อยู่วงโยมา4ปี ขอโควต้าวงด้วย จะออกผิดไหม?

กระทู้คำถาม
ผมอยู่วงโยธวาทิต​โรงเรียน​ดัง​โรงเรียน​หนึ่ง ผมไม่ได้อวยตัวเองแต่อย่างใดนะครับ คือ รุ่นผมในวงโย ผมมีความสามารถที่มาไกลที่สุด ผมเล่นเครื่องประเภทwoodwindครับ ผมอยู่มา4 ปีละ ผมเข้าม.ปลาย ด้วยโควต้า ของวงโยนี่แหละ
          เหตุผลที่เข้าวงโย ตอนนั้นที่ผมสอบเข้าม.1ได้ และวงโยมีโชว์เพื่อรับน้อง ตอนนั้นเห็นพวกพี่ๆ นั่งconcert band เป่าแล้ว เท่มากๆ ตอนนั้นเพื่อนสนิทผมตอนประถม มันก็ชวนผมเข้าด้วย ผมเลยเข้าวงโยมา (เพื่อนสนิทผมออกตั้งแต่ปีแรกแล้ว)​  ตอนนั้นพี่ๆม.ปลายทุกคนนิสัยดีมากครับ อยู่แล้วอบอุ่นมากๆมันต่อความฝันวัยเด็กคือ ผมอยากมีพี่แท้ๆ ไว้ระบาย ไว้พักพิง ตอนนั้นปีแรกคือพี่ม.ปลาย ทำความฝันของผมได้ดีมาก แต่พอเวลาผ่านไปพี่ม.ปลาย ก็จะผลัดกันจบม.6กันไปทีละรุ่นๆ
เหลือแต่พี่ม.ต้น ที่ขึ้นมาเป็นม.ปลาย ความอบอุ่นมันค่อยๆหายไป มันเริ่มกลายเป็น ความเครียด ความทุกข์ ความโดดเดี่ยว
         2-3 ปีแรก ยอมรับครับว่ารักวงนี้มาก คาบว่าง ผมจะซ้อมอย่างเดียว ไม่มำอะไรเลย ซ้อมเป่ากันอยู่นั่นแหละ แต่พอปี4 ผมเริ่มห่างออก มา เริ่มไม่อยากเข้าวงแล้ว เริ่มเบื่อกับปัจจุบัน
        " ผมยอมรับในนิสัยของผมเอง ที่ว่าผมเป็นคนพูดตรงไปตรงมา พูดไม่ได้ด่า แต่พูดแรง พูดให้คนอื่นเห็นภาพชัดๆ ไม่อยากให้อยู่กับความเฟค ความหลอกลวง (แต่ผมก็พยายามปรับตัวให้ได้ อาจจะมีพลั้งปากบ้าง)​ ผมเป็นคนที่ ไม่ชอบให้ใครบังคับ เป็นคนที่คือ  ไม่คือไม่ ยังไงก็ไม่ มันเลยทำให้เพื่อนๆผม จะไม่ชอบนิสัยผม          อีกอย่างเพื่อนสนิทผมตอนม.ต้นก็ต่างพากันไปต่อ โรงเรียนอื่นๆกันหมด ทำให้ผมไม่ค่อยมีเพื่อนในวง จะมีเพื่อนนอกวงมากกว่า ผมเป็นคนเฮฮา พูดมาก ชวนคุย อารมณ์ขัน แต่ชอบคิดมากครับ ดูขัดเนอะ
        แต่ เพื่อนนอกวงนี้ก็ไม่ใช่กลุ่มอันธพาล​ แต่เป็นกลุ่มที่ คือ คิดบวกกันตลอด อยู่ด้วยแล้ว มีความสุข มีอะไรบอกกันตรงๆ ไม่โกหกกัน (เอาง่ายๆคือนิสัยเหมือนเรา)​ผมอยู่ด้วยแล้วมีความสุขมาก นี่คือเพื่อนกลุ่มเดียวที่ผมมีครับ
         ผมเป็นที่ชอบหลายอย่างมาก ทั้งดนตรี ศิลปะ จิตวิทยา ภาษา แฟชั่น ชอบเที่ยว ชอบอิสระ  *เข้าเรื่อง*
