บันทึกเรื่องราวแปลกๆ 5 ประการของสโมสรเชลซี

ตัวเลขทางด้านสถิติ และ วงการกีฬา ต่างเกี่ยวพันธ์มาอย่างยาวนาน เพราะสถิติจะสะท้อนข้อมูลหลายๆอย่างที่สามารถนำมาวิเคราะห์เพื่อให้เกิดประโยชน์ แต่วันนี้เราจะนำสถิติแปลกๆ 5 อย่างที่เชลซีกำลังถือครองอยู่ในขณะนี้


แม้ว่าแฟนเชลซีหลายคนคงเป่าปากอย่างโล่งอก หลังจากต้องลุ้นกันจนถึงนาทีสุดท้ายของช่วงต่อเวลาก่อน รอส บาร์คลี่ย์ ยิงประตูตีเสมอเข้าไป ช่วยให้ทีมสิงโตน้ำเงินครามแบ่งแต้มกับปีศาจแดงไปได้อย่างสนุกด้วยสกอร์ 2-2 ที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์

เชลซี สามารถรักษาสถิติยังไม่แพ้ใครในซีซั่นนี้จาก 12  นัด รวมทุกรายการ ซึ่งมีเพียงสองทีมเท่านั้น จาก 5 ลีกใหญ่ในยุโรป ที่ทำได้ในตอนนี้ คือ เชลซีและยูเวนตุสจากอิตาลี่นั่นเอง

นับตั้งแต่ โรมัน อบราโมวิชตัดสินใจ เข้าเทคโอเวอร์ เชลซี พวกเขาทำสถิติที่น่าทึ่งหลายอย่างเกิดขึ้นมากมาย หรือแม้แต่ก่อนหน้า อบราโมวิช สถิติที่น่าทึ่งก็เกิดขึ้นเช่นกัน อย่างเช่น การเอาชนะ สโมสรจาก ลักแซมเบิร์ก ในศึก คัพ วินเนอร์ส คัพ ด้วยผลรวมสองนัดถึง 21-0 ในปี 1971 ก็ยังเป็นสถิติการทำประตู ที่สูงสุดของการแข่งขันในยุโรปจนถึงทุกวันนี้

แต่ยังมีสถิติอันเหลือเชื่ออีกมากมายในประวัติศาตร์ของ ทีมเชลซี ที่คุณอาจจะไม่เคยรู้มาก่อน และนี่คือ 5 สถิติที่คุณอาจต้องตะลึง ของทีมสิงโตน้ำเงินครามจากลอนดอนทีมนี้

1. ลงแข่งเกมพรีเมียร์ชิพด้วยเสื้อทีมของคู่แข่ง


ในปี 1997 เชลซีได้เดินทางมาที่  สนาม ไฮฟิวล์ โรด เพื่อทำการแข่งขันกับทีมช้างกระทืบโรง โคเวนทรี้ ซิตี้ ที่มี เสื้อทีมเป็นสีฟ้า ในขณะที่ ของเชลซี เป็นสีน้ำเงิน

แต่เมื่อจะลงทำการแข่งขัน ผู้ตัดสินได้ออกมาแจ้งว่าให้เชลซีเปลี่ยนสีเสื้อเนื่องจากสีมีความใกล้เคียงกับเจ้าบ้านอย่างโคเวนทรีมากเกินไป ซึ่งอาจทำให้เกิดความสับสนขึ้นได้

แต่ปัญหาก็คือ เชลซีไม่ได้เตรียมเสื้อทีมเยือนมาเลยสักชุด ทำให้สุดท้าย ทางกรรมการ ได้ยื่นข้อเสนอให้ ทีม สิงบูลส์ ว่า จะยอมใส่เสื้อทีมเยือนของ โคเวนทรี ที่เป็นลายหมากรุกสีดำแดง หรือจะยอมถูกปรับแพ้ จากความไม่พร้อมของทีม ซึ่งทำให้เกมในวันนั้น ต้อง ช้าไปกว่า 15 นาที

แน่นอนว่า รุด กุลลิท กุนซือทีมเชลซีในตอนนั้น ได้ตัดสินใจ ขอแข่งโดยการใส่เสื้อทีมของโคเวนทรีแทน แต่สุดท้ายก็พ่ายให้เจ้าบ้านไป 3-1 อยู่ดี

