สวัสดีครับยินดีต้อนรับเขาสู่เพจ โหลก-เถื่อน-หรั่ง Studio
หลังจากครั้งที่แล้วผมพึ่งจัดอันดับโคนันเดอะมูฟวี่ที่ผมชอบที่สุดไป วันนี้ก็เลยนึกคึกขึ้นมาอยากจะทำจัดอันดับอีกสักรอบ และการจัดอันดับในครั้งนี้ก็ยังคงวนเวียนอยู่กับการ์ตูนญี่ปุ่นเช่นเคย ซึ่งการ์ตูนที่ผมจะมาจัดอันดับในวันนี้ผมเชื่อว่าน่าจะเป็นการ์ตูนในดวงใจของเด็กหลายๆคนแน่ๆตัวผมเองก็เช่นกัน นั้นก็คือเรื่อง “โดราเอมอน” จะเป็นยังไงก็เข้าไปอ่านกันได้เลยครับ
แต่ก่อนอื่นเผื่อใครอยากจะอ่านหรือดูจัดอันดับโคนันเดอะมูฟวี่ก็เข้าไปอ่านหรือดูได้ที่ลิ้งนี้เลย
คลิปวีดีโอ (youtube) :
https://www.youtube.com/watch?v=hU7sHVmb_Ds&t=72s
อ่านที่เพจ (facebook) :
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=2090319084524288&id=2013209018901962
และก็มีจัดอันดับโดราเอมอนมูฟวี่แบบที่เป็นคลิปวีดิโอด้วยนะครับเผื่อใครขี้เกียจอ่าน

ก่อนอื่นผมขอบรรยายอะไรนิดนึงเกี่ยวกับการจัดอันดับและความรู้สึกที่ผมมีต่อการ์ตูนเรื่องโดราเอมอนนะครับ ในการจัดอันดับครั้งนี้จะเป็นการจัดอันดับโดราเอมอนเดอะมูฟวี่15อันดับที่ผมชอบที่สุดตลอดกาล ซึ่งจะอ้างอิงจากความชอบและความรู้สึกส่วนตัวของผมเป็นหลัก ดังนั้นถ้าจะมีผู้อ่านท่านใดรู้สึกขัดใจว่าทำไมไม่มีภาคนี้ละไม่มีภาคนั้นละหรือว่าภาคนี้ดีกว่านะทำไมไปอยู่อันดับต่ำจังอะไรประมานนี้ก็ไม่ต้องแปลกใจเพราะความชอบของแต่ละคนไม่เหมือนกันอยู่แล้วมันก็เป็นเรื่องปกตินะครับ และถ้าถามว่าทำไมอยู่ๆผมถึงนึกจะมาจัดอันดับโดราเอมอนเดอะมูฟวี่ซะละ แน่นอนเป็นเพราะผมค่อนข้างจะชอบการ์ตูนเรื่องนี้มากๆอยู่แล้วจะเรียกว่าเป็นการ์ตูนในดวงใจเลยก็ว่าได้ยิ่งกับภาคที่เป็นเดอะมูฟวี่จะยิ่งชอบเป็นพิเศษ(ปกติผมจะเฉยๆกับตอนธรรมดานะแต่จะรู้สึกผูกพันกับพวกตอนเดอะมูฟวี่มากๆ)สำหรับผมภาคที่เป็นเดอะมูฟวี่มันไม่ใช่แค่การ์ตูนสำหรับเด็กที่เอาไว้ดูฆ่าเวลา เพราะนอกจากจะมีเนื้อเรื่องที่สนุกจนเข้าถึงได้กับผู้คนทุกเพศทุกวัยแล้วมันยังเต็มไปด้วยไอเดียที่สร้างสรรค์จนทำให้คุณทึ่งกับกึ๋นของนักเขียนความเข้มข้นสลับซับซ้อนของเรื่องราวที่หลากหลายและใส่จินตนาการได้แบบไม่มีที่สิ้นสุด แถมหลายๆภาคยังมีแก่นเรื่องดีๆที่มีแนวคิดที่ลึกซึ้งแฝงเข้ามาเพื่อให้แง่คิดดีๆกับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ได้อีกด้วย(ผมว่าบางภาคจะมีแก่นเรื่องที่หนักเกินกว่าเด็กคนนึงจะเข้าใจได้ด้วยซ้ำ) และอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้อยากจะหยิบโดราเอมอนมาจัดอันดับในช่วงเวลานี้ก็เพราะผมเห็นว่ามันจะมีเดอะมูฟวี่ภาคใหม่มาเข้าฉายบ้านเราในเร็วๆนี้(ก็คือภาค