เต่านินจา
ผมได้ย้อนดูหนังเรื่องนี้อีกครั้งเมื่อคืนนี้ครับ ทางช่อง Mono29 ได้นำมาฉายอีกครั้ง(แล้วครั้งเล่า) แล้วความรู้สึกของผมต่อหนังเรื่องนี้ก็ผุดขึ้นมาในหัวผมอีกครั้งครับ นั่นก็คือ "ระเบิดอีกแล้วหรอ?"
ไม่ใช่ว่าผมเบื่อนะครับ ผมชอบเต่านินจาที่เป็นเวอร์ชั่นการ์ตูนมาก ชอบเคมีของสี่เต่าที่หยอดมุขใส่กันตลอด ตัวละครที่ผมชอบที่สุดในตอนนั้นคือ "ไมเคิลแองเจโล" ครับ เป็นเต่าที่สร้างสีสันได้ดีเลย พอมีการประกาศสร้างเป็นหนังผมก็ตื่นเต้นอยากดูครับ เหมือนฝันวัยเด็กเป็นจริง แต่ก็ต้องอุทานร้อง "ห๊ะ!" ทันทีเมื่อหนัง Produced โดย "ไมเคิล เบย์"
จะไม่ให้ตกใจได้ไงล่ะครับ เพราะพี่แกทำเฟรนไชต์หม้อแปลงผมป่นปี้หมดใน TFM: Age of Extinction ในปีเดียวกัน ทำหุ่นยนต์สุดเท่ห์ผมกลายเป็นก้อนขี้ถ่านซะงั้น แต่ก็สบายใจขึ้นครับที่มีพี่ Jonathan Liebesman มากำกับ เพราะผลงานของพี่แก ถึงแม้บทจะป่วยแต่ก็พอให้อภัยเพราะความลื่นไหลของหนัง ทั้ง Wrath of Titans, Battle of Los Angeles และก็ The Texas Chainsaw Massacre: the Beginning และผลปรากฎว่า.........เออ ก็สนุกดีนะ
เรื่องย่อ
เอพริล โอ'นีล (Megan Fox) นักข่าวสาวที่ทุ่มเทในการงานของเธอมาก ในขณะที่พวกฟุตแคลนกำลังเข้ายึดเมือง เธอก็ได้เบาะแสของฮีโร่ปริศนาที่เข้ามาปราบปรามพวกฟุตแคลน และเบาะแสเหล่านี้ก็ดันไปเกี่ยวข้องกับงานวิจัยที่พ่อของเธอทำกับเอริค แซค (William Fichtner) เมื่อนานมาแล้วอีกด้วย งานนี้เธอก็เข้าไปสืบหาต้นตอครับว่าที่จริงแล้วมันเป็นยังไงกันแน่
ก่อนอื่นผมขอบอกก่อนว่า ผมชอบนะ คือหนังมันไม่ได้ดีเลิศอะไรมากมายหรอก แต่มันก็ไม่ได้แย่อ่ะ คือดูเพลินมากกว่า ความน่าติดตามก็ได้อยู่ ไม่มีช่วงเนือย หนังยาวพอเหมาะ(ประมาณชั่วโมงครึ่ง) ไม่เหมือนหม้อแปลงของพี่เบย์ ที่ล่อเข้าไป 2 ชั่วโมง 40 หนังบ้าบอคอแตกอะไรวะ ไม่มีเนื้อหาสาระอะไรเลย แต่ยาวเกินหน้าเกินตา แต่เรื่องนี้พอกล้อมแกล้มครับ ดูเพลินมาก สิ่งที่ผมชอบมากที่สุดก็คือเคมีระหว่างสี่เต่าที่มีการหยอดมุขใส่กันตลอดทั้งเรื่อง แต่ก่อนผมจะชอบไมกี้มากที่สุดครับ แต่มาภาคนี้ผมกลับชอบ"ดอนนาเทลโล" มากที่สุดซะงั้น เพราะพี่แกเป็นตัวละครที่เชื่อมความสามัคคีของพวกพ้องให้มั่นคงครับ สังเกตุเวลาที่ลีโอกับราฟทะเลาะกัน ดอนนี่นี่แหละที่เข้าไปห้ามไว้ หรือตอนที่พี่น้องกำลังจะสิ้นลม พี่แกก็บอกเอพริลวิธีที่จะช่วยพี่น้องเอาไว้ หรือแม้กระทั่งตอนที่อันตรายจะมา พี่แกก็จะเตือนพี่น้องให้ระวังไว้ตลอดครับ แค่นี้ผมก็ชอบพี่แกมากๆ แล้วล่ะ
