คือเรื่องมีอยู่ว่า เราคบผู้ชายคนหนึ่งได้ประมาณ 3 ปี ก่อนหน้านี้ก็คุยกันมาเรื่อยๆ แล้วมีช่วงปีก่อนที่เราห่างกันประมาณ 6-7 เดือน แต่ช่วงที่ห่างกันเขาก็ทักมาหาตลอด แต่ไม่ได้คุยกันทุกวัน แล้วช่วงกันยาปีที่แล้วเราได้กลับมาคุยกัน เขาเป็นคนทักมาหาเราก่อนและตอนนั้นก็คิดว่ายังรักเขาอยู่เลยกลับไปคุยด้วย แล้วเรามารู้ทีหลังว่าช่วงที่เราห่างกันเขาไปมีแฟนใหม่ เรายอมรับว่าเราผิดที่ยังยอมคุยกับเขาต่อ ตอนช่วงที่เขากลับมาแรกๆ เขาจะมาหาเราอาทิตย์หนึ่ง สามสี่วัน ไม่บ่อย แต่คุยกันทุกวันแต่พอช่วงหลังๆ เขามาหาเราเกือบทุกวัน ยกเว้น ศุกร์-เสาร์ ที่ไม่ได้มานอนด้วย เพราะแฟนเขามาหา ตอนนั้นเราสามารถยอมรับได้เพราะรักเขา และคิดว่าเขาก็คงรักเราบ้างไม่งั้นจะมานอนด้วยทุกวันทำไม ถ้าคิดว่าเรามาหาเพราะเรื่องอย่างว่าก็คงไม่ใช่ทั้งหมด เพราะไม่ได้มีอะไรกันทุกวัน ช่วงเวลาที่คบกันตอนแรกๆ ที่ยังไม่ห่างกัน ตอนไปกินข้าวก็หารกัน แต่พอมาหลังๆ เราเป็นคนจ่ายทุกอย่าง เพราะคิดว่าเขายังไม่ได้ทำงาน ลืมบอกว่าเขาอายุ 28 ส่วนเราอายุ 27 เราทำงานแล้ว แต่เขากำลังเรียนจบ ยังไม่ได้รับปริญญา ที่ผ่านมาเรื่องอาหาร ของกิน เราทำอาหารให้เขากินเกือบทุกวัน เสื้อผ้า ของใช้ส่วนตัว เราก็ซื้อให้เขาเองหมด เวลาไปเที่ยวส่วนใหญ่เราก็เป็นคนจ่ายให้ ตอนนั้นก็แค่คิดว่ารักเขา เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับเรา ตอนเวลาที่เขาอยู่กับเราเขาก็ดูแลแทคแคร์เราดีมาก ไปไหนไปส่งตลอด กลับบ้านก็วิดิโอคอลหา โทหาตลอด รายงานว่าไปไหน กับใคร เป็นอย่างนี้เรื่อยมาเกือบปี จนเมื่อเดือนสิงหาที่ผ่านมาประจำเดือนเราไม่มา เลยซื้อที่ตรวจมาตรวจ ผลออกมาว่าเราท้อง ที่ผ่านมาเราคุมมาตลอด และไม่เคยพลาด เพราะเขาคลั่งนอกทุกครั้ง แต่ครั้งนี้พลาดจริงๆ วันที่เราตรวจเจอ เขาก็นอนอยู่ข้างๆ เราตกใจมาก แล้วก็ปลุกเขาลุกขึ้นมาคุยกัน เขาบอกอาจจะไม่ใช่ก็ได้ ก็เลยพากันไปตรวจที่รพ.อีกรอบ ผลก็เหมือนเดิมคือเราท้องได้ประมาณ 5w ตอนแรกที่เขารู้เขาก็บอกว่าเขาจะรับผิดชอบ เราก็เลยถามว่าจะรับผิดชอบยังไง เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว จะไปๆ มาๆ เหมือนเดิมมันคงไม่ง่ายแล้ว แล้วจะยังไงต้องให้เราเป็นเมียน้อยแบบนี้ใช่ไหม เขาเลยตอบมาว่าแล้วเรายอมรับได้รึเปล่าละ พอได้ยินประโยคนั้นก็รู้เลยว่าเขาไม่มีวันยอมเลิกกับใครสักคนแน่ๆ เราเลยบอกให้เขากลับไปคิดดีๆ กลับไปตัดสินใจมาละกัน แต่จะให้เราอยู่แบบเดิมแบบนี้คงไม่ได้แล้ว