อยากดูภาพยนต์เรื่องนี้ตั้งแต่ได้ดูตัวอย่างครั้งแรกแล้ว เพราะอยากรู้ว่าหนังจะออกมายังไง ภาพก็สวย นักแสดงก็น่ารักน้อ ติ๊ก..ติ๊ก..ติ๊ก..รอวันหนังลงโรง
หลังจากเข้าโครงการฝากลูกไว้กับแม่เสร็จ ทำธุระแล้วก็บึ่นมาทันที..มาถึงก็ช้า..ยังมีหน้าไปยืนเลือกเซทป๊อบคอนอีก 555+
เข้าไปในโรงหนังนั่งลงปุ๊บ โลโก้ gdh ก็ขึ้นพอดี อดดูหนังตัวอย่างเลยน้อ แต่ข้อดีก็คืออิชั้นได้เริ่มดู "HomeStay" แบบหัวโล่งๆ
ในฉากแรก อิชั้นอุทานว่าเห*้ย ไป 3 ครั้ง คือแบบมันเฮ้ย!!! อย่างงี้ก็ได้เหรอ แล้วก็ตื่นเต้นๆๆ..ไปเรื่อยๆ แล้วก็เบาลง..จนหนังเริ่มเข้าสู่การเล่าเรื่อง ซึ่งดำเนินเรื่องหลักโดย "มิน" (น้องเจมส์) สามสิบห้านาทีต่อมา(แอบดูเวลา 555+) “พาย” น้องเณอปรางก็ปรากฎตัวขึ้น.. โอ้โห๋โลกโคตรสดใสอ่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้อยากบอกว่าจะได้เห็นศักยภาพน้องแบบเต็มๆ ไม่ใช่แค่ฟาดความสดใสนะเออ
นักแสดงทุกคนเล่นดีมากๆนะคะ เล่นดีมากๆจริงๆทุกคน(ย้ำชั้นอยากจะย้ำ) โดยเฉพาะน้องเจมส์ คือน้องเล่นได้ขนาดนี้เลยเหรอ!!! กลายเป็นหลงรักน้องไปซะแล้ว 555+ และพี่สู่ขวัญ คือไม่เคยชมผงานการแสดงของพี่มาก่อน..พี่เล่นได้ขนาดนี้เลยเหรอคะ(ขอประโยคนี้อีกรอบ) สำหรับบทผู้คุม คือได้ใจทุกท่าน..โผล่มาแต่ละทีคือโอ๊ยยยยยยยยยย
ประทับใจฉากที่มินปีนไปห้องตัวเอง ชอบเสียงกับแสงลอดผ้าม่านฉากนั้น และก็ฉากแปลภาพ คือหัวใจเต้นตุ๊บๆๆตามเลยค่ะ
ชื่นชมความละเอียดละออ ความตั้งใจ ของผู้กำกับ และทีมงาน
บทคือดีมาก (สำหรับความรู้สึกอิฉันนะคะ) ดีคือทำให้รู้สึกเต็มใจเชื่อและคล้อยตาม ทั้งๆที่มันไม่เป็นความจริง มีบางฉากเดาได้นั้นก็ไม่สำคัญอ่ะนะ เพราะมันคงจะต้องเป็นอย่างงั้น
หนังทำให้อิฉันรู้สึก ว่าหลุดเข้าไปยืนลุ้นอยู่ข้างๆมินตลอดเรื่อง
ครึ่งเรื่องแรกคือ โคตรสนุก ฉากหัวเราะคือฮาจนน้ำตาเล็ดเลยอ่ะ แต่ครึ่งเรื่องหลังอิฉันนี่นั่งกอดกระป๋องป๊อปคอร์น ร้องไห้สะอื้นเลย (ขอบคุณตัวเองมากๆที่ซื้อป๊อปคอร์นเข้าไปด้วยไม่งั้นคงเคว้งคว้างขาดที่ยึดเหนียวอย่างแรง)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ความรู้สึกเหมือนตอนดูฝ่านรกไปกับพระเจ้า..มันไม่ค่อยสยองขวัญเท่าไร..แต่มันเป็นหนังดราม่าแฝงปมครอบครัวโดยแท้..
