เหล่าทัพ! ประกาศชัดจุดยืน ‘ทหารปฏิวัติ’’แค่แผนเผชิญเหตุขั้นสุดท้าย
“ผบ.ทสส.” ลั่น อย่ากังวลทหารปฏิวัติ หากทุกฝ่ายประคองประเทศสงบ ชี้ ไม่มีนัยยะการเมืองวุ่นสู่ขัดแย้ง แจง 2 บิ๊กทหารพูด เป็นแผนเผชิญเหตุขั้นสุดท้าย ยัน จุดยืนกองทัพ ประเทศสงบ ประชาชนมีสุข ขณะ “บิ๊กแดง” ระลึกถึง “บิ๊กจ๊อด” ไหว้ป้ายชื่อ ระบุ เรื่องธรรมดา ถูกฝ่ายการเมืองโจมตี ไม่หวั่น “เอกชัย” แจ้งจับ “กบฏ” พร้อมเซอร์ไพรส์ วันเกิด “บิ๊กแป๊ะ” ครบ 59 ปี
19 ต.ค 61 ที่กองบัญชาการกองทัพไทย พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าวถึงจุดยืนการเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในปีหน้าว่า ภารกิจการเตรียมการเลือกตั้ง สิ่งที่เราจะสามารถทำได้คือ การให้ความรู้ความเข้าใจในกฎกติกาของการเลือกตั้ง งานที่เราทำผิดชอบคือ การทำให้บรรยากาศในทุกพื้นที่อยู่ในความสงบคือ งานสำคัญของพวกเราทุกคน ส่วนการเน้นย้ำกำลังพลนั้น เพื่อเป็นแนวปฏิบัติต้องยึดมั่นในกรอบหน้าที่ของทหาร และตำรวจคือการทำให้ประเทศชาติ ประชาชนเกิดความสงบ ให้ความรู้ความเข้าใจจะต้องมีจุดสมดุล เพื่อไม่ให้ข้อมูลใดๆก็ตามที่นำไปสู่ความเข้าใจคลาดเคลื่อน
พล.อ.พรพิพัฒน์ กล่าวว่า ส่วนสถานการณ์ในปีหน้านั้น หากย้อนไปเมื่อช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ตนเชื่อว่าคนไทยทุกคนได้เห็นว่าใน 4 ปีนี้เป็น 4 ปีที่มีแต่ความสงบ ไม่มีการเดินขบวนประท้วง จนทำให้เจ้าหน้าที่ของรัฐเกิดปัญหา คนไทยก็อยู่อย่างมีความสุข ทำมาหากินอย่างปกติ การติดต่อค้าขาย เศรษฐกิจไปได้ด้วยดี กฎหมายมีการบังคับใช้ ทุกคนเคารพกฎหมาย ถือว่าสังคมอยู่ในสภาวะปกติ ไม่มีอะไรต้องกังวล
เมื่อถามว่า จุดยืนของทหารยังอยู่เคียงข้างประชาชนใช่หรือไม่ จุดยืนของเหล่าทัพ ณ จุดใดก็ได้ที่ประเทศมีความสงบประชาชนมีความสุข พล.อ.พรพิพัฒน์ กล่าวว่า จุดยืนของทหารตำรวจ คือจุดใดก็ได้ที่ประเทศชาติมีความสงบ
เมื่อถามย้ำว่า หากในอนาคตเกิดวิกฤตการเมืองอีกครั้ง บทบาทของทหารจะเป็นอย่างไร หลังจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ลงจากอำนาจ พล.อ.พรพิพัฒน์ กล่าวว่า หากเราไม่ไปพยากรณ์ว่า จะเกิดการจลาจล ขณะนี้การเดินทางของประเทศไทย 4 ปีที่ผ่านมา ถือว่า มีพัฒนาการดี ก้าวหน้าและมีการเตรียมการไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยมาด้วยดีตลอด แทนที่เราจะคิดว่าจะเกิดการจราจล แต่ถ้าหากเราร่วมมือการตัดสินใจให้ถูกต้อง ทุกคนมีจุดยืนที่เหมาะสมรวมกัน เราก็คงไม่ต้องไปคิดว่าจะเกิดการจลาจลหรือไม่ในอนาคต และไม่ต้องไปคิดว่าทหารจะต้องมาทำอะไรหรือไม่ในวันนั้น
