
การประกวดเพลงชิงชนะเลิศแห่งชาติยุโรป ครั้งที่ 64 (ยูโรวิชั่น ซอง คอนเทสต์ 2019)
วันที่ 14, 16 และ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2562
ณ เทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล
วันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2561
สวัสดีค่ะสาวกยูโรวิชั่นและผู้อ่านทุกคน
กลับมาพบกับกระทู้ Eurovision Magazine กันอีกครั้งนะคะ หลังจากไม่เจอกันมา 10 วัน มีข่าวคราวมากมาย
และถ้านับจากนี้ เหลือเวลา 6 เดือน กับอีก 20 วันโดยประมาณ ก็จะได้รู้ว่าแชมป์ปีหน้าและเจ้าภาพปี 2020 จะเป็นประเทศอะไร
แต่กว่าจะถึงตอนนั้น เรามาอัพเดทข่าวคราวในรอบหลายวันที่ผ่านมากัน ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่จะพูดถึงศิลปินและเพลงในยุโรปและออสเตรเลียที่นอกเหนือจากยูโรวิชั่น ซึ่งตรงกับเป้าหมายของยูโรวิชั่นในเรื่องวัฒนธรรมและผู้คน และเป็นการต่อยอดในการรู้จักวงการเพลงในโซนนี้ให้มากขึ้นด้วย
สามารถเข้าไปดูได้ในคอลัมน์ Euromusic ค่ะ นอกจากนี้ข่าวคราวของประเทศเจ้าภาพและข่าวอื่นๆในยูโรวิชั่นก็มีให้เสพเหมือนเดิมค่ะ
เริ่มต้นข่าวแรก ที่อิสราเอล ประเทศเจ้าภาพในปีหน้า ซึ่งเจ้าภาพอัพเดทความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพ มีดังนี้นะคะ
อิสราเอลเลือกสวนชาร์ล คอร์ สวนสาธารณะริมทะเลใจกลางเทลอาวีฟที่ใช้จัดงาน Pride ประจำปีของเมือง เป็นหมู่บ้านยูโรวิชั่นปีนี้ค่ะ ความพิเศษที่บ้านเขาจะเนรมิตนั้น ไม่ใช่แค่หมู่บ้านยูโรวิชั่นทั่วไปเหมือนปีที่ผ่านๆมา เพราะเจ้าภาพเล่นใหญ่จัดเวทีตามจำนวนประเทศที่เข้าร่วมแข่งปีหน้า เพื่อโชว์วัฒนธรรมจากแต่ละประเทศอีกด้วย ไม่ใช่แค่นั้น เจ้าภาพจะเลื่อนการจัดงาน Pride ที่จัดกันทุกปี จากเดือนมิถุนายนไปเป็นช่วงเดียวกันกับยูโรวิชั่น เพื่อเข้าบรรยากาศการเฉลิมฉลองความหลากหลายทางเพศแบบคูณสองอีกด้วย โดยไฮไลท์ของงานจะมีงาน White Nights ซึ่งเป็นปาร์ตี้ของเด็ดจากงาน Pride มาจัดในยูโรวิชั่นอีกด้วย
โดยเบื้องต้น เวป
wiwibloggs ได้อ้างอิงจากข่าวช่อง 14 ในอิสราเอลว่าจะใช้งบประมาณ 1.2 ล้านยูโรสำหรับหมู่บ้านยูโรวิชั่น และ 500,000 ยูโร สำหรับงาน White Nights
มาดูที่ตั้งกัน คลาดเคลื่อนเล็กน้อยจาก
กระทู้ที่เคยนำเสนอ อยู่เล็กน้อย จากเดิมเดาว่าแถวหาด แต่ยังเดาถูกว่าจะอยู่ริมทะเล ทีนี้รอดูที่ตั้งยูโรคลับและยูโรคาเฟ่ว่าจะไปตั้งที่ไหน

Google
