วันเดียวก็เที่ยวได้ อากาศร้อนๆ แบบนี้ วาร์ปออกไปจิบกาแฟใกล้ๆ กรุงกันสักหน่อย อย่างร้าน "Montreux Cafe' and Farm" คาเฟ่ที่เป็นทั้งร้านอาหารและฟาร์มที่ถูกล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติและนาข้าวเขียวขจี


การเดินทาง :: ใช้เส้นทางรังสิต-นครนายก จนมาถึงคลอง 15 แล้วกลับรถก่อนถึงมหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒ ตรงไปอีกนิด ด้านซ้ายมือจะมีป้ายชื่อร้านติดอยู่ปากทางเข้าอย่างชัดเจน

ทางเข้าจะเป็นสะพานข้ามคลอง



เมื่อเรามาถึงหน้าร้านจะมีจุดจอดรถให้โดยเฉพาะ ที่จอดรถเยอะมาก ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีที่จอด และนี่คือด้านหน้าทางเข้าร้าน


ทางร้านไม่ให้นำอาหารและเครื่องดื่มเข้ามาในบริเวณคาเฟ่และฟาร์ม และทางร้านจะปิดให้บริการทุกวันจันทร์


ป้ายแสดง "เขตปลอดบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์"


ร้อนจัง!!!


ด้านขวามือเมื่อเราเดินเข้ามายังร้าน จะเจอกับซุ้มที่นั่งที่สามารถชาร์ตแบตได้ด้วย (มีปลั๊กไฟให้นั่นเอง)


สไตล์การตกแต่งร้าน จะถูกแบ่งออกเป็น 3 โซนด้วยกัน โดยที่โซนแรกจะมีลักษณะโดดเด่น มีกระจกรอบด้าน สไตล์โรงนาโมเดิร์น ภายในร้านโปร่ง โล่งและสว่างตา ตัวร้านออกแบบทรงสูง มีทั้งโซฟาและบาร์นั่งริมหน้าต่าง มีที่ให้เลือกนั่งเยอะมากๆ


หรือใครที่ไม่อยากนั่งในห้องแอร์ อีกโซนนึงที่อยากนำเสนอ นั่นก็คือ โซนฟาร์ม มีรั้วกั้นเล็กๆ มีสะพานไม้ไผ่ ปลูกพืชผักสวนครัว เลี้ยงเป็ด เลี้ยงไก่ เลี้ยงปลา ปลูกต้นข้าว ดอกไม้และต้นไม้อีกนานาชนิด มองแล้วสบายตา เป็นฟาร์มเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยความสุขจริงๆ ค่ะ เดินไปรอบๆ จะมีตูบกางนาให้นั่งหรือนอนพักผ่อนรับลม ส่วนที่มุมนึงที่น่าสนใจไม่แพ้กันนั่นก็คือ ต้นไม้กลางน้ำ สร้างเพิงยกให้สูงขึ้น 2 ชั้น และยังมีชิงช้าให้นั่งถ่ายรูปสุดชิว เป็นจุดชมวิวนาข้าวที่สวยอีกมุมนึงเลยทีเดียว แถมด้านข้างยังมีร้านขายเครื่องดื่มและอาหารว่าง

บริเวณกลางพื้นที่ร้าน มีสระน้ำและน้ำพุ โดยตกแต่งเป็นสวนหย่อม สามารถนั่งได้แทบทุกมุม หากมาช่วงเช้าๆ และบ่ายๆ แสงแดดอบอุ่นกระทบกับต้นข้าวที่กำลังจะออกรวง รับรองที่นี่ตอบโจทย์คาเฟ่สีเขียวได้ดีมากๆ แนะนำมาช่วงวันธรรมดา คนจะเยอะมาในช่วงวันหยุด

มาดูบรรยากาศร้านกัน






















กิจกรรมของที่นี่
** พายเรือในสวน
** ให้อาหารเป็ด ไก่และปลา
** ปลูกผัก
** ทำไข่เค็ม
** ดำนาปลูกข้าวและเกี่ยวข้าว
























มาดูโซนสะพานไม้กันดีกว่า










เหนื่อยจากการถ่ายรูปกันแล้ว ไปหาอะไรลองท้องกันดีกว่า


มาถึงหน้าเค้าน์เตอร์จะมีกระดาษให้เราสั่งเมนูอาหาร เครื่องดื่มและของทานเล่นให้เราเลือกติ๊ก เขียนชื่อเราลงไปด้วยนะ เวลาเรียกชื่อจะได้มารับอาหารถูกออเดอร์ พร้อมกับชำระเงินทันที ไม่มีพนักงานเสริฟให้นะ ต้องมารับเมนูเอง รอสักพักพนักงานก็จะเรียกชื่อเราไปรับออเดอร์บริเวณด้านข้างเค้าน์เตอร์




ส่วนใหญ่อาหารจานเดียวของที่นี่ก็จะเป็นข้าวผัดน้ำพริกปลาทู ของทานเล่นอย่างเฟรนซ์ฟราย นักเก็ต เครื่องดื่มก็แบบทั่วๆไป มีแซนด์วิชและเค้กหน้าต่างๆ ให้ได้ลองชิมกันด้วยนะจ๊ะ หลังจากที่เราทานเสร็จแล้ว จะมีโต๊ะให้เราเก็บภาชนะกันเอง พนักงานไม่เก็บให้เช่นเคย (บริการตัวเอง)


น่ากินอ่ะ




เมนูที่สั่ง
** เอสเปรสโซ่เย็น แก้วละ 50. บาท
** ชาเขียว แก้วละ 50.- บาท
** เฟรนซ์ฟราย 99.- บาท
รวม 199.- บาท








สำหรับรสชาติและคุณภาพ เอสเปรสโซ่พอทานได้ ออกขมหน่อย แต่ชาเขียวไม่มีรสชาติเลย ไม่อร่อยเหมือนชงมาแล้วและใส่นมเยอะ จืดมาก ส่วนเฟรนซ์ฟรายทอดออกมาดี อร่อย จิ้มกับซอสมะเขือเทศและมายองเนสอร่อยดี


ส่วนพนักงานและการบริการ พนักงานในร้านนี้เยอะดี รับออเดอร์ไวและจัดออเดอร์ไวเช่นกัน รวมถึงคนงานในสวนและพนักงานจุดจอดรถ บริการดีทุกคนเลยค่ะ

ใครที่เบื่อเที่ยวกรุง อยากมาเที่ยวและจิบกาแฟแบบธรรมชาติๆ สูดอากาศบริสุทธิ์แบบนี้ละก็ ร้านนี้ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กันเลยทีเดียว แถมยังได้รูปเก๋ ชิคๆ กลับไปแชร์บนโลกโซเชียลอีกเพรียบเลยนะจ๊ะ


[ข้อมูลเพิ่มเติม]
พิกัด :: 77 หมู่ 4 ตำบลบึงศาล อำเภอองครักษ์ นครนายก
Tel. :: 087-979-7341
Open Time :: 09.00 น. ถึง 19.00 น. (ปิดวันจันทร์)
FB :: Montreux Cafe' and Farm
ที่จอดรถ :: มีที่จอดรถให้ มีรปภ. คอยโบกรับรถและจัดสรรพื้นที่ให้ตลอด