**สำหรับใครที่ไม่อยากเสียเวลาอ่านรีวิวยาวๆ ลองเข้าไปดูวีดิโอในยูทุปที่ผมรีวิวได้นะครับ
เชื่อว่าหลายๆคนน่าจะพอเห็นโฆษณาจากทาง Dyson กันบ้างแล้ว
กับสินค้าใหม่สดๆที่เพิ่งวางขาย เมื่อกลางเดือนตุลาคม 2561 ที่ผ่านมานี้เองครับ
ซึ่งต้องบอกว่ากระแสตอบรับดีมาก ขายหมดเกลี้ยงทุกที ยอดจองก็ล้นสุดๆ
พอดีทางคุณแฟนผมมีโอกาสได้ไปจัดมาเครื่องสุดท้ายพอดี ผมเลยจะมาเล่าให้ฟัง
ว่ามันเจ๋งขนาดไหน โดยรวมเลยอยากจะบอกว่าถ้าไม่ติดเรื่องราคา คุณภาพมันก็สุดยอดมากๆ
ถือว่า Multifunction สุดๆครับ (8/10 คะแนน)
มาเริ่มเลยละกัน
ตัว Dyson Airwrap เป็นนวัตกรรมใหม่ที่ใช้เวลาหลายปีในการศึกษาคิดค้นหา Solution ให้กับ
สาวๆหรือคนที่มีปัญหากับการทำผมไม่เก่ง โดยเฉพาะคนที่ผมหยิกที่อยากจะผมตรง หรือคนที่ผมตรงแล้วอยากจะทำลอน
จะเห็นได้เลยนะครับว่ามันถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ต่างๆได้อย่างลงตัวในเครื่องเดียวจริงๆ
โดยที่มีขายจะมีทั้งหมด 3 ชุดให้เลือกกันครับ (แตกต่างกันที่รูปแบบหัวที่ให้เปลี่ยนได้)
1. Volume+Shape = มี 4 หัว / ราคา 16,900 บาท
ประกอบด้วย 1. หัวเป่าผมแห้ง 2. หัวทำผมลอนให้มีวอลุ่ม 3. หวีผมตรงแบบมีปลายกลม
4. หัวทำผมลอนเล็ก 30mm (1คู่ ผมฝั่งซ้ายและขวา)
2. Smooth+Control = มี 4 หัว / ราคา 16,900 บาท
ประกอบด้วย 1. หัวเป่าผมแห้ง 2. หวีผมตรงแบบไม่มีปลายกลม 3. หัวทำผมลอนเล็ก 30mm (1คู่ ผมฝั่งซ้ายและขวา)
4. หัวทำผมลอนใหญ่ 40mm (1คู่ ผมฝั่งซ้ายและขวา)
3. Complete = มี 6 หัว ครบทุกหัว / ราคา 17,900 บาท
* ชุดที่ 1 กับ 2 จะแตกต่างกันที่ 2 ชิ้น คือ 1. หัวหวี มีแบบเม็ดที่ปลายหวี(ชุด1มี) เพื่อรักษาสภาพผมและหนังศีรษะ ซึ่งถือว่าดีกว่าแบบที่2ที่ไม่มีปลายกลมครับ
ส่วนแบบที่ 2 จะดีกว่าแบบที่ 1 ตรงที่สามารถเลือกทำได้ทั้งผมลอนใหญ่และเล็ก ซึ่งแบบที่(1) ทำได้แค่แบบเล็กอย่างเดียว
ข้อแตกต่างที่โดดเด่นของหัวไดสันที่ไว้ทำลอนคือ มันเป็นระบบออโต้นะครับ เมื่อนำผมไว้ตรงเครื่อง เครื่องจะใช้แรงลมดูดผมทำให้เกิดลอนทันที
โดยที่สาวๆอาจจะลืมวิธีเก่าๆที่ต้องใช้มือบิดเองจนเมื่อยหรืองงทิศทาง
เพราะเขาก็ทำมาเพื่อผมทั้งด้านซ้ายและขวา (หัวนี้จะมาเป็นคู่ มีทั้งสำหรับทำผมข้างซ้ายและขวา)
คิดว่าน่าจะตอบโจทย์สาวๆที่ชอบไปทำผมที่ร้าน สามารถทำเองที่บ้านง่ายๆได้แล้ว
หากพูดถึงคุณภาพจริงๆแล้วที่มองว่าถ้าจะซื้อก็ควรซื้อแบบ3 ที่เป็น complete ไปเลยคือครบทุกหัว ราคาแพงเพิ่มขึ้นมาแค่พันเดียว
แต่ถ้าไม่อยากได้กล่องใหญ่เกินไป ก็ควรจะเลือกแบบที่1มากกว่า
