ผมได้มีโอกาศเข้ารับการฝึกนักเรียนนายสิบตำรวจ ผมจะมาแบ่งปันว่ามันเป็นยังไงบ้างนะครับ
เกริ่นก่อนนะครับ ผมจบ ม.6 จาก รร.บ้านนอกและเข้าศึกษาต่อมหาวิทยาลัยช่วงเรียนปี 1 จะรู้ศึกว่าเราใช้เงินเยอะมากในการดำรงชีวิตทั้ง ค่าหอ พักค่า ชีตค่ากิน ค่าอยู่ จนถึงค่าน้ำมัน ผมเริ่มสิ้นหวังกับการเรียนจนต้องเริ่มคิดจะหารายได้เสริมแต่มันก็ไม่ประสบผลสำเร็จจนมีข่าวเปิดรับสมัคร นสต.
ช่วงแรก (สอบ)
เริ่มจากเพื่อนผมชวนสมัครสอบตอนแรกและไม่คิดจะเป็นตำรวจหรอกครับ พูดตรงๆว่าตอนนั้นก็เกลียดตำรวจเหมือนกัน ผมจึงได้สมัครสอบเพื่อไปเป็นเพื่อน ผมไม่ได้อ่านหนังสือเพราะไม่คิดว่าจะสอบติดหรืออยากเป็น แต่พอผลออกมา ก็ติดซะงั้น อยุ่ในระดับกลางๆผมตกใจมาก ผมจึงคิดในใจว่าถ้าพ่อแม่รู้โดนบังคับให้ไปทางนี้แน่นอน ซึ่งมันก๋ตามคาดครับโดนบังคับให้ลองทดสอบสมรรถภาพทางกาย คือการวิ่ง ว่ายน้ำ
การวิ่งจะได้วิ่งในลู่วิ่ง ในระยะ 1 กม. ใช้เวลา 4 นาที 55 วิ ซึ่งได้รับคำแนะนำจากคนอื่นว่า "เวลาออกตัวอย่าวิ่งเร็วไม่งั้นจะหมดก่อนถึงเส้นชัย" ระหว่างนั้นจะมีครูฝึกมาแนะนำและวิ่ง 1 กม. ให้ดูว่าแบบไหน ผ่าน แบบ ไหน ตก ซึ่งแน่นอนว่าผม (เกือบตก)
การว่ายน้ำพอพูดปุ๊ปผมก็คงถอดใจเพราะดันว่ายน้ำไม่เป็นจึงได้รับการเทรนแบบเร่งด่วนจากเพื่อนๆที่ไปสอบด้วยกันกับรุ่นพี่ทหารที่รู้จัก และคงเหมือนเดิมคือ (เกือบตก)
หลังจากนั้นจะมีทดสอบ วิ่ง 50 เมตร กระโดดไกล วิ่งเก็บของ (ตกได้ 1 อย่าง) ผ่าน 2 ก็ชิวๆแล้ว ผมไม่เคยเห็นคนตกนะ หลังจากนั้นจะเป็นการตรวจสุขภาพร่างกายที่ รพ เค้าจะให้เก็บตัวอย่างปัสสาวะและอุจจาระ และตัวร่างกายตรวจปอดและโรคต้องห้าม เช่น ไวรัสตับเอกสารชนิด ต่างๆ และรอยสักต้องมีรอยลบและขนาดไม่น่าเกลียด มีหลายคนตกเพราะไม่รู้ตัวเองว่าเป็นไวรัสตับอักเสบหลายคน (ตกกันเป็นสิบ) แหละรอผลจะประกาศมาเป็นรอบๆ
พอประกาศผลเสร็จจะให้ไปสอบสัมภาษณ์ก็เตรียมข้อมูลไปเยอะๆนะครับบางท่านจะถูกถามว่า ทำไมอยากเป็นตำรวจ , ให้สวดมนต์ , ให้ร้องในห้องว่าหยุดนี่เจ้าหน้าที่ตำรวจ อย่าขยับก็มี , บางคนให้ยึดพื้น ปัญหาที่เราทำคือไปเตรียมชื่อ ท่าน ผบ.ตร ผบก.ภาค ก็มีต้องเรียกว่าผิดคาดการเลยทีเดียวเพราะที่เรารู้เค้าไม่ถาม 5555 รอประกาศผลสอบ และเค้าจะเช็คประวัติอาญชกรรมด้วยนะ ว่ามีไหม
การเข้าฝึกอบรม
