ทุกข์ใจกับเรื่องในครอบครัว ไม่รู้จะปรึกษาใคร

เราโตมาในครอบครัวคนจีน เราเกิดมาด้วยความไม่ตั้งใจของพ่อแม่ พวกเขาไม่ป้องกัน และมีเรามาตอนที่ยังไม่พร้อม ไม่มีเงินกันทั้งคู่
ซึ่งเราเป็นลูกคนเล็กสุด แต่ครอบครัวเรามีป้า ซึ่งเป็นพี่สาวของพ่อ ที่มีธุรกิจ สามารถที่จะช่วยเหลือพวกเราได้ เขาก็ช่วยออกเงินค่าเล่าเรียน
ค่าใช้จ่ายต่างๆให้ ซึ่งใช่ ป้าเรามีบุญคุณ แต่เขาก็ทวงบุญคุณอยู่ตลอดเช่นเดียวกัน

พี่เราไปอยู่กับป้าตั้งแต่เล็ก เรารู้ว่าป้ารักพี่เรามาก ไม่ว่าพี่เราจะก่อเรื่องอะไรแค่ไหนเขาก็ยังรัก
ส่วนเรา อยู่กับพ่อมาตลอด ก็คงไม่ผูกพันกับป้าเท่าพี่ เขาก็เลยไม่ได้รักเรามากมายอะไร

ป้าส่งเสียเรากับพี่เรียนจนจบ เราออกมาทำงานหาเงินเอง ส่วนพี่ก็ช่วยงานธุรกิจของป้า

เริ่มทำงานได้ไม่นาน เราก็ต้องช่วยพ่อใช้หนี้ ไปสามหมื่นบาท โดยให้เงินเก็บของเราไป ตอนนั้นเราทำงานได้เงินเดือนแค่หมื่นสอง

แล้วนอกจากนั้นก็มีมาขอเงินเราเรื่อยๆ

จนวันนึง พี่ของเราเกิดท้อง โดยไม่ได้ตั้งใจเช่นกัน ป้ารู้ก็ไม่ได้ว่าอะไร น่าจะดีใจด้วยซ้ำ
จัดงานแต่งให้พี่กับแฟน

พวกเขาต้องเลี้ยงลูก เลยไม่ได้ทำงานอะไร ป้ารับผิดชอบค่าใช้จ่ายทุกอย่างให้แก่ครอบครัวพี่
จากนั้นพี่ก็ท้องอีกหนึ่งคน หัวปีท้ายปี ป้าก็ไม่ว่าอะไร เห็นว่าครอบครัวใหญ่ขึ้น

จึงซื้อรถ ซื้อบ้านให้ แต่ก็ผ่อนแบงค์ เป็นหนี้ธนาคารกันไป ซื้อบ้านหลังนี้ ใช้ชื่อเราร่วมกู้ด้วย
จากนั้นพี่ก็ชวนเรามาอยู่ที่บ้านด้วยกัน ตอนนั้นเราเช่าคอนโดอยู่คนเดียว และต้องให้เงินเดือนพ่ออีกเดือนละห้าพันบาท
ช่วงนั้นพี่มีปัญหากับสามี หนีออกจากบ้านไป เราเห็นว่าเด่ยวจะไม่มีใครอยู่เป็นเพื่อน จึงตอบตกลงย้ายเข้าบ้าน

ซึ่งเราก็จะประหยัดค่าเช่าห้องไป แต่เราก็ช่วยออกค่าไฟค่าเนตในส่วนที่เราใช้
เราเป็นคนเก็บเงิน ประหยัด ทุกคนรู้ว่าเรามีเงินเก็บ ก็จะมีมาขอยืมเรากันบ่อยๆ

ป้าบอกให้เราให้เงินเดือนเขาบ้าง เดือนละสองพัน เราก็ตกลงไปเพราะเห็นว่าเขามีบุญคุณ
ซึ่งเงินเดือนเราไม่ได้เยอะเลย แค่สองหมื่นกว่า
มีค่าเดินทาง ค่ากิน เงินเดือนพ่อ เงินเดือนป้า

มันจะเหลือสักเท่าไหร่

เราเริ่มเครียด ยิ่งอยู่ก็เหมือนพวกเขาคิดกันแต่เรื่องเงินๆๆ
พ่อเราไม่ทำงานอะไร เราให้เงินเดือนห้าพัน
พี่ให้อีกห้าพัน ป้าให้อีกห้าพัน เป็นหมื่นห้า ซึ่งมันควรจะอยู่ได้หรือพอเก็บ
แต่เขากลับไม่เคยพอ มาขอเราเพิ่มตลอด โดยการบอกว่าหักเดือนหน้าไป

ผ่านไปสักพัก ป้าจะลงทุนทำธุรกิจร้านอาหารให้พี่ใกล้ๆบ้าน เขามาขอยืมเงินเราไปห้าหมื่น
บอกลงทุนครั้งนี้ หมุนเงินไม่ทัน ให้ถือว่าช่วยพี่ลงทุน โดยเขาให้ดอกเดือนละพันห้า
เราก็ตกลง เพราะเห็นว่ามีบุญคุณกับเรา

แต่ตัวเราเองก็ไม่ได้สบายใจ เนื่องจากมาเข้าบ้านนี้ทุกอย่างมีแต่เรื่องเงิน
เราปรึกษาเพื่อน มีแต่คนถามว่าทนมาได้ยังไง บุญคุณไม่ได้ทดแทนด้วยเงินนะ
ตัวเราไม่ได้หาเงินได้มาก ทำไมพวกเขาต้องการเงินจากเรากันมากเหลือเกิน
ทำไมไม่เก็บเงินให้อนาคตตัวเอง บลาๆๆ

เริ่มทำให้เราเครียดหนักขึ้น ถึงขึ้นซึมเศร้า ไม่อยากจะทำอะไร
ไม่อยากจะกินอะไร ไม่อยากลงไปเจอหน้าพวกเขา
ไม่อยากลงไปเจอความวุ่นวาย

ไม่นานมานี้ป้ามาพูดกับเรา ว่าเราขี้เหนียวเกินไป ไม่ช่วยออกค่าใช้จ่ายในบ้าน
เช่น ค่าแม่บ้านมาทำความสะอาด ค่าผงซักฟอกหรือทิชชู่ อะไรต่างๆ
ทำให้เรายิ่งเห็นว่าพวกเขาเหมือนไม่เห็นเราเป็นคนในครอบครัว เงินแค่เล็กน้อยเขาก็ยังคิด
ป้าให้ทุกอย่างกับพี่ และครอบครัวพี่ แต่เราไม่เคยขออะไรจากเขาเลยสักนิดเดียว ทำงานเก็บเงินเอง
เขากลับต้องการจากเราและให้เราช่วยพี่อีก
เราไม่เข้าใจความคิดของพวกเขาเลย เรารู้สึกว่าเราไม่ใช่คนในครอบครัวนี้อีกต่อไปแล้ว

เราควรจะย้ายออกมาอยู่เองเหมือนเดิมดีรึเปล่า ทุกคนช่วยแนะนำเราที
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่