เพราะแบบที่สองจากที่ไปลองมา ลอนใหญ่ค่อนข้างใช้ยาก ไม่สามารถจับผมเยอะๆแล้วทำลอนได้ครับ (มันไม่ได้ดูดแรงจัดคงอันตรายไป)และหวีตรงก็ไม่มีตรงปลายกลมที่ช่วยรักษาสภาพผมและหนังศีรษะ (มองว่าทำให้ผมตรงแบบไม่ลีบอีกด้วยดูมีวอลุ่ม)
ในส่วนของหัวไดร์เผ่าผมแห้งมองว่าจะเบากว่าตัว Dyson Supersonic ตัวก่อนที่เน้นทำมาเพื่อเป่าผมและจัดทรง
เพราะตัวนี้มีความแรงแค่ 1300 watt เท่านั้น ส่วนตัวไดร์รุ่นก่อนจะเป็น 1600 watt
และรุ่นใหม่นี้มีแค่หัวแบบเดียวเป่าผมแห้ง
จากการลองใช้ก็ถือว่าความแรงก็ยังทำได้ดีอยู่ ไม่ค่อยต่างจากตัวก่อนเท่าไหร่ถือว่าโอเคเลย
แต่ที่ไม่ดีคือหัวที่มีรูเล็กทำให้แรงลมเน้นเฉพาะจุด ทำให้การเซทจัดทรงทำได้ยากกว่าตัวก่อนที่มีหัวแบบใหญ่กว่า (แล้วแต่คนชอบ)
ที่ชอบที่สุดคือตัวหวีผมตรง อยากจะบอกว่ามันเวิร์คมากจริงๆ อยากผมเองที่แฟนให้ลองใช้
สภาพหัวผมเป็นคนผมหนา หยักศก ปกติจึงต้องใช้ไดร์ที่แรงหน่อย และมำให้ผมตรงค่อนข้างยากเซทผมตามต้องการได้ยาก
การที่ลองใช้หวีผมตรง ทำให้ผมดูดีขึ้นไม่รก จัดทรงง่าย และหัวไม่ลีบเหมือนการใช้ตัวหนีบผมด้วย
สุดยอดไปเลย แฟนผมก็ค่อนข้างจะปลื้มมากๆไม่ต้องมาหนีบผมให้ผมเสียและขาดอีกต่อไป
เพราะไดสันเขาก็ยังคงรักษา Concept เดิมของเขาคือการรักษาสภาพผมหลังการใช้งานไม่ให้ผมถูกลายด้วยความร้อน
จึงไม่มีปัญหาผมขาด ผมเสีย หรือร้อนหนังศีรษะเลย
ดังนั้นโดยสรุปมองว่างมันเจ๋งมากๆถือว่าถ้าใครกำลังจะอยากมีไดสันตัวแรก
ก็แนะนำให้ซื้อตัว Dyson Airwrap ไปเลยทีเดียว เจ็บแต่จบครับ
แต่ด้วยราคาถ้าถามว่าคุ้มค่าไหมก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคนละว่าได้ใช้งานมันครบทุกแบบหรือเปล่าหรือใช้บ่อยแค่ไหนเนอะ
ถ้าใช้แค่เป่าผมก็อย่าซื้อเลยไม่คุ้มหรอก
แต่ถ้าเป็นสาวๆที่รักการทำผมแล้วละก็ มองว่าความคุ้มค่าค่อนข้างดีเลยทีเดียวไม่งั้นไม่ขายหมดภายในวันแรกหรอก
ส่วนสุดท้ายคือ มองว่าคุณผู้ชายก็ใช้ได้นะครับถึงแม้จะผมไม่ยาวมากเท่าสาวๆก็ตาม
จากที่ลองคือเวิร์คทั้งหัวเป่าผมแห้ง หัวหวีผมตรง ด้วย
(แต่หัวทำผมลอนอาจจะเวิร์คสำหรับหนุ่มที่ผมยาวหน่อยหรืออยากทำผมหยิก แบบโอปป้าให้ดูหยักศก ก็ทำได้ครับ-
แต่อาจจะใช้ได้เฉพาะแบบหัวลอนเล็ก 30 mm เพราะ 40 mm จะใหญ่ไปเกินกว่าผมคุณผู้ชาย)
สุดท้ายนี้ก็หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชนทสำหรับทุกคนนะครับที่เข้ามาอ่าน อย่างที่บอกตอนแรก
ถ้าอยากจะเข้าใจมากขึ้นเห็นภาพก็สามารถเข้าไปรับชมคลิปที่ผมรีวิวให้ดูได้เลย
หากมีข้อสงสัยสอบถามก็ลองคอมเม้นท์มาคุยกันนะครับผม ^^
[CR] รีวิว Dyson Airwrap (New Oct 2018) - แกะกล่องเครื่องทำผมขั้นเทพ (ผู้ชายก็ใช้ได้!?)