มันเป็นความอึดอัดที่สะสมมาเรื่อยๆ จนถึงวันหนึ่งที่เราไม่สามารถทนได้อีกต่อไปเพราะเราคิดว่าถ้าลูกเกิดมาต้องไม่อยู่ในสภาพแบบที่เราทนมาแบบนี้ ตอนนั้นเริ่มคิดถึงลูกมากกว่าตัวเอง และคิดว่าถ้าไม่ไหวจริงๆ คงเดินออกมาเองและคงเป็น single mom คงดีกว่า และในที่สุด เดือนกันยายนเราก็ตัดสินใจ บอกเรื่องเรากับเขาให้แฟนเขารู้ เรายอมรับผิดว่าแฟนเขาไม่รู้เรื่องอะไรด้วยไม่ควรจะมารับรู้ เสียใจกับเรื่องแบบนี้ แต่ตอนนั้นเราคิดแค่ว่ามันจะต้องจบ พอแฟนเรารู้เขาก็โทมาคุยกับเรา เขาบอกว่าผู้ชายร้องไห้ ขอโอกาส และบอกว่าจะมาเลิกกับเรา เขาบอกว่าเขาวางแผนอนาคตกันไว้แล้วเดี๋ยวถ้าเขาแต่งงานกันเขาก็จะพากันไปอยู่บ้านผู้ชาย เราเลยขอคุยกับผู้ชาย ว่าตกลงเลือกแฟนเขาใช่ไหม เขาตอบมาแค่คำเดียว "อืม" เราเลยบอกว่าโอเค ถ้าต้องการแบบนี้เรื่องของเราก็ไม่มีอะไรต้องคุยกันอีก แล้วเราก็วางสายไป สักพักแฟนเขาโทรกลับมาหาเราอีก ว่าตกลงจะจบกันแล้วใช่ไหม มีอะไรจะฝากบอกเขาอีกไหม
อยากได้ผู้ชายไหม เขาจะยกให้ เราเลยตอบไปว่าไม่ได้อยากได้ แล้วก็บอกเขาด้วยว่าเราจะรับผิดชอบตัวเองทุกอย่างไม่ต้องมายุ่งกับเราและลูกอีก เขาเหมือนตกใจนิดหน่อย แล้วเขาก็ถามว่า ลูกใครกับใคร เราก็บอกว่าลูกเรากับพี่เขา เขาเหมือนไม่เชื่อแล้วก็จะขอหลักฐานการไปตรวจว่าจริงไหม เราก็บอกว่าไม่จำเป็น ใครทำอะไรก็รู้อยู่แก่ใจตัวเอง จบจากวันนั้นมาเราเสียใจมาก ที่ไว้ใจผู้ชายคนนี้ และคิดว่าเขาจะเป็นคนดี ส่วนกับแฟนเขา เขาก็คอยโพสกระทบเรามาตลอด เราก็ยอมรับว่าโพสตอบโต้เขาด้วย แต่เป็นการโพสหน้าเฟสตัวเอง จนเวลาผ่านไป 1 เดือน เราตัดสินใจโทกลับไปหาเขา เพื่อจะขอให้เขามาตรวจเลือดให้ลูกหน่อย แต่เขากลับปฏิเสธที่จะมาและบอกว่าทำไมต้องไป เราเลยถามว่าตกลงจะไม่รับผิดชอบอะไรเลยใช่ไหม เขาเลยบอกว่าก็ในเมื่อเราเลือกทางนี้เองก็ไปรับผิดชอบเองสิ ถ้ามันมีปัญหามากก็ไปเอาเด็กออกซะ ในเมื่ออยากเป็นคนเก็บไว้เองก็ให้ไปเลี้ยงเอง พอได้คำพูดนั้น น้ำตาไหลจากไหนไม่รู้ ทั้งแค้นทั้งเสียใจทั้งเสียดายความรู้สึก รู้ว่าเป็นคนไม่ดี แต่ก็ไม่คิดว่าเขาจะเลวได้ขนาดนี้ เราเลยรู้ว่าต่อจากนี้ไปก็คงไม่ต้องเกรงใจไม่ต้องมีอะไรดีๆ เหลือไว้ให้กันแล้ว หลังจากวันนั้นก็มีเพื่อนมาบอกว่าแฟนเขายังโพสรูปคู่กัน แคปชั่นกระทบถึงเรา และเหมือนจะสื่อให้เราเห็นว่าผู้ชายเลือกเขา ผู้ชายรักเขา เขาภูมิใจที่ยังไงผู้ชายก็เลือกตัวจริง เราเป็นคนยอมผู้ชายเอง เราเลยเอารูปคู่เรากับเขามาโพสลงในรูปแนะนำ หลังจากโพสไป ตกมาอีกวันหนึ่งผู้ชายเขาก็โทรมาด่าเรา ว่าเราต้องการอะไร ทำไมต้องโพสรูปแบบนั้น ทำไมต้องไปป่าวประกาศให้คนอื่นรู้ มีคนแคปรูปส่งให้เขาดู เราก็บอกว่ามันอยู่ในหน้าแนะนำมีแต่คนส่องเท่านั้นแหละที่จะเห็นพ และมันคือความจริง เขาโกรธมากและพยายามพูดให้เรารู้สึกแย่ ใช้คำพูดที่ไม่คิดว่าเขาจะพูด เขาบอกว่าทำไมต้องทำตัวเหมือน
ยอมเป็นเมียน้อยเขาแล้วทำไมยังปล่อยให้ตัวเองท้องยอมให้เขาไปหาเอง เราเลยบอกว่าแล้วใครบังคับให้มา เอามีด เอาปืนไปขู่ รึเปล่า ก็อยากมาหาเองไม่ใช่เหรอไง แล้วเขายังบอกอีกว่า แล้วยอมเปิดประตูให้ทำไมละ ก็ยอมเองนิ เราโมโหมาก โกรธกับคำพูดของเขามาก เราเลยสรุปว่าเรื่องของเราไม่ต้องพูดให้เสียเวลาสรุปเรื่องลูกจะเอาไง เขาบอกว่าเขาไม่สนใจอยากเก็บไว้ก็เลี้ยงเอง รับผิดชอบเอง เราเลยบอกว่า ทำไมพูดแบบนี้ คนทั้งคนทำให้เกิดมา แล้วจะมาพูดแบบนี้ได้ไง ทำไมเลวขนาดนี้ ประโยคที่เขาตอบกลับมาคือ ก็เป็นแบบนี้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว จำไว้ผู้ชายก็เป็นแบบนี้ทุกคน สรุปคือ มันไม่เอาลูกไม่เอาอะไรเลยเลยจะให้ไปทำแท้งอย่างเดียว เราผิดเองที่คิดว่าเขาน่าจะเป็นคนดีอยู่บ้าง แต่สุดท้ายที่เราคิดมาทั้งหมดคือผิด ตั้งแต่นั้นมาเราก็ไม่ได้ไปยุ่งกับพวกเขาสองคนอีก แต่ก็มีเพื่อนสนิทแคปรูปมาให้ดูบ้างว่าเฟสผู้หญิงลงรูปคู่บ่อยมาก จากที่เมื่อก่อนไม่เคยลง แคปชั่นก็เหมือนๆ เดิม คือเขาภูมิใจที่ผู้ชายรักเขา สุดท้ายผู้ชายก็เลือกเขา อยู่กับเขา ใช้ชีวิตกับเขาคนเดียว
เราเลยสงสัยว่า เขาภูมิใจจริงๆ เหรอ กับการที่แฟนเขาไปทำผู้หญิงคนอื่นท้องแล้วไม่รับผิดชอบ เขาภูมิใจกับผู้ชายเห็นแก่ตัวคนนี้จริงๆ เหรอ??
คุณภูมิใจแค่ไหน ถ้าเกิดว่าแฟนของคุณ ไปทำผู้หญิงคนอื่นท้อง
อยากได้ผู้ชายไหม เขาจะยกให้ เราเลยตอบไปว่าไม่ได้อยากได้ แล้วก็บอกเขาด้วยว่าเราจะรับผิดชอบตัวเองทุกอย่างไม่ต้องมายุ่งกับเราและลูกอีก เขาเหมือนตกใจนิดหน่อย แล้วเขาก็ถามว่า ลูกใครกับใคร เราก็บอกว่าลูกเรากับพี่เขา เขาเหมือนไม่เชื่อแล้วก็จะขอหลักฐานการไปตรวจว่าจริงไหม เราก็บอกว่าไม่จำเป็น ใครทำอะไรก็รู้อยู่แก่ใจตัวเอง จบจากวันนั้นมาเราเสียใจมาก ที่ไว้ใจผู้ชายคนนี้ และคิดว่าเขาจะเป็นคนดี ส่วนกับแฟนเขา เขาก็คอยโพสกระทบเรามาตลอด เราก็ยอมรับว่าโพสตอบโต้เขาด้วย แต่เป็นการโพสหน้าเฟสตัวเอง จนเวลาผ่านไป 1 เดือน เราตัดสินใจโทกลับไปหาเขา เพื่อจะขอให้เขามาตรวจเลือดให้ลูกหน่อย