สวัสดีค่ะ กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของเรา อยากมาแชร์ที่เที่ยวอยุธยาฉบับมินิ 1วัน1คืน ชิลล์ๆ แบบพาพ่อแม่เที่ยวได้ไม่เหนื่อยมาก
เริ่มเลยนะคะ เราออกเดินทางจากกรุงเทพ มุ่งสู่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ใช้เวลา1ชั่วโมงกว่าๆ กระทู้อื่นๆอาจเริ่มต้นตอนเช้าแต่ฉบับชิลล์ๆสไตล์ผู้สูงวัยแบบเรา เริ่มเดินทางบ่ายไปถึงอยุธยาช่วงเย็น เช็คอินเข้าโรงแรมเลยจร้า โรงแรมที่เราเลือกพัก ชื่ออ่านยากนิดนึง ชื่อโรงแรม สิปปฺ พระนครศรีอยุธยา โรงแรมเล็กๆ เป็นกันเองที่จอดรถค่อนข้างน้อย จอดในตัวโรงแรมได้ไม่เกิน4คัน แต่สามารถจอดหน้าโรงแรมข้างถนนได้ จัดการเช็คอิน เข้าห้องเรียบร้อยแล้วอยากออกไปหาของทานเบาๆ กับ ต้องเข้า7หาของใช้ในห้องน้ำเพิ่มเติมด้วย โรงแรมมีแชมพู ครีมนวด ครีมอาบน้ำให้ (แต่เนื่องจาก4คนพ่อแม่ลูกๆ คิดว่า ต้องมีสักคนเอายาสีฟัน มาแหล่ะแต่!!!ไม่มีใครเอามาเลย) เลยสอบถามทางโรงแรมว่า แถวที่พักร้านอาหารใกล้ๆแบบไม่ต้องใช้รถรึเปล่า ทางโรงแรมแนะนำแถวๆสถานีรถไฟอยุธยา มีทั้งโลตัส 7-11 และร้านอาหาร มีบาร์ที่ฝรั่งชอบนั่งกันด้วย(อยากไปนั่งนะแต่มากับผู้ปกครองเลยอด) มีบริการรถสามล้อสามารถโทรเรียกมารับได้คิดค่าบริการ100บาท แต่หากให้พานำเที่ยวด้วยคิดชั่วโมงละ200บาท แต่เราคิดว่าแค่ไปหาของกินเบาๆ กับเดินทางแบบมีผู้สูงอายุด้วยสามล้อคงไม่สะดวกเท่าไร พอดีพี่สาวคิดขึ้นได้ว่าอยุธยาน่าจะมีบริการแกร๊บ เลยตัดสินใจเรียกแกร๊บแทน ค่าบริการจากโรงแรมไปสถานีรถไฟอยุธยา80บาท ถือว่าโอเคนั่งสบาย
ถึงอยุธยาแล้ว ขอสักรูปนะ
ทานข้าวอิ่ม ซื้อของส่วนตัวเรียบร้อยแล้ว หนังตาเริ่มหย่อน กลับที่พักขอปิดไฟนอนก่นนะคะ zzzzz (อ้าวยังไม่อะไรเลย นอนแล้ว)
เช้าวันต่อมา ตื่นเช้าจากเสียงแม่ปลุก "ลงไปกินข้าวได้แล้ว" ยังไม่อยากตื่นเลย เตียงนอนดูดวิญญาณมาก
ในส่วนของอาหารเช้าของโรงแรม ตอนเช็คอินโรงแรมจะมีให้เลือก3อย่าง มีข้าวต้ม ไข่คน และไข่กะทะ นอกจากอาหารหลักที่เราได้เลือกไว้ก่อนหน้าแล้ว ทางโรงแรมจะมีบาร์เล็กๆจัดวาง น้ำผลไม้ นมสด ขนมปัง ไมโล กาแฟ เสริมให้ด้วย
กินอิ่มแล้ว พร้อมสำหรับการพาชมที่พักแล้วค่ะ ในส่วนของโรงแรม สิปปฺ ดีไซน์ ทรงไทยประยุกต์
มีงานศิลปะตกแต่งทุกส่วนของโรงแรมเลย ไม่ว่าจะเป็นภาพจิตรกรรม ภาพพิมพ์ หรือไม้แกะสลัก
ทางโรงแรมมีบริการจักรยานให้ปั่นเล่นด้วยนะคะ (ตัวโรงแรมอยู่ไม่ไกลจากอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา หากฟิตๆหน่อยก็สามารถปั่นไปได้)
ส่วนตัวเราขอปั่นแค่แถวหน้าโรงแรมพอ ถือว่าได้ปั่นแล้วละกันเนาะ
ได้เวลา บอกลาโรงแรมเตรียมตัวไปไหว้ขอพรกันหน่อย มาอยุธยาต้องไปวัด!!!