เค้าจะให้ตัดหัวเกรียนผมยาวไม่เกิน 1 เบอร์ 1 เข้า ศูนย์ฝึกห้ามนำมือถือ อุปกรณ์ สื่อสารเข้ามา จะเช็คชื่อรายงานตัวทีละคนๆแบบดังๆกลางสนามให้ครูฝึกได้ยินครครั้งแรกอายแน่นอนครับ ทั้งพ่อแม่ ผู้ปกครอง สาวๆ ได้ยินกันทั่วหน้า พอครบจำนวนแล้วก็เริ่มจัดกิจกรรมไล่แขกครับ ออกกำลังกายจนกว่าผู้ปกครองจะกลับหมดไม่หมดก็ออกกำลังกายแบบนั้นแหล่ะเป็นลมเป็นแร้งกันเลยทีเดียว หลังจากนั้นจะให้แยกกองร้อย จัดหมวดหมู่และกลับกองร้อยของตัวเองเพื่อทำความสะอาดกองร้อยที่ตัวเองจะอยู่เป็นปีให้สะอาด พอเข้ากองร้อยก็รู้สึกคิดถึงบ้านทันทีครับเราได้นอนรวมกับคนที่ไม่รู้จักหรือรู้ใจอีก ตั้ง 99 คน ห้องน้ำจะเป็นอ่างยาวๆเหมือนหนังในเรื่อง นช นะครับขัดให้เนียบกวาดพื้นถูพื้นแบบไม่ให้มีเสี้ยนตำเลยพอตกเย็นก็เข้าแถวเคารพธงชาติและรับประทานอาหารตอนแรกก็เสียวๆครับว่าจะโดนไรไหมเน้อออ ดีที่ยังไม่โดนครูฝึกบอกว่าเก็บไว้ก่อน เค้าจะสอนตบฉากกินฉากเมื่อรับประทานอาหารเสร็จก็ไปต่อแถวรับของใช้ครับ จะมีเสื้อตัวใน สบู่ รองเท้า ขัน เบาะที่นอน ฯลฯ ของส่วนตัว บางที่จะมี กกน ให้ด้วยนะ หลังจากนั้นก็จะจัดเลขประจำตัวของ นสต บาง ที่ก็เขียนบางที่ก็สกรีนเอานะ ช่วง 3 วันแรกแอบดีใจทำไมมันสบายแท้แต่ก็ยังคิดถึงบ้านอยู่ พอเข้าวันที่ 4 เท่านั้นแหล่ะครับนรกมาเยือนเริ่มมีการปรับปรุงวินัยกันเสียแล้ว ช่วงนี้ยังไม่มีรุ่นนะครับจนกว่าจะได้รับน้อง ช่วงแรกๆจะเป็นช่วงกำลังปรับสภาพร่างกายจะเซฟๆหน่อยและเริ่มเข้มข้นขึ้นๆๆจนจบครับจะมาเล่าต่อนะครับมีงานแล้วเพราะเรื่องบางเรื่องอยากให้เซอร์ไพร์นิดนึงจะได้เป็นรสชาติชีวิตและการฝึกในเราเข้มแข็ง
ปล.
1.ไม่มีขนมกิน กินได้ตามเวลาและไม่มีมื้อดึกอะไรทั้งนั้น
2.จะถูกตัดขาดจากโลกภายนอก เห็นแค่พวกเดียวกัน อิอิ
3.อย่าแอบเอามือถือเข้าไปเพราะครูฝึกเคยเป็นเรา ยังไงก็จับได้
4.น้ำหนักลงกันทุกคนไม่ต้องห่วง
5.ตัดผมประมาณ 2 อาทิตย์ / ครั้ง เกรียน 3 ด้าน ข้างบน เบอร์ 1
6.ประมาณ 3-4 อาทิตย์ ถึงจะมีการปล่อยกลับบ้านครั้งแรก โปรดจำไว้ว่าจนกว่าเราจะออกจาก ศูนย์ฝึกไกลๆจึงวางใจเพราะศรูฝึกจะไปหิ้วเรากลับศูนย์ฝึกและให้คนที่โดนกักกลับแทนหรือไม่ขณะเดินแถวเพื่อรายงานขอออก ครูฝึกอาจจะสั่งกลับหลังหันเดินเข้ากองร้อยก็ได้ (การกลับจะต้องมีคนเฝ้ากองร้อย 15 % ขึ้นไป )
7.หลังจากกลับพักประจำสัปดาห์ จะมีการตรวจอุปกรณ์ รองเท้าต้องมัน ฟันต้องขาวใช้นิ้วเช็คตรงไหนต้องไม่มีฝุ่น เพราะอาจจะถูก
ลงโทษโดยการเข้าเวรยามหรือกัก (งดกลับ) ก็ได้
กว่าจะมาเป็นนักเรียนนายสิบตำรวจ (นสต)
เกริ่นก่อนนะครับ ผมจบ ม.6 จาก รร.บ้านนอกและเข้าศึกษาต่อมหาวิทยาลัยช่วงเรียนปี 1 จะรู้ศึกว่าเราใช้เงินเยอะมากในการดำรงชีวิตทั้ง ค่าหอ พักค่า ชีตค่ากิน ค่าอยู่ จนถึงค่าน้ำมัน ผมเริ่มสิ้นหวังกับการเรียนจนต้องเริ่มคิดจะหารายได้เสริมแต่มันก็ไม่ประสบผลสำเร็จจนมีข่าวเปิดรับสมัคร นสต.
