ไป Tokyo กับ Singapore Airline

สวัสดีจ้าทุกคน แนะนำตัวกันก่อนเลยนะคะ เรา ซารุจัง มือใหม่หัดแชร์ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ

ซึ่งในกระทู้แรกนี้เราอยากแบ่งปันประสบการณ์ การเดินทางโดยการต่อเครื่องให้กับ คนไหนที่กำลังจะเดินทางด้วยการต่อเครื่องครั้งแรกเหมือนเรานะคะ ว่าไม่ได้ยากอย่างท่เรากังวลหรอกนะคะ

เริ่มต้นก่อนเลยนะคะ เราเดินทางไป โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 1-8 ตุลาคม 2018 ที่ผ่านมา โดยสายการบิน Singapore Airline (SA) โดยเดินทางออกจากจังหวัดภูเก็ต โดยสายการบิน Silk Air และไปเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินชางฮี และบินไปนาริตะ โดยสายการบิน Singapore Airline จ้า ซึ่งตอนนั้นจองฃ่างประมาณต้นปี ได้ราคารมไปกลับ พร้อมกันรวมการจอดเปลี่ยนเครื่องแล้วนั้น ที่ 16,100.- บาท ถือว่าราคาไม่แรงเกินไป (หรือใครให้ราคาดีกว่านี้ 55)

ต้องบอกก่อนว่า ด้วยความที่เคยไปญี่ปุ่นเมื่อสองปีก่อน กับสายการบิน ที่มีสโลแกนว่า "บินคุ้ม คุณภาพครบ" (มีใครไม่รู้ป่ะ? 55) บินคุ้มจริง แต่คุณภาพ เกือยดี เสียที่ค่ากระเป๋าแพงมาก และเบาะเอนได้ไม่สุด แถมต้องเช่าผ้าห่มอีก ค่อนข้างทรมานกับการเดินทาง 6 ชั่วโมง รวมไปถึงราคา ที่รวมเบ็ดเสร็จ จากภูเก็ตไปกรุงเทพฯ และจากกรุงเทพ ไปนาริตะนั้น มาลองเปรียบเที่ยบกันแล้ว เราเลยตัดสินใจ บินกับ Singapore Airline ในครั้งนี้ ด้วยความที่ชื่อเสียงค่อนข้างโดงดังในเรื่องของการบริการ และความคุ้มค้า ที่สำคัญมีรีวิวหลายๆ คนแนะนำว่าให้จองอาหารเลือกเป็นซีฟู้ดจะคุ้มมากเพราะอร่อย และได้กินก่อน ซึ่งซารุเองนั้นอะไรที่ว่าได้กินก่อน ก้อเชื่อและจัดการจองในทันที โดยที่เราจองเป็นขากลับ (ค่อยเล่าละกันนะฮะ รอแพรบบบ)

** เนื่องด้วยตอนนี้กระทู่ใหม่เอี่ยม ยังไม่สามารถ ลงรูปใดๆได้เลย เดี๋ยวจะขอมาลงเมื่อทางการอนุมัติละกันนะฮะ **

เราไปเช็คอินสนามบินภูเก็ต ประมาณ 5 โมงนิดๆ เดินหาเคาท์เตอร์เช็คอิน ปาไป 20 นาที ทันใดนั้น เราก็เจอเคาม์เตอร์จ้า (ขอฝากทางท่าอากาศยานภูเก็ตนิดนึงนะฮะ ซารุแนะนำว่า น่าจะมีป้าบอกที่แถว A B C.... นิดนึง ว่าแต่ละ โรว์นั้นมีสายการบินอะไรประทับอยู่)

บ่นเสร็จ มาต่อกันเลย
เมื่อมาถึงเคาท์เตอร์ คุณณณณณค่ะะะะะ ไม่มีเจ้าหน้าทีใดๆ อยู่เลย ด้วยความที่ไม่เคยไปตึก Inter นี่เป้นคร้งแรก ก็มีความตื่นเต้นอีกว่าเรามาถูกป่าวเนี่ย  สักแปป...ก้อมีคุณมี Ground Staff เดินมา เลยรีบวิ่งตาตื่นเป็นบ้านนอกเข้ากรุง ถามว่าเคาท์เตอร์เปิดกี่โมงคะ ได้คำตอบว่า 6 โมงเย็นค่ะ โอเค!!! ไม่นกจ้า!!! เราก็ยืนรอ เป้นคนแรกของแถว สักครู่เดียว เจ้าหน้าที่ก็แจ้งให้เช็คอินได้ เย่ เย่ เย่!!!

