Secret Love ตื๊อพี่ชายมารักกัน
ใครบอกว่าคนที่เขาแอบชอบคนอื่นข้างเดียวนั้นมันจะสมหวังเสมอ เหมือนพระเอก-นางเอกในหนังสือนิยายรักวัยรุ่นที่คนฮิตอ่านกัน แล้วเอาออกมาทำเป็นซีรีส์หลายเรื่องให้คนได้ฟินกันถ้วนหน้า แต่ไม่ใช่กับฉัน ‘มินนิท’ หญิงสาวผู้ที่นกเรื่องความรักเสมอ เริ่มชอบผู้ชายตั้งแต่อยู่ป.5 แต่เหมือนเป็นรุ่นน้องแอบปลื้มรุ่นพี่มาตลอด ไม่เคยจีบผู้ชายติดเลยสักครั้ง อ้อเคยมีครั้งนึง ตอนนั้นฉันอยู่ม.4 ฉันผิดหวังจากการจีบเพื่อนร่วมชั้น ฉันก็เลยเปลี่ยนเป้าหมายใหม่โดยไปจีบหนุ่มต่างโรงเรียน ซึ่งเราอยู่หมู่บ้านเดียวกัน ฉันใช้เวลาจีบ 3 เดือน จนเขายอมใจอ่อน และรักฉันมาก เราคบกันอยู่ประมาณ เกือบๆ 2 ปี พอฉันสอบเข้ามหาวิทยาลัยครูได้ ฉันก็ดันไปหักอกเขาด้วยการบอกว่าอยากมีแฟนใหม่ ดูฉันสิ โคตรเลวเลย ฉันไปหักอกผู้ชายที่รักฉันมาก ไม่ได้ส่องกระจกดูหนังหน้าดูสภาพตัวเองเลยว่าขี้เหร่แค่ไหน มีสิทธิ์เลือกด้วยเหรอ??
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ฉันก็จีบใครไม่ติดอีกเลย เคยมีคนมาจีบและขอคบกับฉันบ้างแต่ไม่มีใครรักฉันจริงและคบไม่เกิน 3 เดือนสักคน ฉันก็ไม่เคยเข็ด ก็ยังหวังว่าจะเจอรักแท้บ้างสักครั้ง ใครก็ได้ที่ไม่ได้คิดแค่หลอกฉันไปวันๆ
ฉันเรียนจบมหาวิทยาลัยครูของรัฐชื่อดังประจำจังหวัดมาแล้ว 2 ปี ตอนนี้ฉันทำงานในโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง เพราะอะไรฉันถึงมาอยู่เอกชนนะเหรอ ก็เพราะว่าฉันเคยอยู่โรงเรียนรัฐบาลมาเมื่อปีที่แล้วไง แล้วทีนี้ผู้อำนวยการโรงเรียนจะย้ายไปเป็นผู้อำนวยการที่โรงเรียนอื่น ทางโรงเรียนจึงไม่สามารถจ้างฉันต่อไป ท่านกลัวว่าฉันจะไม่มีงานทำสงสารฉัน เพราะสมองน้อยๆของฉันไปสอบบรรจุกี่ครั้งๆ ก็สอบไม่ติด เลยต้องมาอยู่เอกชนนี่ไง
ฉันทำงานที่โรงเรียนนี้มาจะครบปีละ นี่ก็เดือนมีนาคม อีก 2 เดือนก็ครบรอบ 1 ปีที่ฉันเปลี่ยนที่ทำงาน เห้อ มินนิทเอ๊ย ทำงานได้ที่ละปีจริงๆ
“มินนิท ผอ.เรียกแกไปพบที่ห้องทำงานน่ะ” เสียงแจ้วๆ ของพี่น้ำหวาน หรือคุณครูน้ำหวานแสนโหดของเด็กๆเอ่ยแว้วขึ้นมาในขณะที่ฉันกำลังรอให้เด็กให้ห้องนอนหลับให้หมด จริงๆไม่ควรเรียกพี่อ่ะ อายุเจ๊แกมากกว่าแม่ฉันอีก แต่จะเรียกแม่หรือป้ามันก็ไม่ควรใช่มั้ยล่ะ เราก็ต้องรักษาพันธมิตร ฮ่าๆๆๆ
“เรียกหนูเหรอคะ เรียกไปทำไมอ่ะ”
“แกไปพบเขาเถอะ เพราะฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน”
ฉันพยักหน้า แล้วฝากเด็กในห้องให้พี่น้ำหวานดูแล ก่อนจะเดินมาถึงห้องแอร์เย็นๆ ว๊า ทำไมห้องทำงานครูอย่างพวกหนูไม่เย็นแบบนี้บ้างล่ะคะ แหะๆ
“สัสดี เอ้ย สวัสดีค่ะผอ.เห็นพี่น้ำหวานบอกว่าผอ.เรียกหนูมาพบเหรอคะ?”