" สิ่งที่ พล.อ.อภิรัตน์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ.และ พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์ ดิษยะศริน ผบ.ทอ.พูดนั่น ท่านพูดด้วยประสบการณ์นั้นคือ แผนเผชิญเหตุสุดท้าย แต่ในขณะที่กลไกกฎระเบียบของบ้านเมืองยังใช้บังคับได้และผู้คนเคารพกฎหมายความเคลื่อนไหวทางการเมืองที่จะนำไปสู่ความขัดแย้งก็ยังไม่เห็นปรากฏว่ามีนัยยะสำคัญ จนถึงขนาดที่ต้องน่ากังวล การที่เราไปพูดถึงเหตุการณ์ที่ยังไม่เกิดขึ้น และไม่มีทีท่าว่าจะเกิดจะทำให้สังคมเกิดความกังวลได้ ผมคิดว่า เราทุกคนต้องยืนหยัดอยู่กับการรับข้อมูลและการตัดสินใจจากข้อมูลนั้นให้เกิดความสงบ อย่าไปตื่นตามประเด็นที่เฉี่ยวไปเฉี่ยวมาเล็กๆน้อยๆ และคิดว่าจะเป็นเช่นนั้น" พล.อ.พรพิพัฒน์ กล่าว
พล.อ.พรพิพัฒน์ ยังกล่าวย้ำว่า จุดยืนของกองทัพ และ สตช.คือจุดที่ประชาชนมีความสุขและประเทศชาติมีความสงบ
เมื่อถามว่า หากมีการรัฐประหารเป็นทางเลือกสุดท้ายใช่หรือไม่พ้น พล.อ.พรพิพัฒน์ กล่าวว่า ตนยังไม่เห็นโอกาสที่จะเกิดความไม่สงบและยังไม่เห็นว่า จะต้องไปแก้ปัญหาความไม่สงบด้วยวิธีใด ในเมื่อกฎหมายยังบังคับได้ปกติ ไม่มีเหตุผลใดที่ทำให้คนไทยต้องกังวลกับสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น ยังมีหนทางอื่นที่ใช้มากกว่าหนทางรัฐประหาร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเสร็จสิ้นการแถลง พล.อ.อภิรัตช์ เดินไปจับมือกับ พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์ ก่อนจะไปไหว้ชื่อของ พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด และหัวหน้าคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.) ที่ติดอยู่บนป้ายรายชื่อนายทหารที่ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้เป็นบิดา นอกจากนี้ก่อนการประชุม พล.อ.อภิรัชต์ ได้เดินไปดูรูปภายของบิดาภายในห้องรับรองนเรศวรอีกด้วย
ทั้งนี้พล.อ.อภิรัตช์ ยังกล่าวถึง กระแสโจมตีจากฝ่ายการเมือง หลังให้สัมภาษณ์ว่า การรัฐประหารจะไม่เกิด หากฝ่ายการเมืองไม่เป็นต้นเหตุจลาจลว่า เป็นเรื่องธรรมดา ส่วนที่นายเอกชัย หงส์กังวาล จะไปแจ้งความเอาผิดในข้อหากบฏนั้น ก็ว่าไป
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า นอกจากนี้ในงานเลี้ยงอาหารกลางวันของผู้บัญชาการเหล่าทัพ และ สตช. พล.อ.พรพิพัฒน์ ได้จัดเซอร์ไพรส์วันคล้ายวันเกิดครบรอบ 59 ปี ในวันที่ 19 ต.ค.โดยมอบเค้ก ให้กับ พล.ต.อ.จักรทิพย์
https://www.naewna.com/politic/371343