วัดแรกที่เราไปกันนะคะ คือวัดมงคลบพิตร มีพระพุทธรูปขนาดใหญ่ภายในวิหาร ที่ได้รับการบรูณะใหม่ทั้งหมด
หากมองจากด้านในของตัววัด เราะจะเห็นวัดพระศรีสรรเพชญ์อยู่ข้างๆกันด้วย
วัดพระศรีสรรเพชญ มีพระเจดีย์ใหญ่ 3องค์ภายในวัด
ค่าเข้าชม คนไทย10บาท ชาวต่างชาติ 50บาท
เสร็จจากวัดมงคลบพิตร และ วัดพระศรีสรรเพชญ แล้วไปต่อกันอีกวันเลยนะคะ
วัดพระพนัญเชิงวรวิหาร มีพระพุทธไตรรัตนนายก พระพุทธรูปขนาดใหญ่ที่สุดในอยุธยา
ภายในด้านข้างวัดจะมีสถานที่กราบไหว้เจ้าแม่สร้อยดอกหมาก ตั้งอยู่ในวัดพนังเชิง ติดริมน้ำ ส่วนใหญ่คนมักนิยมไปขอเรื่องความรัก ขอลูก
ไหว้พระอิ่มบุญกันเต็มที่แล้ว แต่ท้องเริ่มหิวซะแล้ว มาอยุธยา อยากกินกุ้งเผาตัวใหญ่ๆ ไปร้านไหนดีน๊า เราเลือกร้านบ้านไม้ริมน้ำ
สิ่งที่จะมาสั่ง จะอะไรได้ก็ต้องกุ้งเผาแน่นอน มาอยุธยาไม่กินกุ้งเผา ไม่ผิด แต่อยากให้ลอง มันกุ้งตรงหัวมันๆราดน้ำจิ้มสามรสเปรี้ยวเผ็ด มันดีย์มากกกกก ตัวเนื้อกุ้งสดๆเนื้อหวานๆ พิมพ์ไปก็หิวไป
ส่วนอาหารอย่างอื่นก็รสชาติดี เน้นเมนูปลาเพราะมากับท่านสว.(สูงวัย) ต้มยำปลาม้า ผัดฉ่าปลาคัง
ก่อนออกจากร้าน หันไปเจอตัวอะไรหนิ๊ อ้วนกลมจัง สงสัยอยู่ร้านอาหารกินดีอยู่ดี น้องแพรี่ด๊อก ถือว่าเป็นมาสคอตก็ได้ เพราะคนรุมถ่ายรูปน้องกันเต็มเลย
กินคาวแล้ว ต้องกินหวานล้างปาก สถานีต่อไปของเราคือ Ayutthaya retreat ในส่วนของที่นี่จะเป็นทั้งรีสอร์ทและร้านอาหาร มีขนมและเครื่องดื่มบริการด้วย ทางไปร้านหากไปตามgoogle mapจะลุ้นๆหน่อยเพราะต้องเลียบคลองน้ำไปตามทางแคบๆ ต้องลุ้นไม่ให้เจอรถสวนมา ท่านสว.ของเราลุ้นมาก และก็คิดว่าจะมีร้านอยู่แถวนี้หรอ ขับรถเลียบคลองน้ำไปสักพักเจอป้ายแล้ว พร้อมยักษ์ตัวใหญ่2ตัวยืนต้อนรับอยู่
ถึงแล้ว ชู2นิ้วหน่อย
เข้ามาในตัวร้านแล้วโอ้วโหวววว อลังมากกกกกกกกก
เข้าไปตอนแรกจะเจอใต้ถุนบ้านก่อนประดับด้วยของเก่า มีเปียโนตัวใหญ่อยู่กลางใต้ถุนบ้าน
พอผ่านใต้ถุนเดินไปด้านหลังจะเจอบ่อบัวขนาดใหญ่ที่มีที่นั่งทานอาหาร ขนมหวาน มีหลายโซนให้เลือก เลือกกันไม่ถูกเลย