“เดี๊ยะๆๆ” ผอ.มองหน้าฉันอย่างหาเรื่องที่ฉันทักทายแบบกวนๆไปในตอนแรก “ที่ผมเรียกครูมา เพราะผมรู้มาว่า คุณจบปริญญาตรีตรงหลักสูตรและผ่านการอบรมลูกเสือแบบความรู้ทั่วไปและความรู้เบื้องต้นมาแล้ว ผมเลยจะส่งคุณไปอบรมแบบความรู้ชั้นสูง เพื่อที่คุณจะนำไปใช้ประโยชน์ หากวันใดวันหนึ่งคุณย้ายออกจากที่นี่ไปอยู่โรงเรียนรัฐ คุณจะได้ไม่ลำบาก”
“ห้ะ!!!” อึ้งค่ะอึ้ง สะ...ส่งฉันไปอบรมลูกเสือ แก๊..........นั่นเป็นสิ่งที่ฉันโคตรไม่ชอบเลยนะเว้ยยยยย ร้อนก็ร้อน เรียนอะไรไม่รู้เยอะแยะมากมาย ฉันไม่ได้แข็งแรงพอที่จะไปตากแดดตากลมอะไรขนาดนั้นมั้ยวะ (ความหยาบเริ่มมา) คิดดูสิ ไปอบรมกี่ครั้งต่อกี่ครั้งฉันก็ไปแบบฝืนๆทุกครั้งมันไม่สนุกเลย ฉันไม่ชอบ
“เอาน่าครูมิน แค่ 7 วัน 6 คืนเอง”
ดะ....เดี๋ยวนะ !! 7 วัน 6 คืน? นั่นเอากันไปเข้าอบรมหรือส่งเข้าป่ากันเนี่ย
แน่ละ ชีวิตครูน้อยอย่างฉัน ได้แค่คิด ตอบปากรับคำไปก็ไปวะ ดีเหมือนกันอบรมให้มันเสร็จๆไปจะได้ไม่ต้องเจออะไรแบบนี้อีก ทราบมาว่า การอบรมลูกเสือแบบความรู้ชั้นสูงโดยเฉพาะเจาะจงลูกเสือสำรองแบบที่ฉันจบมาเขาไม่ได้เปิดอบรมกันง่ายๆ เพราะตอนนี้ขาดวิทยากรผู้มีความรู้จริงๆ ที่จะมาอบรมด้านนี้ให้ ฉันเลยจำใจมายังไงล่ะ
คนมาเข้าอบรมมีทั้งหมด 18 คน ใช่ค่ะ อ่านไม่ผิดหรอก 18 คน!! ซึ่งฉันได้อยู่หมู่สีแดง
การอบรมลูกเสือที่แสนทรมานกับการนอนเกือบตี 1 แล้วตื่นตี 5 ใกล้สิ้นสุดลงแล้ว มันทรมานมากมากถึงมากที่สุด คนที่ชอบนอนแบบฉันไปนอนดึกตื่นเช้ามืด มันทรมานจริงๆ วันนี้วันสุดท้าย พวกเรากำลังเตรียมงานเลี้ยงอำลาและมอบเสื้อรุ่นให้แก่กัน ด้วยจำนวนประชากรที่น้อยนิด ทำให้พวกฉันโคตรมีความสุข
เอาเข้าจริงๆ ถ้าตัดเรื่องการนอนดึกตื่นเช้ามืดออกไป มันมีความสุขมากเว้ย มากจริงๆ ได้พบเพื่อนใหม่ๆ บางคนรุ่นน้อง บางคนรุ่นเดียวกัน บางคนรุ่นพี่ หรือบางคนรุ่นแม่ก็มี มีทุกรุ่น ทุกคนใจดีกับฉันมาก มองว่าฉันเป็นเด็กไร้เดียงสาคนหนึ่ง ที่มีเสียงหัวเราะดังมากเป็นเอกลักษณ์