นอกจากเรื่องหมู่บ้านยูโรวิชั่นแล้ว เมื่อวันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา ช่อง 12 และ 13 ในบ้านเขาได้รายงานว่า เจ้าภาพได้เตรียมเรือครูซสุดอลังการจากอิตาลี (แต่ยังไม่บอกว่าเป็นเรือชื่ออะไร) เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาเที่ยวเทลอาวีฟในช่วงยูโรวิชั่น เพื่อแก้ปัญหาจำนวนโรงแรมในเมืองที่ไม่เพียงพอ และราคาที่พักที่สูงมากจนเกินไป โดยเรือดังกล่าวมีห้องพัก 500 ห้อง สามารถรองรับห้องละ 4 คน โดยราคาที่พัก 50 เหรียญสหรัฐซึ่งเป็นราคาสมเหตุสมผลมากๆ โดยอิงจาก
wiwibloggs
จะว่าไป พื้นที่ตัวเมืองเทลอาวีฟจัดว่าเล็กนะ โรงแรมเลยมีไม่พอ ทั้งที่มีงาน Pride และเป็นเมืองท่องเที่ยวเสียด้วยซ้ำ แม้ว่าเมืองรอบนอกมีโรงแรมพอรองรับได้ แต่ก็อาจจะไม่สะดวกเท่าไหร่สำหรับผัมาเยือนเท่าไหร่นะ ต้องมาดูกันต่อไปว่าทางเจ้าภาพจะมีความเคลื่อนไหวในเรื่องนี้อย่างไร และจะสามารถแก้ปัญหาเรื่องที่พักได้จริงหรือไม่

(แฟ้มภาพ)
นอกจากนี้นะคะ เวป
wiwibloggs ได้อ้างอิงจากนสพ. Israel Hayom ว่าทางเจ้าภาพจะทำโปสการ์ดยูโรวิชั่นที่นอกเหนือจากที่เราคุ้นเคยแล้ว เจ้าภาพจะทำแบบพิเศษความยาว 5 นาทีที่รวมตัวแทนทุกประเทศแสดงร่วมกันด้วย ซึ่งรูปแบบของปีหน้า ตอนนี้ทางช่องกำลังรับสมัครไอเดียจากทางบ้านจนถึงวันที่ 28 ต.ค.นี้
ก็หวังว่าโปสการ์ดยูโรวิชั่นปีหน้าจะยังคงเมนเรื่องราวของตัวแทนแต่ละประเทศนะ ไม่ใช่ยัดเยียดเรื่องราวปรัมปราของชาวยิวเหมือนเมื่ออิสราเอลเป็นเจ้าภาพสองครั้งที่ผ่านมานะ
ทีนี้มาดูกันว่าเจ้าภาพจะสามารถทำได้ตามสมราคาคุยไหม
[Eurovision Magazine] เจ้าภาพเตรียมเรือครูซรับนักท่องเที่ยว/ สวีเดนเปิดตัวพิธีกร Melfest/ คาซัคสนใจแข่งยูโรวิชั่น &more
การประกวดเพลงชิงชนะเลิศแห่งชาติยุโรป ครั้งที่ 64 (ยูโรวิชั่น ซอง คอนเทสต์ 2019)
วันที่ 14, 16 และ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2562
ณ เทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล
สวัสดีค่ะสาวกยูโรวิชั่นและผู้อ่านทุกคน
กลับมาพบกับกระทู้ Eurovision Magazine กันอีกครั้งนะคะ หลังจากไม่เจอกันมา 10 วัน มีข่าวคราวมากมาย
และถ้านับจากนี้ เหลือเวลา 6 เดือน กับอีก 20 วันโดยประมาณ ก็จะได้รู้ว่าแชมป์ปีหน้าและเจ้าภาพปี 2020 จะเป็นประเทศอะไร
แต่กว่าจะถึงตอนนั้น เรามาอัพเดทข่าวคราวในรอบหลายวันที่ผ่านมากัน ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่จะพูดถึงศิลปินและเพลงในยุโรปและออสเตรเลียที่นอกเหนือจากยูโรวิชั่น ซึ่งตรงกับเป้าหมายของยูโรวิชั่นในเรื่องวัฒนธรรมและผู้คน และเป็นการต่อยอดในการรู้จักวงการเพลงในโซนนี้ให้มากขึ้นด้วย
สามารถเข้าไปดูได้ในคอลัมน์ Euromusic ค่ะ นอกจากนี้ข่าวคราวของประเทศเจ้าภาพและข่าวอื่นๆในยูโรวิชั่นก็มีให้เสพเหมือนเดิมค่ะ
เริ่มต้นข่าวแรก ที่อิสราเอล ประเทศเจ้าภาพในปีหน้า ซึ่งเจ้าภาพอัพเดทความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพ มีดังนี้นะคะ