ส่วนตัวละครคนมิติจะน้อยอยู่บ้างครับ ที่มีเด่นๆ หน่อยก็คือแม้จิ้งจอกป่าของเรา (Fox) เธอเล่นได้มีเสน่ห์ครับ แม้จะไม่ได้เล่นใหญ่แต่การแสดงเธออยู่ในขอบเขตของสเกลหนัง ทำให้การแสดงของเธอดูพอดี และที่สำคัญ เธอสวยครับ สวยมากด้วย ยิ่งโตก็ยิ่งงามแม่สาวคนนี้ ชอบๆๆ ส่วนคนอื่นออกแนวสมทบครับ Arnett ก็พอไปได้กับบทหนุ่มกวนๆ Fichtner ก็ไม่เลวครับ เพียงแต่บทไม่อำนวย พี่แกเลยดูไม่น่ากลัวสักเท่าไหร่ ส่วน Masamune ก็ดูเท่ห์ดีในบทเชรดเดอร์ แต่ผมเอะใจกับชุดแกนิดนึง แว๊บแรกนึกว่าเมกะตรอนจำแลงกายลงมาสู้กับอาจารย์หนู กันภัย555
ในทางด้านงานแอคชั่นหนังพอถูไถครับ ก็คือมันส์อยู่ แต่ขาดอารมณ์ร่วม และประทานโทษนะครับที่จะบอกว่า "ฉากไถลลงเขานี่ดูดีกว่าฉากไคล์แมกซ์ของ TFM: Age of Extinction เยอะอยู่หลายโข" เพราะอะไรน่ะหรอ มันดูระเบิดพอดีครับ ไม่ได้โคร่มคร่ามโป้มป้ามเหมือนในหม้อแปลงที่ระเบิดทีนี่ข้าวของกระจัดกระจายมาใส่กล้องจนมองไม่เห็น แต่เรื่องนี้กลับดูดีเฉยครับ มันมีฝุ่นก็จริง แต่ลูกเล่นของมุมกล้องมันทำให้ฉากนั้นดูสนุกครับ ไม่ได้มัวจนมองไม่เห็น และทาง CG ก็ไม่ได้เล่นใหญ่แต่ได้ใจผมเต็มๆ ครับในจุดๆ นี้
สรุป
หนังดูเพลินครับ เพลินกว่าหม้อแปลงภาคหลังๆ อยู่หลายโข แถมสเกลหนังก็โอเค ไม่ได้เว่อร์วังอลังการอะไรขนาดนั้น แต่มันสนุกว่ะ! ชอบครับ
คะแนนเฉลี่ยรวม : 7/10
เรตหนัง : พอดูได้ สนุกดี
[CR] ##REVIEW## Teenage Mutant Ninja Turtles (2014) เต่านินจา | เหมือนโดนระเบิดปาใส่หน้า [ไร้ส้มป่อย]
ผมได้ย้อนดูหนังเรื่องนี้อีกครั้งเมื่อคืนนี้ครับ ทางช่อง Mono29 ได้นำมาฉายอีกครั้ง(แล้วครั้งเล่า) แล้วความรู้สึกของผมต่อหนังเรื่องนี้ก็ผุดขึ้นมาในหัวผมอีกครั้งครับ นั่นก็คือ "ระเบิดอีกแล้วหรอ?"
ไม่ใช่ว่าผมเบื่อนะครับ ผมชอบเต่านินจาที่เป็นเวอร์ชั่นการ์ตูนมาก ชอบเคมีของสี่เต่าที่หยอดมุขใส่กันตลอด ตัวละครที่ผมชอบที่สุดในตอนนั้นคือ "ไมเคิลแองเจโล" ครับ เป็นเต่าที่สร้างสีสันได้ดีเลย พอมีการประกาศสร้างเป็นหนังผมก็ตื่นเต้นอยากดูครับ เหมือนฝันวัยเด็กเป็นจริง แต่ก็ต้องอุทานร้อง "ห๊ะ!" ทันทีเมื่อหนัง Produced โดย "ไมเคิล เบย์"
จะไม่ให้ตกใจได้ไงล่ะครับ เพราะพี่แกทำเฟรนไชต์หม้อแปลงผมป่นปี้หมดใน TFM: Age of Extinction ในปีเดียวกัน ทำหุ่นยนต์สุดเท่ห์ผมกลายเป็นก้อนขี้ถ่านซะงั้น แต่ก็สบายใจขึ้นครับที่มีพี่ Jonathan Liebesman มากำกับ เพราะผลงานของพี่แก ถึงแม้บทจะป่วยแต่ก็พอให้อภัยเพราะความลื่นไหลของหนัง ทั้ง Wrath of Titans, Battle of Los Angeles และก็ The Texas Chainsaw Massacre: the Beginning และผลปรากฎว่า.........เออ ก็สนุกดีนะ
