สวัสดีค่า ห่างหายจากพันทิปไปนานมาก วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์
ที่เกิดขึ้นสดๆร้อนๆเลย ช่วงนี้ปิดเทอมนึกครึ้มใจ อยากไปเยี่ยมเยียนเพื่อนที่เรียนอิตาลี
และอยากไปเซอเวย์ สถานที่เรียนต่อปริญญาโทด้วย เลยตัดสินใจลองขอวีซ่า
เชงเก้นอิตาลีครั้งแรก โดยขอแบบระยะสั้น ท่องเที่ยว ระยะเวลา14วัน
เราเตรียมเอกสารไปตามลิสต์ทางหน้าเว็บvfs โดยทำการยื่นวันที่15 ตุลาคม
วันจันทร์ล่าสุดที่ผ่านมา วันถัดมานั้น มีเบอร์02 จากสถานทูตบอกว่าทางเราอยากสัมภาษณ์
เพิ่มเติม รบกวนมาที่อาคาร all season เวลาบ่าย2จะได้ไหม
ทางเราก็ใจไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เพราะเท่าที่อ่านมา โดยเรียกแบบนี้
ค่อนข้างจะจบไม่สวย แต่เราก็ถือว่าค่อนข้างพร้อมระดับนึง
แพลนทริปอย่างดี มีหลักฐานถูกต้อง สเตทเม้นค่อนข้างโอเค
เพราะมีรายรับรายจ่ายจากที่บ้าน และขายของออนไลน์
วันที้17 ตุลาคม คือวันนี้เราได้เข้าไปทำการสัมภาษณ์ โดนมีล่ามสาวสวย
จำนวน1คน ท่าทางดูดุมากๆ และคนสัมภาษณ์เราเป็นผู้หญิง อายุน่าจะ50++
ชาวอิตาเลี่ยน เข้าไปถึงทักก่อนเลย ทำไมรูปในเอกสารพาสปอร์ต และรูปที่แนบมา
ไม่เหมือนตัวจริงเลย เราก็งงมาก เราก็บอกว่าเป็นรูปที่ถ่ายล่าสุด
พร้อมถอดแว่นสายตาให้เห็นหน้าของเราชัดๆ คุณผู้หญิงที่สัมเราก็บอกว่าไม่เหมือน
ส่ายหัวแรงมาก ทำหน้าแบบแย่สุดๆ หลังจากนั้นถามว่า เราจะไปทำไรอิตาลี
เราก็อธิบายเป็นภาษาอังกฤษ ว่าเรามีเหตุผลคือต้องการไป sight seeing
และหาที่เรียนต่อโทค่ะ เขาก็ถามว่าจะไปเที่ยวไหนบ้าง เราก็อธิบายแต่เราอ่านออกเสียงผิด
ในชื่อสถานที่ ที่เป็นภาษาอิตาเลียน เขาก็บอกไม่ใช่ ไม่มี
ขึ้นเสียงตวาดจี้ๆ บอกว่าเราพูดไม่รู้เรื่อง พร้อมกับพูดเป็นภาษาอิตาเลียน พี่ล่ามแปลได้ว่า
เราพูดเร็วเกิน แถมยังว่าๆเราพูดไม่รู้เรื่อง ทั้งๆที่เรามั่นใจว่าเราพูดช้า และชัดเจนพอสมควร
บอกเราว่าคุณเรียนอินเตอร์แต่สกิลภาษาของคุณอ่อนมาก
เรารู้สึกงงมาก เพราะไม่เคยมีอาจารย์ในมหาลัยทักเราสักคน
และในคลาสเรียนเรายังพรีเซนหน้าชั้นค่อนข้างดี เพราะได้รับคำชมมาบ้าง