สำหรับปมของหนัง ในความคิดของอิชั้น เหมือนสะท้อนความในใจอิฉันไปด้วยซ้ำ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ในฐานะลูกซึ่งทะเลาะกับแม่บ่อยมาก อิชั้นเคยคิดและรู้สึกแบบมิน (วันที่ 22 ที่ผ่านมาก็พึ่งวันเกิด..ตอนดูนี่อินหนักมาก)
และในฐานะแม่ ฉากที่แม่มินปลอกทุเรียน แล้วพูดว่า “ก็เพราะแม่นี่แหล่ะที่ทำให้มินเป็นแบบนี้” อินี่น้ำตาไหลเลยจ้า สงสารลูกเลย บอกกับตัวเองว่าจะไม่ใช้อารมณ์กับลูกอีกแล้ว.. แล้วฉากที่พาย ฟิวขาด เหตุเพราะโดน อิอาจารย์ชั่วลวนลาม แลกการติว คือสงสารน้องมากๆ คือคนมีลูกสาวปรี๊ดแตกแน่นอนฉากนี้ ซึ่งน้องเณอปรางทำได้มีมากๆเลยนะคะ คนอะไร สวย น่ารัก เรียนเก่ง แสดงเก่ง เง้ออออ^^.
และอิชั้นคิดว่าหนังคงจะสะท้อนความในใจของใครหลายๆคนเช่นกัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้"ชอบที่ผู้คุมพูดตอบท้ายว่า.. เราจะได้เจอกันอีกสิ อย่าลืม..ว่านี่แค่โฮมสเตย์..โห๋!!! เสียงระฆังดังแม๊งงงงขึ้นมาเลย..นึกถึงคำพระที่ว่า ร่างกายไม่ใช่ของเรา..เราแค่ยืมมาใช้ชั่วคราวเท่านั้น ผ้คุมอ่ะ..มาอย่างโหด..จบโคตรรอบอุ่น..ฮื้อออออออ
ดูจบก็ถอนหายใจเบาๆ และตะหนักได้ว่า ชีวิตมันคือความไม่แน่นอน..ตอนที่ยังอยู่ด้วยกันมีลมหายใจเหมือนกัน..สัมผัสจับต้องกันได้..
ก็จงดูแลกันและรักกันซะ..เพราะถ้าตายจากกันแล้ว..ทุกอย่างจะคืนสู่ความว่างเปล่า ร่ำร้องเรียกคืนยังไงก็ไม่มีทางได้(แต่พระเอกโชคดีมากๆนะเออ..ที่ได้รางวัลเป็นโอกาสครั้งที่สอง) และอีกเรื่องเลยที่ถูกไม่ค่อยเด่นนักแต่มันตรงใจอิชั้นเลย มินมองเห็นทุกคนทำร้ายเค้า จนเค้าต้องจบชีวิตลง แต่เค้ากลับมองไม่เห็นลี้ ที่ไม่เคยทำร้ายและคอยเป็นเพื่อนที่ดีมาโดยตลอด โลกจะมืดมิดหรือสว่างสดใสอยู่ที่ใจเรามอง ปัญหาจะเล็กจะใหญ่อยู่ที่ใจเรามอง อยู่ที่ว่าเราหยิบสิ่งไหนมาใส่ในใจ
"
ดูจบแล้วมันอิ่ม^^
มั๊นสุดดดด(โปรดอ่านสำเนียงอิสานเพื่อความคักใจเด้อจ้า^^)
ขอบคุณ gdh มากๆนะคะ ที่สร้างหนังเรื่องนี้ขึ้นมา^^
นี่เหมือนเขียน อวย..ก็อวยแหล่ะ ยอมรับ 555+ เป็นหนังที่ควรดู และมาดูกันทั้งครอบครัวก็จะดีค่ะ
เป็นอีกเรื่องที่อิฉันจะซื้อ Box Set เก็บไว้ให้ลูกดู^^
ขอบคุณมากๆ ที่อ่านมาถึงตรงนี้นะคะ เป็นการเล่าเรื่องการไปดูหนังครั้งแรก ทุกสิ่งทุกอย่างไม่มีหลักเกณฑ์อะไร เขียนขึ้นมาจากความรู้สึกล้วนๆ ผิดพลาดประการขออภัยมา ณ.ที่นี้ จ้าาาาา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ปล.1 เหมือนมินจะได้เคลียปมกับทุกคนยกเว้นพ่อ..ในส่วนของพ่อนั้นทำไมต้องลาออกจากอาจารย์มาทำวิตามินขาย แล้วก็เหมือนจะไม่เคลียความคิดความรู้สึกอยู่คนเดียว หนังต้องการจะสื่ออะไรไหม..หรือก็แค่ตัวละครที่เป็นแบบนี้..อันนี้แอบบติดใจเบาๆนิสนึงค่ะ
ปล.2 เหมือนมี 2 ฉากที่มีในตัวอย่าง แต่ไม่มีในหนังอ่ะ ฉากที่มินใส่เสื้อลายวันลอยกระทงกระโดลงสระ คือมันไม่มีหรืออิชั้นเบลอวูบหายไป ไม่แน่ใจ อันนี้แค่อยากรู้เฉยๆค่ะ 555+
