หลังจากที่ กอง บก. 1morenews ได้เคยเปิดโปง เรื่องราว ก่อนถึง “วาระสุดท้ายของ ศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งชาติ? หนองจอก” ไปแล้ว
https://www.1morenews.com/2601/ เพียงไม่นาน วาระสุดท้ายก็มาถึง เมื่อ “บิ๊กอ๊อด” ประกาศปิด “ศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งชาติ? หนองจอก” อย่างถาวร
เท่ากับตอนนี้สามารถพูดได้เต็มปากแล้วว่า งบ 26 ล้านบาท ที่ได้รับการสนับสนุนจากสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า ตามโครงการโกล์ ถูกผู้บริหารในยุค “บังยี-วรวีร์ มะกูดี” อดีตนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ คนก่อน ใช้ไปกับที่ “ตาบอด” ไม่สามารถเข้าไปใช้ประโยชน์ได้
แต่ก็มีคำถามตามมามากมายว่า ทำไม? “บิ๊กอ๊อด” หรือ ผู้บริหารสมาคมฯ ยุคนี้รู้สึกตัวช้าไปหรือเปล่า
ส่วน อดีตนายก บังยี ก็ออกมาชี้แจ้งทันควัน ว่า
“ไม่เคยปิดกั้นในการเข้าไปใช้ประโยชน์ ศูนย์ฝึกแห่งนี้”
“ในช่วงปีสองปีแรก ก็ยังเห็นทีมชาติไทยชุดต่างๆ เข้าเป็นเก็บตัว รวมทั้งผู้บริหารสมาคมฯ ก็แวะเวียนเข้าไปอยู่”
จริงครับ…ข้อนี้ ท่านอดีตนายกฯ “วรวีร์ มะกูดี” พูดถูก แต่พูดหมดหรือเปล่า ?
จริงหรือไม่ ? ที่ “ศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งชาติ หนองจอก” มีการนำไปให้เอกชน เช่าเพื่อบริหารจัดการ ทั้งในส่วนที่ที่ดินอาคารของสมาคม และที่ดินโดยรอบที่ทำเป็นสนามฟุตบอลหญ้าจริง
จริงหรือไม่ ? ที่ ค่าเช่า “ศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งชาติ หนองจอก” ได้ทำไปปล่อยเอกชนเช่าช่วงในราคาเดือนละไม่กี่หมื่นบาท
จริงหรือไม่ ? ที่ สัญญาเช่าลากยาว ข้ามยุคถึง 2 ปี
จริงหรือไม่ ? ที่ ทีมมาเช่าฝึกซ้อมฟุตบอลต้องจ่ายค่าเช่าทางเข้าออก
คิดแล้วน่าอนาถใจ “ศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งชาติ ฯ หนองจอก” ศูนย์ฝึกแห่งความหวังของฟุตบอลไทย กลับถูกนำไปปล่อยเช่าช่วง แลกกับเงินเพียงน้อยนิด
อาคาร 5 ชั้น มีห้องพักเกือบ 100 ห้อง สามารถรับนักกีฬาได้มากกว่า 200-300 คน
ห้องประชุมนับ 10 ห้อง สนามหญ้าเที่ยม 1 สนาม
ห้องฟิตเน็ต พร้อมอุปกรณ์ ที่ใช้งบประมาณจาก การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ซื้อมาเพื่อให้นักกีฬาทีมชาติไทยพัฒนาสู่ความเป็นเลิศ
มันก็เป็นคำถามตัวโต ๆ ถึง อดีตนายกฯ วรวีร์ มะกูดี ท่านรู้จักคนต่างชาติ ที่มีชื่อเรียกขานด้วยตัว “บ.ใบไม้” ที่มาทำสัญญาเช่าหรือไม่
แล้วก็เป็นคำถามตัวโต ๆ ว่า ท่านรู้เห็นเป็นใจ ในการนำเอาศูนย์ฝึกฟุตบอล ฯ แห่งนี้ ไปทำสัญญากับเอกชน “บ.ใบไม้”เช่าในราคาถูก แล้วให้เขานำทีมฟุตบอลชาติอื่นๆ มาเก็บตัวฝึกซ้อม โดยคิดค่าเช่าเพิ่มขึ้นจริงหรือไม่ ?
