ทริปชิลๆ เพชบุรี นาเกลือบ้านแหลม แหลมผักเบี้ย ตลาดน้ำกวางโจว แก่งกระจาน พะเนินทุ่ง เรือนจำเขากลิ้ง By ขวัญสายชิล


ทริปที่ 11 By ขวัญสายชิล
เล่าเรื่องไม่ค่อยเก่งนัก ก็ขอให้ภาพเล่าเรื่องแทนละกันนะคะ (หยิบเรื่องเก่ามาเล่า)
--------------------------------------------------
เช้าวันเสาร์ที่ 31 มีนาคม 2561
06.30 น.เราเดินทางออกจาก ปตท.สนามเป้า
ทริปนี้เราเดินโดยรถตู้  11 ที่นั่ง (รวมคนขับรถ)
เราเดินทางกันทั้งหมด 11 คน (รวมคนขับรถ)
--------------------------------------------------
-จุดแรกของทริปนี้ " นาเกลือ อ.บ้านแหลม "
ตั้งอยู่ที่ ต.บ้านแหลม อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี

เป็นแหล่งผลิตเกลือสมุทรที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ซึ่งในช่วงฤดูร้อน อย่างเช่น เดือน มีนาคม เมษายน นักท่องเที่ยวสามารถไปเรียนรู้วิถีชีวิตของชาวบ้านในการทำนาเกลือได้ และ ในช่วงกลางเดือน มีนาคม ของทุกปี ที่จังหวัดเพชรบุรีจะจัดงาน “Art Of Salt” บอกเล่าเรื่องราวคุณค่าของเกลือและชมประติมากรรมเกลือแห่งแรกของไทย
(ไม่มีค่าเข้าชมสถานที่)












-จุดต่อไปของทริปนี้ "  โครงการพระราชดำริ แหลมผักเบี้ย "  
ตั้งอยู่ที่ ต. แหลมผักเบี้ย อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงมีพระราชดำริจัดตั้งโครงการดังกล่าวเพื่อบำบัดน้ำเสีย โดยให้ธรรมชาติช่วยธรรมชาติ มีด้วยกัน 4 ระบบ ดังนี้
      ระบบแรก คือ บ่อบำบัดน้ำเสีย เวลาที่มีน้ำเสียไหลมาแต่ละบ่อก็จะไหลล้นผ่านอาคารระบายน้ำด้านบน และเชื่อมต่อกันทางตอนล่างของบ่อถัดไปเป็นลำดับก่อนที่จะนำคืนสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ
       ระบบที่สอง คือ ระบบพืชและหญ้ากรองน้ำเสีย ซึ่งให้พืชช่วยบำบัดนำเสียโดยการให้น้ำเสียไหลผ่านแปลงหญ้าและหญ้าที่ดีที่สุดก็คือ หญ้าธูปฤาษี ที่ช่วยปล่อยออกซิเจนจากรากลงไปเติมน้ำให้กลายเป็นน้ำดีได้ และเมื่อครบ 90 วัน ก็จะตัดพืชออก พอตัดแล้วก็นำไปให้กลุ่มแม่บ้านทำเครื่องสานเพื่อเพิ่มประโยชน์และสามารถสร้างรายได้ให้กับกลุ่มแม่บ้านได้
       ระบบที่สาม คือ ระบบพื้นที่ชุ่มน้ำเทียม กลไกก็จะคล้ายกับระบบพืชและหญ้ากรอง แต่จะแตกต่างกันด้วยวิธีการ
       ระบบที่สี่ คือ ระบบแปลงพืชป่าชายเลน โดยการให้ธรรมชาติบำบัดด้วยตัวของมันเองตามระยะเวลาการขึ้นลงของน้ำทะเลในแต่ละวัน อาศัยระบบรากของพืชป่าชายเลนช่วยปล่อยก๊าซออกซิเจนเติมให้กับน้ำเสียและจุลินทรีย์ในดิน
         ส่วนของเส้นทางศึกษาธรรมชาติระบบนิเวศป่าชายเลนนั้น มีระยะทางประมาณ 850 เมตร 
(ไม่มีค่าเข้าชมสถานที่)





-จุดต่อไปของทริปนี้ " ตลาดน้ำกวางโจว "
ตั้งอยู่ที่ ต.ยางน้ำกลัดใต้ อ.หนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี

เป็นตลาดน้ำที่อยู่กลางป่า อยู่ที่เดียวกับน้ำตกกวางโจว ที่เป็นน้ำตกเล็กๆ ที่เกิดจากแก้มลิง ตลอดทางมีแพไม้ไผ่ให้เลือกนั่งได้โดยไม่ต้องเสียค่าเช่าแพแต่อย่างใด มีอาหารให้เลือกชิมและช็อปมากมาย ภาชนะใส่อาหารส่วนใหญ่มาจากธรรมชาติโดยเฉพาะไม้ไผ่
เปิดเฉพาะ วันเสาร์ อาทิตย์ และ วันหยุดราชการ ตั้งแต่เวลา 09.30 น.-16.00 น.โดยประมาณ
(ค่าเข้าชมสถานที่ 20 บาท)








-จุดต่อไปของทริปนี้ "  โครงการชั่งหัวมัน ตามพระราชดำริ "
ตั้งอยู่ที่ ต.เขากระปุก อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี 

