วัยใสระดับซี 5 ไฟท์กับซี 9.5 ยังไงให้รอดคะ

เปลี่ยนล็อกอินมาเล่าค่ะ เดี๋ยวหน่วยงานอาจเสื่อมเสียค่ะ

เราอายุ 3X ปี ยังโสด เพื่อนพี่น้องเยอะ เป็นผู้หญิงห้าวๆ มีปืน 1 กระบอก แต่ก็ชอบแต่งตัวนะคะ หน้าตาก็พอไปวัดไปวาได้ หลายคนบอกรูปร่างดี มีคนมาหลีเป็นระยะแต่เราจัดการกระเจิงหมดค่ะ 555 ชอบไปหลีผู้ชายที่เราสนใจเองมากกว่าค่ะ บรรจุเป็นข้าราชการปัจจุบันเทียบระดับซี 5 ในวงการถูกจัดในกลุ่มทำงานจริงจัง ทนความลำบากได้ เคยผ่านงานภาคสนามในพื้นที่ห่างไกลความเจริญ 3 -4 ปี ผู้ใหญ่ในกรมเลยดึงเข้ามาช่วยในกรมเพื่อบุกเบิกงานด้านที่เคยมีประสบการณ์ค่ะ เพิ่งทำงานในกรมได้ 6 - 7 เดือน (เบื่อ ชห. คนเยอะ เรื่องแยะ)

ประเด็นที่จะเล่าคือความสงสัยในการแสดงออกของผู้บริหารคนหนึ่งเทียบระดับซี 9.5 ที่แสดงออกกับเราค่ะ เป็นผู้บริหารที่ถือว่าอายุยังน้อย หน้าตาก็ไม่ได้แย่ เมียสอง ลูกสามอะไรทำนองนั้น มีสาวๆ แอบกรี๊ดบ้างด้วยตำแหน่ง นามสกุล และหน้าตาเขา แรกๆ เรามีอคติเพราะนามสกุลดัง แต่พอเห็นตอนทำงานก็ยอมรับว่าเขาเก่งค่ะ และค่อนข้างมีสัมมาคารวะ ไม่ถือตัว แต่ข้อเสียคือบางทีก็เหวี่ยงขึ้นมาเสียเฉยๆ และมีข่าวเรื่องเจ้าชู้พอตัวค่ะ และได้ข่าวว่ามีแต่คนพะเน้าพะนอเอาอกเอาใจ เต็มใจบริการ กินฟรี แถมฟรี WI-FI อะไรทำนองนั้นค่ะ

1. ครั้งแรกที่เจอเป็นทางการ ผอ.ส่งเราไปบรีฟงานให้ 9.5 เค้าก็พูดคุยกันเอง ทำตัวเฟรนลี่ แปลกๆ นิดนึง ตอนเปิดขวดยื่นขนมให้เรากิน ยื่นให้แบบไม่พูดอะไร เราก็มองเฉยๆ ไม่ได้หยิบกิน ไม่ได้พูดขอบคุณ ปากยังพูดเรื่องงานต่อไป  9.5 เลยปิดขวดขนม วางไว้ที่เดิม ไม่ได้พูดอะไรค่ะ กับแปลกๆ ที่ถามเรื่องส่วนตัวเรา อายุ การศึกษา แต่ก็คิดว่าคงชวนคุยให้ไม่เกร็ง

2. ช่วงต่อมามีงานที่ 9.5 คิดโปรเจค ทีมเราต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำ เราต้องไปประชุมคุยงานกับ 9.5 บ่อยๆ มีครั้งนึงเช้าเราไปแทน ผอ.1 ผอ.2 แล้วนัดอีกช่วงบ่าย เราก็เลยพูดเบาๆ ว่าหนูต้องมาด้วยเหรอคะ (เพราะตอนบ่าย ผอ.1 จะมา) 9.5 ก็พูดว่าทำไม แล้วหัวเราะ เราก็คิดว่าไม่มีอะไร แยกย้ายซักพัก ผอ.2 ที่ไปราชการ ตจว. ก็โทรมาหาเรา บอกว่าไปช่วย 9.5 ทำงานหน่อยนะ แล้วก็พูดหวานๆ กับ 9.5 ด้วย เราก็งงว่าอยู่ดีๆ ผอ.โทรมาบอกเรื่องนี้ทำไม และไม่ค่อยพอใจ ทำไม ผอ.2 ต้องใช้คำว่าพูดหวานๆ แต่ ผอ.2 ไม่ได้เล่าที่มาที่ไป ช่วงบ่ายเราก็เลยไป นั่งฟังเงียบๆ สังเกตว่า 9.5 มองเราแล้วก็ขำๆ