เป็นการนำทรัพย์สินสมาคมไป “กินส่วนต่าง” หรือไม่ ?
แล้วเป็นคำถามตัวโต ๆ ว่า ท่านรู้เห็นเป็นใจ ในการนำทรัพย์สินที่ดินรอบข้าง ไปร่วมสร้างมูลค่าเพิ่มทางรายได้ ไม่ว่าจะเป็น ทางเข้าออก และ ที่ดินบริเวณรายรอบ ใช่หรือไม่?
สุดท้ายเมื่อหมดสัญญา ก็แยกย้าย ไม่ดูดำดูดี ทิ้งไว้แต่ความเสื่อมโทรม ของตึกที่ทำการสมาคม ให้ดูต่างหน้า
ดูจากสภาพ และระยะเวลาในการฟ้องศาล เพื่อ ขอทางจำเป็น หรือ ภาระจำยอม คงใช้เวลาอีกนานแสนนาน
จึงเป็นเรื่องไร้ประโยชน์ ในการนำงบประมาณไปปรับปรุงในพื้นที่ ที่ไม่สามารถเข้าไปใช้งานได้แบบร้อยเปอร์เซ็นต์
การตัดสินใจ “ปิดศูนย์ฝึกหนองจอก” จึงน่าจะเป็นหนทางที่ดีที่สุด
สาธารณชน ควรจะได้รับรู้ “ตำนานอภิมหากาพย์” ของ “ศูนย์ฝึกฟุตบอลหนองจอก” จะเป็นบทเรียนเล่าขานให้ลูกหลานคนไทยได้รับรู้
หากบทสรุปออกมาตามท้องเรื่อง คงยากจะปฏิเสธว่า วงการกีฬาฟุตบอลฯ ไทย ทำไมตกต่ำ ถ้า ผู้บริหารจะไปมีบทบาทในหน้าที่ระดับชาติที่สูงกว่านี้ จะเป็นอย่างไร ลองคิดเล่นๆ เอาล่ะกัน!
https://www.1morenews.com/5842/#
จริงไหม? “ศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งชาติ หนองจอก”ปล่อยเช่าสุดถูก มีคนเขมือบ !!..ส่วนต่าง
เท่ากับตอนนี้สามารถพูดได้เต็มปากแล้วว่า งบ 26 ล้านบาท ที่ได้รับการสนับสนุนจากสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า ตามโครงการโกล์ ถูกผู้บริหารในยุค “บังยี-วรวีร์ มะกูดี” อดีตนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ คนก่อน ใช้ไปกับที่ “ตาบอด” ไม่สามารถเข้าไปใช้ประโยชน์ได้
แต่ก็มีคำถามตามมามากมายว่า ทำไม? “บิ๊กอ๊อด” หรือ ผู้บริหารสมาคมฯ ยุคนี้รู้สึกตัวช้าไปหรือเปล่า
ส่วน อดีตนายก บังยี ก็ออกมาชี้แจ้งทันควัน ว่า
“ไม่เคยปิดกั้นในการเข้าไปใช้ประโยชน์ ศูนย์ฝึกแห่งนี้”
“ในช่วงปีสองปีแรก ก็ยังเห็นทีมชาติไทยชุดต่างๆ เข้าเป็นเก็บตัว รวมทั้งผู้บริหารสมาคมฯ ก็แวะเวียนเข้าไปอยู่”
จริงครับ…ข้อนี้ ท่านอดีตนายกฯ “วรวีร์ มะกูดี” พูดถูก แต่พูดหมดหรือเปล่า ?