อิสราเอลเลือกสวนชาร์ล คอร์ สวนสาธารณะริมทะเลใจกลางเทลอาวีฟที่ใช้จัดงาน Pride ประจำปีของเมือง เป็นหมู่บ้านยูโรวิชั่นปีนี้ค่ะ ความพิเศษที่บ้านเขาจะเนรมิตนั้น ไม่ใช่แค่หมู่บ้านยูโรวิชั่นทั่วไปเหมือนปีที่ผ่านๆมา เพราะเจ้าภาพเล่นใหญ่จัดเวทีตามจำนวนประเทศที่เข้าร่วมแข่งปีหน้า เพื่อโชว์วัฒนธรรมจากแต่ละประเทศอีกด้วย ไม่ใช่แค่นั้น เจ้าภาพจะเลื่อนการจัดงาน Pride ที่จัดกันทุกปี จากเดือนมิถุนายนไปเป็นช่วงเดียวกันกับยูโรวิชั่น เพื่อเข้าบรรยากาศการเฉลิมฉลองความหลากหลายทางเพศแบบคูณสองอีกด้วย โดยไฮไลท์ของงานจะมีงาน White Nights ซึ่งเป็นปาร์ตี้ของเด็ดจากงาน Pride มาจัดในยูโรวิชั่นอีกด้วย
โดยเบื้องต้น เวป wiwibloggs ได้อ้างอิงจากข่าวช่อง 14 ในอิสราเอลว่าจะใช้งบประมาณ 1.2 ล้านยูโรสำหรับหมู่บ้านยูโรวิชั่น และ 500,000 ยูโร สำหรับงาน White Nights
มาดูที่ตั้งกัน คลาดเคลื่อนเล็กน้อยจาก กระทู้ที่เคยนำเสนอ อยู่เล็กน้อย จากเดิมเดาว่าแถวหาด แต่ยังเดาถูกว่าจะอยู่ริมทะเล ทีนี้รอดูที่ตั้งยูโรคลับและยูโรคาเฟ่ว่าจะไปตั้งที่ไหน
นอกจากเรื่องหมู่บ้านยูโรวิชั่นแล้ว เมื่อวันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา ช่อง 12 และ 13 ในบ้านเขาได้รายงานว่า เจ้าภาพได้เตรียมเรือครูซสุดอลังการจากอิตาลี (แต่ยังไม่บอกว่าเป็นเรือชื่ออะไร) เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาเที่ยวเทลอาวีฟในช่วงยูโรวิชั่น เพื่อแก้ปัญหาจำนวนโรงแรมในเมืองที่ไม่เพียงพอ และราคาที่พักที่สูงมากจนเกินไป โดยเรือดังกล่าวมีห้องพัก 500 ห้อง สามารถรองรับห้องละ 4 คน โดยราคาที่พัก 50 เหรียญสหรัฐซึ่งเป็นราคาสมเหตุสมผลมากๆ โดยอิงจาก wiwibloggs
จะว่าไป พื้นที่ตัวเมืองเทลอาวีฟจัดว่าเล็กนะ โรงแรมเลยมีไม่พอ ทั้งที่มีงาน Pride และเป็นเมืองท่องเที่ยวเสียด้วยซ้ำ แม้ว่าเมืองรอบนอกมีโรงแรมพอรองรับได้ แต่ก็อาจจะไม่สะดวกเท่าไหร่สำหรับผัมาเยือนเท่าไหร่นะ ต้องมาดูกันต่อไปว่าทางเจ้าภาพจะมีความเคลื่อนไหวในเรื่องนี้อย่างไร และจะสามารถแก้ปัญหาเรื่องที่พักได้จริงหรือไม่
นอกจากนี้นะคะ เวป wiwibloggs ได้อ้างอิงจากนสพ. Israel Hayom ว่าทางเจ้าภาพจะทำโปสการ์ดยูโรวิชั่นที่นอกเหนือจากที่เราคุ้นเคยแล้ว เจ้าภาพจะทำแบบพิเศษความยาว 5 นาทีที่รวมตัวแทนทุกประเทศแสดงร่วมกันด้วย ซึ่งรูปแบบของปีหน้า ตอนนี้ทางช่องกำลังรับสมัครไอเดียจากทางบ้านจนถึงวันที่ 28 ต.ค.นี้
ก็หวังว่าโปสการ์ดยูโรวิชั่นปีหน้าจะยังคงเมนเรื่องราวของตัวแทนแต่ละประเทศนะ ไม่ใช่ยัดเยียดเรื่องราวปรัมปราของชาวยิวเหมือนเมื่ออิสราเอลเป็นเจ้าภาพสองครั้งที่ผ่านมานะ
ทีนี้มาดูกันว่าเจ้าภาพจะสามารถทำได้ตามสมราคาคุยไหม