วันต่อมาเรื่องมาเฉลยตอนเจอ ผอ.2 ถามเราคำแรก แกไปพูดอะไรกับ 9.5 เค้ายกหูโทรศัพท์หาฉัน เค้าพูดว่าน้องที่พี่ส่งมา พูดเหมือนไม่อยากมา ไม่อยากทำงานกับเค้าไรงี้ เรานี่อึ้งเลย มันเรื่องขี้ปะติ๋วมาก คนระดับ 9.5 จะมาใส่ใจอะไรกับเรื่องขี้มดแบบนี้ ผอ.2 เล่าว่าเลยบอก 9.5 ว่า น้องเค้าเป็นคนพูดตรงๆ พูดไม่หวาน แต่จริงใจ แล้ว ผอ.2 บอกว่าเข้าใจเรา เพราะเคยทำงานภาคสนามมาเหมือนกัน ต้องทำงานกับผู้ชายเป็นร้อยสองร้อย ไม่ใช่สไตล์นุ่มนิ่มอ่อนหวาน เราก็บอกว่าจะพยายามปรับการพูดเราให้อ่อนลงแล้วกัน (แต่เราว่าเวลาเราคุยกับคนระดับ 9.5 เราก็พูดรู้กาลเทศะนะคะ ใครจะกล้าไปพูดแหย่คนระดับนั้น เดี๋ยวจะโดนย้ายไม่รู้ตัว) เราก็ถามว่า 9.5 โทรไปคุยเรื่องหนูเนี่ยเหรอคะ เพราะถ้าไม่ใช่เรื่องสำคัญเค้าจะส่งไลน์คุยกัน ต้องเรื่องรีบเร่งสำคัญจะโทรหากัน ผอ.2 บอก 9.5 ก็โทรมาคุยเรื่องงานนี่แหละ แล้วเลยพูดเรื่องนี้เลย เราก็แบบโอเคๆ ค่ะ
แต่พอวันต่อๆ มา ผอ.2 พาแก๊งที่ทำงานไปเลี้ยง ก็ไปเล่าเป็นโจ๊กในวงเหล้าว่า 9.5 ยกหูโทรศัพท์หา ผอ.2 เพื่อไปคุยเรื่องเราโดยเฉพาะ เราก็เลยมันยังไงกันแน่ เริ่มไม่โอเค จน ผอ.2 บอกว่า ไม่ต้องคิดมาก ก็เป็นแบบที่เราเป็น 9.5 แค่เป็นคนแบบขัดใจไม่ได้ ไม่พอใจอะไรบางทีก็เหวี่ยงๆ ขึ้นมาแต่หายเร็ว

3. หลังจากนั้น รู้สึกว่า 9.5 เริ่มเข้ามาประชิดตัวแปลกๆ เช่น มากวักมือเรียกเราถึงพาร์ติชันบอกว่ามาคุยงานหน่อย ระดับ 9.5 ทำแบบนี้ คนแถวนั้นยังไม่เคยเห็นเลย แต่พอเห็นพี่ผู้ชายอีกคนไปด้วย ผอ.2 ก็เดินมาพอดี ก็เลยเรียกให้ไปด้วย ไปยืนคุยกันแถวบันได คุยๆๆ เราก็คงทำหน้างงๆ ก็แบบเดินเข้ามาใกล้ๆ มาเปิดเอกสารในมือถือให้ดู บางทีเจอก็พุ่งมานั่งใกล้ๆ จนตกใจ เลขาหน้าห้องก็มองๆ แต่ไม่พูดอะไร แต่ทุกครั้งเราก็เฉยๆ พูดแข็งๆ สไตล์เรา ไม่มีพูดคะขาหวานหูค่ะ ทำไม่เป็น แต่ก็วิ่งไปวิ่งมา ทำงานให้สำเร็จหลายครั้งค่ะ มีครั้งนึงต้องไปนั่งรอ 9.5 กับ ผอ.2 จนถึงสองทุ่ม แทบหลับคาโซฟา พองานเสร็จเป็นที่พอใจ 9.5 ก็พูดขอบคุณ ผอ.2 กับเรา

