้ว บอกว่าคุ้มค่ากับราคาที่เสียไป ผมก็เลยได้ลองศึกษาสถานที่แห่งนี้ว่าเป็นสถานที่อะไร โดดเด่นเรื่องอะไร และบริเวณภายในนั้นมีอะไรบ้าง ซึ่งตัวผมเองนั้นเป็นคนชลบุรี แต่ไม่เคยได้ไปสถานที่แห่งนี้เลย จึงตัดสินใจลองดูสักครั้ง เดินทางไปที่พัทยา นาเกลือ เพื่อไปเข้าชมสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ที่เขาลือและขึ้นชื่อเรื่องของสถาปัตยกรรมไม้โบราณติดริมทะเลที่ใหญ่ที่สุดในโลก "พิพิธภัณฑ์ปราสาทสัจธรรม"
ในวันที่ผมไปนั้น ฝนตกกระหน่ำมาก แต่โชคดีที่มันตกระหว่างเดินทาง พอไปถึงมันก็หยุดตกพอดี เมื่อไปถึงก็เจอนักท่องเที่ยวที่มาแบบกรุ๊ปทัวร์ ส่วนใหญ่เป็นชาวจีนและชาวต่างชาติ ส่วนคนไทยนั้นนับคนได้เลยเพราะมีน้อย (คิดว่าน่าจะเรื่องราคาบัตรแพง เลยไม่ค่อยได้มากัน) ผมก็จัดแจงซื้อตั๋วและเตรียมตัวเดินเข้าไปชมปราสาท ขอบอกว่ามีโปรโมชั่นของคนไทยที่เพียงแอดไลน์ ก็จะลดราคา -100.บ จากนั้นก็ยื่นตั๋วให้พนักงานบริเวณทางเข้า ซึ่งจากตรงนี้จะยังมองไม่เห็นตัวปราสาทนะครับ เห็นเพียงยาม รปภ. และคอกม้าที่เราสามารถให้อาหารมันได้ เดินไปอีกนิดมองทางฝั่งซ้ายเหมือนจะมีโซนค่ายลูกเสือด้วย
(เล่าย้อนนิดนึงครับ) ตอนนั้นสภาพทางเดินค่อนข้างเฉอะแฉะนิดนึงครับ เพราะฝนเพิ่งตกลงมา ผมก็เลยไปซื้อรองเท้าแตะที่ Family mart ที่อยู่ด้านหน้าทางเข้าปราสาท ก็ถือว่ามีร้านสะดวกซื้อซึ่งไม่ไกลเลย ก็สะดวกดีครับ ซื้อน้ำดื่ม ขนมนมเนย เสร็จแล้วก็เดินเข้าไปยื่นตั๋วให้พนักงาน
ระหว่างทางเดินที่เข้าไป ก็จะมีซุ้มกิจกรรม มีให้อาหารสัตว์ และจุดที่ได้ศึกษาดูงานของรัชกาลที่ 9 ซึ่งผมก็ศึกษาและดูมาจากในเพจของ พิพิธภัณฑ์ปราสาทสัจธรรม มาบ้างแล้ว ก็เลยไม่ได้ถ่ายอะไรเก็บไว้ และมุ่งหน้าเดินไปเพื่อจะเข้าไปชมปราสาทสัจธรรม เดินไปสักระยะก็จะเจอร้านอาหาร ซึ่งขอบอกว่าบรรยากาศของร้านดีโคตรๆ เลยครับ เพราะระเบียงของร้านจะเห็นตัวปราสาทสัจธรรมพร้อมวิวทะเลแบบเต็มๆ เลย ชื่อร้านอาหาร ครัวนาเกลือ ครับ
เดินมาอีกนิดตรงหน้าร้าน ก็จะมีบันไดเป็นทางลงเข้าสู่พื้นที่ปราสาท บรรยากาศร่มรื่นมากๆ ครับ ต้นไม้สองข้างทางมีความเป็นธรรมชาติมากๆ ลงไปด้านล่างก็จะมีพนักงานคอยให้บริการ บอกว่ามีกิจกรรมอะไรบ้าง ก็ทราบมาว่า มีทั้งนั่งเรือพายดื่มมะพร้าวสด ขี่ช้าง ให้อาหารสัตว์ มีจุดถ่ายรูป รวมถึงมีร้านอาหารรองรับด้วย มีการแสดงฟันดาบ (ซึ่งผมมาผิดเวลาครับ เลยไม่ได้ดู เสียดายมากๆ) แล้วผมก็เดินมาถึงภายในปราสาท บอกเลยว่าใหญ่มากๆ