สั่งขนมกันก่อนค่อยไปถ่ายรูปเล่นละกัน ทางร้านจะมีขนมไทยวันเสาร์อาทิตย์ แต่พอดีเราไปวันธรรมดาเลยอด ได้กินแค่ขนมเค้ก กับกาแฟ และ นมอัญชันคาราเมลแทน ทางร้านมีอาหารด้วยนะคะ แต่พอดีเราไปกินมาแล้วเลยขอแค่ขนมละกัน
อ่าห์ ขนมหมดแล้ว ขอเดินชม ถ่ายรูปเล่นสักหน่อยละกัน
คือเค้าตกแต่งแบบดีมาก มีมุมให้ถ่ายรูป นั่งเล่นเยอะมาก ทำสะพานให้เดินไปอีกทางได้ มีเรือ มีมุมที่ทำคล้ายๆบ้านเก่าตกแต่งด้วยต้นไม้เยอะแยะที่นั่งก็หลากหลาย ถ้ามีบ้านแบบนี้คงมีความสุขน่าดูเลย
แต่ว่าได้เวลากลับซะแล้ว ไม่อยากกลับถึงกรุงเทพเย็น กลัวรถจะติด ขอหยุดความสโลว์ไลฟ์ ณ อยุธยาเพียงเท่านี้ก่อน หวังว่าหากใครได้มาอ่าน จะชื่นชอบ เอ๊ะ หรือ งงๆ เพราะเป็นกระทู้แรกของเราจริงๆ ถ้าผิดพลาดตรงไหน ขออภัยด้วยนะคะ
อยุธยา ชิลล์ๆ ฉบับพาคุณพ่อคุณแม่เที่ยว
เริ่มเลยนะคะ เราออกเดินทางจากกรุงเทพ มุ่งสู่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ใช้เวลา1ชั่วโมงกว่าๆ กระทู้อื่นๆอาจเริ่มต้นตอนเช้าแต่ฉบับชิลล์ๆสไตล์ผู้สูงวัยแบบเรา เริ่มเดินทางบ่ายไปถึงอยุธยาช่วงเย็น เช็คอินเข้าโรงแรมเลยจร้า โรงแรมที่เราเลือกพัก ชื่ออ่านยากนิดนึง ชื่อโรงแรม สิปปฺ พระนครศรีอยุธยา โรงแรมเล็กๆ เป็นกันเองที่จอดรถค่อนข้างน้อย จอดในตัวโรงแรมได้ไม่เกิน4คัน แต่สามารถจอดหน้าโรงแรมข้างถนนได้ จัดการเช็คอิน เข้าห้องเรียบร้อยแล้วอยากออกไปหาของทานเบาๆ กับ ต้องเข้า7หาของใช้ในห้องน้ำเพิ่มเติมด้วย โรงแรมมีแชมพู ครีมนวด ครีมอาบน้ำให้ (แต่เนื่องจาก4คนพ่อแม่ลูกๆ คิดว่า ต้องมีสักคนเอายาสีฟัน มาแหล่ะแต่!!!ไม่มีใครเอามาเลย) เลยสอบถามทางโรงแรมว่า แถวที่พักร้านอาหารใกล้ๆแบบไม่ต้องใช้รถรึเปล่า ทางโรงแรมแนะนำแถวๆสถานีรถไฟอยุธยา มีทั้งโลตัส 7-11 และร้านอาหาร มีบาร์ที่ฝรั่งชอบนั่งกันด้วย(อยากไปนั่งนะแต่มากับผู้ปกครองเลยอด) มีบริการรถสามล้อสามารถโทรเรียกมารับได้คิดค่าบริการ100บาท แต่หากให้พานำเที่ยวด้วยคิดชั่วโมงละ200บาท แต่เราคิดว่าแค่ไปหาของกินเบาๆ กับเดินทางแบบมีผู้สูงอายุด้วยสามล้อคงไม่สะดวกเท่าไร พอดีพี่สาวคิดขึ้นได้ว่าอยุธยาน่าจะมีบริการแกร๊บ เลยตัดสินใจเรียกแกร๊บแทน ค่าบริการจากโรงแรมไปสถานีรถไฟอยุธยา80บาท ถือว่าโอเคนั่งสบาย