4. มาถึงจุดพีค วันนั้นก็ต้องไปคุยงาน เราไปกับ ผอ.2 จังหวะเดินเข้าห้อง 9.5 ลุกขึ้นมาเดินสวนกับเรา หันมาพูดเบาๆ กับเรา น้ำเสียงแปลกๆ ได้ยินแค่สองคนว่า "วันนี้แต่งตัวสวย" เราอึ้งเลย คิดในใจว่ากุโดนแล้วไง วันนั้นเดินเอาเอกสารไปให้ มองเราด้วยสายตากรุ้มกริ่ม พูดขอบใจจ้ะ ขนลุก ชห. ค่ะ หลังวันนั้นเลยถามคนในวงการว่า 9.5 เป็นไง ได้ความว่าตอนอยู่กรมเดิมก็ออกลายเจ้าชู้พอตัว เราก็อืม ไม่ผิดจากที่คาดไว้ หลังจากนั้นเลยเล่าให้ ผอ.2 ฟังเรื่องที่เค้าพูดกระซิบชมเรา เพื่อบอก ผอ.2 ว่าเราไม่โอเค หาข้อมูลเรื่องนิสัย 9.5 ข่าวตรงกันเรื่องเจ้าชู้ เหวี่ยงแหไปทั่ว แต่ดูผู้หญิงก็ชอบเข้าหา 9.5 นะคะ เห็นมากับตา มันจะอะไรกันนักหนา มีเมียมีลูกแล้วก็เหมือนจะไม่เป็นอุปสรรคใดๆ ซึ่งเราค่อนข้างรังเกียจการทำตัวแบบนี้

5. หลังเหตุการณ์พีค เวลาต้องไปประชุมคุยงาน เราก็พยายามนั่งหลบๆ ค่ะ มีวันนึง 9.5 นั่งหัวโต๊ะ เราเลยนั่งเว้นเก้าอี้ไว้ 1 ตัว ก็สั่งให้เราขยับไปนั่งเก้าอี้ตัวที่ติดกับเขา 3 ครั้ง ครั้งแรก มานั่งนี่ (ชี้เก้าอี้) ไม่เป็นไรค่ะ/ครั้ง 2 มานั่งตรงนี้ ไม่มีคนมาแล้วนี่ (ชี้เก้าอี้) ไม่เป็นไรค่ะ หนูนั่งตรงนี้ได้ค่ะ/ครั้ง 3 อีหนู!! มานั่งตรงนี้ (ชี้เก้าอี้) ทุกคนในโต๊ะอีก 4 คน อึ้งๆ เราขยับไปนั่งเก้าอี้ติด 9.5 เงียบๆ แค่นั้นแหละ 9.5 อารมณ์ดีขึ้นมาทันตาเห็น พูดนั่นนี่ ยิงมุก สักพักเปิดขวดขนม หยิบกินขนมจอลลีแบร์ แล้วยื่นขวดให้เรา (อีขวดนั้นอีกละ อยากปาทิ้ง) ถามว่า กินหมีมั้ย เราส่ายหัว ไม่ค่ะ คุยๆๆ ต่อ สักพัก เปิดขวดยาหอม ดมก่อนแล้วสักพักยื่นให้เรา ถามเราว่าดมมั้ย เวียนหัวมั้ย เราตอบไม่ค่ะ ขยับหันหน้าหนี คือตอนนั้นยื่นให้เราคนเดียวค่ะ คนอื่นก็มองตาปริบๆ (คิดในใจ จะอะไรกับกุนักหนา ไม่ต้องมายุ่งกับกุ อีกสองคนที่ไปกับเราก็รู้ว่าเราไม่โอเค เราหันไปส่งซิกอารมณ์แบบ แม่มเอ้ย อย่ามายุ่งกะกุ) อีกสักพัก 9.5 โทรไปหา ผอ.1 ให้มาประชุมด้วย ยังไม่ทันวางมือถือ เรารีบขยับกลับไปนั่งเก้าอี้ตัวเดิม ละพูดว่า เห็นมั้ยคะ หนูก็ต้องมานั่งที่เดิม 9.5 ก็ไม่พูดไร