ในใจตอนแรกผมคิดว่าในตัวปราสาทจะมีหลายชั้นครับ แต่พอเมื่อเดินเข้าไปข้างใน จะเป็นลักษณะชั้นเดียวแต่มีหลายจุด มีความประณีตที่สวยจับใจเลย เจ้าหน้าที่ก็ขยันมากๆ คอยบรรยายบริเวณภายใน ซึ่งตัวผมเองก็นะ...ดูมาบ้างจากในเพจเฟสบุ้คมาแล้ว ก็เลยไม่ค่อยอะไรเท่าไหร่ (ผมแนะนำว่า ถ้าใครไม่รู้จักสถานที่แห่งนี้ ให้ลองแอดเฟสบุ้ค
https://www.facebook.com/TheSanctuaryofTruth.Pattaya.TH/ ดูครับ ลองศึกษาดูก่อนก็ได้ครับ)
ผมบอกเลยว่า ผมโคตรภูมิใจที่ประเทศไทยมีสถานที่แห่งนี้ แม้ว่าราคาบัตรจะค่อนข้างแพง แต่ผมก็ไปแอบตีเนียนคุยกับพนักงานคนนึง ซึ่งเขาก็บอกว่า สถานที่แห่งนี้ เป็นสถานที่ซึ่งสร้างไม่เสร็จสิ้น มีการบูรณะซ่อมแซมทุกวัน เนื่องจากสถานที่ติดทะเล และเป็นไม้ทั้งหมด จึงทดแทนส่วนตรงนี้เพื่อรักษาให้คนไทยสืบไป ผมนี่ก็โอ้โห..เลยครับ แล้วก็มองไปตรงด้านในของพนักงานที่แกะสลักไม้ คือผมอยากจะบอกว่าเลย บัตรราคา 500 บาท แลกมากับหยาดเหงื่อของคนงานที่นั่งตอกไม้ไม่หยุดหย่อน ขึ้นไปทาสีไม้ ไปซ่อมแซมในส่วนที่สูงๆ เสียงภัยอันตรายด้วย มันกลายเป็นราคาถูกไปเลยครับ พอมาถึงเลยคิดว่า 500 บาทตรงนี้สมเหตุสมผลเหมือนกันนะครับ โดยเงินที่เราจ่ายไป ผมคิดเป็น 3 ส่วนนะครับ คือ เงินเดือน / ค่าแรง / หย่อนใจ
ผมอยากให้คนไทยยอมรับกับสถานที่แห่งนี้นะครับ เพราะผมเห็นว่าชาวต่างชาติมากันเยอะมากๆ คือเขาให้ความสนใจและให้ความสำคัญที่แห่งนี้มากๆ แต่ตรงกันข้ามกับคนไทยที่มองว่ามันแพง เลยไม่ให้ความสำคัญหรือสนใจในที่แห่งนี้ แต่เราไม่ได้มาเที่ยวบ่อยๆ ถูกไหมครับ สักครั้งหนึ่งหรือปีละครั้ง สองครั้งก็ได้ มาพักผ่อนจิตใจ มาติดตามความเคลื่อนไหวการซ่อมแซมหรือต่อเติมก็ได้ครับ ผมเป็นคนหนึ่งที่กว่าจะตัดสินใจมาที่นี่ก็นานมากเหมือนกัน พอได้มาแล้วถือว่าคุ้มครับ
(ให้ภาพเล่าเรื่องครับ - ส่วนหนึ่งขออนุญาตดึงหยิบมาจากเฟสบุ้คเพจประมาณ 2-3 ภาพครับ)
[CR] ประสบการณ์สุดประทับใจ พิพิธภัณฑ์ปราสาทสัจธรรม ใครว่าแพง ผมมองว่าดี!!!