ถึงอยุธยาแล้ว ขอสักรูปนะ
ทานข้าวอิ่ม ซื้อของส่วนตัวเรียบร้อยแล้ว หนังตาเริ่มหย่อน กลับที่พักขอปิดไฟนอนก่นนะคะ zzzzz (อ้าวยังไม่อะไรเลย นอนแล้ว)
เช้าวันต่อมา ตื่นเช้าจากเสียงแม่ปลุก "ลงไปกินข้าวได้แล้ว" ยังไม่อยากตื่นเลย เตียงนอนดูดวิญญาณมาก
ในส่วนของอาหารเช้าของโรงแรม ตอนเช็คอินโรงแรมจะมีให้เลือก3อย่าง มีข้าวต้ม ไข่คน และไข่กะทะ นอกจากอาหารหลักที่เราได้เลือกไว้ก่อนหน้าแล้ว ทางโรงแรมจะมีบาร์เล็กๆจัดวาง น้ำผลไม้ นมสด ขนมปัง ไมโล กาแฟ เสริมให้ด้วย
กินอิ่มแล้ว พร้อมสำหรับการพาชมที่พักแล้วค่ะ ในส่วนของโรงแรม สิปปฺ ดีไซน์ ทรงไทยประยุกต์
มีงานศิลปะตกแต่งทุกส่วนของโรงแรมเลย ไม่ว่าจะเป็นภาพจิตรกรรม ภาพพิมพ์ หรือไม้แกะสลักทางโรงแรมมีบริการจักรยานให้ปั่นเล่นด้วยนะคะ (ตัวโรงแรมอยู่ไม่ไกลจากอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา หากฟิตๆหน่อยก็สามารถปั่นไปได้)
ส่วนตัวเราขอปั่นแค่แถวหน้าโรงแรมพอ ถือว่าได้ปั่นแล้วละกันเนาะ
ได้เวลา บอกลาโรงแรมเตรียมตัวไปไหว้ขอพรกันหน่อย มาอยุธยาต้องไปวัด!!!
วัดแรกที่เราไปกันนะคะ คือวัดมงคลบพิตร มีพระพุทธรูปขนาดใหญ่ภายในวิหาร ที่ได้รับการบรูณะใหม่ทั้งหมด
หากมองจากด้านในของตัววัด เราะจะเห็นวัดพระศรีสรรเพชญ์อยู่ข้างๆกันด้วย
วัดพระศรีสรรเพชญ มีพระเจดีย์ใหญ่ 3องค์ภายในวัด
ค่าเข้าชม คนไทย10บาท ชาวต่างชาติ 50บาท
เสร็จจากวัดมงคลบพิตร และ วัดพระศรีสรรเพชญ แล้วไปต่อกันอีกวันเลยนะคะ
วัดพระพนัญเชิงวรวิหาร มีพระพุทธไตรรัตนนายก พระพุทธรูปขนาดใหญ่ที่สุดในอยุธยา
ภายในด้านข้างวัดจะมีสถานที่กราบไหว้เจ้าแม่สร้อยดอกหมาก ตั้งอยู่ในวัดพนังเชิง ติดริมน้ำ ส่วนใหญ่คนมักนิยมไปขอเรื่องความรัก ขอลูก ไหว้พระอิ่มบุญกันเต็มที่แล้ว แต่ท้องเริ่มหิวซะแล้ว มาอยุธยา อยากกินกุ้งเผาตัวใหญ่ๆ ไปร้านไหนดีน๊า เราเลือกร้านบ้านไม้ริมน้ำ