ขณะที่ฉันกำลังเตรียมงานเตรียมอาหารอยู่นั้น... ฉันมองไปเห็นพี่ ‘คีตา’ ลูกชายผู้อำนวยการฝึกลูกเสือ ที่ดันมาเข้าอบรมกับพวกฉันพอดี เขามีบุคลิกที่เหมือนผู้นำมากๆ ดูเป็นคนค่อนข้างมีความรู้ ใครถามอะไรมา เขาตอบได้หมด ทราบมาว่าเขากำลังเป็นครูอัตราจ้างสอนวิชาภาษาอังกฤษอยู่โรงเรียนแห่งหนึ่งที่สมุทรสาครบ้านเกิดเขา แต่เขาไม่ได้จบสายครูมาโดยตรง เขาเลยต้องตามเก็บพวกวุฒิพวกอะไรต่างๆแบบที่คนเรียนครูเขาผ่านกันมา
มองแบบนี้ก็บอกเลยว่าเขาเป็นผู้ชายบ้านๆ ตัวสูงประมาณหนึ่ง ผิวสีเข้มแต่ดูมีเสน่ห์ ใส่แว่นหนาเตอะ เดินเชิดไหล่แอ่นหลังยังกับทหารตลอดเวลา ยิ่งเสียงไม่ต้องพูดถึง ฉันนึกว่าตัวเองกำลังดูรายการ เสือเก้งชะนีอยู่ ใช่แน่ๆ พี่เข้าต้องเป็นแน่ๆ อย่าบอกเขานะว่าฉันกำลังนินทาอยู่เดี๋ยวโดนด่าเละ -_-
เขากำลังหยิบกีต้าร์ตัวโปรดขึ้นมา ไม่จริงง่ะ นี่เขากำลังจะร้องเพลงใช่มั้ย เห็นละคันปากอยากร้องด้วย ขอเข้าไปร้องด้วยจะถูกมองว่าน่าเกลียดมั้ยนะ เอาวะ! เป็นไงเป็นกัน
“พี่คีตา” ฉันเดินเอามือสะกิดไหล่เจ๊แกเงียบๆ
“อ้าว มินนิท ว่าไง” เขาส่งยิ้มมาให้ฉันแล้วยุ่งกับการตั้งสายกีต้าร์ต่อ เดี๋ยวเจ๊เดี๋ยว ช่วยหันมาสนใจกันหน่อยเด้ คนอุตส่าห์รวบรวมความกล้าตั้งนานไม่คุยกับเค้าเลย
“คะ..คือว่า มินนิทอยากขอร้องซักเพลงได้มั้ยคะ” ฉันเอามือประสานกันแล้วถามแบบเรียบร้อย เอาจริงๆไม่ต้องทำท่าเรียบร้อยขนาดนี้มั้ยวะยัยมินนิท เขาอายุมากกว่าเราแค่ปีเดียวเอง เหมือนเพื่อนกันนั่นแหละ
พี่คีตาทำหน้าครุ่นคิด ก่อนที่จะหันมายิ้มให้ฉัน
“ได้สิ มินนิทร้องเพลงเป็นด้วยเหรอ”
“โอ้โห นี่พี่ มินนิทจบครูอนุบาลมานะ เรื่องการร้องเพลงมินนิทใช้เป็นประจำทุกวันอยู่แล้วจ้า”
หนักใจ นี่ฉันดูเป็นคนไม่ได้เรื่องขนาดนั้นเลยเหรอ ฉันชอบร้องเพลงมากเลยนะ เป็นติ่งเกาหลี วงที่ชอบที่สุดคือวง FT ISLAND เป็นวงร็อคน่ะ เพราะงั้นฉันเลยชอบดนตรีเอามากๆ แต่เล่นไม่เป็นสักอย่าง ฮ่าๆๆ
“เอาล่ะมา พี่พร้อมแล้ว มินนิทอยากร้องเพลงอะไรล่ะพี่จะดีดกีต้าร์ให้”
เย้!! อย่างน้อยฉันก็ได้ร้องเพลงสมใจ เอาวะลองร้องเข้ากับเสียงกีต้าร์ดู พี่แกดูจะเล่นชำนาญ น่าจะไม่มีผิดพลาดอะไร