เชื่อว่าหลายๆคนน่าจะพอเห็นโฆษณาจากทาง Dyson กันบ้างแล้ว
กับสินค้าใหม่สดๆที่เพิ่งวางขาย เมื่อกลางเดือนตุลาคม 2561 ที่ผ่านมานี้เองครับ
ซึ่งต้องบอกว่ากระแสตอบรับดีมาก ขายหมดเกลี้ยงทุกที ยอดจองก็ล้นสุดๆ
พอดีทางคุณแฟนผมมีโอกาสได้ไปจัดมาเครื่องสุดท้ายพอดี ผมเลยจะมาเล่าให้ฟัง
ว่ามันเจ๋งขนาดไหน โดยรวมเลยอยากจะบอกว่าถ้าไม่ติดเรื่องราคา คุณภาพมันก็สุดยอดมากๆ
ถือว่า Multifunction สุดๆครับ (8/10 คะแนน)
มาเริ่มเลยละกัน
ตัว Dyson Airwrap เป็นนวัตกรรมใหม่ที่ใช้เวลาหลายปีในการศึกษาคิดค้นหา Solution ให้กับ
สาวๆหรือคนที่มีปัญหากับการทำผมไม่เก่ง โดยเฉพาะคนที่ผมหยิกที่อยากจะผมตรง หรือคนที่ผมตรงแล้วอยากจะทำลอน
จะเห็นได้เลยนะครับว่ามันถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ต่างๆได้อย่างลงตัวในเครื่องเดียวจริงๆ
โดยที่มีขายจะมีทั้งหมด 3 ชุดให้เลือกกันครับ (แตกต่างกันที่รูปแบบหัวที่ให้เปลี่ยนได้)
1. Volume+Shape = มี 4 หัว / ราคา 16,900 บาท
ประกอบด้วย 1. หัวเป่าผมแห้ง 2. หัวทำผมลอนให้มีวอลุ่ม 3. หวีผมตรงแบบมีปลายกลม
4. หัวทำผมลอนเล็ก 30mm (1คู่ ผมฝั่งซ้ายและขวา)
2. Smooth+Control = มี 4 หัว / ราคา 16,900 บาท
ประกอบด้วย 1. หัวเป่าผมแห้ง 2. หวีผมตรงแบบไม่มีปลายกลม 3. หัวทำผมลอนเล็ก 30mm (1คู่ ผมฝั่งซ้ายและขวา)
4. หัวทำผมลอนใหญ่ 40mm (1คู่ ผมฝั่งซ้ายและขวา)
3. Complete = มี 6 หัว ครบทุกหัว / ราคา 17,900 บาท
* ชุดที่ 1 กับ 2 จะแตกต่างกันที่ 2 ชิ้น คือ 1. หัวหวี มีแบบเม็ดที่ปลายหวี(ชุด1มี) เพื่อรักษาสภาพผมและหนังศีรษะ ซึ่งถือว่าดีกว่าแบบที่2ที่ไม่มีปลายกลมครับ
ส่วนแบบที่ 2 จะดีกว่าแบบที่ 1 ตรงที่สามารถเลือกทำได้ทั้งผมลอนใหญ่และเล็ก ซึ่งแบบที่(1) ทำได้แค่แบบเล็กอย่างเดียว
ข้อแตกต่างที่โดดเด่นของหัวไดสันที่ไว้ทำลอนคือ มันเป็นระบบออโต้นะครับ เมื่อนำผมไว้ตรงเครื่อง เครื่องจะใช้แรงลมดูดผมทำให้เกิดลอนทันที
โดยที่สาวๆอาจจะลืมวิธีเก่าๆที่ต้องใช้มือบิดเองจนเมื่อยหรืองงทิศทาง
เพราะเขาก็ทำมาเพื่อผมทั้งด้านซ้ายและขวา (หัวนี้จะมาเป็นคู่ มีทั้งสำหรับทำผมข้างซ้ายและขวา)
คิดว่าน่าจะตอบโจทย์สาวๆที่ชอบไปทำผมที่ร้าน สามารถทำเองที่บ้านง่ายๆได้แล้ว
หากพูดถึงคุณภาพจริงๆแล้วที่มองว่าถ้าจะซื้อก็ควรซื้อแบบ3 ที่เป็น complete ไปเลยคือครบทุกหัว ราคาแพงเพิ่มขึ้นมาแค่พันเดียว
แต่ถ้าไม่อยากได้กล่องใหญ่เกินไป ก็ควรจะเลือกแบบที่1มากกว่า