6. หลังเจอแบบนั้น เราก็พยายามเลี่ยงๆ เจอก็สวัสดีตามมารยาท พยายามหลีกเลี่ยงการเจอตามงานที่เลี่ยงได้ แล้ววันนึง  9.5 มาดูห้องประชุมกับออฟฟิศเปิดใหม่ ซึ่งอยู่ตึกเดียวกันกับ 9.5 มีหน้าห้องอาวุโสที่ติดตามตลอดมาด้วย มี ผอ.2 และเรา 9.5 ก็ถามว่ามีใครจะมานั่งออฟฟิศตรงนี้บ้าง ผอ.2 เราก็บอกว่ามีคนนั้นคนนี้ แล้วชี้มาที่เราว่านี่ด้วย เราเลยคุยกับ ผอ.2 แบบที่คุยปกติกันว่า ได้เลยค่ะ ผอ. หนูพร้อมจะย้ายมานั่งที่นี่ทันทีเลยค่ะ แล้วอยู่ๆ 9.5 ก็พูดขึ้นมาว่า "นอกจากคำพูดจะกวนตีนแล้ว หน้าตาก็ยังกวนตีนด้วย" ทุกคนอึ้งไปพักนึง แล้ว ผอ. เราเลยหัวเราะตามมารยาท พูดว่าน้องเค้าเป็นคนตรงๆ ครับ จริงใจ แล้ว 9.5 ก็ขำๆ แล้วพูดว่า อือ แต่ก็ (ทำท่ายกนิ้วโป้ง) ตอนนั้นเลขาอาวุโสอึ้งใบ้กินไปแล้วค่ะ เห็นเจ้านายตัวเองด่าผู้หญิงว่ากวนตีน 2 ครั้งในประโยคเดียว แต่เราไม่ตลกด้วยค่ะ หลังจากนั้นเราคุยกับ ผอ.2 เลยว่า หนูถือว่า 9.5 ไม่ให้เกียรติ เห็นว่าเราเป็นผู้น้อย จะพูดอะไรยังไงก็ได้เหรอคะ แต่ตอนนั้นเราก็คิดซะว่านี่เจ้ากรรมนายเวรเราแน่ๆ อยากตัดกรรม พยายามสวดแผ่เมตตาให้ก่อนนอนไปค่ะ เผื่ออะไรๆ จะดีขึ้น

6. หลังจากอยู่ดีๆ โดนด่าว่ากวนตีน เราทำยังไงเหรอคะ กับ 9.5 เราก็เฉยๆ ค่ะ เจอหน้าก็ไหว้แล้วหลบ บางทีโผล่มาที่ชั้นเรา เรารู้ก็จะหลบไปก่อน คือทุกคนก็จะรู้ว่าเจ้ากรรมนายเวรเรามาแล้ว ประชุม งานอีเว้นท์ที่จริงๆ ต้องได้เจอกัน เราเลี่ยงได้ก็เลี่ยงค่ะ ไม่อยากเจอ และทั้งที่แผ่เมตตาให้ แต่เราก็อดไม่ได้ที่จะดิสเครดิต 9.5 ให้คนอื่นฟังค่ะ ทำพูดเหมือนขำๆ แต่ก็แอบด่าๆ เหน็บๆ เรื่องที่ทำกับเรา แต่ช่วงหลังๆ นี้หลบสำเร็จ ไม่เจอจังๆ เป็น 1 - 2 เดือนค่ะ เห็นแค่แว้บๆ เราก็ว่าคงเป็นผลจากที่แผ่เมตตาให้หลายครั้ง 555555 ช่วงหลังเห็นไปราชการต่างประเทศบ่อยๆ ด้วย รู้สึกสบายใจขึ้นมาหน่อยค่ะ

7. แต่แล้ว อาทิตย์นี้เราย้ายมาออฟฟิศใหม่ ซึ่งอยู่ตึกเดียวกับ 9.5 เราก็พยายามใส่แมสก์ ซึ่งส่วนหนึ่งเพื่อกันเชื้อโรค อีกส่วนคือปิดบังหน้าค่ะ แต่เดินไปไหน คนก็ยังทักกันเพียบ 5555 พอมาอยู่ตึกนี้เราก็ลุ้นมากเวลาขึ้นลิฟท์ ลงลิฟท์ แต่คิดว่าถ้าเจอ 9.5 ก็ต้องมีคนติดตามมาด้วยแหละ