2. เฟอร์นันโด ตอร์เรส ผู้เล่นที่ยิง7รายการในหนึ่งซีซั่น


หลังจากย้ายจากลิเวอร์พูลมาอยู่กับเชลซีด้วยค่าตัวกว่า 50  ล้านปอนด์ ตอร์เรสก็ไม่เคยเล่นได้เหมือนสมัยอยู่ลิเวอร์พูลอีกเลย

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะยิงไม่ได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ แต่ ตอร์เรสก็ถือเป็นเจ้าของสถิติ ยิงได้ 7 รายการ ในหนึ่งซีซั่นให้กับเชลซี ในฤดูกาล 2012/2013 ซึ่งทำลายสถิติเดิมของเพื่อนร่วมชาติอย่าง เปโดร ที่ทำไว้ที่ 6 รายการในหนึ่ง ซีซั่น กับ บาร์เซโลน่า ในปี 2009 ก่อนจะย้ายมาอยู่กับเชลซี ในปี 2015

ทั้ง7รายการที่ตอร์เรสยิงได้คือ คอมมูนิตี้ ชิลด์,ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก,ฟีฟ่า คลับ เวิลด์คัพ,แคบปิตอล วันคัพ,เอฟเอ คัพ และ ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก ซึ่งพลาดทำประตูไม่ได้เพียงรายการเดียวในซีซั่นนั้นคือ ยูฟ่า ซุปเปอร์ คัพ

3. สิงโตน้ำเงินครามบนภูเขาน้ำแข็ง


แม้ว่าหลายครั้งที่สโมสรต้องเดินทางไกลเพื่อไปทำการแข่งขันบอลยุโรปกับประเทศเพื่อนบ้าน แต่ไม่มีครั้งไหนที่จะมีสภาพการแข่งขันที่เลวร้ายไปกว่าในวันที่ 24 เดือน ตุลาคม ปี 1997 เมื่อพวกเขาต้องออกไปเยือนทีมเล็กๆจากนอร์เวย์ อย่าง ทรอมโซ่ ในสภาพภูมิอากาศสุดเลวร้าย เมื่อเกิดหิมะตกอย่างหนัก จนสภาพสนามแทบไม่ต่างไปจาก ภูเขาน้ำแข็ง

จากสภาพอากาสสุดเลวร้ายในวันนั้น ส่งผลให้ ต้องมีการหยุดเกมไปถึง สองครั้ง เพื่อให้ทีมงานของสนามได้เข้ามาขีดเส้นสนามใหม่ จากการถูกหิมะปกคลุมจนมองไม่เห็น ก่อนสุดท้าย เชลซีจะต้องพบกับความพ่ายแพ้ไปด้วยสกอร์ 3-2

รุด กุลลิท ผู้จัดการทีมในตอนนั้นได้ออกมาโจมตีกรรมการหลังจบเกม จากการที่พวกเขาปล่อยให้มีการแข่งขันกันต่อไป ทั้งๆที่สนามไม่ได้อยู่ในสภาพที่ดีพอให้ทำการแข่งขันได้ จนส่งผลให้ทีมของเขาต้องพ่ายแพ้ไปแบบพลิกล๊อก

อย่างไรก็ตามการแข่งในนัดที่สอง เชลซีก็ถล่ม ทรอมโซ่ คา สแตมฟอร์ด บริดจ์ ไปถึง 7-1 ผ่านเข้ารอบไปพร้อมกับความทรงจำอันเลวร้ายในนัดแรกที่นอร์เวย์แบบหนาวเย็นที่สุด

4. เชลซี สโมสร ราคา 1 ล้านปอนด์


ย้อนกลับไปในปี 1982 ขณะนั้น เชลซี มีปัญหาอย่างหนัก จากหนี้สินของสโมสร จนแทบจะไม่มีเงินพอจ่ายแม้แต่ค่าเหนื่อยของนักเตะ

เคน เบตส์ อดีตเจ้าของสโมสรในตอนนั้น ได้เข้ามาซื้อกิจการของสโมสร ด้วยราคาเพียง 1 ล้านปอนด์ และได้เข้ามาแก้ไขปัญหาหนึ้สะสมในตอนนั้น ที่มีมูลค่าถึง 1.5 ล้านปอนด์ ซึ่งแม้ทุกวันนี้อาจจะดูไม่แยอะ แต่หากย้อมไปเมื่อปี 1982 เงินจำนวนนี้ถือว่าแยอะมากๆ

