ทริปนี้ไม่ใช่ทริปแรกแต่เป็นการไปเที่ยวจ.เลย ครั้งแรกจุดหมายคือการไปเที่ยวเชียงคานเพราะอยากไปสัมผัสอากาศเย็นๆ อยากเห็นทะเลหมอก เก็บประสบการณ์การท่องเที่ยว  อยากนำมาแบ่งปันมนต์สเนห์เมืองไทยมีดีอีกเยอะคะ


เริ่มจากการเดินทางเราเดินทางด้วยรถส่วนตัวออกจากบ้านประมานตี 5 ถึงเชียงคานราวๆ 3-4 โมงเย็นขับรถไปแบบไม่เร่งรีบปลอดภัยไว้ก่อน สโลไลฟ์สุดๆ555+ถึงที่พักบรรยากาศคือดีลงมาถึงกับถึงกับหนาวเลยทีเดียวเชียว เราพักที่ FairFair Boutique Resort ChiangKhan ห่างจากถนนคนเดินเพียง 700 เมตร สะอาด ปลอดภัย
บ้านหลังเดี่ยว พักได้2ท่าน/ห้อง
ห้องครอบครัว พักได้3ท่านต่อห้อง
ทุกห้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน Air TV wifi น้ำอุ่น ตู้เย็น เตียงนอน
มีที่จอดรถยนต์ส่วนตัว


ประทับใจที่พักที่นี้มากคะ บรรยากาศดีเย็นสบายๆคะ ออ..ทีนี้เขามีมื้อเช้าให้ด้วยนะ  ราคาห้องพักแล้วแต่ห้องแล้วแต่ช่วงเวลาคะเราพักห้อง 1500 บาท/คืนคะ
ถึงที่พัก ก็พักผ่อนกันตามอัธยาศรัยคะช่วงค่ำออกไปเดินถถนคนเดินที่เชียงคานกันคะ บรรยากาศผู้คนตึกคักคะร้านอาหารเต็มแน่นทุกร้าน อาหารทีนี้อร่อย รสชาดีแบบไม่ต้องปรุงกันเลย หนาวแบบนี้ต้องข้าวเปียกเชียงคานกับไข่กระทะร้อนๆกันคะ

เช้านี้ขับรถไปชมภูทอกกันคะขับรถขึ้นไปประมาณ 15 นาที เสียค่าจอดรถด้านล่างคันละ 20 บาท จอดรถไว้ด้านล่างแล้วซื้อตั๊วรถขึ้นไปชทะเลหมอกด้านบน น่าเสียดายมากวันนี้ลมแรงไม่มีทะเลหมอกให้ชื่นชมกันผิดหวังเล็กน้อยคะวันนี้


หลังจากชมวิวภูทอกเสร็จ ขากลับลงมาแวะไหว้พระ ชมวิว ถ่ายภาพกันก่อน
วันนี้เราจะต่อกันที่ อุทยานแห่งชาติภูเรือ

***แวะซื้อของขึ้นไปทำอาหารที่โลตัสเชียงคานคะ****

       ใครมาเที่ยวเชียงคานมักจะไม่พลาดที่จะไปยลความสวยงามของแก่งคุดคู้ ก่งขนาดใหญ่ แห่งหนึ่งของไทย ที่เกิดจากการทอดตัว ของ แนวหิน ลงใน แม่น้ำโขง ตัวแก่งกว้างใหญ่เกือบสองฝั่งแม่น้ำโขงมีกระแสน้ำไหลผ่านไปแค่ช่องแคบ ๆ ใกล้ฝั่งไทยเท่านั้นเอง
       ไหว้พระที่วัดศรีคุนเมืองหรือวัดใหญ่  หนึ่งในศาสนสถานสำคัญและถือเป็นจุดศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้านที่นี่ ตั้งอยู่บนถนนชายโขง  วัดนี้ถือเป็นวัดเก่าแก่ที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองเชียงคานมาอย่างยาวนาน วัดแห่งนี้จะคลาคล่ำไปด้วยผู้คน ซึ่งมีทั้งชาวเชียงคานเองรวมถึงนักท่องเที่ยวผู้มาเยือน ที่ต่างก็พร้อมใจกันมาร่วมทำบุญตักบาตร

เดินทางกันต่อมาก๊างเต๊ท์นอนกัที่ ภูเรือ  เราแบกเต๊นท์มากางกันเองเสียค่าเช้าอุทยานคนละ 30 บาท  ค่ารถเข้าอุททยานถ้าจำไม่ผิดน่าจะ 70 บาทนะคะ ใครจะมาลองศึกษาข้อมูลกันดูคะ ทีนี้สามารถก่อเตาทำอาหารได้สบายๆคะ ทางขึ้นอุทยานมีทุ่งดอกไม้สวยๆที่บานสะพรั่งให้ชม กันคะอากาศก็ย็นสบายมากๆ



13 องศาเบาๆคะเย็นนี้

สภาพอากาศเย็นจนขนาดที่ว่าไม่อยากลุกขึ้นมาเลยคะ เราไม่ได้ขึ้นไปชมหมอกที่ยอดภูเนื่องจากหนาวมากจริงๆ ลมแรงจนตัวชาเล๊ยคะคุ๊ณ เช้านี้เก็บของเตรียมตัวกับไปลุยงานกันต่อยาวๆ ขากลับแวะไร่สตอเบอรี่ ชื่อสวนเด็กดอยคะ  แม่ค้าสวนนี้น่ารักใจดีเป็นกันเอ เดินชมเดินเก็บกันแบบชิลๆ แต่เก็บทานในสวนไม่ได้นะคะต้องเก็บมาให้เจ้าของสวนชั่งคะกิโลละร้อยต้นๆคะ สด อร่อย ส่งตรงถึงปากกันเลยคะ


ที่สุดท้ายก่อนกลับแวะสักการะพระธาตุศรีสองรักเพื่อความเป็นสิริมงคล ที่วัดพระธาตุศรีสองรัก นักท่องเที่ยวที่ผ่านไปผ่านมาต้องมาแวะคะ
สิ่งศักดิ์สิทธิ์พระธาตุศรีสองรักไม่ชอบสีแดงตามความเชื่อของชาวบ้าน ทุกคนที่เข้าสักการะต้องไม่สวมเสื้อผ้าอาภรณ์สีแดง เข้าไปในเขต
พระองค์ธาตุเนื่องจากสีแดงเป็นสีแห่งการเข่นฆ่า