        อย่าที่บอกครับ ผมรักอิสระ ไม่ชอบให้ใครมาบังคับ ไม่ชอบการถูกกักขัง คือถ้าสั่ง แล้วเรายอม อันนั้นโอเค แต่ถ้ามาแบบ" แกต้องทำนี่ ทำนี่ ทำนั่น"  "ทำไมไม่ทำแบบนี้ ทำไมๆๆ" อันนี้เราจะรู้สึกอึดอัด เวลารับแรงกดดัน ตอนอยู่วงแรกๆ ผมไ่ม่เคยรู้สึกแบบนี้เลย แต่พอเวลาผ่าน ทุกอย่างเริ่มเปลี่ยน มันเริ่มอึดอัด มันเริ่มไม่น่าอยู่ เราไม่อยากทำตรงนี้แล้ว เราอยากไปตามหาความฝันอย่างอื่น แต่เราก็ไม่ได้ทิ้งความสามารถด้านนี้ บ้านเราก็มีเครื่อง เราก็จะเล่นมันเพื่อน*คลายเครียด*
          ใช่ครับ ผมเข้าวงโยมาเพื่อเล่นดนตรีคลายเครียด แต่พอเราอยู่ละเริ่มเครียด ต้องบอกก่อนคือในวง ผมจะค่อนข้างอ่อนเรื่องมาร์ชชิ่ง แต่ โดดเด่น ด้านสกิลเป่า
          ตอนนั้น มีการแข่งประกวด แน่นอนทุกวงหวังที่1 เลยซ้อมหนักมาก เข้าค่าย 3วัน 5วัน      ซึ่งเรื่องมาร์ชชิ่ง เราเอ๋อมาก บวกกับตอนนั้นอยู่ม.3 และ เป็นน้องสุดที่ได้ลงในเครื่องที่เล่น มันนับแรงกดดันหนักมาก โดดทั้งด่า ทั้งประนาม คือ เข้าใจว่าอยากจะให้วงชนะ แต่คือ มันต้องขนาดนั้นเลยเหรอ ช้าแค่เสี้ยววิ ยังโดนด่า เราน้ำตาไหลเองเลยนะ ตอนนั้นเราก็เริ่มคิดละ นี่คือดนตรีคลายเครียดจริงๆเหรอ เห้ย มันเริ่มไม่ใช่ ตอนนั้นเราเลยเริ่มคิดจะออก แต่แค่10% ในความอยาก และแน่นอน วงเราชนะ แต่ทำไมผมรู้สึกเฉยๆ มันคุ้มกับความรู้สึกที่เสียไปเหรอ.... ใช่ มันได้ประสบการณ์ มันได้รู้จักการทำงาน มันได้พัฒนาความสามารถ​ แต่ความรู้สึกเราล่ะ มันไม่ได้ดีขึ้น ตามความสามารถ มันกลับค่อยๆดร็อปลงเรื่อยๆ  
          ผมเข้าม.4 ได้ด้วยโควต้าวงโย บางคนเห็นว่า เราควรอยู่วงต่อ เพื่อตอบแทน แต่สำหรับผมมันไม่ใช่ สำหรับผม มันคือสิ่งตอบแทนสิ่งที่เราได้ลงแรงไป เวลาที่เสียไป ความรู้สึกที่เสียไป ตอนม.ต้น สำหรับผมมีแค่นั้น ม.4 เทอม 1 ผมเรียนสายภาษาครับ และผมก็ ชอบภาษาอยู่แล้ว แล้วภาษาที่ผมเรียนเป็นภาษาของประเทศทีาผมใฝ่ฝันอยากไปมาก ผมได้ข่าวว่า การแข่งภาษามันจะเข้ามาเรื่อยๆ ใช่ ผมอยากไปแข่ง แต่มันจะชนกับเวลาของวงมากๆ     อีกอย่าง วงผมอยู่กันแบบ สังคม ซึ่งแน่นอนทุกสังคมจะมีความคิดต่าง
ถ้าผมอยู่ต่อโดยไปแข่งภาษาไปด้วย ซึ่งผมจะเข้าบ้างไม่เข้าบ้าง มันจะดูเอาเปรียบพี่ๆ น้องๆเพื่อนๆ ซึ่งทุกคนจะคิดว่า"นี่พิเศษมาจากไหน"