จริงหรือไม่ ? ที่ “ศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งชาติ หนองจอก” มีการนำไปให้เอกชน เช่าเพื่อบริหารจัดการ ทั้งในส่วนที่ที่ดินอาคารของสมาคม และที่ดินโดยรอบที่ทำเป็นสนามฟุตบอลหญ้าจริง
จริงหรือไม่ ? ที่ ค่าเช่า “ศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งชาติ หนองจอก” ได้ทำไปปล่อยเอกชนเช่าช่วงในราคาเดือนละไม่กี่หมื่นบาท
จริงหรือไม่ ? ที่ สัญญาเช่าลากยาว ข้ามยุคถึง 2 ปี
จริงหรือไม่ ? ที่ ทีมมาเช่าฝึกซ้อมฟุตบอลต้องจ่ายค่าเช่าทางเข้าออก
คิดแล้วน่าอนาถใจ “ศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งชาติ ฯ หนองจอก” ศูนย์ฝึกแห่งความหวังของฟุตบอลไทย กลับถูกนำไปปล่อยเช่าช่วง แลกกับเงินเพียงน้อยนิด
อาคาร 5 ชั้น มีห้องพักเกือบ 100 ห้อง สามารถรับนักกีฬาได้มากกว่า 200-300 คน
ห้องประชุมนับ 10 ห้อง สนามหญ้าเที่ยม 1 สนาม
ห้องฟิตเน็ต พร้อมอุปกรณ์ ที่ใช้งบประมาณจาก การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ซื้อมาเพื่อให้นักกีฬาทีมชาติไทยพัฒนาสู่ความเป็นเลิศ
มันก็เป็นคำถามตัวโต ๆ ถึง อดีตนายกฯ วรวีร์ มะกูดี ท่านรู้จักคนต่างชาติ ที่มีชื่อเรียกขานด้วยตัว “บ.ใบไม้” ที่มาทำสัญญาเช่าหรือไม่
แล้วก็เป็นคำถามตัวโต ๆ ว่า ท่านรู้เห็นเป็นใจ ในการนำเอาศูนย์ฝึกฟุตบอล ฯ แห่งนี้ ไปทำสัญญากับเอกชน “บ.ใบไม้”เช่าในราคาถูก แล้วให้เขานำทีมฟุตบอลชาติอื่นๆ มาเก็บตัวฝึกซ้อม โดยคิดค่าเช่าเพิ่มขึ้นจริงหรือไม่ ?
เป็นการนำทรัพย์สินสมาคมไป “กินส่วนต่าง” หรือไม่ ?
แล้วเป็นคำถามตัวโต ๆ ว่า ท่านรู้เห็นเป็นใจ ในการนำทรัพย์สินที่ดินรอบข้าง ไปร่วมสร้างมูลค่าเพิ่มทางรายได้ ไม่ว่าจะเป็น ทางเข้าออก และ ที่ดินบริเวณรายรอบ ใช่หรือไม่?
สุดท้ายเมื่อหมดสัญญา ก็แยกย้าย ไม่ดูดำดูดี ทิ้งไว้แต่ความเสื่อมโทรม ของตึกที่ทำการสมาคม ให้ดูต่างหน้า
ดูจากสภาพ และระยะเวลาในการฟ้องศาล เพื่อ ขอทางจำเป็น หรือ ภาระจำยอม คงใช้เวลาอีกนานแสนนาน
จึงเป็นเรื่องไร้ประโยชน์ ในการนำงบประมาณไปปรับปรุงในพื้นที่ ที่ไม่สามารถเข้าไปใช้งานได้แบบร้อยเปอร์เซ็นต์
การตัดสินใจ “ปิดศูนย์ฝึกหนองจอก” จึงน่าจะเป็นหนทางที่ดีที่สุด
สาธารณชน ควรจะได้รับรู้ “ตำนานอภิมหากาพย์” ของ “ศูนย์ฝึกฟุตบอลหนองจอก” จะเป็นบทเรียนเล่าขานให้ลูกหลานคนไทยได้รับรู้
หากบทสรุปออกมาตามท้องเรื่อง คงยากจะปฏิเสธว่า วงการกีฬาฟุตบอลฯ ไทย ทำไมตกต่ำ ถ้า ผู้บริหารจะไปมีบทบาทในหน้าที่ระดับชาติที่สูงกว่านี้ จะเป็นอย่างไร ลองคิดเล่นๆ เอาล่ะกัน!
https://www.1morenews.com/5842/#