ก่อนอื่นต้องขออนุญาตออกตัวก่อนนะครับ
ผมเป็นเพียงนักวิเคราะห์ฟุตบอลสายมัชฌิมาปฏิปทา
ที่มุ่งเดินทางกลางแห่งความหวังดีเท่านั้น
ไม่มีเจตนาโจมตีเพื่อก่อให้เกิดความคิดเห็นที่แตกแยกแต่อย่างใด
ประมาณเป็นสายกลางแห่งความหวังดีที่อยู่ห่างๆอย่างห่วงๆเท่านั้นนะครับ
ขออภัยท่านที่เชียร์ทีมรักที่อาจแวะให้เกียรติเข้ามาอ่านด้วย
หาก จขกท.วิเคราะห์ไม่ตรงใจท่านไปบ้างละกันนะครับ
เข้าเรื่องเลยนะครับว่า…
จากสถิติที่จ่ามูคุมทีมปิศาจแดง เข้าปีที่ 3 ซึ่งน่าจะมากกว่า 100 แมทย์นั้น
การปราชัยคาบ้าน ถือเป็นเรื่องปกติวิสัยที่แฟนๆยูไนเต็ด
เห็นจนชินชาคลับคล้ายคลับคลาที่ประชาชนคนไทยส่วนใหญ่มักรับประทานโจ๊กและโยกเด็ดปาท่องโก๋โปะเป็นอาหารเช้าประมาณนั้น
หากบริบทความพ่ายแพ้ปราชัยที่ทีมในอดีตเคยปราชัยในบ้านสมัยท่านเซ่อร์เฟอร์กูสั้น
มันจะดูว่านักเตะต่างทุ่มเทแรงกายใจแต่พ่ายแพ้ด้วยเหตุ ผู้รักษาประตูฝ่ายตรงข้ามเหนียว ยิงชนคาน เสาช่วยฝ่ายตรงข้ามหรือเหตุผล108 1,009
มันยาวและยอมรับได้ในความปราชัยของแฟนบอลปิศาจแดงใอดีต
ในทางกลับกัน
ณ ยุคแห่งสันติภาพในปัจจุบัน
ปัญหาของการละลายพฤติกรรมของกองหลัง
กับผู้รักษาประตูกลับยังคงเป็นปัญหาคาราคาซังในยุคจ่ามูอย่างเบ็ดเสร็จ
กองหลังเหมือนขาดจิตวิญญาณความรู้ใจไร้การประสานพลัง
ดั่งสะพานพระราม8 ที่เชื่อมฝั่งพระนครกับฝั่งธนบุรี
ระบบ 4-3-3 ไม่เหมาะกับการบริหารงานบุคคลในยุคจ่ามูโดยชอบธรรม
กองเชียร์ยูไนเต็ดในสนามที่เคยโหวกเหวกดีใจเสียงดัง กลับทำตัวนั่งนอนหลับสัปหงกยกคางเกาเท่านั้นละครับ
ระบบยุคLVG ที่ใช้ระบบ 3-5-1-1 หรือ 4-5-1
ยังมีความเป็นรูปธรรมและเขยิบใกล้เคียงความสำเร็จยุครุ่งโรจน์ของผีแดง
ที่มักใช้ระบบ4-4-2 ปีกซ้ายขวาทำลายระบบฟูลแบ๊คของฝ่ายตรงข้ามอย่างเป็นรูปธรรม
หากฟอร์มกองหลังที่ 3 วันดี4 วันไข้ในถ้วยยุโรปยังเฉกเช่นเป็นแบบนี้
มันจะมีผลกระทบต่อสภาพกำลังใจของนักเตะว่าจิตวิทยาการบริหารทุนมนุษย์ของจ่ามูทุกวันนี้ ยังพอจะเอาทีมอยู่หรือไม่?
