จนกระทั่งผมได้เป็นหัวหน้าคน...
มันก็ทำให้โลกแห่งการทำงานของผมเปลี่ยนไป

ตัวผมเองทำงานอยู่แผนกเล็กๆ มีลูกน้องระดับ Staff 2 คน และลูกน้องในระดับ Operator อีก 2 คน
โดยให้จบคู่เป็น Buddy กันระหว่าง Staff กับ Operator ซึ่งนับรวมกันทั้งแผนกมีแค่ 5 คนถ้วน
(แต่ถ้ารวมในระดับฝ่ายก็มีหลายสิบคนครับ)

มาพูดแค่ระดับ Staff ทั้ง 2 คนแล้วกัน คนหนึ่งมาจาก ม.รัฐ สีเขียว แถวบางเขน (มีชื่อเสียงระดับหนึ่ง)
ส่วนอีกคนจบจาก สถาบันอาชีวะฯ แห่งหนึ่ง (พอเป็นที่รู้จักในระดับจังหวัด)
ผมไม่ขอพูดถึงคนแรกนะครับ เพราะผมค่อนข้างพึงพอใจในผลการปฏิบัติงานของเขา แม้จะต้องแก้งาน
ให้บ่อยๆ

ส่วนคนหลัง ต้องขอพูดเลยครับ ขอระบายความรู้สึกซักเล็กน้อย
1.ภาษาอังกฤษ แทบไม่ได้เลย (ขนาดเกรดภาษาอังกฤษใน Transcript มีแต่ B กับ B+) เกรดเฉลี่ยทุกวิชา
มากกว่า 3.50 ตอนสัมภาษณ์ให้แนะนำตัวเป็นภาษาอังกฤษ ก็ Present ตัวเองพอใช้ได้ ถึงแม้จะท่องมาจาก
สคริปท์ที่ใช้สัมภาษณ์งานเบื้องต้น แต่ก็ฟังเข้าใจ แต่เราเน้นประการณ์การทำงานของเขามากกว่าเรื่องภาษา
แต่จากที่ฟังสัมภาษณ์ ก็คิดว่าน่าจะพอไปได้ พอสื่อสารได้
แต่...เรามีผู้บริหารเป็นชาวต่างชาติ ซึ่งเวลา Present งาน ต้องใช้ภาษาอังกฤษ ซึ่งเขาก็สามารถ Present ได้
ตาม Power point ที่เตรียมมา (ถือว่าเตรียมตัวมาดี อันนี้ขอชื่นชม) แต่เวลาผู้บริหาร มีข้อสงสัย ซักถาม
อะไรที่นอกเหนือจากที่เขาเตรียมมา เขาไม่สามารถสนทนาโต้ตอบได้เลย เป็นผมที่ต้องทำหน้าที่เป็นล่ามให้
ทุกครั้ง จนเจ้านายบ่นทีหลังว่า เขาน่าจะมีปัญหาเรื่อง Communication

2.กระบวนการคิดอย่างเป็นเหตุเป็นผล ไม่ค่อยมี
คือคิดไม่ได้ว่า ถ้าทำแบบนี้แล้วจะเกิดปัญหาอะไรตามมา ถ้าเกิดแล้วจะแก้ไขอย่างไร หรือจะป้องกันไม่ให้
เกิดปัญหาได้อย่างไร (ทุกวันนี้รู้สึกเหมือนเขาเป็นพ่อครัว มากกว่าลูกน้อง คือเน้นทำตามสั่ง)
เคยให้ไปทำงาน Project หนึ่ง แล้วให้หา Solution มาซัก 3 ทาง ปรากฎว่าทำไม่ได้เลย

3.Attendance ไม่ค่อยดี
ลาบ่อย (ส่วนใหญ่เมาค้าง เพราะสืบจาก Facebook)

คือ...ในฐานะหัวหน้างาน ผมอยากจะข้อความเห็นจากทุกท่าน ว่าผมจะช่วยเหลือพนักงานคนนี้
ได้อย่างไร ผมอยากให้เขาทำงานเก่งขึ้น ในอนาคต ถ้าแผนกขยายขึ้น มีคนเพิ่มขึ้น ผมก็อยาก
จะปั้นน้องๆ Staff ทั้ง 2 คนนี้ขี้นเป็น Supervisor มาคุมทีมให้ได้

ปล.ไม่ได้เหมารวมว่าสถาบันไม่ดัง แล้วเด็กจะไม่เก่งทุกคน แค่แชร์ประสบการณ์ที่ตัวเองเจอมา
ครั้งหนึ่งผมเถียงหัวชนฝา ว่า ม.ดัง หรือไม่ดัง มันไม่เกี่ยว มันอยู่ที่คนมากกว่า แต่ตอนนี้ต้องยอมรับ
ว่าสถาบันก็มีส่วนคัดกรองมาตรฐานคนได้เช่นกัน

ขอขอบคุณ
จากเด็กบ้านนอกคนหนึ่ง ที่ไม่ได้จบสถาบันดังเช่นกัน