ความรู้สีกหลังดู " HomeStay" มีความสปอยนะเออ ไม่ชอบสปอยโปรดหลีกเลี่ยงจ้า
หลังจากเข้าโครงการฝากลูกไว้กับแม่เสร็จ ทำธุระแล้วก็บึ่นมาทันที..มาถึงก็ช้า..ยังมีหน้าไปยืนเลือกเซทป๊อบคอนอีก 555+
เข้าไปในโรงหนังนั่งลงปุ๊บ โลโก้ gdh ก็ขึ้นพอดี อดดูหนังตัวอย่างเลยน้อ แต่ข้อดีก็คืออิชั้นได้เริ่มดู "HomeStay" แบบหัวโล่งๆ
ในฉากแรก อิชั้นอุทานว่าเห*้ย ไป 3 ครั้ง คือแบบมันเฮ้ย!!! อย่างงี้ก็ได้เหรอ แล้วก็ตื่นเต้นๆๆ..ไปเรื่อยๆ แล้วก็เบาลง..จนหนังเริ่มเข้าสู่การเล่าเรื่อง ซึ่งดำเนินเรื่องหลักโดย "มิน" (น้องเจมส์) สามสิบห้านาทีต่อมา(แอบดูเวลา 555+) “พาย” น้องเณอปรางก็ปรากฎตัวขึ้น.. โอ้โห๋โลกโคตรสดใสอ่ะ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
นักแสดงทุกคนเล่นดีมากๆนะคะ เล่นดีมากๆจริงๆทุกคน(ย้ำชั้นอยากจะย้ำ) โดยเฉพาะน้องเจมส์ คือน้องเล่นได้ขนาดนี้เลยเหรอ!!! กลายเป็นหลงรักน้องไปซะแล้ว 555+ และพี่สู่ขวัญ คือไม่เคยชมผงานการแสดงของพี่มาก่อน..พี่เล่นได้ขนาดนี้เลยเหรอคะ(ขอประโยคนี้อีกรอบ) สำหรับบทผู้คุม คือได้ใจทุกท่าน..โผล่มาแต่ละทีคือโอ๊ยยยยยยยยยย
ประทับใจฉากที่มินปีนไปห้องตัวเอง ชอบเสียงกับแสงลอดผ้าม่านฉากนั้น และก็ฉากแปลภาพ คือหัวใจเต้นตุ๊บๆๆตามเลยค่ะ
ชื่นชมความละเอียดละออ ความตั้งใจ ของผู้กำกับ และทีมงาน
บทคือดีมาก (สำหรับความรู้สึกอิฉันนะคะ) ดีคือทำให้รู้สึกเต็มใจเชื่อและคล้อยตาม ทั้งๆที่มันไม่เป็นความจริง มีบางฉากเดาได้นั้นก็ไม่สำคัญอ่ะนะ เพราะมันคงจะต้องเป็นอย่างงั้น
หนังทำให้อิฉันรู้สึก ว่าหลุดเข้าไปยืนลุ้นอยู่ข้างๆมินตลอดเรื่อง
ครึ่งเรื่องแรกคือ โคตรสนุก ฉากหัวเราะคือฮาจนน้ำตาเล็ดเลยอ่ะ แต่ครึ่งเรื่องหลังอิฉันนี่นั่งกอดกระป๋องป๊อปคอร์น ร้องไห้สะอื้นเลย (ขอบคุณตัวเองมากๆที่ซื้อป๊อปคอร์นเข้าไปด้วยไม่งั้นคงเคว้งคว้างขาดที่ยึดเหนียวอย่างแรง)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สำหรับปมของหนัง ในความคิดของอิชั้น เหมือนสะท้อนความในใจอิฉันไปด้วยซ้ำ[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
และอิชั้นคิดว่าหนังคงจะสะท้อนความในใจของใครหลายๆคนเช่นกัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
"
ดูจบแล้วมันอิ่ม^^
มั๊นสุดดดด(โปรดอ่านสำเนียงอิสานเพื่อความคักใจเด้อจ้า^^)
ขอบคุณ gdh มากๆนะคะ ที่สร้างหนังเรื่องนี้ขึ้นมา^^
นี่เหมือนเขียน อวย..ก็อวยแหล่ะ ยอมรับ 555+ เป็นหนังที่ควรดู และมาดูกันทั้งครอบครัวก็จะดีค่ะ
เป็นอีกเรื่องที่อิฉันจะซื้อ Box Set เก็บไว้ให้ลูกดู^^
ขอบคุณมากๆ ที่อ่านมาถึงตรงนี้นะคะ เป็นการเล่าเรื่องการไปดูหนังครั้งแรก ทุกสิ่งทุกอย่างไม่มีหลักเกณฑ์อะไร เขียนขึ้นมาจากความรู้สึกล้วนๆ ผิดพลาดประการขออภัยมา ณ.ที่นี้ จ้าาาาา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้