“ไม่เคยค่ะ” นั่นล่ะเพลงไม่เคย ของวง 25 ชั่วโมง เป็นเพลงโปรดที่ฉันชอบเอามาร้อง
พี่คีตาพยักหน้า และเริ่มดีดกีต้าร์ แย่แล้ว เสียงกีต้าร์ของเขาทำให้ฉันหวั่นไหว ฉันทั้งร้องและเสียงสั่นในช่วงแรก แต่ก็พยายามร้องไปจนจบ
“ว้าว น้องมินนิทนี่ร้องเพลงเพราะเหมือนกันนะเนี่ย” เขินจัง. เขาชมฉันด้วยอ่าแก ><
คนดีดกีต้าร์ให้มองอย่างอึ้งๆ เขาคงตกใจที่ฉันร้องเพลงนี้จบล่ะมั้ง ฉันร้องเสียงสูงไม่ได้ใจจะขาดเอา หลังจากนั้นพี่แกก็ร้องเพลงต่อไปรวมถึงฉันก็โดนวิทยากรแกล้ง เอาเพลงลูกทุ่งมาให้ฉันร้องตั้งหลายเพลง เล่นเอาซะน้อมมินนิทหอบเลยล่ะค่ะ
เช้าวันต่อมาทุกคนได้รับใบวุฒิบัติจบการอบรมลูกเสือโดยสมบูรณ์ และแยกย้ายกันกลับบ้าน ฉันเองก็กลับมาทำหน้าที่ครูเอกชนที่แสนดีต่อ กลับออกมาจากค่ายก็เดือนเมษายนพอดี ครูโรงเรียนอื่นเขาปิดเทอมกันแต่ของฉันไม่ปิด แถมยังเตรียมสอนพิเศษอีกต่างหาก
แต่ไม่เป็นไร เพราะยังไงฉันก็ได้เตรียมการเอาไว้แล้วว่าฉันจะลาออกและไปเตรียมตัวสอบเดือนนี้ อีกไม่นานหรอก ถ้าเกิดยังทำงานต่อฉันแบ่งเวลาไม่ได้ แล้วก็ไม่ได้อ่านหนังสือสอบสักที ยิ่งแต่สมองปลาทองอยู่
เรื่องจริงมาอิงนิยาย (เนื้อหา 80% คือเรื่องจริงทั้งหมด)
ใครบอกว่าคนที่เขาแอบชอบคนอื่นข้างเดียวนั้นมันจะสมหวังเสมอ เหมือนพระเอก-นางเอกในหนังสือนิยายรักวัยรุ่นที่คนฮิตอ่านกัน แล้วเอาออกมาทำเป็นซีรีส์หลายเรื่องให้คนได้ฟินกันถ้วนหน้า แต่ไม่ใช่กับฉัน ‘มินนิท’ หญิงสาวผู้ที่นกเรื่องความรักเสมอ เริ่มชอบผู้ชายตั้งแต่อยู่ป.5 แต่เหมือนเป็นรุ่นน้องแอบปลื้มรุ่นพี่มาตลอด ไม่เคยจีบผู้ชายติดเลยสักครั้ง อ้อเคยมีครั้งนึง ตอนนั้นฉันอยู่ม.4 ฉันผิดหวังจากการจีบเพื่อนร่วมชั้น ฉันก็เลยเปลี่ยนเป้าหมายใหม่โดยไปจีบหนุ่มต่างโรงเรียน ซึ่งเราอยู่หมู่บ้านเดียวกัน ฉันใช้เวลาจีบ 3 เดือน จนเขายอมใจอ่อน และรักฉันมาก เราคบกันอยู่ประมาณ เกือบๆ 2 ปี พอฉันสอบเข้ามหาวิทยาลัยครูได้ ฉันก็ดันไปหักอกเขาด้วยการบอกว่าอยากมีแฟนใหม่ ดูฉันสิ โคตรเลวเลย ฉันไปหักอกผู้ชายที่รักฉันมาก ไม่ได้ส่องกระจกดูหนังหน้าดูสภาพตัวเองเลยว่าขี้เหร่แค่ไหน มีสิทธิ์เลือกด้วยเหรอ??