เพราะแบบที่สองจากที่ไปลองมา ลอนใหญ่ค่อนข้างใช้ยาก ไม่สามารถจับผมเยอะๆแล้วทำลอนได้ครับ (มันไม่ได้ดูดแรงจัดคงอันตรายไป)และหวีตรงก็ไม่มีตรงปลายกลมที่ช่วยรักษาสภาพผมและหนังศีรษะ (มองว่าทำให้ผมตรงแบบไม่ลีบอีกด้วยดูมีวอลุ่ม)
ในส่วนของหัวไดร์เผ่าผมแห้งมองว่าจะเบากว่าตัว Dyson Supersonic ตัวก่อนที่เน้นทำมาเพื่อเป่าผมและจัดทรง
เพราะตัวนี้มีความแรงแค่ 1300 watt เท่านั้น ส่วนตัวไดร์รุ่นก่อนจะเป็น 1600 watt
และรุ่นใหม่นี้มีแค่หัวแบบเดียวเป่าผมแห้ง
จากการลองใช้ก็ถือว่าความแรงก็ยังทำได้ดีอยู่ ไม่ค่อยต่างจากตัวก่อนเท่าไหร่ถือว่าโอเคเลย
แต่ที่ไม่ดีคือหัวที่มีรูเล็กทำให้แรงลมเน้นเฉพาะจุด ทำให้การเซทจัดทรงทำได้ยากกว่าตัวก่อนที่มีหัวแบบใหญ่กว่า (แล้วแต่คนชอบ)
ที่ชอบที่สุดคือตัวหวีผมตรง อยากจะบอกว่ามันเวิร์คมากจริงๆ อยากผมเองที่แฟนให้ลองใช้
สภาพหัวผมเป็นคนผมหนา หยักศก ปกติจึงต้องใช้ไดร์ที่แรงหน่อย และมำให้ผมตรงค่อนข้างยากเซทผมตามต้องการได้ยาก
การที่ลองใช้หวีผมตรง ทำให้ผมดูดีขึ้นไม่รก จัดทรงง่าย และหัวไม่ลีบเหมือนการใช้ตัวหนีบผมด้วย
สุดยอดไปเลย แฟนผมก็ค่อนข้างจะปลื้มมากๆไม่ต้องมาหนีบผมให้ผมเสียและขาดอีกต่อไป
เพราะไดสันเขาก็ยังคงรักษา Concept เดิมของเขาคือการรักษาสภาพผมหลังการใช้งานไม่ให้ผมถูกลายด้วยความร้อน
จึงไม่มีปัญหาผมขาด ผมเสีย หรือร้อนหนังศีรษะเลย
ดังนั้นโดยสรุปมองว่างมันเจ๋งมากๆถือว่าถ้าใครกำลังจะอยากมีไดสันตัวแรก
ก็แนะนำให้ซื้อตัว Dyson Airwrap ไปเลยทีเดียว เจ็บแต่จบครับ
แต่ด้วยราคาถ้าถามว่าคุ้มค่าไหมก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคนละว่าได้ใช้งานมันครบทุกแบบหรือเปล่าหรือใช้บ่อยแค่ไหนเนอะ
ถ้าใช้แค่เป่าผมก็อย่าซื้อเลยไม่คุ้มหรอก
แต่ถ้าเป็นสาวๆที่รักการทำผมแล้วละก็ มองว่าความคุ้มค่าค่อนข้างดีเลยทีเดียวไม่งั้นไม่ขายหมดภายในวันแรกหรอก
ส่วนสุดท้ายคือ มองว่าคุณผู้ชายก็ใช้ได้นะครับถึงแม้จะผมไม่ยาวมากเท่าสาวๆก็ตาม
จากที่ลองคือเวิร์คทั้งหัวเป่าผมแห้ง หัวหวีผมตรง ด้วย
(แต่หัวทำผมลอนอาจจะเวิร์คสำหรับหนุ่มที่ผมยาวหน่อยหรืออยากทำผมหยิก แบบโอปป้าให้ดูหยักศก ก็ทำได้ครับ-
แต่อาจจะใช้ได้เฉพาะแบบหัวลอนเล็ก 30 mm เพราะ 40 mm จะใหญ่ไปเกินกว่าผมคุณผู้ชาย)
สุดท้ายนี้ก็หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชนทสำหรับทุกคนนะครับที่เข้ามาอ่าน อย่างที่บอกตอนแรก
ถ้าอยากจะเข้าใจมากขึ้นเห็นภาพก็สามารถเข้าไปรับชมคลิปที่ผมรีวิวให้ดูได้เลย
หากมีข้อสงสัยสอบถามก็ลองคอมเม้นท์มาคุยกันนะครับผม ^^
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้