เมื่อปลายปี พ.ศ. 2551
พระบาทสมเด็จพระปรมิทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงซื้อที่ดินจากราษฎร พื้นที่ประมาณ 120 ไร่ ณ บริเวณอ่างเก็บน้ำหนองเสือ บ้านหนองคอไก่ หมู่ที่ 5 ตำบลเขากระปุก อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี ต่อมา ปี พ.ศ. 2552 ทรงซื้อแปลงติดกันเพิ่มอีก 130 ไร่ รวมพื้นที่ทั้งหมด 250 ไร่ และทรงมีดำริให้ทำเป็นโครงการตัวอย่างด้านการเกษตร รวบรวมพันธุ์พืชเศรษกิจในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรีและพื้นที่ใกล้เคียง มาปลูกไว้ที่นี่ โดยเริ่มดำเนินการ ตั้งแต่วันที่ 13 กรกฏาคม 2552 เป็นต้นมา
(ค่าเข้าชมสถานที่ 20 บาท)


ที่มาของคำว่า " ชั่งหัวมัน "






-เช็คอินเข้าที่พัก เป็นบ้านอุทยานแก่งกระจาน ต.แก่งกระจาน อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี
เป็นวิวริมเขื่อน ห้อง 210-212 (นอนห้องละ 4 คน/ 1ห้องมี 4 เตียง)



-จุดต่อไปของทริปนี้ "  สันเขื่อนแก่งกระจาน " ยามเย็นกัน
ตั้งอยู่ที่ อุทยานแก่งกระจาน ต.แก่งกระจาน อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี
เมื่อคราวที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จแปรพระราชฐานที่พระราชวังไกลกังวล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และเสด็จที่เขื่อนแก่งกระจาน ได้รับสั่งให้นายถนอม เปรมรัศมี อธิบดีกรมป่าไม้ เข้าเฝ้าเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2522 ได้มีกระแสพระราชดำรัสว่า “เรื่องป่าต้นน้ำ ลำธารของแม่น้ำเพชรบุรี ขอให้เจ้าหน้าที่ดูแลรักษาอย่าให้มีการลักลอบตัดไม้ ถางป่า ทำไร่ในป่าต้นน้ำของแม่น้ำเพชรบุรี เพราะจะทำให้เกิดความแห้งแล้ง แม้จะได้มีการให้สัมปทานป่าแปลงนี้ไปบ้างแล้ว ก็ขอให้ เจ้าหน้าที่ตรวจดูแลการทำไม้ อย่าให้เป็นการทำลายป่าเกิดขึ้น” จากพระราชดำรัสดังกล่าวประกอบกับนโยบายของรัฐบาลตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2522 ที่ให้รักษาป่าไว้โดยการประกาศให้เป็นเขตอุทยานแห่งชาติ 




-เรารับประทานอาหารเย็นกัน ที่ " ร้านวิโรจน์ รสเด็ด "
ตั้งอยู่ที่ อุทยานแก่งกระจาน ต.แก่งกระจาน อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี

เช้าวันอาทิตย์ที่ 1 เมษายน 2561
-04.30 น.เตรียมตัวขึ้นรถกระบะชาวบ้าน ไปชม ทะเลหมอกที่เนิน 30 และ เนิน 36 พะเนินทุ่ง ตั้งอยู่ที่ อุทยานแก่งกระจาน ต.แก่งกระจาน อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี
ข้างบนพะเนินทุ่งมีข้าวราดแกง และ กาแฟ ไมโล ขนมปังขายนะคะ
(มีค่าเข้าอุทยานแก่งกระจาน ผู้ใหญ่ 100 บาท และ ค่านำรถเข้า 30 บาท)

ตรงนี้เรียก " เนิน 30 " จากจุดจอดรถกระบะจะต้องเดินขึ้นมาประมาณ 200 เมตร จะเห็นวิวหมอกที่สูงกว่าเนิน 36




และ ตรงนี้เรียก " เนิน 36 " ต้องนั่งรถต่อจากเนิน 30 ไปอีก 6 กิโลเมตร จะเห็นวิวหมอกที่ต่ำกว่า ใช้เวลาเดินทางไป 30 นาที

ค่าเหมารถกระบะไป-กลับ 1600 บาท ต่อ 1 คัน นั่งได้ไม่เกิน 10 คน
ใครสนใจสามารถติดต่อที่ 081-0126337
ลุงประยุทธ
--------------------------------------------------
-จากนั้นกลับลงมาดู ผีเสื้อ ที่ 3 ลำธาร และ แคมป์บ้านกร่าง







แวะถ่ายอุโมงค์ต้นกระถิน ทางลงจากพะเนินทุ่ง

-กลับลงมารับประทานอาหารกลางวันกัน ที่ ร้านวิโรจน์เหมือนเดิม (สั่งอาหารไว้ตั้งแต่ตอนเย็นแล้ว)

-จุดต่อไปของทริปนี้ " เรือนจำชั่วคราวเขากลิ้ง "
ตั้งอยู่ที่  ต.วังจันทร์ อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี
เป็นบ้านดิน ที่ ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง



-ปิดทริปนี้ด้วย "  วัดเขาย้อย
ตั้งอยู่ที่ ต.เขาย้อย อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี
-ปิดทริปด้วยชม บ้านดิน ที่ ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง เรือนจำชั่วคราวเขากลิ้ง




18.00 น.เดินทางกลับกรุงเทพ
22.59 น.ถึงกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ

                ** จบทริป  **
สรุปค่าใช้จ่ายของทริปนี้ เราไปกับทริปแบบหารเฉลี่ย อยู่ที่คนละ 1700 บาท

ใครอยากจะติดตามการท่องเที่ยวของฉัน
ให้ค้นหาด้วยคำว่า  ขวัญสายชิล
https://www.facebook.com/%E0%B8%82%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A2%
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่