🥃~มาลาริน~Strong And Smart เชื่อมั่นทหารไทย..เหล่าทัพ! ประกาศชัดจุดยืน ‘ทหารปฏิวัติ’’แค่แผนเผชิญเหตุขั้นสุดท้าย
เหล่าทัพ! ประกาศชัดจุดยืน ‘ทหารปฏิวัติ’’แค่แผนเผชิญเหตุขั้นสุดท้าย
“ผบ.ทสส.” ลั่น อย่ากังวลทหารปฏิวัติ หากทุกฝ่ายประคองประเทศสงบ ชี้ ไม่มีนัยยะการเมืองวุ่นสู่ขัดแย้ง แจง 2 บิ๊กทหารพูด เป็นแผนเผชิญเหตุขั้นสุดท้าย ยัน จุดยืนกองทัพ ประเทศสงบ ประชาชนมีสุข ขณะ “บิ๊กแดง” ระลึกถึง “บิ๊กจ๊อด” ไหว้ป้ายชื่อ ระบุ เรื่องธรรมดา ถูกฝ่ายการเมืองโจมตี ไม่หวั่น “เอกชัย” แจ้งจับ “กบฏ” พร้อมเซอร์ไพรส์ วันเกิด “บิ๊กแป๊ะ” ครบ 59 ปี
19 ต.ค 61 ที่กองบัญชาการกองทัพไทย พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าวถึงจุดยืนการเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในปีหน้าว่า ภารกิจการเตรียมการเลือกตั้ง สิ่งที่เราจะสามารถทำได้คือ การให้ความรู้ความเข้าใจในกฎกติกาของการเลือกตั้ง งานที่เราทำผิดชอบคือ การทำให้บรรยากาศในทุกพื้นที่อยู่ในความสงบคือ งานสำคัญของพวกเราทุกคน ส่วนการเน้นย้ำกำลังพลนั้น เพื่อเป็นแนวปฏิบัติต้องยึดมั่นในกรอบหน้าที่ของทหาร และตำรวจคือการทำให้ประเทศชาติ ประชาชนเกิดความสงบ ให้ความรู้ความเข้าใจจะต้องมีจุดสมดุล เพื่อไม่ให้ข้อมูลใดๆก็ตามที่นำไปสู่ความเข้าใจคลาดเคลื่อน
พล.อ.พรพิพัฒน์ กล่าวว่า ส่วนสถานการณ์ในปีหน้านั้น หากย้อนไปเมื่อช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ตนเชื่อว่าคนไทยทุกคนได้เห็นว่าใน 4 ปีนี้เป็น 4 ปีที่มีแต่ความสงบ ไม่มีการเดินขบวนประท้วง จนทำให้เจ้าหน้าที่ของรัฐเกิดปัญหา คนไทยก็อยู่อย่างมีความสุข ทำมาหากินอย่างปกติ การติดต่อค้าขาย เศรษฐกิจไปได้ด้วยดี กฎหมายมีการบังคับใช้ ทุกคนเคารพกฎหมาย ถือว่าสังคมอยู่ในสภาวะปกติ ไม่มีอะไรต้องกังวล
เมื่อถามว่า จุดยืนของทหารยังอยู่เคียงข้างประชาชนใช่หรือไม่ จุดยืนของเหล่าทัพ ณ จุดใดก็ได้ที่ประเทศมีความสงบประชาชนมีความสุข พล.อ.พรพิพัฒน์ กล่าวว่า จุดยืนของทหารตำรวจ คือจุดใดก็ได้ที่ประเทศชาติมีความสงบ
เมื่อถามย้ำว่า หากในอนาคตเกิดวิกฤตการเมืองอีกครั้ง บทบาทของทหารจะเป็นอย่างไร หลังจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ลงจากอำนาจ พล.อ.พรพิพัฒน์ กล่าวว่า หากเราไม่ไปพยากรณ์ว่า จะเกิดการจลาจล ขณะนี้การเดินทางของประเทศไทย 4 ปีที่ผ่านมา ถือว่า มีพัฒนาการดี ก้าวหน้าและมีการเตรียมการไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยมาด้วยดีตลอด แทนที่เราจะคิดว่าจะเกิดการจราจล แต่ถ้าหากเราร่วมมือการตัดสินใจให้ถูกต้อง ทุกคนมีจุดยืนที่เหมาะสมรวมกัน เราก็คงไม่ต้องไปคิดว่าจะเกิดการจลาจลหรือไม่ในอนาคต และไม่ต้องไปคิดว่าทหารจะต้องมาทำอะไรหรือไม่ในวันนั้น
