อิทธิฤทธิ์เจ้าแม่ “นาคี” จากละครสู่โรงหนัง โกยรายได้ 200 ส่งต่อสู่ละครนาคี 3

อิทธิฤทธิ์เจ้าแม่ “นาคี” ยังคงแรงฤทธิ์ต่อเนื่อง หลังจากละคร “นาคี” ทางช่อง 3 ส่งต่อมายังภาพยนตร์ “ นาคี 2” ที่กำลังลงโรง จนล่าสุดทางเมจอร์กรุ๊ปประกาศว่ารายได้จากภาพยนตร์เรื่องนี้ทะลุหลัก 200 ล้านไปแล้ว จากการออกฉายครั้งแรกวันที่ 18 ตุลาคมที่ผ่านมา


กลยุทธ์สำคัญที่ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จ ยังคงเป็นเรื่อง “ความเชื่อ ความศรัทธา” ที่เป็นพื้นฐานของวิถีชีวิตคนไทย จาก ละคร “นาคี” มาเป็นตัวเดินเรื่องหลัก ด้วยการนำนักแสดงละคร “นาคี” ทั้ง “แต้ว ณฐพร” และ “เคน ภูภูมิ” มาร่วมแสดงในภาพยนตร์ด้วย


เมื่อมาเป็นภาพยนตร์  ทำให้แตกต่างและมีเรื่องราวมากขึ้น จึงเพิ่มเรื่องแนวสืบสวนสอบสวน ที่มี “ณเดชน์ คูกิมิยะ และญาญ่า อุรัสยา” ในบทของ สารวัตรป้องปราบ ที่ต้องมาตามสืบสวนคดีฆาตรกรรมอย่างสยดสยองในบ้านดอนไม้ป่า และ สร้อย สาวชาวบ้านที่มีความศรัทธาในเจ้าแม่นาคี โดยนำ Computer Graphic (CG) มาเติมเต็ม ตามสูตรภาพยนตร์แนวแฟนตาซี

ที่มาของ นาคี 2 ในรูปแบบของภาพยนตร์เกิดความร่วมมือ ระหว่าง เซิร์ช เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ที่มี วิบูลย์ ลีรัตนขจร เป็นหัวเรือใหญ่, ดู เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ของพงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง “ประวิทย์ มาลีนนท์” “นายเก่า” ของคนช่อง 3 และเอ็ม พิกเจอร์

จอนนี่ ฉอนโฟเน่ หนึ่งในผู้บริหารเซิร์ช เคยให้สัมภาษณ์กับ Positioning ไว้เมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้วว่า “นาคี 2” คือผลผลิตที่เกิดจากละครนาคี ของ “อ๊อฟ” พงศ์พัฒน์ วชิรบรรจง ที่ประสบความสำเร็จทั้งเรตติ้ง ชื่อเสียง และรายได้ให้กับช่อง  คุณประวิทย์คิดว่าจะต้องรีบสร้างภาคสองเพื่อให้มีกระแสต่อเนื่องแต่ถ้าผลิตเป็นละครก็อาจจะต้องใช้เวลาอีกเป็นปีทั้งเขียนบทและถ่ายทำจึงออกมาในรูปแบบของภาพยนตร์ที่ฉายตามโรงหนังแทน

“คุณประวิทย์ ใช้เงินส่วนตัวมาสร้าง ด้วยวงเงินเบื้องต้นประมาณ 50 ล้านบาท โดยที่คุณอ๊อฟรับหน้าที่ผลิต ส่วนทางเซิร์ชเป็นผู้ดำเนินการวางแผนงาน การตลาดทั้งหมด” จอนนี่กล่าว

ตามแผนการแรก ภาพยนตร์ “นาคี2” มีกำหนดการลงโรงในเดือนมีนาคม 2561 แต่ต้องเลื่อนเป็นวันที่ 18 ตุลาคมที่ผ่านมา เนื่องจากต้องน้ำหนักกับ CG จึงปรับเปลี่ยนและลงทุนเพิ่ม โดยเฉพาะการจัดเต็มช่วงท้ายเรื่อง มีเพิ่มตัวละครแฟนตาซีในตอนท้าย ที่เหมือนจะทิ้งท้ายให้สำหรับภาคต่อ ที่ดูเหมือนว่าจะมีเรื่องตำนวนรัก การแหกกฏฟ้าให้ตามติดต่อไป

สอดคล้องกับที่จอนนี่เคยกล่าวไว้ว่า “ภาพยนตร์นาคี 2 จะเป็นเรื่องที่อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ พัฒนาขึ้นมาใหม่ เพื่อสำหรับสร้างภาพยนตร์โดยเฉพาะ ในขณะเดียวกันช่อง 3  ก็จะมีละครนาคีภาคต่อไป โดยเป็นการผลิตโดย อ๊อฟ พงษ์พัฒน์เช่นเดิม”

ทางด้าน เอ็ม พิคเจอร์ส ถึงกับมั่นใจปีนี้อุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยเติบโตสดใส โดย“นาคี 2”ได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย ทำรายได้วันแรกสูงสุดเป็นประวัติการณ์กว่า 50 ล้านบาท แม้จะเข้าฉายในวันธรรมดาเป็นแรงหนุนให้อุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยกลับมาคึกคักอีกครั้ง

ตำนานความเชื่อเกี่ยวกับพญานาคถูกโฉลกช่อง 3


  ในฟากละคร “นาคี” เคยสร้างเรคคอร์ทเรตติ้งสูงสุดในปี 2559 ด้วยเรตติ้งเฉลี่ย 10.902 เป็นละครที่ประสบความสำเร็จสูงที่สุดจากทุกช่องทีวีดิจิทัลในปี 2559 และเมื่อช่อง 3 นำมารีรันในช่วงละครเย็น ได้เรตติ้งเฉลี่ยสูงถึง 5.024 จากการออกอากาศในช่วง 23 สิงหาคม – 25 กันยายน 2560  ช่วยสร้างเรตติ้งช่วงเวลาเย็นของช่องแซงชนะช่อง 7

ทำให้บรรดาผู้บริหารช่อง 3 มีความเชื่อว่า ละครหรือรายการที่เกี่ยวกับพญานาค ถูกโฉลกกับช่อง สามารถช่วยผลักดันช่องให้ประสบความสำเร็จยิ่งขึ้น

แม้แต่การเลือกซีรี่ส์อินเดีย ชุดแรกที่มาออกอากาศในช่อง 3 ก็เลือกซีรี่ส์ “นาคิน” ที่เกี่ยวพันกับงูมาออกอากาศ และประสบความสำเร็จดังคาด มีเรตติ้งเฉลี่ยทั้งเรื่องอยู่ที่ 2.604 จากการออกอากาศในช่วงเย็น ก่อนละครเย็น แม้ว่าจะมีจำนวนตอนออกอากาศยาวนานตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2560 - 13 กรกฏาคม 2561 จำนวนทั้งหมด 145 ตอน

นอกจากนี้ยังมีการอนุมัติสร้างละครที่เกี่ยวกับความเชื่อในพญานาค ตามมาอีก คือ “เพลิงนาคา” ที่อยู่ระหว่างการถ่ายทำ รวมถึงละคร “นาคี 3” ที่ยังไม่มีรายละเอียดเปิดเผยแต่อย่างใด

https://positioningmag.com/1193988