"เอาเปรียบว่ะ" ซึ่งแน่นอน มันมีอยู่แล้ว บวกกับ ผม ก็ต้องแข่งกับคนในห้อง เพื่อ ออดิชั่นแข่งภาษา ผมเลยต้องการเวลา หลายคนบอกให้ผมแบ่งเวลา  แต่จะให้แบ่งเวลายังไง ซ้อม เลิกเฉลี่ย 5 - 6 โมง ซึ่งผมกลับบ้านเองด้วยรถ2แถว กว่าจะรอรถมา รถรอคนขึ้น จอดระหว่างทาง ราว 1 ชั่วโมง เดินไปบ้านอีก500เมตร ไหนจะงานบ้าน ทานข้าว  หมดนี่ ราวๆ 2ทุ่ม เกือบ3ทุ่ม  ไหนจะการบ้าน รายงาน งานกลุ่ม ซึ่งทุกคนรู้ดี สายสามัญจะเรียนหนัก การบ้านเยอะ  เสร็จ ก็ 4-5 ทุ่ม แล้วเวลาพักผ่อนผมล่ะ วัยรุ่นคนนึงจะมีเวลาพักสมองมั้ย ในทางกลับกัน ถ้าไม่อยู่วงโย ผมจะกลับบ้านตั้งแต่ บ่ายสามได้ บางวันก็4โมง 2แถวจะมีเยอะกว่า คนจะเยอะจะเต็มเร็ว จะใช้เวลาเดินทางเร็วกว่ามาก ถ้าเลิก บ่ายสาม 4โมง ผมจะถึงบ้าน หลังจากยั้นเวลาจะมีเยอะขึ้นมาก ตอนนั้นความอยากออกมีละ 50%
มันพึ่งจะพุ่งมาเป็น100% เต็ม ตอนที่ได้ยินที่บ้านบ่นว่า ไม่ค่อยมีเงินเลยช่วงนี้ และผมเห็นเพื่อนบางคน มีเวลากับที่บ้าน มีเวลาอยู่กับครอบครัว  ดูอบอุ่น  ทั้งหมดที่ผ่านมาทุกคนอาจจะคิดว่า  ผมเหมือนคนเก็บกด ผมบอกได้เลยว่า*ใช่*.... วงโยที่ผมอยู่ใช่ว่าไม่ดี มันดีครับ แต่เหมือนกับ คณะที่คุมวงอยู่(รุ่นพี่)​เมื่อเขาเห็นจุดต่างในวง เหมือนคนซักผ้า เห็นจุดเปื้อนดำๆ อยู่ เขาจะยิ่งขยี้ๆๆๆๆ กระหน่ำแรงขึ้นเพื่อให้ ตำแหน่งนั้นเป็นสีขาว โดยไม่คำนึงถึงเนื้อผ้าเลย ว่าจะขาด จะยืด มันเลยไม่มีใครกล้า แสดงความคิดที่เห็นต่าง เหมือนผม มันทำให้ผมเก็บกดมากๆ ผมเลยอยากจะออก
       ผมคุยกับแม่หลายครั้งตอนแรกคุยกัน ว่าม.5 จะออก แต่ผมเริ่มทนไม่ไหว ผมเลยจะออก ตั้งแต่ ม.4เทอม2  แน่นอนมันไม่สำเร็จ
ผู้คุมวง ยื้อจะให้ผมอยู่ด้วยเหตุผลว่าผมขอ  โควต้า เสียดายความสามารถ แม่ก็เห็นด้วย
เข้าใจว่าทุกคนหวังดี แต่คือ.... ผมลองฝืนอยู่
ผมมาซ้อมโดยไม่มีความสุข ผมมาซ้อมแบบอมทุกข์ ผมมาซ้อมแบบความคิดเชิงลบ... ผมเลยลองคุยกับแม่ โดยบอกความในใจทั้งหมด แม่บอกจะคุยให้
        
      แต่ผมออก ใช่ว่าผมทิ้ง ใช่ว่าผมจะลืมบุญคุณ​วงนี้ ผมจะหาวิธีตอบแทน เช่น ถ่ายรูปให้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ  ได้มีรูปลงแฟ้มสะสมผลงานกัน ตามงานกีฬาสี ตามงานวันสำคัญ
      
       ตอนนี้ผมเล่ามาถึงปัจจุบันแล้ว ผมเลยจะถามว่า
     ผมออกผิดมั้ย
     ผมมีเหตุผลพอรึเปล่า
     ทุกคนมีความคิดยังไงกับผม
     ผมผิดหรือเปล่าที่คิดนี้
  
ผมจะพยายามอ่านทุกคอมเม้นนะครับ และผมจะเอาไปคิดตามที่ทุกคนได้แนะนำ
ขอบคุณครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่