เปิดขุมทรัพย์ เจ้าของทีมพรีเมียร์ลีก 20 ทีม ใที่สุด

ทุกวันนี้เหล่ามหาเศรษฐีหลายคนหันมาซื้อทีมฟุตบอลกันเป็นว่าเล่น บางคนทำไปเพราะรักฟุตบอลจริงๆ ส่วนบางคนเห็นว่าเป็นธุรกิจที่น่าสนุกธุรกิจหนึ่ง ซึ่งการจะซื้อทีมฟุตบอลได้นั้น มันก็จำเป็นต้องใช้เงินเยอะพอตัว


ยกตัวอย่างเช่น โมฮัมหมัด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งประเทศซาอุดีอาระเบีย ที่ตกเป็นข่าวว่าสนใจซื่อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยพระองค์มีทรัพย์สินส่วนพระองค์รวมแล้วสูงถึง 2.3 พันล้านปอนด์ (ประมาณ 103,500 ล้านบาท) เลยทีเดียว ขณะที่ตระกูลของพระองค์ก็มีทรัพย์สินรวมแล้ว 850 พันล้านปอนด์ (ประมาณ 38,250 ล้านล้านบาท) ด้วยกัน

ทั้งนี้ ถ้าเกิดมกุฎราชกุมารแห่งประเทศซาอุดีอาระเบียทรงเทคโอเวอร์ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้แล้วล่ะก็ พระองค์ก็จะเป็นหนึ่งในเจ้าของทีมที่รวยที่สุดทันที แต่หลายคนอาจจะสงสัยว่าในบรรดา 20 ทีมของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำฤดูกาลนี้นั้น เจ้าของทีมแต่ละทีมร่ำรวยแค่ไหนกันบ้าง ? ซึ่งวันนี้เราก็มีคำตอบสำหรับเรื่องนั้น และจะไล่จากคนที่มีทรัพย์สินน้อยที่สุดไปจนถึงคนที่รวยที่สุดให้ด้วย

20. ไมค์ การ์ลิค (เบิร์นลี่ย์) - เจ้าของทีม เบิร์นลี่ย์ มีฐานะเป็นผู้ก่อตั้งและประธานบริหาร ไมเคิ่ล เบลี่ย์ แอสโซซิเอตส์ บริษัทด้านการจัดการและการให้คำปรึกษาในธุรกิจใหญ่ๆ โดยเขาได้เป็นเจ้าของทีมจากการถือหุ้นร่วมกับ จอห์น บานาสคีวิคซ์ และมีมูลค่าทรัพย์สินรวมที่ 61 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,745 ล้านบาท)

19. มักซิม เดมิน (บอร์นมัธ) - นักธุรกิจชาวรัสเซียรายนี้ได้เป็นเจ้าของร่วมของ บอร์นมัธ เมื่อปี 2011 ส่วนตอนนี้เขาถือหุ้นส่วนใหญ่ในทีมไปเรียบร้อยแล้ว โดยเงินจากธุรกิจด้านปิโตรเคมีและด้านอื่นๆ ทำให้ตอนนี้เขามีทรัพย์สมบัติรวมแล้วแตะหลัก 100 ล้านปอนด์ (ประมาณ 4,500 ล้านบาท)


มักซิม เดมิน เจ้าของทีมบอร์นมัธ

18. จิโน่ ปอซโซ่ (วัตฟอร์ด) - ชายชาวอิตาเลียนผู้มาจากตระกูลนักธุรกิจขนานแท้ โดยเขายังเป็นคนที่บ้าฟุตบอลพอตัว เพราะว่ากันว่าเขาเกี่ยวข้องกับการบริหารทีมแบบวันต่อวันเลย ส่วนทรัพย์สมบัติของเขาก็ไม่ได้มากมายอะไร แค่ 120 ล้านปอนด์ (ประมาณ 5,400 ล้านบาท) เท่านั้นเอง

17. ดีน ฮอยล์ (ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์) - ด้วยความที่เป็นผู้ก่อตั้ง การ์ด แฟ็คตอรี่ บริษัททำบัตรอวยพรและของที่ระลึกในสหราชอาณาจักร ทำให้ ฮอยล์ มีเงินมากพอที่จะซื้อ ฮัดเดอร์สฟิลด์ โดยเขาเป็นแฟนบอลของทีมมานานแล้ว และกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของทีมในปี 2009 ส่วนทรัพย์สินโดยรวมของเขาตอนนี้อยู่ที่ 290 ล้านปอนด์ (ประมาณ 13,050 ล้านบาท)