ถึงอาจจะไม่เป้ะ100 แต่สื่อสารได้ในระดับนึง
รวมถึงตัวคนสัมภาษณ์เอง ยังพูดอังกฤษสำเนียงอิตาเลียนซึ่งฟังยากมากๆด้วย
หลังจากนั้นเขาก็ถามจี้ต่อ บรรยากาศตอนนั้นกดดันมากๆ
เขาถามว่าคุณจะไปดูโทที่นู่นทำไม ที่ไทยก็มี แล้วคุณเอาเงินมาจากไหนเยอะแยะ
ไหนบอกว่าเป็น student เราก็บอกว่าที่บ้านให้ค่าขนม
และเรามีรายได้เสริมจากการขายของออนไลน์ เขาบอกว่า impossible
ถ้าคุณขายของจริง ทำไมคุณไม่กรอกเอกสาร ว่าเป็นธุรกิจส่วนตัวละ
เราเลยบอกว่าเมนหลักของเราคือนักศึกษา แต่พาทไทม์คือขายของออนไลน์นะ
ทางคนที่สัมเราบอกว่า เรามีจำนวนเงินขนาดนี้ได้อย่างไร แล้วถามว่าเราขายอะไร
เราก็บอกว่าเราขายรองเท้า เราบอกว่าคุณสามารถเสิร์ชดูได้นะ
พี่ล่ามก็พยายามอธิบายว่าที่ไทยการขายของออนไลน์ ค่อนข้างเยอะ ทำให้เป็นเรื่องธรรมดาของที่นี่
แต่คนที่สัมภาษณ์เราก็เอาแต่ ส่ายหน้ารัวๆ พร้อมเบะปาก นาทีนั้นเราใจเสียมาก
เหมือนเขาไม่ฟังเราเลย และยังถามต่อว่าคุณเรียนปริญญาตรีที่นี่หรอ
เรียนอะไร คณะอะไร เราก็อธิบายให้ฟัง เขาบอกว่าคุณไม่มีความจำเป็นต้องไปเลย
รวมถึงหลักฐานการเงินคุณไม่น่าเชื่อถือ คุณอาศัยอยู่กับใครที่นี่
เราบอกว่าเราอาศัยอยู่กับป้า พ่อแม่แยกทางกัน แต่ที่บ้านเราค้าขาย
ทำธุรกิจส่วนตัวนะ เขาบอกว่าคุณพูดภาษาอังกฤษแย่มาก คุณจะไปอยู่ได้หรอ
เรางงมาก ว่าเราพูดแย่ตรงไหน สามารถถามตอบ อธิบายได้อย่างละเอียด
ศัพท์ที่เราใช้ค่อนข้างโอเค แต่คนสัม ใช้ภาษาอิตาเลียนส่วนใหญ่
แถมยังต้องให้ล่ามแปลกำกับตลอด คนสัมภาษณ์ติเราทุกเรื่อง
บอกว่าหน้าไม่เหมือนในรูป คุณตั้งใจปิดบังอะไรรึเปล่า เรานี่งงมาก
และบอกว่าเรามีสถานะการเงินไม่น่าเชื่อถือ เขาถามว่าเราจะไปเที่ยวไหนบ้าง
พักที่ไหน เราอธิบายชัดเจนทุกคำ เขาบอกที่ๆคุณพูดมา มันไม่มีนะ
แถมคุณยังสะกดผิดอีก พยายามจี้เราไม่หยุด เราเสียความรู้สึกมาก
เลยเงียบ นอกจากนี้เขายังทิ้งท้ายอีกว่า คุณดูไม่น่าเชื่อถือ น่าตาไม่เหมือนในรูป
ตั้งใจจะไปทำไรกันแน่ เราเลยพยายามบอกว่า เราเข้าใจที่คุณสงสัยในตัวเรา
แต่เรามีจดหมายยืนยันจากมหาวิทยาลัย ว่าเราจะกลับไปมาเรียนแน่นอน
