ในวันที่ 20 ตุลาคมนี้ สมเด็จพระจักรพรรดินีทรงมีพระชนมายุครบ 84 พรรษา ได้ทรงเผยความในพระราชหฤทัยว่า “การเป็นจักรพรรดินีนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย”
ในวันนี้ทรงประทับเคียงข้างสมเด็จพระจักรพรรดิทอดพระเนตรแผนที่ประเทศญี่ปุ่นขนาดใหญ่พร้อมกับรอยแย้มพระสรวลขณะทรงสนทนา ทุกครั้งที่ทั้งสองพระองค์เสด็จพระราชดำเนินกลับมาจากสถานที่ใดในญี่ปุ่นจะทรงปักหมุดสีแดงลงบนพื้นที่นั้นเป็นสัญลักษณ์เสมอ
ในวันคล้ายวันพระราชสมภพครบรอบ 84 พรรษาวันที่ 20 ตุลาคมนี้ ทรงย้อนรำลึกถึงเหตุการณ์ต่างๆที่ผ่านมาจนกระทั่งมาถึงวันนี้
เมื่อ 59 ปีก่อน สมเด็จพระจักรพรรดินีทรงอภิเษกสมรสเข้ามาเป็นสมาชิกราชวงศ์เบญจมาศจากสามัญชน ในวันที่ต้องเปลี่ยนแปลงสถานะครั้งใหญ่ในการอภิเษกสมรสนั้นทรงรับสั่งว่า “ดิฉันรู้สึกกังวลใจอย่างมากกับการที่ต้องมาสู่เส้นทางที่ไม่เคยนึกฝันมาก่อน แต่การได้ประทับเคียงข้างใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ดิฉันรู้สึกประทับใจอย่างสุดซึ้งในการที่ทรงตั้งพระทัยอย่างแน่วแน่ในพระสถานะของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท(ทรงหมายถึงสมเด็จพระจักรพรรดิ-ผู้แปล) “ ทั้งยังทรงเปิดเผยความรู้สึกอย่างตรงไปตรงมาว่า “การดำรงสถานะเป็นพระวรชายาในองค์มกุฎราชกุมารหรือสมเด็จพระจักรพรรดินีนั้นมิใช่เรื่องง่ายเลย” และทรงย้ำถึงว่า “ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาททรงเข้มงวดมากในบางครั้ง แต่กระนั้นก็ทรงสอนด้วยพระเมตตาอย่างหาที่สุดมิได้” สำหรับยุคสมัยต่อไปที่จะมาถึงนั้นทรงรับสั่งว่า “จะอธิษฐานขอให้ยุคสมัยใหม่ของมกุฎราชกุมารและพระวรชายาที่จะมาถึงมีแต่ความสงบสุข”
ในวันที่ 20 ตุลาคมนี้ สมเด็จพระจักรพรรดินีทรงประกอบพระราชพิธีวันคล้ายวันพระราชสมภพที่พระบรมมหาราชวังในพระฐานะสมเด็จพระจักรพรรดินีแห่งญี่ปุ่นเป็นครั้งสุดท้าย
อ่านตอนที่ทรงรับสั่งถึงสมเด็จพระจักรพรรดิแล้วดิฉันนึกถึงที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตติ์พระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่9ทรงรับสั่งถึงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯอย่างไรก็ไม่ทราบ ตื้นตันใจเหลือเกิน
ข่าวจาก
http://news.tbs.co.jp/sp/newseye/tbs_newseye3502554.htm
แปลข่าว cheewachon Piyason
20 ตุลาคม วันคล้ายวันพระราชสมภพสมเด็จพระจักรพรรดินีแห่งญี่ปุ่น
ในวันนี้ทรงประทับเคียงข้างสมเด็จพระจักรพรรดิทอดพระเนตรแผนที่ประเทศญี่ปุ่นขนาดใหญ่พร้อมกับรอยแย้มพระสรวลขณะทรงสนทนา ทุกครั้งที่ทั้งสองพระองค์เสด็จพระราชดำเนินกลับมาจากสถานที่ใดในญี่ปุ่นจะทรงปักหมุดสีแดงลงบนพื้นที่นั้นเป็นสัญลักษณ์เสมอ
ในวันคล้ายวันพระราชสมภพครบรอบ 84 พรรษาวันที่ 20 ตุลาคมนี้ ทรงย้อนรำลึกถึงเหตุการณ์ต่างๆที่ผ่านมาจนกระทั่งมาถึงวันนี้
เมื่อ 59 ปีก่อน สมเด็จพระจักรพรรดินีทรงอภิเษกสมรสเข้ามาเป็นสมาชิกราชวงศ์เบญจมาศจากสามัญชน ในวันที่ต้องเปลี่ยนแปลงสถานะครั้งใหญ่ในการอภิเษกสมรสนั้นทรงรับสั่งว่า “ดิฉันรู้สึกกังวลใจอย่างมากกับการที่ต้องมาสู่เส้นทางที่ไม่เคยนึกฝันมาก่อน แต่การได้ประทับเคียงข้างใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ดิฉันรู้สึกประทับใจอย่างสุดซึ้งในการที่ทรงตั้งพระทัยอย่างแน่วแน่ในพระสถานะของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท(ทรงหมายถึงสมเด็จพระจักรพรรดิ-ผู้แปล) “ ทั้งยังทรงเปิดเผยความรู้สึกอย่างตรงไปตรงมาว่า “การดำรงสถานะเป็นพระวรชายาในองค์มกุฎราชกุมารหรือสมเด็จพระจักรพรรดินีนั้นมิใช่เรื่องง่ายเลย” และทรงย้ำถึงว่า “ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาททรงเข้มงวดมากในบางครั้ง แต่กระนั้นก็ทรงสอนด้วยพระเมตตาอย่างหาที่สุดมิได้” สำหรับยุคสมัยต่อไปที่จะมาถึงนั้นทรงรับสั่งว่า “จะอธิษฐานขอให้ยุคสมัยใหม่ของมกุฎราชกุมารและพระวรชายาที่จะมาถึงมีแต่ความสงบสุข”
ในวันที่ 20 ตุลาคมนี้ สมเด็จพระจักรพรรดินีทรงประกอบพระราชพิธีวันคล้ายวันพระราชสมภพที่พระบรมมหาราชวังในพระฐานะสมเด็จพระจักรพรรดินีแห่งญี่ปุ่นเป็นครั้งสุดท้าย
อ่านตอนที่ทรงรับสั่งถึงสมเด็จพระจักรพรรดิแล้วดิฉันนึกถึงที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตติ์พระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่9ทรงรับสั่งถึงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯอย่างไรก็ไม่ทราบ ตื้นตันใจเหลือเกิน
ข่าวจาก http://news.tbs.co.jp/sp/newseye/tbs_newseye3502554.htm
แปลข่าว cheewachon Piyason