ในวันที่ผมไปนั้น ฝนตกกระหน่ำมาก แต่โชคดีที่มันตกระหว่างเดินทาง พอไปถึงมันก็หยุดตกพอดี เมื่อไปถึงก็เจอนักท่องเที่ยวที่มาแบบกรุ๊ปทัวร์ ส่วนใหญ่เป็นชาวจีนและชาวต่างชาติ ส่วนคนไทยนั้นนับคนได้เลยเพราะมีน้อย (คิดว่าน่าจะเรื่องราคาบัตรแพง เลยไม่ค่อยได้มากัน) ผมก็จัดแจงซื้อตั๋วและเตรียมตัวเดินเข้าไปชมปราสาท ขอบอกว่ามีโปรโมชั่นของคนไทยที่เพียงแอดไลน์ ก็จะลดราคา -100.บ จากนั้นก็ยื่นตั๋วให้พนักงานบริเวณทางเข้า ซึ่งจากตรงนี้จะยังมองไม่เห็นตัวปราสาทนะครับ เห็นเพียงยาม รปภ. และคอกม้าที่เราสามารถให้อาหารมันได้ เดินไปอีกนิดมองทางฝั่งซ้ายเหมือนจะมีโซนค่ายลูกเสือด้วย
(เล่าย้อนนิดนึงครับ) ตอนนั้นสภาพทางเดินค่อนข้างเฉอะแฉะนิดนึงครับ เพราะฝนเพิ่งตกลงมา ผมก็เลยไปซื้อรองเท้าแตะที่ Family mart ที่อยู่ด้านหน้าทางเข้าปราสาท ก็ถือว่ามีร้านสะดวกซื้อซึ่งไม่ไกลเลย ก็สะดวกดีครับ ซื้อน้ำดื่ม ขนมนมเนย เสร็จแล้วก็เดินเข้าไปยื่นตั๋วให้พนักงาน
ระหว่างทางเดินที่เข้าไป ก็จะมีซุ้มกิจกรรม มีให้อาหารสัตว์ และจุดที่ได้ศึกษาดูงานของรัชกาลที่ 9 ซึ่งผมก็ศึกษาและดูมาจากในเพจของ พิพิธภัณฑ์ปราสาทสัจธรรม มาบ้างแล้ว ก็เลยไม่ได้ถ่ายอะไรเก็บไว้ และมุ่งหน้าเดินไปเพื่อจะเข้าไปชมปราสาทสัจธรรม เดินไปสักระยะก็จะเจอร้านอาหาร ซึ่งขอบอกว่าบรรยากาศของร้านดีโคตรๆ เลยครับ เพราะระเบียงของร้านจะเห็นตัวปราสาทสัจธรรมพร้อมวิวทะเลแบบเต็มๆ เลย ชื่อร้านอาหาร ครัวนาเกลือ ครับ
เดินมาอีกนิดตรงหน้าร้าน ก็จะมีบันไดเป็นทางลงเข้าสู่พื้นที่ปราสาท บรรยากาศร่มรื่นมากๆ ครับ ต้นไม้สองข้างทางมีความเป็นธรรมชาติมากๆ ลงไปด้านล่างก็จะมีพนักงานคอยให้บริการ บอกว่ามีกิจกรรมอะไรบ้าง ก็ทราบมาว่า มีทั้งนั่งเรือพายดื่มมะพร้าวสด ขี่ช้าง ให้อาหารสัตว์ มีจุดถ่ายรูป รวมถึงมีร้านอาหารรองรับด้วย มีการแสดงฟันดาบ (ซึ่งผมมาผิดเวลาครับ เลยไม่ได้ดู เสียดายมากๆ) แล้วผมก็เดินมาถึงภายในปราสาท บอกเลยว่าใหญ่มากๆ