และเรายังเหลือเทอมสุดท้าย ที่จะต้องจบในอีก3เดือนหน้านี้
เขาบอกว่าไม่ได้ถาม ตอบมาทำไม เราแบบโหหหหห แรงมาก หน้าชาสุด
แถมยังพูดต่ออีกว่า ไม่ได้ถามคุณ คุณไม่ต้องตอบ
เราเลยบอกว่า เราแค่อยากอธิบายและ อยากยกหลักฐานมาเท่านั้น
เขาถามกลับมาว่าคุณอ่านใจฉันออกหรอ ว่าฉันอยากรู้อะไร
คุณไม่มีสิทธิ์จะอธิบายอะไร หากฉันยังไม่ได้ถาม
หลังจากนั้นเขาก็ส่ายหน้า พร้อมบอกว่าจบการสนทนาเพียงเท่านี้
เราถามพี่ที่เป็นล่ามว่าต้องทำอะไรต่อ เขาบอกรอรับเล่มคืน
เราก็พอทราบแล้วละ ว่าไม่ผ่านแน่นอน100%
เขาดูตั้งแง่ และกดดันกับเรามาก คิดลบสุดๆ
เรานี่หน้าชามาก เพราะตั้งใจไปเที่ยวจริงๆ แต่เขาtreatเราเหมือนเป็นนักโทษ
อยากจะทราบว่าถ้าเรายังอยากไปอิตาลีอยู่ เราสามารถไปขอวีซ่าฝรั่งเศสแทนได้ไหม
โดยพักฝรั่งเศส10วัน อิตาลี4วัน จะมีปัญหาอะไรไหมคะ
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า พูดอังกฤษได้ก็ไม่ช่วยอะไร หรือเราอาจจะดวงไม่ดีก็ได้
ใครเคยวีซ่าอิตาลีไม่ผ่าน แล้วไปขอวีซ่าฝรั่งเศสแทนได้ไหม
ทำไงถ้าเรายังอยากจะไปอยู่ มีทางแก้ไงบ้างคะ
แชร์ประสบการณ์ขนลุก ขอวีซ่าเชงเก้นอิตาลีไม่ผ่าน โดนถามจนหน้าสั่น!!
ที่เกิดขึ้นสดๆร้อนๆเลย ช่วงนี้ปิดเทอมนึกครึ้มใจ อยากไปเยี่ยมเยียนเพื่อนที่เรียนอิตาลี
และอยากไปเซอเวย์ สถานที่เรียนต่อปริญญาโทด้วย เลยตัดสินใจลองขอวีซ่า
เชงเก้นอิตาลีครั้งแรก โดยขอแบบระยะสั้น ท่องเที่ยว ระยะเวลา14วัน
เราเตรียมเอกสารไปตามลิสต์ทางหน้าเว็บvfs โดยทำการยื่นวันที่15 ตุลาคม
วันจันทร์ล่าสุดที่ผ่านมา วันถัดมานั้น มีเบอร์02 จากสถานทูตบอกว่าทางเราอยากสัมภาษณ์
เพิ่มเติม รบกวนมาที่อาคาร all season เวลาบ่าย2จะได้ไหม
ทางเราก็ใจไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เพราะเท่าที่อ่านมา โดยเรียกแบบนี้
ค่อนข้างจะจบไม่สวย แต่เราก็ถือว่าค่อนข้างพร้อมระดับนึง
แพลนทริปอย่างดี มีหลักฐานถูกต้อง สเตทเม้นค่อนข้างโอเค
เพราะมีรายรับรายจ่ายจากที่บ้าน และขายของออนไลน์
วันที้17 ตุลาคม คือวันนี้เราได้เข้าไปทำการสัมภาษณ์ โดนมีล่ามสาวสวย
จำนวน1คน ท่าทางดูดุมากๆ และคนสัมภาษณ์เราเป็นผู้หญิง อายุน่าจะ50++