แต่เขากลับปฏิเสธที่จะมาและบอกว่าทำไมต้องไป เราเลยถามว่าตกลงจะไม่รับผิดชอบอะไรเลยใช่ไหม เขาเลยบอกว่าก็ในเมื่อเราเลือกทางนี้เองก็ไปรับผิดชอบเองสิ ถ้ามันมีปัญหามากก็ไปเอาเด็กออกซะ ในเมื่ออยากเป็นคนเก็บไว้เองก็ให้ไปเลี้ยงเอง พอได้คำพูดนั้น น้ำตาไหลจากไหนไม่รู้ ทั้งแค้นทั้งเสียใจทั้งเสียดายความรู้สึก รู้ว่าเป็นคนไม่ดี แต่ก็ไม่คิดว่าเขาจะเลวได้ขนาดนี้ เราเลยรู้ว่าต่อจากนี้ไปก็คงไม่ต้องเกรงใจไม่ต้องมีอะไรดีๆ เหลือไว้ให้กันแล้ว หลังจากวันนั้นก็มีเพื่อนมาบอกว่าแฟนเขายังโพสรูปคู่กัน แคปชั่นกระทบถึงเรา และเหมือนจะสื่อให้เราเห็นว่าผู้ชายเลือกเขา ผู้ชายรักเขา เขาภูมิใจที่ยังไงผู้ชายก็เลือกตัวจริง เราเป็นคนยอมผู้ชายเอง เราเลยเอารูปคู่เรากับเขามาโพสลงในรูปแนะนำ หลังจากโพสไป ตกมาอีกวันหนึ่งผู้ชายเขาก็โทรมาด่าเรา ว่าเราต้องการอะไร ทำไมต้องโพสรูปแบบนั้น ทำไมต้องไปป่าวประกาศให้คนอื่นรู้ มีคนแคปรูปส่งให้เขาดู เราก็บอกว่ามันอยู่ในหน้าแนะนำมีแต่คนส่องเท่านั้นแหละที่จะเห็นพ และมันคือความจริง เขาโกรธมากและพยายามพูดให้เรารู้สึกแย่ ใช้คำพูดที่ไม่คิดว่าเขาจะพูด เขาบอกว่าทำไมต้องทำตัวเหมือน ยอมเป็นเมียน้อยเขาแล้วทำไมยังปล่อยให้ตัวเองท้องยอมให้เขาไปหาเอง เราเลยบอกว่าแล้วใครบังคับให้มา เอามีด เอาปืนไปขู่ รึเปล่า ก็อยากมาหาเองไม่ใช่เหรอไง แล้วเขายังบอกอีกว่า แล้วยอมเปิดประตูให้ทำไมละ ก็ยอมเองนิ เราโมโหมาก โกรธกับคำพูดของเขามาก เราเลยสรุปว่าเรื่องของเราไม่ต้องพูดให้เสียเวลาสรุปเรื่องลูกจะเอาไง เขาบอกว่าเขาไม่สนใจอยากเก็บไว้ก็เลี้ยงเอง รับผิดชอบเอง เราเลยบอกว่า ทำไมพูดแบบนี้ คนทั้งคนทำให้เกิดมา แล้วจะมาพูดแบบนี้ได้ไง ทำไมเลวขนาดนี้ ประโยคที่เขาตอบกลับมาคือ ก็เป็นแบบนี้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว จำไว้ผู้ชายก็เป็นแบบนี้ทุกคน สรุปคือ มันไม่เอาลูกไม่เอาอะไรเลยเลยจะให้ไปทำแท้งอย่างเดียว เราผิดเองที่คิดว่าเขาน่าจะเป็นคนดีอยู่บ้าง แต่สุดท้ายที่เราคิดมาทั้งหมดคือผิด ตั้งแต่นั้นมาเราก็ไม่ได้ไปยุ่งกับพวกเขาสองคนอีก แต่ก็มีเพื่อนสนิทแคปรูปมาให้ดูบ้างว่าเฟสผู้หญิงลงรูปคู่บ่อยมาก จากที่เมื่อก่อนไม่เคยลง แคปชั่นก็เหมือนๆ เดิม คือเขาภูมิใจที่ผู้ชายรักเขา สุดท้ายผู้ชายก็เลือกเขา อยู่กับเขา ใช้ชีวิตกับเขาคนเดียว
เราเลยสงสัยว่า เขาภูมิใจจริงๆ เหรอ กับการที่แฟนเขาไปทำผู้หญิงคนอื่นท้องแล้วไม่รับผิดชอบ เขาภูมิใจกับผู้ชายเห็นแก่ตัวคนนี้จริงๆ เหรอ??