ช่วงแรก (สอบ)
เริ่มจากเพื่อนผมชวนสมัครสอบตอนแรกและไม่คิดจะเป็นตำรวจหรอกครับ พูดตรงๆว่าตอนนั้นก็เกลียดตำรวจเหมือนกัน ผมจึงได้สมัครสอบเพื่อไปเป็นเพื่อน ผมไม่ได้อ่านหนังสือเพราะไม่คิดว่าจะสอบติดหรืออยากเป็น แต่พอผลออกมา ก็ติดซะงั้น อยุ่ในระดับกลางๆผมตกใจมาก ผมจึงคิดในใจว่าถ้าพ่อแม่รู้โดนบังคับให้ไปทางนี้แน่นอน ซึ่งมันก๋ตามคาดครับโดนบังคับให้ลองทดสอบสมรรถภาพทางกาย คือการวิ่ง ว่ายน้ำ
การวิ่งจะได้วิ่งในลู่วิ่ง ในระยะ 1 กม. ใช้เวลา 4 นาที 55 วิ ซึ่งได้รับคำแนะนำจากคนอื่นว่า "เวลาออกตัวอย่าวิ่งเร็วไม่งั้นจะหมดก่อนถึงเส้นชัย" ระหว่างนั้นจะมีครูฝึกมาแนะนำและวิ่ง 1 กม. ให้ดูว่าแบบไหน ผ่าน แบบ ไหน ตก ซึ่งแน่นอนว่าผม (เกือบตก)
การว่ายน้ำพอพูดปุ๊ปผมก็คงถอดใจเพราะดันว่ายน้ำไม่เป็นจึงได้รับการเทรนแบบเร่งด่วนจากเพื่อนๆที่ไปสอบด้วยกันกับรุ่นพี่ทหารที่รู้จัก และคงเหมือนเดิมคือ (เกือบตก)
หลังจากนั้นจะมีทดสอบ วิ่ง 50 เมตร กระโดดไกล วิ่งเก็บของ (ตกได้ 1 อย่าง) ผ่าน 2 ก็ชิวๆแล้ว ผมไม่เคยเห็นคนตกนะ หลังจากนั้นจะเป็นการตรวจสุขภาพร่างกายที่ รพ เค้าจะให้เก็บตัวอย่างปัสสาวะและอุจจาระ และตัวร่างกายตรวจปอดและโรคต้องห้าม เช่น ไวรัสตับเอกสารชนิด ต่างๆ และรอยสักต้องมีรอยลบและขนาดไม่น่าเกลียด มีหลายคนตกเพราะไม่รู้ตัวเองว่าเป็นไวรัสตับอักเสบหลายคน (ตกกันเป็นสิบ) แหละรอผลจะประกาศมาเป็นรอบๆ
พอประกาศผลเสร็จจะให้ไปสอบสัมภาษณ์ก็เตรียมข้อมูลไปเยอะๆนะครับบางท่านจะถูกถามว่า ทำไมอยากเป็นตำรวจ , ให้สวดมนต์ , ให้ร้องในห้องว่าหยุดนี่เจ้าหน้าที่ตำรวจ อย่าขยับก็มี , บางคนให้ยึดพื้น ปัญหาที่เราทำคือไปเตรียมชื่อ ท่าน ผบ.ตร ผบก.ภาค ก็มีต้องเรียกว่าผิดคาดการเลยทีเดียวเพราะที่เรารู้เค้าไม่ถาม 5555 รอประกาศผลสอบ และเค้าจะเช็คประวัติอาญชกรรมด้วยนะ ว่ามีไหม
การเข้าฝึกอบรม