ชาวอิตาเลี่ยน เข้าไปถึงทักก่อนเลย ทำไมรูปในเอกสารพาสปอร์ต และรูปที่แนบมา
ไม่เหมือนตัวจริงเลย เราก็งงมาก เราก็บอกว่าเป็นรูปที่ถ่ายล่าสุด
พร้อมถอดแว่นสายตาให้เห็นหน้าของเราชัดๆ คุณผู้หญิงที่สัมเราก็บอกว่าไม่เหมือน
ส่ายหัวแรงมาก ทำหน้าแบบแย่สุดๆ หลังจากนั้นถามว่า เราจะไปทำไรอิตาลี
เราก็อธิบายเป็นภาษาอังกฤษ ว่าเรามีเหตุผลคือต้องการไป sight seeing
และหาที่เรียนต่อโทค่ะ เขาก็ถามว่าจะไปเที่ยวไหนบ้าง เราก็อธิบายแต่เราอ่านออกเสียงผิด
ในชื่อสถานที่ ที่เป็นภาษาอิตาเลียน เขาก็บอกไม่ใช่ ไม่มี
ขึ้นเสียงตวาดจี้ๆ บอกว่าเราพูดไม่รู้เรื่อง พร้อมกับพูดเป็นภาษาอิตาเลียน พี่ล่ามแปลได้ว่า
เราพูดเร็วเกิน แถมยังว่าๆเราพูดไม่รู้เรื่อง ทั้งๆที่เรามั่นใจว่าเราพูดช้า และชัดเจนพอสมควร
บอกเราว่าคุณเรียนอินเตอร์แต่สกิลภาษาของคุณอ่อนมาก
เรารู้สึกงงมาก เพราะไม่เคยมีอาจารย์ในมหาลัยทักเราสักคน
และในคลาสเรียนเรายังพรีเซนหน้าชั้นค่อนข้างดี เพราะได้รับคำชมมาบ้าง
ถึงอาจจะไม่เป้ะ100 แต่สื่อสารได้ในระดับนึง
รวมถึงตัวคนสัมภาษณ์เอง ยังพูดอังกฤษสำเนียงอิตาเลียนซึ่งฟังยากมากๆด้วย
หลังจากนั้นเขาก็ถามจี้ต่อ บรรยากาศตอนนั้นกดดันมากๆ
เขาถามว่าคุณจะไปดูโทที่นู่นทำไม ที่ไทยก็มี แล้วคุณเอาเงินมาจากไหนเยอะแยะ
ไหนบอกว่าเป็น student เราก็บอกว่าที่บ้านให้ค่าขนม
และเรามีรายได้เสริมจากการขายของออนไลน์ เขาบอกว่า impossible
ถ้าคุณขายของจริง ทำไมคุณไม่กรอกเอกสาร ว่าเป็นธุรกิจส่วนตัวละ
เราเลยบอกว่าเมนหลักของเราคือนักศึกษา แต่พาทไทม์คือขายของออนไลน์นะ
ทางคนที่สัมเราบอกว่า เรามีจำนวนเงินขนาดนี้ได้อย่างไร แล้วถามว่าเราขายอะไร
เราก็บอกว่าเราขายรองเท้า เราบอกว่าคุณสามารถเสิร์ชดูได้นะ
พี่ล่ามก็พยายามอธิบายว่าที่ไทยการขายของออนไลน์ ค่อนข้างเยอะ ทำให้เป็นเรื่องธรรมดาของที่นี่
แต่คนที่สัมภาษณ์เราก็เอาแต่ ส่ายหน้ารัวๆ พร้อมเบะปาก นาทีนั้นเราใจเสียมาก
เหมือนเขาไม่ฟังเราเลย และยังถามต่อว่าคุณเรียนปริญญาตรีที่นี่หรอ
เรียนอะไร คณะอะไร เราก็อธิบายให้ฟัง เขาบอกว่าคุณไม่มีความจำเป็นต้องไปเลย