ในใจตอนแรกผมคิดว่าในตัวปราสาทจะมีหลายชั้นครับ แต่พอเมื่อเดินเข้าไปข้างใน จะเป็นลักษณะชั้นเดียวแต่มีหลายจุด มีความประณีตที่สวยจับใจเลย เจ้าหน้าที่ก็ขยันมากๆ คอยบรรยายบริเวณภายใน ซึ่งตัวผมเองก็นะ...ดูมาบ้างจากในเพจเฟสบุ้คมาแล้ว ก็เลยไม่ค่อยอะไรเท่าไหร่ (ผมแนะนำว่า ถ้าใครไม่รู้จักสถานที่แห่งนี้ ให้ลองแอดเฟสบุ้ค https://www.facebook.com/TheSanctuaryofTruth.Pattaya.TH/ ดูครับ ลองศึกษาดูก่อนก็ได้ครับ)
ผมบอกเลยว่า ผมโคตรภูมิใจที่ประเทศไทยมีสถานที่แห่งนี้ แม้ว่าราคาบัตรจะค่อนข้างแพง แต่ผมก็ไปแอบตีเนียนคุยกับพนักงานคนนึง ซึ่งเขาก็บอกว่า สถานที่แห่งนี้ เป็นสถานที่ซึ่งสร้างไม่เสร็จสิ้น มีการบูรณะซ่อมแซมทุกวัน เนื่องจากสถานที่ติดทะเล และเป็นไม้ทั้งหมด จึงทดแทนส่วนตรงนี้เพื่อรักษาให้คนไทยสืบไป ผมนี่ก็โอ้โห..เลยครับ แล้วก็มองไปตรงด้านในของพนักงานที่แกะสลักไม้ คือผมอยากจะบอกว่าเลย บัตรราคา 500 บาท แลกมากับหยาดเหงื่อของคนงานที่นั่งตอกไม้ไม่หยุดหย่อน ขึ้นไปทาสีไม้ ไปซ่อมแซมในส่วนที่สูงๆ เสียงภัยอันตรายด้วย มันกลายเป็นราคาถูกไปเลยครับ พอมาถึงเลยคิดว่า 500 บาทตรงนี้สมเหตุสมผลเหมือนกันนะครับ โดยเงินที่เราจ่ายไป ผมคิดเป็น 3 ส่วนนะครับ คือ เงินเดือน / ค่าแรง / หย่อนใจ
ผมอยากให้คนไทยยอมรับกับสถานที่แห่งนี้นะครับ เพราะผมเห็นว่าชาวต่างชาติมากันเยอะมากๆ คือเขาให้ความสนใจและให้ความสำคัญที่แห่งนี้มากๆ แต่ตรงกันข้ามกับคนไทยที่มองว่ามันแพง เลยไม่ให้ความสำคัญหรือสนใจในที่แห่งนี้ แต่เราไม่ได้มาเที่ยวบ่อยๆ ถูกไหมครับ สักครั้งหนึ่งหรือปีละครั้ง สองครั้งก็ได้ มาพักผ่อนจิตใจ มาติดตามความเคลื่อนไหวการซ่อมแซมหรือต่อเติมก็ได้ครับ ผมเป็นคนหนึ่งที่กว่าจะตัดสินใจมาที่นี่ก็นานมากเหมือนกัน พอได้มาแล้วถือว่าคุ้มครับ
(ให้ภาพเล่าเรื่องครับ - ส่วนหนึ่งขออนุญาตดึงหยิบมาจากเฟสบุ้คเพจประมาณ 2-3 ภาพครับ)
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น