" สิ่งที่ พล.อ.อภิรัตน์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ.และ พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์ ดิษยะศริน ผบ.ทอ.พูดนั่น ท่านพูดด้วยประสบการณ์นั้นคือ แผนเผชิญเหตุสุดท้าย แต่ในขณะที่กลไกกฎระเบียบของบ้านเมืองยังใช้บังคับได้และผู้คนเคารพกฎหมายความเคลื่อนไหวทางการเมืองที่จะนำไปสู่ความขัดแย้งก็ยังไม่เห็นปรากฏว่ามีนัยยะสำคัญ จนถึงขนาดที่ต้องน่ากังวล การที่เราไปพูดถึงเหตุการณ์ที่ยังไม่เกิดขึ้น และไม่มีทีท่าว่าจะเกิดจะทำให้สังคมเกิดความกังวลได้ ผมคิดว่า เราทุกคนต้องยืนหยัดอยู่กับการรับข้อมูลและการตัดสินใจจากข้อมูลนั้นให้เกิดความสงบ อย่าไปตื่นตามประเด็นที่เฉี่ยวไปเฉี่ยวมาเล็กๆน้อยๆ และคิดว่าจะเป็นเช่นนั้น" พล.อ.พรพิพัฒน์ กล่าว
พล.อ.พรพิพัฒน์ ยังกล่าวย้ำว่า จุดยืนของกองทัพ และ สตช.คือจุดที่ประชาชนมีความสุขและประเทศชาติมีความสงบ
เมื่อถามว่า หากมีการรัฐประหารเป็นทางเลือกสุดท้ายใช่หรือไม่พ้น พล.อ.พรพิพัฒน์ กล่าวว่า ตนยังไม่เห็นโอกาสที่จะเกิดความไม่สงบและยังไม่เห็นว่า จะต้องไปแก้ปัญหาความไม่สงบด้วยวิธีใด ในเมื่อกฎหมายยังบังคับได้ปกติ ไม่มีเหตุผลใดที่ทำให้คนไทยต้องกังวลกับสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น ยังมีหนทางอื่นที่ใช้มากกว่าหนทางรัฐประหาร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเสร็จสิ้นการแถลง พล.อ.อภิรัตช์ เดินไปจับมือกับ พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์ ก่อนจะไปไหว้ชื่อของ พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด และหัวหน้าคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.) ที่ติดอยู่บนป้ายรายชื่อนายทหารที่ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้เป็นบิดา นอกจากนี้ก่อนการประชุม พล.อ.อภิรัชต์ ได้เดินไปดูรูปภายของบิดาภายในห้องรับรองนเรศวรอีกด้วย
ทั้งนี้พล.อ.อภิรัตช์ ยังกล่าวถึง กระแสโจมตีจากฝ่ายการเมือง หลังให้สัมภาษณ์ว่า การรัฐประหารจะไม่เกิด หากฝ่ายการเมืองไม่เป็นต้นเหตุจลาจลว่า เป็นเรื่องธรรมดา ส่วนที่นายเอกชัย หงส์กังวาล จะไปแจ้งความเอาผิดในข้อหากบฏนั้น ก็ว่าไป
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า นอกจากนี้ในงานเลี้ยงอาหารกลางวันของผู้บัญชาการเหล่าทัพ และ สตช. พล.อ.พรพิพัฒน์ ได้จัดเซอร์ไพรส์วันคล้ายวันเกิดครบรอบ 59 ปี ในวันที่ 19 ต.ค.โดยมอบเค้ก ให้กับ พล.ต.อ.จักรทิพย์
https://www.naewna.com/politic/371343