เกาะมหาสมบัติของโนบิตะ ไม่แน่ใจว่าจะใช่ภาครีเมคของเมื่อปี 1998 รึป่าวนะ) ดันนั้นผมจึงคิดว่าไม่น่าจะมีช่วงเวลาไหนที่เหมาะแกการหยิบโดราเอมอนเดอะมูฟวี่มาพูดถึงเท่าช่วงนี้แล้วละ
ปล.ขอบอกอีกนิดนะครับต้องขอโทษด้วยที่อาจจะเสียเวลานิดหน่อย^^ คือในอันดับของผมจะไม่มีภาคใหม่ๆของช่วงนิวเจเนอเรชัน(2005–ปัจจุบัน)อยู่เลย เหตุผลเพราะผมไม่ค่อยจะชอบเท่าไรแม้จะยังคงความสนุกเอาไว้ได้ดีแต่ความเข้มข้นของเนื้อหามันก็ไม่อาจจะเทียบกับสมัยที่อาจารย์ฟูจิโกะ ฟูจิโอะเขียนเนื้อเรื่องเองได้เลย และก็อีกอย่างที่จะบอกตลอดการจัดอันดับนี้ผมจะขอเรียกโดราเอมอนว่าโดเรมอนเฉยๆและกันนะครับเพราะเป็นชื่อที่คนไทยส่วนใหญ่รวมถึงผมด้วยน่าจะคุ้นเคยกับชื่อนี้ที่สุดและ(เรียกกันมาตั้งแต่เด็ก 555)

อันดับที่15 โดราเอมอนเดอะมูฟวี่ 13 ตอน บุกอาณาจักรเมฆ(ท่องแดนสวรรค์)
เรื่องย่อ: เมื่อโนบิตะเกิดมโนขึ้นมาเองว่าอาณาจักรสวรรค์นั้นจะต้องมีอยู่จริง เดือดร้อนไปถึงโดราเอมอนจะต้องมาช่วย และด้วยของวิเศษของโดราเอมอนก็ทำให้สามารถสร้างอาณาจักรสวรรค์ขึ้นมาได้สำเร็จ แต่แล้วก็เกิดเหตุบังเอิญที่ทำให้โนบิตะและเพื่อนๆได้พบกับแดนสวรรค์ของจริง ที่นั้นพวกเขาได้พบกับภูติสวรรค์และพวกเขาก็ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี ทุกอย่างเหมือนจะเป็นไปได้ด้วยดีจนกระทั่งทุกคนเริ่มเห็นความผิดปกติของเหล่าภูติสวรรค์และดูเหมือนว่าเหล่าภูติสวรรค์จะมีจุดประสงค์ที่ไม่ดีต่อโลก พวกโนบิตะจึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อขัดขวางแผนร้ายของเหล่าภูติสวรรค์ให้ได้
ความรู้สึก: ผมเชื่อว่าเด็กหลายๆคนย่อมเคยมีความคิดที่ว่าถ้าเราขึ้นไปสร้างบ้านอยู่บนก้อนเมฆได้มันคงจะเป็นอะไรที่พิเศษมากๆ และโดเรมอนภาคนี้ก็เป็นอีกหนึ่งภาคที่ทำให้จินตนาการของเด็กหลายๆคนกลายเป็นจริง แถมยังเล่นใหญ่กว่าที่เราคิดด้วยการสร้างอาณาจักรอันยิ่งใหญ่บนก้อนเมฆ นับว่าเป็นอีกภาคที่ทำให้เราตื่นตาตื่นใจกับมันมากๆ แต่ผมว่าหัวใจหลักจริงๆของภาคนี้กับไม่ใช่ไอเดียเรื่องการสร้างอาณาจักรบนก้อนเมฆ แต่ภาคนี้ต้องการจะส่งmessageสะท้อนไปถึงสันดานชั่วในตัวมนุษย์ ความผิดบาปที่มนุษย์กระทำไว้กับโลกและการตั้งคำถามที่ว่า “มนุษย์สมควรจะมีชีวิตอยู่บนโลกนี้อีกต่อไปไหม” บอกตรงๆว่านี่คือโดเรมอนภาคที่มีประเด็นที่เป็นผู้ใหญ่ที่สุดเท่าที่ผมเคยดู และเนี่ยแหละครับคือเหตุผลที่ผมชอบภาคนี้น้อยสุดใน15อันดับ ไม่ใช่ว่าไม่ดีนะครับภาคนี้นับเป็นภาคที่มีเนื้อหาดีมากภาคนึง แต่ด้วยความที่มันเป็นภาคที่จริงจังมากๆผมดูทีไรแล้วรู้สึกเครียดทุกทีเลย 555 เนี่ยแหละครับเหตุผล แหะๆ (ส่วนตัวสุดๆ)

อันดับที่14 โดราเอมอนเดอะมูฟวี่ 18 ตอน ตะลุยเมืองตุ๊กตาไขลาน
เรื่องย่อ: โดราเอมอนได้รางวัลปลอบใจจากงานประมูลที่ศตวรรษที่22เป็นคูปองไปยังดาวเคราะห์อันไร้ค่า แต่เมื่อโนบิตะลองใช้ประตูไปที่ไหนก็ได้เปิดดูจนถึงใบสุดท้ายกับพบว่ามันเปิดไปยังดวงดาวอันกว้างใหญ่และเขียวขจี ที่นั้นโนบิตะและเพื่อนๆได้ใช้ของวิเศษที่ชื่อไขลานให้ชีวิตทำให้ตุ๊กตาและของเล่นของพวกเขามีชีวิตขึ้นมาและได้ร่วมกันสร้างเมืองตุ๊กไขลานขึ้น ทุกอย่างเหมือนจะเป็นไปได้อย่างสนุกสนานจนกระทั่งได้มีโจรแหกคุกบังเอิญหลงเข้ามาที่ดาวดวงนี้ผ่านประตูไปที่ไหนก็ได้ เรื่องราวยุ่งๆจึงได้เริ่มต้นขึ้น
ความรู้สึก: ผมว่าภาคนี้น่าจะเป็นภาคที่มักจะถูกแฟนๆลืมและไม่ค่อยมีใครพูดถึง แต่ส่วนตัวผมกับชอบภาคนี้มากๆ บอกก่อนว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะนี่คือเดอะมูฟวี่ภาคแรกที่ผมได้ดู ผมรู้จักโดเรมอนได้ก็เพราะเดอะมูฟี่ภาคนี้แหละ มันจึงมีคุณค่ากับทางจิตใจของผมมากๆ นอกเหนือจากความชอบในส่วนนั้นแล้วผมยังชอบไอเดียของหนังที่เป็นการสร้างเมืองตุ๊กตาขึ้นมา ดูเหมือนจะเป็นไอเดียง่ายๆแต่ผมว่าเขาแอบแฝงประเด็นในเชิงการปกครอบบ้านเมืองเข้ามาผ่านสังคมของพวกเหล่าตุ๊กตาแบบเนียนๆ แต่เหนือสิ่งอื่นใดแล้วสิ่งที่ผมกับชอบมากที่สุดในภาคนี้คือตัวร้าย ซึ่งถ้าจะให้บอกกันตามตรงผมว่าตัวร้ายในโดเรมอนเดอะมูฟวี่ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยน่าจดจำเท่าไรเพราะมักจะเป็นตัวร้ายแบบสูตรสำเร็จทั่วไปไม่คิดทำลายโลกก็คิดจะครองโลกอะไรประมานนี้ และเอาจริงๆภาคนี้ก็ไม่ได้ต่างกันมากหลอกแต่สิ่งที่ผมรู้สึกว่ามันพิเศษเหนือกว่าภาคอื่นๆก็คือเอกลักษณ์ของมันและก็Plotเรื่องในส่วนของตัวร้ายที่ค่อนข้างจะพิสดารมากๆ เลยกลายมาเป็นตัวร้ายสายฮาที่หลายๆคนจะต้องจดจำกับฉายาที่สุดแสนจะน่าเกรงขาม(รึป่าว) “จอมโจรไอ้เคราหมี”

อันดับที่13 โดราเอมอนเดอะมูฟวี่ 5 ตอน ท่องแดนเวทมนตร์(ตะลุยแดนปีศาจ) 1984