16. วินเซนต์ ตัน (คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้) - นักธุรกิจและนักลงทุนชาวมาเลเซียผู้นี้เข้ามาเทคโอเวอร์ทีมเมื่อปี 2010 และถึงแม้จะเคยผิดใจกับแฟนบอลของ "เดอะ บลูเบิร์ดส์" อยู่บ้าง แต่ตอนนี้เขาก็ยังไม่ได้ไปไหน โดยเขาเป็นประธานกรรมการและผู้บริหารของเบอร์จายา คอร์ปอเรชั่น เบอร์ฮาด อาณาจักรธุรกิจยักษ์ใหญ่ของ มาเลเซีย จนทำให้ตอนนี้เขามีทรัพย์สมบัติแตะหลัก 628 ล้านปอนด์ (ประมาณ 28,260 ล้านบาท)


วินเซนต์ ตัน นักธุรกิจมาเลย์ ยืนข้างหลังนีล วอร์น็อค

15. โทนี่ บลูม (ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน) - นอกจากจะเป็นนักลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และเป็นบิ๊กบอสของ ไบรท์ตันฯ แล้วนั้น บลูม ยังเป็นนักเล่นไพ่โป๊กเกอร์อาชีพอีกต่างหาก แถมเขายังมีชื่อเล่นว่า "ไอ้กิ้งก่า" ด้วย ทั้งนี้ ไม่ว่าเงินของเขาจะมาจากไหน แต่มันก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขามีหัวในด้านธุรกิจพอตัว เพราะเขามีทรัพย์สินรวมแล้ว 1 พันล้านปอนด์ (ประมาณ 45,000 ล้านบาท) เลยทีเดียว

14. เกา จีเฉิง (เซาธ์แฮมป์ตัน) - มหาเศรษฐีชาวจีน ประสบความสำเร็จในการเทคโอเวอร์เมื่อช่วงเดือนสิงหาคม ปีก่อน โดยเขาได้หุ้นไปครองถึง 80 เปอร์เซ็นต์ โดยธุรกิจหลักของเขาคือ แลนเดอร์ สปอร์ตส์ บริษัทรับก่อสร้างสถานที่ที่เกี่ยวกับแวดวงกีฬา และมันก็ไม่น่าแปลกเลยที่เขาจะมีเงินมากพอในการฮุบ "นักบุญ" เพราะเขามีทรัพย์สินสูงถึง 1.1 พันล้านปอนด์ (ประมาณ 49,500 ล้านบาท)

13. ฟาฮัด โมชิริ (เอฟเวอร์ตัน) - นักธุรกิจชาวอิหร่านมีหุ้นทั้งในบริษัทเกี่ยวกับเหล็กและบริษัทพลังงานทั้งในสหราชอาณาจักรและ รัสเซีย ซึ่งนั่นก็ทำให้เขามีทรัพย์สมบัติรวมแล้วราว 1.3 พันล้านปอนด์ (ประมาณ 58,500 ล้านบาท) ด้วยกัน

12. เดวิด ซุลลิแวน และ เดวิด โกลด์ (เวสต์แฮม ยูไนเต็ด) - ซุลลิแวน กับ โกลด์ ถือเป็นนักธุรกิจที่เดินทางมาไกลมากคู่หนึ่ง เพราะธุรกิจแรกของพวกเขาคือการขายรูปโป๊แบบที่ไม่วาบหวิวนักให้กับนิตยสารต่างๆ ก่อนจะขยายเป็นร้านขายของสำหรับผู้ใหญ่ อย่างเช่นพวกเซ็กซ์ทอย หรือนิตยสารสุดสยิวกิ้ว เป็นต้น โดยหลังจากนั้นพวกเขาก็ไปทำธุรกิจอื่นบ้าง ส่วนตอนนี้ทั้งคู่มีทรัพย์สินรวมกันราว 1.5 พันล้านปอนด์ (ประมาณ 67,500 ล้านบาท)