เค้าจะให้ตัดหัวเกรียนผมยาวไม่เกิน 1 เบอร์ 1 เข้า ศูนย์ฝึกห้ามนำมือถือ อุปกรณ์ สื่อสารเข้ามา จะเช็คชื่อรายงานตัวทีละคนๆแบบดังๆกลางสนามให้ครูฝึกได้ยินครครั้งแรกอายแน่นอนครับ ทั้งพ่อแม่ ผู้ปกครอง สาวๆ ได้ยินกันทั่วหน้า พอครบจำนวนแล้วก็เริ่มจัดกิจกรรมไล่แขกครับ ออกกำลังกายจนกว่าผู้ปกครองจะกลับหมดไม่หมดก็ออกกำลังกายแบบนั้นแหล่ะเป็นลมเป็นแร้งกันเลยทีเดียว หลังจากนั้นจะให้แยกกองร้อย จัดหมวดหมู่และกลับกองร้อยของตัวเองเพื่อทำความสะอาดกองร้อยที่ตัวเองจะอยู่เป็นปีให้สะอาด พอเข้ากองร้อยก็รู้สึกคิดถึงบ้านทันทีครับเราได้นอนรวมกับคนที่ไม่รู้จักหรือรู้ใจอีก ตั้ง 99 คน ห้องน้ำจะเป็นอ่างยาวๆเหมือนหนังในเรื่อง นช นะครับขัดให้เนียบกวาดพื้นถูพื้นแบบไม่ให้มีเสี้ยนตำเลยพอตกเย็นก็เข้าแถวเคารพธงชาติและรับประทานอาหารตอนแรกก็เสียวๆครับว่าจะโดนไรไหมเน้อออ ดีที่ยังไม่โดนครูฝึกบอกว่าเก็บไว้ก่อน เค้าจะสอนตบฉากกินฉากเมื่อรับประทานอาหารเสร็จก็ไปต่อแถวรับของใช้ครับ จะมีเสื้อตัวใน สบู่ รองเท้า ขัน เบาะที่นอน ฯลฯ ของส่วนตัว บางที่จะมี กกน ให้ด้วยนะ หลังจากนั้นก็จะจัดเลขประจำตัวของ นสต บาง ที่ก็เขียนบางที่ก็สกรีนเอานะ ช่วง 3 วันแรกแอบดีใจทำไมมันสบายแท้แต่ก็ยังคิดถึงบ้านอยู่ พอเข้าวันที่ 4 เท่านั้นแหล่ะครับนรกมาเยือนเริ่มมีการปรับปรุงวินัยกันเสียแล้ว ช่วงนี้ยังไม่มีรุ่นนะครับจนกว่าจะได้รับน้อง ช่วงแรกๆจะเป็นช่วงกำลังปรับสภาพร่างกายจะเซฟๆหน่อยและเริ่มเข้มข้นขึ้นๆๆจนจบครับจะมาเล่าต่อนะครับมีงานแล้วเพราะเรื่องบางเรื่องอยากให้เซอร์ไพร์นิดนึงจะได้เป็นรสชาติชีวิตและการฝึกในเราเข้มแข็ง
ปล.
1.ไม่มีขนมกิน กินได้ตามเวลาและไม่มีมื้อดึกอะไรทั้งนั้น
2.จะถูกตัดขาดจากโลกภายนอก เห็นแค่พวกเดียวกัน อิอิ
3.อย่าแอบเอามือถือเข้าไปเพราะครูฝึกเคยเป็นเรา ยังไงก็จับได้
4.น้ำหนักลงกันทุกคนไม่ต้องห่วง
5.ตัดผมประมาณ 2 อาทิตย์ / ครั้ง เกรียน 3 ด้าน ข้างบน เบอร์ 1
6.ประมาณ 3-4 อาทิตย์ ถึงจะมีการปล่อยกลับบ้านครั้งแรก โปรดจำไว้ว่าจนกว่าเราจะออกจาก ศูนย์ฝึกไกลๆจึงวางใจเพราะศรูฝึกจะไปหิ้วเรากลับศูนย์ฝึกและให้คนที่โดนกักกลับแทนหรือไม่ขณะเดินแถวเพื่อรายงานขอออก ครูฝึกอาจจะสั่งกลับหลังหันเดินเข้ากองร้อยก็ได้ (การกลับจะต้องมีคนเฝ้ากองร้อย 15 % ขึ้นไป )
7.หลังจากกลับพักประจำสัปดาห์ จะมีการตรวจอุปกรณ์ รองเท้าต้องมัน ฟันต้องขาวใช้นิ้วเช็คตรงไหนต้องไม่มีฝุ่น เพราะอาจจะถูก
ลงโทษโดยการเข้าเวรยามหรือกัก (งดกลับ) ก็ได้