เรื่องย่อ: เหตุเกิดเมื่อโนบิตะและโดราเอมอนเกิดอุตริใช้ตู้โทรศัพท์สารพัดนึกเปลี่ยนโลกปกติให้กลายเป็นโลกเวทย์มนตร์และดันไม่สามารถเปลี่ยนกลับไปเป็นโลกปกติได้ ในขณะที่โลกเวทย์มนตร์ก็กำลังเกิดปัญหาใหญ่เมื่อมีจอมปีศาจจากดาวปีศาจผู้ชั่วร้ายต้องการจะครอบครองโลก โนบิตะและเพื่อนๆจึงต้องร่วมมือกับมิโยโกะสาวน้อยนักเวทย์ผู้ถูกสาปในการปราบจอมปีศาจร้ายให้สำเร็จให้จงได้
ความรู้สึก: หลังจากดูจบไอ้ของวิเศษอย่างตู้โทรศัพท์สารพัดนึกก็กลายเป็นอีกหนึ่งของวิเศษที่ผมอยากได้มากๆ ลองนึกดูว่าถ้าเราสามารถเปลี่ยนโลกของเราให้กลายเป็นโลกแบบไหนก็ได้ตามจินตนาการของเรามันจะน่าสนุกขนาดไหน และนี่ก็คือเหตุผลส่วนนึงที่ทำให้ผมชอบภาคนี้แต่แน่นอนว่าสาเหตุที่ทำให้ผมชอบภาคนี้ไม่ได้มีแค่นี้แน่นอน อีกอย่างที่อยากจะชมคือหนังวางPlotไว้ได้น่าสนใจและชวนให้อยากติดตามตั้งแต่ต้น เช่น การโยนปริศนาเรื่องรูปปั้นหินเข้ามา แต่หนังก็ไม่ยอมให้เราจดจ่ออยู่กับปริศนาเพียงอย่างเดียว หนังพยายามจะให้เราสนุกกับการผจญภัยด้วยโดยการพาตัวละครไปที่โลกปีศาจซึ่งก็นับเป็นอีกช่วงที่สนุกมากของหนัง(ผมชอบตอนไจแอนท์ร้องเพลงไล่นางเงือกมากอย่างฮา 555) แต่สุดท้ายก็กับมาTwistถึงปริศนาที่เคยปูไว้จนทำให้เราทึ่งกับความฉลาดของบทไปเลย

อันดับที่12 โดราเอมอนเดอะมูฟวี่ 17 ตอน ผจญภัยสายกาแล็คซี่
เรื่องย่อ: โดราเอมอนได้ตั๋วรถไฟปริศนามาและได้ชวนให้โนบิตะไปขึ้นรถไฟท่องกาแล็คซี่ด้วยกัน ภายหลังชิซุกะ ไจแอนท์และซึเนโอะขอตามไปด้วย การเดินทางในตอนแรกเหมือนจะดำเนินไปได้ด้วยดีแต่แล้วก็เกิดเรื่องยุ่งๆเมื่อมีโจรสลัสอวกาศพยายามจะโจมตีขบวนรถไฟแต่พวกเขาก็หาทางแก้ปัญหาจนหนีรอดมาได้ และได้เดินทางมาถึงดาวแห่งสวนสนุกดรีมเมอร์แลนด์ ทุกคนเที่ยวเล่นกันในสวนสนุกอย่างมีความสุขจนกระทั่งพวกตัวร้ายได้ลอบเข้ามาเล่นงานพวกเขาอีกครั้ง โนบิตะและเพื่อนๆจึงต้องร่วมมือกันจัดการเหล่าตัวร้าย
ความรู้สึก: เป็นอีกหนึ่งภาคที่ไอเดียล้ำมากๆอีกแล้วววว พูดกันตามตรงแค่บอกจะทำหนังเกี่ยวกับการผจญภัยในอวกาศมันก็น่าสนุกและนะ แต่นี่เล่นเพิ่มความน่าสนใจเข้าไปอีกด้วยการท่องอวกาศด้วยรถไฟ และแน่นอนด้วยความที่เป็นโดเรมอนไอ้รถไฟคันนี้มันต้องไม่ธรรมดาอยู่แล้ว คงไม่ต้องบอกนะว่าด้านในรถไฟคันนี้มันเจ๋งขนาดไหน เรียกได้ว่าอาจารย์แกเติมแต่งจินตนาการได้แบบไม่มีที่สิ้นสุดจริงๆ แต่ถ้าคิดว่าช่วงที่อยู่บนรถไฟนั้นคือช่วงที่สนุกที่สุดแล้วผมบอกเลยยังครับปลายทางที่รถไฟจะไปต่างหากคือจุดที่พีคที่สุด นั้นก็คือดวงดาวแห่งสวนสนุกนั้นเองส่วนตัวผมชอบช่วงที่อยู่ในดาวดวงนี้มากๆเพราะเหมือนเราได้รับอรรถรสความสนุกในหลายๆรูปแบบเลย ไม่ว่าจะเป็นการผจญภัยในดาวคาวบอยของโนบิตะกับโดเรมอนที่ให้อารมณ์แบบหนังWesternนิดๆ การไปเกรียนโลกนินจาของไจแอนท์และซึเนโอะรึแม้กระทั่งการไปดาวไดโนเสาร์ คือ