หลังจากนั้น เบตส์ได้ปรับปรุงจนสโมสรกลับมาเป็นทีมระดับหัวแถวได้อีกครั้ง รวมถึงการดึงเอานักเตะอย่าง รุด กุลลิท, จิอัลลูก้า วิอัลลี่ หรือ จิอันฟรังโก โซล่า มาช่วยทีมจนประสบความสำเร็จในเกมบอลถ้วยหลายรายการ และได้ฉายาจากแฟนๆในช่วงนั้นว่าเป็น สิงห์บอลถ้วยเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตาม ปี 2003 เชลซี ก็พบกับวิกฤตอีกครั้ง เมื่อ สโมสรประสบปัญหาขาดทุนอย่างหนัก เบตส์จึงตัดสินใจขายสโมสรให้ เศรษฐีชาวรัสเซีย อย่าง โรมัน อบราโมวิช ด้วยราคา ถึง 140 ล้านปอนด์ และถูกปรับปรุงโดยเสี่ยหมีจนกลายเป็นสโมสรระดับหัวแถวของโลกได้จนถึงปัจจุบัน

5.สโมสรแรกที่ลงแข่งโดยไม่มีนักเตะอังกฤษใน11ตัวจริง


แม้ทุกวันนี้ การที่สโมสรจะลงเล่นโดยไม่มีนักเตะอังกฤษใน 11 จะไม่ใช่เรื่องแปลก แต่สโมสรแรกที่นำเทรนด์ในเรื่องนี้คือ เชลซีนั้นเอง

จาก 111 ปี 3 เดือน กับอีก 16 วัน ของพรีเมียร์ ลีก จิอันลูก้า วิอัลลี่ ผู้จัดการทีมเชลซีในตอนนั้น เป็นกุนซือคนแรกที่ช๊อควงการบอลอังกฤษ ด้วยการจัด 11 ตัวจริง โดยไม่มีนักเตะอังกฤษสักคน ในนัด บ๊อกซิ่งเดย์ เมื่อปี 1999 กับ เซาธ์แธมป์ตัน

นัดนั้นกลายเป็นนัดประวัติศาตร์นัดหนึ่งของพรีเมียร์ ชิพ ที่แม้แต่ตัวผู้เล่นเองยังประหลาดใจ กับ จำนวนนักข่าวที่เข้ามารอทำข่าวเกมในนัดนั้นอย่างมากมาย ซึ่ง 11 ตัวจริง ของเชลซีในวันนั้นคือ เอ็ด เดอ ฮุย,อัลเบิรต์ เฟอร์เรอร์, เซเลสติน บาบายาโร่,เอเมอร์สัน โธม, ฟรองค์ เลอเบิฟ, แดน เปเตสคู, ดิดิเย่ต์ เดอชองส์,กุส โปเยต์, ดิ มัตเตโอ,กาเบียร์ อัมโบร์เซติ และ โทเร่ อังเดร โฟ

นับแต่นั้น บอลอังกฤษ กับ เทรนด์ของนักเตะต่างชาติก็ระบาดไปทั่วเกาะอังกฤษ ทั้ง อาร์เซน่อล กับ 11 ตัวจริง ที่ไม่มีนักเตะ อังกฤษเลย ในช่วงหนึ่งของ อาร์เแซน แวนเกอร์ หรือ ทีม เรือใบสีฟ้า แมนฯ ซิตี้ ที่หาที่ว่างใน 11 ตัวแรก ให้กับนักเตะ อังกฤษ ไม่ได้เลย ในระยะแรกของการเข้ามาโดยกลุ่ม อาบูดาบี


ขอบคุณเรื่องราวดีๆ จากนิตยสาร Ferfourtwo พาพันขอบคุณ
อ่านเรื่องราวทั้งหมดที่  https://www.fourfourtwo.com/th/features/waaairtiisud-epid-5-sthitisudaehwkthiiechlchiiepnecchaakhng#Wc3sCsdJYwG1S2Ug.99
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่