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ฉันก็จีบใครไม่ติดอีกเลย เคยมีคนมาจีบและขอคบกับฉันบ้างแต่ไม่มีใครรักฉันจริงและคบไม่เกิน 3 เดือนสักคน ฉันก็ไม่เคยเข็ด ก็ยังหวังว่าจะเจอรักแท้บ้างสักครั้ง ใครก็ได้ที่ไม่ได้คิดแค่หลอกฉันไปวันๆ
ฉันเรียนจบมหาวิทยาลัยครูของรัฐชื่อดังประจำจังหวัดมาแล้ว 2 ปี ตอนนี้ฉันทำงานในโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง เพราะอะไรฉันถึงมาอยู่เอกชนนะเหรอ ก็เพราะว่าฉันเคยอยู่โรงเรียนรัฐบาลมาเมื่อปีที่แล้วไง แล้วทีนี้ผู้อำนวยการโรงเรียนจะย้ายไปเป็นผู้อำนวยการที่โรงเรียนอื่น ทางโรงเรียนจึงไม่สามารถจ้างฉันต่อไป ท่านกลัวว่าฉันจะไม่มีงานทำสงสารฉัน เพราะสมองน้อยๆของฉันไปสอบบรรจุกี่ครั้งๆ ก็สอบไม่ติด เลยต้องมาอยู่เอกชนนี่ไง
ฉันทำงานที่โรงเรียนนี้มาจะครบปีละ นี่ก็เดือนมีนาคม อีก 2 เดือนก็ครบรอบ 1 ปีที่ฉันเปลี่ยนที่ทำงาน เห้อ มินนิทเอ๊ย ทำงานได้ที่ละปีจริงๆ
“มินนิท ผอ.เรียกแกไปพบที่ห้องทำงานน่ะ” เสียงแจ้วๆ ของพี่น้ำหวาน หรือคุณครูน้ำหวานแสนโหดของเด็กๆเอ่ยแว้วขึ้นมาในขณะที่ฉันกำลังรอให้เด็กให้ห้องนอนหลับให้หมด จริงๆไม่ควรเรียกพี่อ่ะ อายุเจ๊แกมากกว่าแม่ฉันอีก แต่จะเรียกแม่หรือป้ามันก็ไม่ควรใช่มั้ยล่ะ เราก็ต้องรักษาพันธมิตร ฮ่าๆๆๆ
“เรียกหนูเหรอคะ เรียกไปทำไมอ่ะ”
“แกไปพบเขาเถอะ เพราะฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน”
ฉันพยักหน้า แล้วฝากเด็กในห้องให้พี่น้ำหวานดูแล ก่อนจะเดินมาถึงห้องแอร์เย็นๆ ว๊า ทำไมห้องทำงานครูอย่างพวกหนูไม่เย็นแบบนี้บ้างล่ะคะ แหะๆ
“สัสดี เอ้ย สวัสดีค่ะผอ.เห็นพี่น้ำหวานบอกว่าผอ.เรียกหนูมาพบเหรอคะ?”
“เดี๊ยะๆๆ” ผอ.มองหน้าฉันอย่างหาเรื่องที่ฉันทักทายแบบกวนๆไปในตอนแรก “ที่ผมเรียกครูมา เพราะผมรู้มาว่า คุณจบปริญญาตรีตรงหลักสูตรและผ่านการอบรมลูกเสือแบบความรู้ทั่วไปและความรู้เบื้องต้นมาแล้ว ผมเลยจะส่งคุณไปอบรมแบบความรู้ชั้นสูง เพื่อที่คุณจะนำไปใช้ประโยชน์ หากวันใดวันหนึ่งคุณย้ายออกจากที่นี่ไปอยู่โรงเรียนรัฐ คุณจะได้ไม่ลำบาก”
“ห้ะ!!!” อึ้งค่ะอึ้ง สะ...ส่งฉันไปอบรมลูกเสือ แก๊..........นั่นเป็นสิ่งที่ฉันโคตรไม่ชอบเลยนะเว้ยยยยย ร้อนก็ร้อน เรียนอะไรไม่รู้เยอะแยะมากมาย ฉันไม่ได้แข็งแรงพอที่จะไปตากแดดตากลมอะไรขนาดนั้นมั้ยวะ (ความหยาบเริ่มมา) คิดดูสิ ไปอบรมกี่ครั้งต่อกี่ครั้งฉันก็ไปแบบฝืนๆทุกครั้งมันไม่สนุกเลย ฉันไม่ชอบ