หรือสมควรถูกไล่ออก/ปลดออกก่อนปีใหม่ที่จะถึงนี้
น่าติดตามข่าวสารค่ายปิศาจแดงแห่งนี้เป็นรายวันจริงๆครับ
ขอบพระคุณท่านที่ร่วมให้เกียรติสนทนาด้วยนะครับ
คิดต่างได้แต่ไม่แตกแยกเท่านั้นนะครับ
พบกันใหม่ได้ที่ มูรายวัน (3) ในวันต่อๆไปนะครับ
: : มูรายวัน(2) : วิเคราะห์ปัญหาคาบ้านซ้ำซาก : ตั้งแต่ท่านเซ่อร์เฟอร์กูสั้นจากไป! การไล่มูออกไป! ปัญหาน่าจะจบลง? : :
ก่อนอื่นต้องขออนุญาตออกตัวก่อนนะครับ
ผมเป็นเพียงนักวิเคราะห์ฟุตบอลสายมัชฌิมาปฏิปทา
ที่มุ่งเดินทางกลางแห่งความหวังดีเท่านั้น
ไม่มีเจตนาโจมตีเพื่อก่อให้เกิดความคิดเห็นที่แตกแยกแต่อย่างใด
ประมาณเป็นสายกลางแห่งความหวังดีที่อยู่ห่างๆอย่างห่วงๆเท่านั้นนะครับ
ขออภัยท่านที่เชียร์ทีมรักที่อาจแวะให้เกียรติเข้ามาอ่านด้วย
หาก จขกท.วิเคราะห์ไม่ตรงใจท่านไปบ้างละกันนะครับ
เข้าเรื่องเลยนะครับว่า…
จากสถิติที่จ่ามูคุมทีมปิศาจแดง เข้าปีที่ 3 ซึ่งน่าจะมากกว่า 100 แมทย์นั้น
การปราชัยคาบ้าน ถือเป็นเรื่องปกติวิสัยที่แฟนๆยูไนเต็ด
เห็นจนชินชาคลับคล้ายคลับคลาที่ประชาชนคนไทยส่วนใหญ่มักรับประทานโจ๊กและโยกเด็ดปาท่องโก๋โปะเป็นอาหารเช้าประมาณนั้น
หากบริบทความพ่ายแพ้ปราชัยที่ทีมในอดีตเคยปราชัยในบ้านสมัยท่านเซ่อร์เฟอร์กูสั้น
มันจะดูว่านักเตะต่างทุ่มเทแรงกายใจแต่พ่ายแพ้ด้วยเหตุ ผู้รักษาประตูฝ่ายตรงข้ามเหนียว ยิงชนคาน เสาช่วยฝ่ายตรงข้ามหรือเหตุผล108 1,009
มันยาวและยอมรับได้ในความปราชัยของแฟนบอลปิศาจแดงใอดีต
ในทางกลับกัน
ณ ยุคแห่งสันติภาพในปัจจุบัน
ปัญหาของการละลายพฤติกรรมของกองหลัง
กับผู้รักษาประตูกลับยังคงเป็นปัญหาคาราคาซังในยุคจ่ามูอย่างเบ็ดเสร็จ
กองหลังเหมือนขาดจิตวิญญาณความรู้ใจไร้การประสานพลัง
ดั่งสะพานพระราม8 ที่เชื่อมฝั่งพระนครกับฝั่งธนบุรี
ระบบ 4-3-3 ไม่เหมาะกับการบริหารงานบุคคลในยุคจ่ามูโดยชอบธรรม
กองเชียร์ยูไนเต็ดในสนามที่เคยโหวกเหวกดีใจเสียงดัง กลับทำตัวนั่งนอนหลับสัปหงกยกคางเกาเท่านั้นละครับ
ระบบยุคLVG ที่ใช้ระบบ 3-5-1-1 หรือ 4-5-1
ยังมีความเป็นรูปธรรมและเขยิบใกล้เคียงความสำเร็จยุครุ่งโรจน์ของผีแดง
ที่มักใช้ระบบ4-4-2 ปีกซ้ายขวาทำลายระบบฟูลแบ๊คของฝ่ายตรงข้ามอย่างเป็นรูปธรรม
หากฟอร์มกองหลังที่ 3 วันดี4 วันไข้ในถ้วยยุโรปยังเฉกเช่นเป็นแบบนี้
มันจะมีผลกระทบต่อสภาพกำลังใจของนักเตะว่าจิตวิทยาการบริหารทุนมนุษย์ของจ่ามูทุกวันนี้ ยังพอจะเอาทีมอยู่หรือไม่?
หรือสมควรถูกไล่ออก/ปลดออกก่อนปีใหม่ที่จะถึงนี้
น่าติดตามข่าวสารค่ายปิศาจแดงแห่งนี้เป็นรายวันจริงๆครับ
ขอบพระคุณท่านที่ร่วมให้เกียรติสนทนาด้วยนะครับ
คิดต่างได้แต่ไม่แตกแยกเท่านั้นนะครับ
พบกันใหม่ได้ที่ มูรายวัน (3) ในวันต่อๆไปนะครับ