รวมถึงหลักฐานการเงินคุณไม่น่าเชื่อถือ คุณอาศัยอยู่กับใครที่นี่
เราบอกว่าเราอาศัยอยู่กับป้า พ่อแม่แยกทางกัน แต่ที่บ้านเราค้าขาย
ทำธุรกิจส่วนตัวนะ เขาบอกว่าคุณพูดภาษาอังกฤษแย่มาก คุณจะไปอยู่ได้หรอ
เรางงมาก ว่าเราพูดแย่ตรงไหน สามารถถามตอบ อธิบายได้อย่างละเอียด
ศัพท์ที่เราใช้ค่อนข้างโอเค แต่คนสัม ใช้ภาษาอิตาเลียนส่วนใหญ่
แถมยังต้องให้ล่ามแปลกำกับตลอด คนสัมภาษณ์ติเราทุกเรื่อง
บอกว่าหน้าไม่เหมือนในรูป คุณตั้งใจปิดบังอะไรรึเปล่า เรานี่งงมาก
และบอกว่าเรามีสถานะการเงินไม่น่าเชื่อถือ เขาถามว่าเราจะไปเที่ยวไหนบ้าง
พักที่ไหน เราอธิบายชัดเจนทุกคำ เขาบอกที่ๆคุณพูดมา มันไม่มีนะ
แถมคุณยังสะกดผิดอีก พยายามจี้เราไม่หยุด เราเสียความรู้สึกมาก
เลยเงียบ นอกจากนี้เขายังทิ้งท้ายอีกว่า คุณดูไม่น่าเชื่อถือ น่าตาไม่เหมือนในรูป
ตั้งใจจะไปทำไรกันแน่ เราเลยพยายามบอกว่า เราเข้าใจที่คุณสงสัยในตัวเรา
แต่เรามีจดหมายยืนยันจากมหาวิทยาลัย ว่าเราจะกลับไปมาเรียนแน่นอน
และเรายังเหลือเทอมสุดท้าย ที่จะต้องจบในอีก3เดือนหน้านี้
เขาบอกว่าไม่ได้ถาม ตอบมาทำไม เราแบบโหหหหห แรงมาก หน้าชาสุด
แถมยังพูดต่ออีกว่า ไม่ได้ถามคุณ คุณไม่ต้องตอบ
เราเลยบอกว่า เราแค่อยากอธิบายและ อยากยกหลักฐานมาเท่านั้น
เขาถามกลับมาว่าคุณอ่านใจฉันออกหรอ ว่าฉันอยากรู้อะไร
คุณไม่มีสิทธิ์จะอธิบายอะไร หากฉันยังไม่ได้ถาม
หลังจากนั้นเขาก็ส่ายหน้า พร้อมบอกว่าจบการสนทนาเพียงเท่านี้
เราถามพี่ที่เป็นล่ามว่าต้องทำอะไรต่อ เขาบอกรอรับเล่มคืน
เราก็พอทราบแล้วละ ว่าไม่ผ่านแน่นอน100%
เขาดูตั้งแง่ และกดดันกับเรามาก คิดลบสุดๆ
เรานี่หน้าชามาก เพราะตั้งใจไปเที่ยวจริงๆ แต่เขาtreatเราเหมือนเป็นนักโทษ
อยากจะทราบว่าถ้าเรายังอยากไปอิตาลีอยู่ เราสามารถไปขอวีซ่าฝรั่งเศสแทนได้ไหม
โดยพักฝรั่งเศส10วัน อิตาลี4วัน จะมีปัญหาอะไรไหมคะ
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า พูดอังกฤษได้ก็ไม่ช่วยอะไร หรือเราอาจจะดวงไม่ดีก็ได้
ใครเคยวีซ่าอิตาลีไม่ผ่าน แล้วไปขอวีซ่าฝรั่งเศสแทนได้ไหม
ทำไงถ้าเรายังอยากจะไปอยู่ มีทางแก้ไงบ้างคะ