เมื่อเช็คอิน ก็ยืนพาสปอร์ตให้เจ้าหน้าที่ พร้อมกับยกกระเป๋าขึ้นที่สายพานเพื่อนชั่งน้ำหนัก ในการบินครั้งนี้ SA ใจดี มอบน้ำหักกระเป๋าให้ถึง 30 กิโลกรัมจ้าาาาา โดยครั้งนี้เราไป 2 คน ได้ทั้งหมด 60 กิโลกรัม เท่านี้ำหนักซารุเลยยยย 5555

แอบแนะนำกันสักนินึงนะคะ สำหรับซารุแล้วมีคสามกัวลว่าจะโดนโยนกระเป๋า โดยในทุกๆครั้งจะขอพี่ๆ สายการบินใจดี ติดสติกเกอร์ Fragile (ระวีงแตก) อ่ะๆๆ คำนี้อ่านว่า ฟรา-จาย นะคะ ไม่โป๊ะที่หน้าเคาท์เตอร์กันนะ โดยพี่ๆ จะถามว่าด้านในมีอะไรคะ เราก็ตอบไปว่าด้านในเรามีวดครีมที่เป็นแก้ว และน้ำหอม ประมาณนั้น หลังจากนั้นแล้ว เมื่อชั่งกระเป๋า ยืนยันตัวตนเรียบร้อยแล้ว ทางสายการบิน จะให้ บอร์ดดิ้งพาสมา 2 ใบเลยนะคะ และกระเป๋าจะปินตรงไปยังนาริตะเลย ถึงแม้ว่าเราจะเปลี่ยนเครื่องที่สิงค์โปร์ก็ตามจ้าา

หลังจากนั้นก็เป็นการเข้า ตม. หรือว่า ตรวจคนเข้าเมื่องนั้นเองนะคะ เผื่อใครยังไม่รู้นะคะ ถ้าเป็นเมื่อก่อน เวลาเราจะออกประเทศ เราต้องเขียนใจ Immigration Card ของประเทศไทย และของประเทศที่เราจะเดินทางไปด้วย

แต่เดี๋ยวนี้ถ้าเราจะออกนอกประเทศไทยและใช้พาสปอร์ไทยในการเดินทาง ไม่ต้องกรอกแล้วนะคะ ออนไลน์ได้เลย ขั้นตอนนี้ก็ไม่ยุ่งยากมาก พี่ๆใจดี ยิ้มแย้มแจ่มใส จะถามว่าไปไหน กี่วัน ประมาณนี้ เราก็ตอบไปเลยจ้าาา หลังจากนั้นเราก็แข้าไปรอที่ Gate จนถึงเวลาบอร์ดิ้งทาม ก็ต่อแถวเพื่อรอขึ้นเครื่อง โดยที่สนามบินภูเก็ตนั้น จขึ้นที่ดึก Inter นะคะ แต่ครั้งนี้เราไม่ได้เดินงวงช้างนะคะ แต่ต้องขึ้นรถต่อเผื่อไปขึ้นเครื่อง ซารุบินจากภูเก็ต ไปสิงค์โปร์ โดยสายการบิน Silk Air ลงที่สนามบินฃางฮี Terminal 2 ใช้เวลาไปสิงค์โปร์ประมาณ 1.30 ชั่วโมง

ตัวเครื่องของ Silk Air จะเป็น Airbus A320 ที่นั่งเป็น แบบ 3 - 3 ซารุเลือที่นั่งเป็น แถว E-F 7 ได่ต้องเดินไกล และก่อนเช็คอินได้มีเลือกอาหารพิเศษเป็นแบบ Low Cholesterol สวยๆ ดูรักสุขภาพ แต่สั่งโค้ก นะจ่ะ 5555 พอขึ้นเครื่อง นั่งรอ take off แอร์แสนสวยก็จะเดินแจกเป็นผ้าซองๆ ที่ไม่บอกว่าเป็นผ้าเย็น เพราะมันก็ไม่ได้เย็นและก็ไม่ได้ร้อน เหอะๆ ซึ่งเค้าก็จะแนะนำ อุปกรณ์ ผ่านวีดีโอจ้า ในระหว่างนั้น จะมีแอร์เดินมาถามผู้ที่สั่งอาหารพิเศษเช่นเรา เพื่อคอนเฟิร์มว่าข้อมูลถูกต้องหรือไม่

เมื่อถึงเวลาเสริฟอาหาร บุคคลพิเศษอย่างเราก็จะได้รับอาหารก่อนโดยเมนู Low Cholesterol  ของซารุนั้นจะเป็น ข้าว+อกไก่+ผักลวก ผลไม้มีลูกพลัม+แตงโม หวามหมออร่อยมากกก หลังจากอิ่มหนำสำราญกันแล้วก็ได้เวลา นอนคะ เพียงเวลาสั้นๆ ก็ถือว่าคุ้มค่ากับสเตปแรก

เอาเป็นว่าพรุ่งนี้จะมาลงตอนต่อไปเมื่อถึงสนามบินสิงคโปร์เลยนะจ่ะ เผื่อว่าครั้งหน้าจะลงรูปได้แล้ว
*ส่วนท่าใดมีข้อสงสัย อยากสอบถาม ว่าการเดินทาง สถานี่เที่ยวในโตเกียว หรืออาหาร เป็นอย่างไร คอมเม้นมาได้เลยนาจา ซารุพร้อมให้ยริการฮะ
**ฝากตัวกับทุกคนอีกครั้งนะคร้า ถ้าใครอยากมาเที่ยวภูเก็ตแล้วอยากได้ข้อมูลก็ยินดีเป็นอย่างยิ่งเลยจ้า
***มาติดตามตอนต่อไป ติฃมกันเข้ามาได้นะคะ หวังว่าครั้งหน้าจะลงรูปได้น้า
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่