สองเจ้าของทีมขุนค้อน

11. จอห์น ดับเบิ้ลยู เฮนรี่ (ลิเวอร์พูล) - นักธุรกิจชาวอเมริกันเข้ามาเทคโอเวอร์ ลิเวอร์พูล ภายใต้ชื่อบริษัท เฟนเวย์ สปอร์ตส์ กรุ๊ป เมื่อช่วงเดือนตุลาคม ปี 2010 โดยที่ผ่านมาเขาก็ช่วยออกทุนเสริมทัพให้ทีมเยอะพอตัว และเงินจำนวนดังกล่าวมันก็ไม่ได้ทำให้ขนหน้าแข้งของเขาร่วงมากนัก เพราะเจ้าตัวมีทรัพย์สินรวมแล้ว 1.99 พันล้านปอนด์ (ประมาณ 89,550 ล้านบาท) ซึ่งตอนนี้มันก็ดูจะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าพอตัว เพราะ "หงส์แดง" กำลังทำผลงานได้ดีสุดๆ

10. ไมค์ แอชลี่ย์ (นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด) - แฟนบอลหลายคนตราหน้า แอชลี่ย์ ว่าเป็นเจ้าของทีมสุดขี้ตืดที่ไม่ให้งบการเสริมทัพกับ "สาลิกาดง" มากเท่าที่ควร ซึ่งมันก็ไม่น่าแปลกใจเลยที่พวกเขาจะคิดแบบนั้น เพราะ แอชลี่ย์ เป็นประธานบริหารของ สปอร์ตส์ ไดเร็คต์ บริษัทเกี่ยวกับร้านขายอุปกรณ์กีฬาที่ใหญ่ที่สุดของสหราชอาณาจักร แถมยังมีทรัพย์สินรวมแล้ว 2.45 พันล้านปอนด์ (ประมาณ 110,250 ล้านบาท) อีกต่างหาก

9. ตระกูลเกลเซอร์ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด) - นี่คือกลุ่มคนที่สาวก แมนฯ ยูไนเต็ด  เกลียดขี้หน้ามากที่สุด เพราะพวกเขาเข้ามาเทคโอเวอร์ทีมด้วยการกู้ยืมเงินมา ดังนั้นพอทีมทำกำไรได้ เหล่าตระกูลเกลเซอร์ก็เอาไปใช้ชำระหนี้ จนทำให้ "ปีศาจแดง" ไม่มีเงินเอาไปดำเนินการในเรื่องเกี่ยวกับสโมสรมากเท่าที่ควร โดยตอนนี้ตระกูลเกลเซอร์มีทรัพย์สินอยู่ในหลัก 3.6 พันล้านปอนด์ (ประมาณ 162,000 ล้านบาท)

เสี่ยวิชัย แห่งเลสเตอร์ ซิตี้

8. วิชัย ศรีวัฒนประภา (เลสเตอร์ ซิตี้) - มหาเศรษฐีชาวไทยผู้ช่วยทำให้เกิดเรื่องน่าเหลือเชื่อในวงการฟุตบอลด้วยการทำให้ เลสเตอร์ ได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก เมื่อฤดูกาล 2015-16 โดยปัจจุบันเขาเป็นเจ้าของกลุ่มกิจการ คิง เพาเวอร์ และตอนนี้ก็มีทรัพย์สินรวมแล้ว 3.75 พันล้านปอนด์ (ประมาณ 168,750 ล้านบาท) ด้วยกัน

7. ชีค มันซูร์ บิน ซา อัล นาห์ยาน (แมนเชสเตอร์ ซิตี้) - สมาชิกในราชวงศ์ของประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์นำเงินมาเทคโอเวอร์ "เรือใบสีฟ้า" เมื่อช่วงปี 2008 และเขาก็ทำให้ทีมพัฒนาขึ้นไปอีกขั้นจนกลายเป็นทีมที่มีลุ้นแชมป์ทุกฤดูกาล โดยเขายังมีธุรกิจเกี่ยวกับปิโตรเลียมด้วย ส่วนทรัพย์สมบัติตอนนี้ก็อยู่ที่ 3.76 พันล้านปอนด์ (ประมาณ 169,200 ล้านบาท)

