ไม่ว่าในAFF เราจะได้แชมป์หรือไม่ได้ ก็ขอให้เรายึดหลักสากลในการพัฒนาลีกต่อไป

ในกรณีที่เวียดนามหรือพม่าได้แชมป์ AFF หวังว่าคงจะไม่มีกระทู้เวียดนามเวย์ พม่าเวย์ หรือไล่ให้ไปดูงานสมาคมเวียดนาม สมาคมพม่า ออกมานะครับ เพราะสิ่งที่สมาคม+สโมสรไทย กำลังร่วมกันทำอยู่ตอนนี้เป็นวิธีสากลที่ชาติยุโรป ญี่ปุ่นหรือเกาหลีใต้เขาก็ทำกันแบบเดียวกับเรา เรื่องแบบนี้ต้องใช้เวลา หวังว่าคงจะไม่มาถล่มกันจมดินนะถ้าผลงานไม่เป็นไปตามเป้า

1. ถ้าไทยตกรอบแรก รอบสอง หรือไม่ได้แชมป์ จะต้องโฟกัสไปที่ตัวโค้ชว่าแทคติกมีปัญหาหรือไม่ อย่างไร เพราะนักเตะที่โค้ชเลือก คือคนที่ฟอร์มดีที่สุดในไทยลีก ณ เวลานี้แล้ว
2. ไทยเราไม่ได้เหนือไปกว่า เวียดนาม อินโดนีเซียหรือพิลิปปินส์ มากนัก ดังนั้นถ้าเราประมาทหรือทะนงตน ทีมเพื่อนบ้านก็สามารถชนะเราได้เช่นกัน
3. วิธีการดันขึ้นมายกชุด เก็บตัวกันเป็น2-3เดือนแบบเวียดนาม หรือดันขึ้นชุดใหญ่ยกชุดจากทีมเยาวชนโลกแบบพม่า มันส่งผลดีกว่าวิธีแบบเราแน่ๆในเรื่องของความเข้าขารู้ใจกัน แต่สำหรับของไทยจะได้นักเตะฟอร์มที่ดีที่สุดมาไว้แข่งแทน แต่อาจจะต้องปรับ ต้องจูนความเข้าใจกันสักระยะหนึ่ง
4. วิธีการแบบไทย จะทำให้นักเตะเยาวชนเราอ่อนกว่าเพื่อนบ้านไปอีกนานแสนนาน ถ้าเรายังไม่พัฒนาลีกเยาวชนอย่างจริงจัง เพราะว่าเยาวชนคนไหนไม่เด็ด ไม่โหดจริงๆ โอกาสแทรกขึ้นมาเล่นในชุดใหญ่ที่แกร่งทุกขุมกำลังเป็นไปได้ยากมาก หวังว่าคงจะไม่เหยียดหยามน้องๆว่าอ่อน ว่ากระจอกนะครับ เพราะด้วยวิธีการปัจจุบัน มันเป็นเรื่องยากจริงๆที่เยาวชนเราจะเก่งแบบเพื่อนบ้านได้ ที่เขาใช้วิธีเก็บตัวกันเป็นแรมปี
5. ทีมเยาวชนอ่อน ไม่ได้หมายความว่าชุดใหญ่จะอ่อนตามไปด้วย นักเตะหลายๆคนไม่เคยติดทีมเยาวชนมาก่อน แต่มาพีคช่วงอายุเยอะๆจนติดทีมชาติและสร้างผลงานได้ดี เช่น พรรษา เฉลิมพงษ์ มานูเอล ทอม ฉัตรชัย จ่าเย็น เป็นต้น หรือเคสของต่างประเทศก็มีมากมายนับไม่ถ้วน ดังนั้นการที่เยาวชนไม่เก่ง ไม่ได้หมายความว่าทีมชุดใหญ่จะไม่เก่งไปด้วย แต่การที่มีเยาวชนที่เก่ง ก็ย่อมดีกว่า เหมือนดังที่เขาพูดกันไว้ว่า เริ่มต้นดี มีชัยไปกว่าครึ่ง
6. การพัฒนาลีก การสนับสนุนที่ดีจากแฟนบอล ทำให้ไทยเรามีนักเตะชุดใหญ่ที่มีความสามารถใกล้เคียงกันถึง50คน ตั้งแต่ผมดูบอลมาเกือบ30ปี ไม่เคยมีครั้งไหนที่ฝีเท้านักเตะไทยใกล้เคียงกันได้มากมายเท่ากับยุคปัจจุบัน(ไม่นับ3คนเจลีก)
7. การเรียกนักเตะจากฟอร์มล่าสุด เป็นเรื่องที่ดี ทำให้เกิดการแข่งขัน ทำให้มีการเค้นฟอร์ม ไม่สนใจชื่อเสียงเก่าๆอะไรทั้งสิ้น มันจะเป็นตัวกระตุ้นชั้นดีให้นักเตะอยากพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลาเพื่อโอกาสในการเล่นทีมชาตินั่นเอง ยิ่งมีการแข่งขันกันในตำแหน่งมากเท่าใด ทีมชาติไทยจะยิ่งได้นักเตะที่แข็งแกร่งในตำแหน่งนั้นมากเท่านั้น

** ดังนั้นไม่ว่าผลงานใน AFF จะออกมาอย่างไร เราจะด่าโค้ช ด่าสมาคม อะไรก็ช่าง แต่สิ่งที่เราจะต้องสานต่อ ห้ามเปลี่ยนแปลง คือ วิธีการในการพัฒนาลีกและการเรียกนักเตะจากฟอร์มล่าสุด ที่เป็นไปตามหลักสากล แม้วันนี้เราจะชนะ เราจะแพ้ เราจะประสบความสำเร็จหรือล้มเหลว แต่สิ่งที่ผมมั่นใจได้เลยคือ ถ้าเรายังพัฒนาลีกของเราไปเรื่อยๆ ทีมฟุตบอลไทยจะดีขึ้นๆในอนาคตแน่นอนครับ **
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่