เอพริล โอ'นีล (Megan Fox) นักข่าวสาวที่ทุ่มเทในการงานของเธอมาก ในขณะที่พวกฟุตแคลนกำลังเข้ายึดเมือง เธอก็ได้เบาะแสของฮีโร่ปริศนาที่เข้ามาปราบปรามพวกฟุตแคลน และเบาะแสเหล่านี้ก็ดันไปเกี่ยวข้องกับงานวิจัยที่พ่อของเธอทำกับเอริค แซค (William Fichtner) เมื่อนานมาแล้วอีกด้วย งานนี้เธอก็เข้าไปสืบหาต้นตอครับว่าที่จริงแล้วมันเป็นยังไงกันแน่
ก่อนอื่นผมขอบอกก่อนว่า ผมชอบนะ คือหนังมันไม่ได้ดีเลิศอะไรมากมายหรอก แต่มันก็ไม่ได้แย่อ่ะ คือดูเพลินมากกว่า ความน่าติดตามก็ได้อยู่ ไม่มีช่วงเนือย หนังยาวพอเหมาะ(ประมาณชั่วโมงครึ่ง) ไม่เหมือนหม้อแปลงของพี่เบย์ ที่ล่อเข้าไป 2 ชั่วโมง 40 หนังบ้าบอคอแตกอะไรวะ ไม่มีเนื้อหาสาระอะไรเลย แต่ยาวเกินหน้าเกินตา แต่เรื่องนี้พอกล้อมแกล้มครับ ดูเพลินมาก สิ่งที่ผมชอบมากที่สุดก็คือเคมีระหว่างสี่เต่าที่มีการหยอดมุขใส่กันตลอดทั้งเรื่อง แต่ก่อนผมจะชอบไมกี้มากที่สุดครับ แต่มาภาคนี้ผมกลับชอบ"ดอนนาเทลโล" มากที่สุดซะงั้น เพราะพี่แกเป็นตัวละครที่เชื่อมความสามัคคีของพวกพ้องให้มั่นคงครับ สังเกตุเวลาที่ลีโอกับราฟทะเลาะกัน ดอนนี่นี่แหละที่เข้าไปห้ามไว้ หรือตอนที่พี่น้องกำลังจะสิ้นลม พี่แกก็บอกเอพริลวิธีที่จะช่วยพี่น้องเอาไว้ หรือแม้กระทั่งตอนที่อันตรายจะมา พี่แกก็จะเตือนพี่น้องให้ระวังไว้ตลอดครับ แค่นี้ผมก็ชอบพี่แกมากๆ แล้วล่ะ
ส่วนตัวละครคนมิติจะน้อยอยู่บ้างครับ ที่มีเด่นๆ หน่อยก็คือแม้จิ้งจอกป่าของเรา (Fox) เธอเล่นได้มีเสน่ห์ครับ แม้จะไม่ได้เล่นใหญ่แต่การแสดงเธออยู่ในขอบเขตของสเกลหนัง ทำให้การแสดงของเธอดูพอดี และที่สำคัญ เธอสวยครับ สวยมากด้วย ยิ่งโตก็ยิ่งงามแม่สาวคนนี้ ชอบๆๆ ส่วนคนอื่นออกแนวสมทบครับ Arnett ก็พอไปได้กับบทหนุ่มกวนๆ Fichtner ก็ไม่เลวครับ เพียงแต่บทไม่อำนวย พี่แกเลยดูไม่น่ากลัวสักเท่าไหร่ ส่วน Masamune ก็ดูเท่ห์ดีในบทเชรดเดอร์ แต่ผมเอะใจกับชุดแกนิดนึง แว๊บแรกนึกว่าเมกะตรอนจำแลงกายลงมาสู้กับอาจารย์หนู กันภัย555
ในทางด้านงานแอคชั่นหนังพอถูไถครับ ก็คือมันส์อยู่ แต่ขาดอารมณ์ร่วม และประทานโทษนะครับที่จะบอกว่า "ฉากไถลลงเขานี่ดูดีกว่าฉากไคล์แมกซ์ของ TFM: Age of Extinction เยอะอยู่หลายโข" เพราะอะไรน่ะหรอ มันดูระเบิดพอดีครับ ไม่ได้โคร่มคร่ามโป้มป้ามเหมือนในหม้อแปลงที่ระเบิดทีนี่ข้าวของกระจัดกระจายมาใส่กล้องจนมองไม่เห็น แต่เรื่องนี้กลับดูดีเฉยครับ มันมีฝุ่นก็จริง แต่ลูกเล่นของมุมกล้องมันทำให้ฉากนั้นดูสนุกครับ ไม่ได้มัวจนมองไม่เห็น และทาง CG ก็ไม่ได้เล่นใหญ่แต่ได้ใจผมเต็มๆ ครับในจุดๆ นี้
หนังดูเพลินครับ เพลินกว่าหม้อแปลงภาคหลังๆ อยู่หลายโข แถมสเกลหนังก็โอเค ไม่ได้เว่อร์วังอลังการอะไรขนาดนั้น แต่มันสนุกว่ะ! ชอบครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ข้อมูลเพิ่มเติม