“เอาน่าครูมิน แค่ 7 วัน 6 คืนเอง”
ดะ....เดี๋ยวนะ !! 7 วัน 6 คืน? นั่นเอากันไปเข้าอบรมหรือส่งเข้าป่ากันเนี่ย
แน่ละ ชีวิตครูน้อยอย่างฉัน ได้แค่คิด ตอบปากรับคำไปก็ไปวะ ดีเหมือนกันอบรมให้มันเสร็จๆไปจะได้ไม่ต้องเจออะไรแบบนี้อีก ทราบมาว่า การอบรมลูกเสือแบบความรู้ชั้นสูงโดยเฉพาะเจาะจงลูกเสือสำรองแบบที่ฉันจบมาเขาไม่ได้เปิดอบรมกันง่ายๆ เพราะตอนนี้ขาดวิทยากรผู้มีความรู้จริงๆ ที่จะมาอบรมด้านนี้ให้ ฉันเลยจำใจมายังไงล่ะ
คนมาเข้าอบรมมีทั้งหมด 18 คน ใช่ค่ะ อ่านไม่ผิดหรอก 18 คน!! ซึ่งฉันได้อยู่หมู่สีแดง
การอบรมลูกเสือที่แสนทรมานกับการนอนเกือบตี 1 แล้วตื่นตี 5 ใกล้สิ้นสุดลงแล้ว มันทรมานมากมากถึงมากที่สุด คนที่ชอบนอนแบบฉันไปนอนดึกตื่นเช้ามืด มันทรมานจริงๆ วันนี้วันสุดท้าย พวกเรากำลังเตรียมงานเลี้ยงอำลาและมอบเสื้อรุ่นให้แก่กัน ด้วยจำนวนประชากรที่น้อยนิด ทำให้พวกฉันโคตรมีความสุข
เอาเข้าจริงๆ ถ้าตัดเรื่องการนอนดึกตื่นเช้ามืดออกไป มันมีความสุขมากเว้ย มากจริงๆ ได้พบเพื่อนใหม่ๆ บางคนรุ่นน้อง บางคนรุ่นเดียวกัน บางคนรุ่นพี่ หรือบางคนรุ่นแม่ก็มี มีทุกรุ่น ทุกคนใจดีกับฉันมาก มองว่าฉันเป็นเด็กไร้เดียงสาคนหนึ่ง ที่มีเสียงหัวเราะดังมากเป็นเอกลักษณ์
ขณะที่ฉันกำลังเตรียมงานเตรียมอาหารอยู่นั้น... ฉันมองไปเห็นพี่ ‘คีตา’ ลูกชายผู้อำนวยการฝึกลูกเสือ ที่ดันมาเข้าอบรมกับพวกฉันพอดี เขามีบุคลิกที่เหมือนผู้นำมากๆ ดูเป็นคนค่อนข้างมีความรู้ ใครถามอะไรมา เขาตอบได้หมด ทราบมาว่าเขากำลังเป็นครูอัตราจ้างสอนวิชาภาษาอังกฤษอยู่โรงเรียนแห่งหนึ่งที่สมุทรสาครบ้านเกิดเขา แต่เขาไม่ได้จบสายครูมาโดยตรง เขาเลยต้องตามเก็บพวกวุฒิพวกอะไรต่างๆแบบที่คนเรียนครูเขาผ่านกันมา
มองแบบนี้ก็บอกเลยว่าเขาเป็นผู้ชายบ้านๆ ตัวสูงประมาณหนึ่ง ผิวสีเข้มแต่ดูมีเสน่ห์ ใส่แว่นหนาเตอะ เดินเชิดไหล่แอ่นหลังยังกับทหารตลอดเวลา ยิ่งเสียงไม่ต้องพูดถึง ฉันนึกว่าตัวเองกำลังดูรายการ เสือเก้งชะนีอยู่ ใช่แน่ๆ พี่เข้าต้องเป็นแน่ๆ อย่าบอกเขานะว่าฉันกำลังนินทาอยู่เดี๋ยวโดนด่าเละ -_-
เขากำลังหยิบกีต้าร์ตัวโปรดขึ้นมา ไม่จริงง่ะ นี่เขากำลังจะร้องเพลงใช่มั้ย เห็นละคันปากอยากร้องด้วย ขอเข้าไปร้องด้วยจะถูกมองว่าน่าเกลียดมั้ยนะ เอาวะ! เป็นไงเป็นกัน