ชีค มันซูร์ ผู้หว่านเม็ดเงินให้เรือใบสีฟ้าเป็นเบอร์หนึ่งแห่งเกาะอังกฤษ

6. สตีฟ พาริช, จอห์น แฮร์ริส และ เดวิด บลิตเซอร์ (คริสตัล พาเลซ) - 3 เจ้าของร่วมของ พาเลซ ร่วมแรงแข็งขันบริหารทีมมาเป็นอย่างดี โดยตอนนี้พวกเขามีทรัพย์สมบัติรวมกันอยู่ที่ 3.68 พันล้านปอนด์ (ประมาณ 165,600 ล้านบาท)

5. โจ ลูอิส (ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์) - แฟนบอลหลายคนอาจจะเห็น แดเนี่ยล เลวี่ ออกมาพูดเกี่ยวกับทีมบ่อยๆ จนนึกว่าเขาเป็นเจ้าของทีม แต่ที่จริงแล้ว เลวี่ เป็นแค่ประธานเท่านั้น โดย ลูอิส เป็นเจ้าของ อีนิค กรุ๊ป บริษัทด้านการลงทุนที่เน้นลงทุนกับด้านกีฬาและสื่อเป็นหลัก ซึ่งเขาเป็นเจ้าของบริษัทที่ว่านี้ร่วมกับ เลวี่ ส่วนทรัพย์สินของเขาตอนนี้อยู่ที่ราว 3.83 พันล้านปอนด์ (ประมาณ 172,350 ล้านบาท)

ชาฮิด ข่าน รวยขนาดที่พยายามจะขอซื้อสนามเวมบลี่ย์

3. ชาฮิด ข่าน (ฟูแล่ม) - มหาเศรษฐีลูกครึ่งปากีสถาน-อเมริกัน เป็นเจ้าของ เฟล็กซ์-เอ็น-เกท บริษัทผลิตอุปกรรณ์เกี่ยวกับรถยนต์ โดยเขายังเป็นเจ้าของทีม แจ็คสันวิลล์ จากัวร์ส ทีมอเมริกันฟุตบอลใน เอ็นเอฟแอล ด้วย ซึ่งการที่เขาเป็นเจ้าของทีมกีฬาได้ถึง 2 ทีมนั้น เป็นเพราะเขามีทรัพย์สินรวมแล้ว 5.28 พันล้านปอนด์ (ประมาณ 237,600 ล้านบาท) นั่นเอง

3. เกา กวนฉาง (วูล์ฟส์แฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส) - มหาเศรษฐีชาวจีนได้เป็นเจ้าของ วูล์ฟส์ หลังจากที่นำบริษัท โฟซุน อินเตอร์เนชันแนล ของเขาเข้ามาฮุบทีมเมื่อปี 2016 โดยตอนนี้เขามีสมบัติอยู่ในคลัง 5.28 พันล้านปอนด์ (ประมาณ 237,600 ล้านบาท) เท่ากับ ข่าน นั่นเอง

2. สแตน โครเอ็นเก้ (อาร์เซน่อล) - นักธุรกิจชาวอเมริกันเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทอสังหาริมทรัพย์ในชื่อ โครเอ็นเก้ กรุ๊ป ขึ้นมา โดยเขายังมีธุรกิจด้านอื่นๆ ด้วย ทำให้เขามีเงินทรัพย์สินล้นเหลือที่จำนวน 6.51 พันล้านปอนด์ (ประมาณ 292,950 ล้านบาท)

1. โรมัน อบราโมวิช (เชลซี) - ฟันเฟืองสำคัญผู้ทำให้ เชลซี กลายเป็นยอดทีมของลีกสูงสุดเมืองผู้ดีในยุคปัจจุบัน อบราโมวิช ประสบความสำเร็จในด้านธุรกิจอย่างมาก จนทำให้มีทรัพย์สมบัติรวมแล้ว 8.88 พันล้านปอนด์ (ประมาณ 399,600 ล้านบาท) ซึ่งเขาก็ลงทุนกับ "สิงโตน้ำเงินคราม" แบบเต็มที่ตลอดมา

โรมัน อบราโมวิช ผู้เข้ามาปฏิวัติวงการลูกหนังอังกฤษในยุคมิลเลเนียม

credit : www.siamsport.co.th  (ภาพและข้อมูล จาก talkSPORT)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่