วันพุธที่ผ่านมา จะลงลิฟท์ เดินไปถึงลิฟท์มีคนรออยู่คนนึง ลิฟท์มา ฝนตก ก็เลยยังไม่เข้าไป วิ่งไปเอาร่ม พอกลับมาอีกรอบ เราก็ยืนรอคนเดียว เซนส์เตือนรุนแรงมาก เหมือนไซเรนเปิดอัตโนมัติ เราเลยกระชับแมสก์บนหน้าให้เข้าที่ค่ะ กลัวเจอ 9.5 แต่ก็คิดภาพมากับเลขานะคะ (และมีคนบอกว่าระดับ 9.5 ต้องมียามกดลิฟท์ขึ้นมาส่งด้วย ซึ่งเราก็เคยเห็นยามขึ้นมาส่งผู้บริหารระดับนี้) พอลิฟท์มาถึงชั้นเรา ประตูลิฟท์เปิดออก ติ๊ง!! เจอ 9.5 ยืนในลิฟท์คนเดียว เราแบบ WTF!! หลอนเซนส์ตัวเองมาก ยกมือไหว้แบบลอยๆ หนึ่งที ถอยหลังกรูดหนึ่งก้าวอัตโนมัติ 9.5 ยิ้มกว้างแบบบอกไม่ถูกค่ะ กวักมือเรียกเรา เข้ามาๆ ไม่เป็นไรค่ะ/เข้ามา ขึ้นไปแล้วค่อยลงมาใหม่ (เราจะลงข้างล่าง แต่ลิฟท์ต้องขึ้นไปข้างบนก่อน) ไม่เป็นไรค่ะ/เข้ามา ไม่เป็นไรค่ะ/9.5 ถอนหายใจแบบ หึ้ยยย อารมณ์อ่อนอกอ่อนใจ แล้วก็ปิดลิฟท์ไปคนเดียว) เราก็ช็อคอยู่คะ หลอนมากๆ คิดภาพไว้ แล้วดันเป็นจริง คิดในใจ ถ้าเข้าลิฟท์ไป ก็ไม่รู้จะเจออะไร พื้นที่ิวิกฤตชัดๆ เข้าไปก็บ้าแล้วค่ะ แต่ในส่วนนึงก็คิดว่าอาจจำเราไม่ได้ล่ะมั้ง

วันนั้นคิดว่า โอเค แต้มบาปน่าจะหมด คงอีกพักใหญ่กว่าจะเจออีก หลังจากหายช็อคไปบ้างแล้วที่เจอในลิฟท์ กำลังเดินไปอีกตึก เจออีก เดินมากับกลุ่ม 4 - 5 คน เราก็ยังใส่แมสก์อยู่ เราก็อึ้งนิดๆ พูดกับตัวเองในแมสก์ว่าเจออะไรนักหนาวะ กะว่าจะเดินสวนไปเงียบๆ 9.5 ก็ยิ้มใส่แล้วพูดกับเราว่า อ้าว นึกว่าหนีกลับไปแล้วตั้งแต่ตอนนั้น (ตอนเจอที่ลิฟท์เราสะพายกระเป๋าคอม) เราก็พูดแค่ว่า ยังค่ะ ผู้ใหญ่ในกลุ่มนั้นก็มองๆ เรา คงแอบงง 9.5 ทักทำไม

8. หลังจากนี้ เราคิดว่ายังไงก็ต้องได้ไปทำงานด้วยอีก เพราะช่วงหลังเรามารับผิดชอบงานหลักแล้ว ความซวยคือด้วยตำแหน่งและหน้าที่ของ 9.5 ทำให้เป็นผู้ควบคุมสูงสุดของศูนย์ที่เราทำงานค่ะ ซวยจริงๆ เราเคยทำงานกับผู้ชายมาเยอะค่ะ เคยเจอมาหลี แต่ยังอยู่ในขอบเขตที่จัดการได้ แต่นี่ซี 5 vs ซี 9.5 เราสู้ไม่ได้ค่ะ สู้ไปอาจจะโดนย้ายไปสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ แค่ยืนอยู่เฉยๆ ก็โดนด่าว่าหน้าตากวนตีน เพลียจริงๆ กำลังอธิษฐานให้ 9.5 ไปได้ดิบได้ดี หน้าที่การงานดีขึ้น ย้ายไปเป็นใหญ่โตที่อื่นเสียทีเถอะค่ะ ชาติก่อนเราเคยทำอะไรให้ เราขออโหสิกรรมให้ค่ะ

ควรวางตัวแบบไหนดีคะ ที่จะเป็นการขัดขืนอารยะแบบละมุนละม่อม แสดงออกให้รู้ว่าเราไม่โอเค แต่ทำแล้วไม่โดนย้ายไปสามจังหวัดชายแดนภาคใต้

แท็กคืออะไร?3. เลือกแท็กที่เกี่ยวข้องกับกระทู้ โดย Auto Tag จะคาดเดา Tag ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาในกระทู้นี้ กรุณาเลือก Tag ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหากระทู้ของท่านค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่