“พี่คีตา” ฉันเดินเอามือสะกิดไหล่เจ๊แกเงียบๆ
“อ้าว มินนิท ว่าไง” เขาส่งยิ้มมาให้ฉันแล้วยุ่งกับการตั้งสายกีต้าร์ต่อ เดี๋ยวเจ๊เดี๋ยว ช่วยหันมาสนใจกันหน่อยเด้ คนอุตส่าห์รวบรวมความกล้าตั้งนานไม่คุยกับเค้าเลย
“คะ..คือว่า มินนิทอยากขอร้องซักเพลงได้มั้ยคะ” ฉันเอามือประสานกันแล้วถามแบบเรียบร้อย เอาจริงๆไม่ต้องทำท่าเรียบร้อยขนาดนี้มั้ยวะยัยมินนิท เขาอายุมากกว่าเราแค่ปีเดียวเอง เหมือนเพื่อนกันนั่นแหละ
พี่คีตาทำหน้าครุ่นคิด ก่อนที่จะหันมายิ้มให้ฉัน
“ได้สิ มินนิทร้องเพลงเป็นด้วยเหรอ”
“โอ้โห นี่พี่ มินนิทจบครูอนุบาลมานะ เรื่องการร้องเพลงมินนิทใช้เป็นประจำทุกวันอยู่แล้วจ้า”
หนักใจ นี่ฉันดูเป็นคนไม่ได้เรื่องขนาดนั้นเลยเหรอ ฉันชอบร้องเพลงมากเลยนะ เป็นติ่งเกาหลี วงที่ชอบที่สุดคือวง FT ISLAND เป็นวงร็อคน่ะ เพราะงั้นฉันเลยชอบดนตรีเอามากๆ แต่เล่นไม่เป็นสักอย่าง ฮ่าๆๆ
“เอาล่ะมา พี่พร้อมแล้ว มินนิทอยากร้องเพลงอะไรล่ะพี่จะดีดกีต้าร์ให้”
เย้!! อย่างน้อยฉันก็ได้ร้องเพลงสมใจ เอาวะลองร้องเข้ากับเสียงกีต้าร์ดู พี่แกดูจะเล่นชำนาญ น่าจะไม่มีผิดพลาดอะไร
“ไม่เคยค่ะ” นั่นล่ะเพลงไม่เคย ของวง 25 ชั่วโมง เป็นเพลงโปรดที่ฉันชอบเอามาร้อง
พี่คีตาพยักหน้า และเริ่มดีดกีต้าร์ แย่แล้ว เสียงกีต้าร์ของเขาทำให้ฉันหวั่นไหว ฉันทั้งร้องและเสียงสั่นในช่วงแรก แต่ก็พยายามร้องไปจนจบ
“ว้าว น้องมินนิทนี่ร้องเพลงเพราะเหมือนกันนะเนี่ย” เขินจัง. เขาชมฉันด้วยอ่าแก ><
คนดีดกีต้าร์ให้มองอย่างอึ้งๆ เขาคงตกใจที่ฉันร้องเพลงนี้จบล่ะมั้ง ฉันร้องเสียงสูงไม่ได้ใจจะขาดเอา หลังจากนั้นพี่แกก็ร้องเพลงต่อไปรวมถึงฉันก็โดนวิทยากรแกล้ง เอาเพลงลูกทุ่งมาให้ฉันร้องตั้งหลายเพลง เล่นเอาซะน้อมมินนิทหอบเลยล่ะค่ะ
เช้าวันต่อมาทุกคนได้รับใบวุฒิบัติจบการอบรมลูกเสือโดยสมบูรณ์ และแยกย้ายกันกลับบ้าน ฉันเองก็กลับมาทำหน้าที่ครูเอกชนที่แสนดีต่อ กลับออกมาจากค่ายก็เดือนเมษายนพอดี ครูโรงเรียนอื่นเขาปิดเทอมกันแต่ของฉันไม่ปิด แถมยังเตรียมสอนพิเศษอีกต่างหาก
แต่ไม่เป็นไร เพราะยังไงฉันก็ได้เตรียมการเอาไว้แล้วว่าฉันจะลาออกและไปเตรียมตัวสอบเดือนนี้ อีกไม่นานหรอก ถ้าเกิดยังทำงานต่อฉันแบ่งเวลาไม่ได้ แล้วก็ไม่ได้อ่านหนังสือสอบสักที ยิ่งแต่สมองปลาทองอยู่