สิ่งที่จะมาสั่ง จะอะไรได้ก็ต้องกุ้งเผาแน่นอน มาอยุธยาไม่กินกุ้งเผา ไม่ผิด แต่อยากให้ลอง มันกุ้งตรงหัวมันๆราดน้ำจิ้มสามรสเปรี้ยวเผ็ด มันดีย์มากกกกก ตัวเนื้อกุ้งสดๆเนื้อหวานๆ พิมพ์ไปก็หิวไป
ส่วนอาหารอย่างอื่นก็รสชาติดี เน้นเมนูปลาเพราะมากับท่านสว.(สูงวัย) ต้มยำปลาม้า ผัดฉ่าปลาคัง
ก่อนออกจากร้าน หันไปเจอตัวอะไรหนิ๊ อ้วนกลมจัง สงสัยอยู่ร้านอาหารกินดีอยู่ดี น้องแพรี่ด๊อก ถือว่าเป็นมาสคอตก็ได้ เพราะคนรุมถ่ายรูปน้องกันเต็มเลยกินคาวแล้ว ต้องกินหวานล้างปาก สถานีต่อไปของเราคือ Ayutthaya retreat ในส่วนของที่นี่จะเป็นทั้งรีสอร์ทและร้านอาหาร มีขนมและเครื่องดื่มบริการด้วย ทางไปร้านหากไปตามgoogle mapจะลุ้นๆหน่อยเพราะต้องเลียบคลองน้ำไปตามทางแคบๆ ต้องลุ้นไม่ให้เจอรถสวนมา ท่านสว.ของเราลุ้นมาก และก็คิดว่าจะมีร้านอยู่แถวนี้หรอ ขับรถเลียบคลองน้ำไปสักพักเจอป้ายแล้ว พร้อมยักษ์ตัวใหญ่2ตัวยืนต้อนรับอยู่
ถึงแล้ว ชู2นิ้วหน่อย
เข้ามาในตัวร้านแล้วโอ้วโหวววว อลังมากกกกกกกกก
เข้าไปตอนแรกจะเจอใต้ถุนบ้านก่อนประดับด้วยของเก่า มีเปียโนตัวใหญ่อยู่กลางใต้ถุนบ้าน
พอผ่านใต้ถุนเดินไปด้านหลังจะเจอบ่อบัวขนาดใหญ่ที่มีที่นั่งทานอาหาร ขนมหวาน มีหลายโซนให้เลือก เลือกกันไม่ถูกเลย
สั่งขนมกันก่อนค่อยไปถ่ายรูปเล่นละกัน ทางร้านจะมีขนมไทยวันเสาร์อาทิตย์ แต่พอดีเราไปวันธรรมดาเลยอด ได้กินแค่ขนมเค้ก กับกาแฟ และ นมอัญชันคาราเมลแทน ทางร้านมีอาหารด้วยนะคะ แต่พอดีเราไปกินมาแล้วเลยขอแค่ขนมละกัน
อ่าห์ ขนมหมดแล้ว ขอเดินชม ถ่ายรูปเล่นสักหน่อยละกัน
คือเค้าตกแต่งแบบดีมาก มีมุมให้ถ่ายรูป นั่งเล่นเยอะมาก ทำสะพานให้เดินไปอีกทางได้ มีเรือ มีมุมที่ทำคล้ายๆบ้านเก่าตกแต่งด้วยต้นไม้เยอะแยะที่นั่งก็หลากหลาย ถ้ามีบ้านแบบนี้คงมีความสุขน่าดูเลย
แต่ว่าได้เวลากลับซะแล้ว ไม่อยากกลับถึงกรุงเทพเย็น กลัวรถจะติด ขอหยุดความสโลว์ไลฟ์ ณ อยุธยาเพียงเท่านี้ก่อน หวังว่าหากใครได้มาอ่าน จะชื่นชอบ เอ๊ะ หรือ งงๆ เพราะเป็นกระทู้แรกของเราจริงๆ ถ้าผิดพลาดตรงไหน ขออภัยด้วยนะคะ