แทบไม่น่าเชื่อว่าจากตอนแรกที่เป็นแค่หนังSci-Fiไอเดียเจ๋ง จะพาเราเข้าไปสนุกกับอารมณ์ที่หลากหลายขนาดนี้ได้และทุกอย่างที่ใส่เข้ามาก็ผสมกันอย่างลงตัวและสมเหตุสมผลอีกด้วย
15 อันดับ โดราเอมอนเดอะมูฟวี่ ที่ชอบที่สุด [จัดอันดับ]
สวัสดีครับยินดีต้อนรับเขาสู่เพจ โหลก-เถื่อน-หรั่ง Studio
หลังจากครั้งที่แล้วผมพึ่งจัดอันดับโคนันเดอะมูฟวี่ที่ผมชอบที่สุดไป วันนี้ก็เลยนึกคึกขึ้นมาอยากจะทำจัดอันดับอีกสักรอบ และการจัดอันดับในครั้งนี้ก็ยังคงวนเวียนอยู่กับการ์ตูนญี่ปุ่นเช่นเคย ซึ่งการ์ตูนที่ผมจะมาจัดอันดับในวันนี้ผมเชื่อว่าน่าจะเป็นการ์ตูนในดวงใจของเด็กหลายๆคนแน่ๆตัวผมเองก็เช่นกัน นั้นก็คือเรื่อง “โดราเอมอน” จะเป็นยังไงก็เข้าไปอ่านกันได้เลยครับ
แต่ก่อนอื่นเผื่อใครอยากจะอ่านหรือดูจัดอันดับโคนันเดอะมูฟวี่ก็เข้าไปอ่านหรือดูได้ที่ลิ้งนี้เลย
คลิปวีดีโอ (youtube) :
https://www.youtube.com/watch?v=hU7sHVmb_Ds&t=72s
อ่านที่เพจ (facebook) :
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=2090319084524288&id=2013209018901962
และก็มีจัดอันดับโดราเอมอนมูฟวี่แบบที่เป็นคลิปวีดิโอด้วยนะครับเผื่อใครขี้เกียจอ่าน
ก่อนอื่นผมขอบรรยายอะไรนิดนึงเกี่ยวกับการจัดอันดับและความรู้สึกที่ผมมีต่อการ์ตูนเรื่องโดราเอมอนนะครับ ในการจัดอันดับครั้งนี้จะเป็นการจัดอันดับโดราเอมอนเดอะมูฟวี่15อันดับที่ผมชอบที่สุดตลอดกาล ซึ่งจะอ้างอิงจากความชอบและความรู้สึกส่วนตัวของผมเป็นหลัก ดังนั้นถ้าจะมีผู้อ่านท่านใดรู้สึกขัดใจว่าทำไมไม่มีภาคนี้ละไม่มีภาคนั้นละหรือว่าภาคนี้ดีกว่านะทำไมไปอยู่อันดับต่ำจังอะไรประมานนี้ก็ไม่ต้องแปลกใจเพราะความชอบของแต่ละคนไม่เหมือนกันอยู่แล้วมันก็เป็นเรื่องปกตินะครับ และถ้าถามว่าทำไมอยู่ๆผมถึงนึกจะมาจัดอันดับโดราเอมอนเดอะมูฟวี่ซะละ แน่นอนเป็นเพราะผมค่อนข้างจะชอบการ์ตูนเรื่องนี้มากๆอยู่แล้วจะเรียกว่าเป็นการ์ตูนในดวงใจเลยก็ว่าได้ยิ่งกับภาคที่เป็นเดอะมูฟวี่จะยิ่งชอบเป็นพิเศษ(ปกติผมจะเฉยๆกับตอนธรรมดานะแต่จะรู้สึกผูกพันกับพวกตอนเดอะมูฟวี่มากๆ)สำหรับผมภาคที่เป็นเดอะมูฟวี่มันไม่ใช่แค่การ์ตูนสำหรับเด็กที่เอาไว้ดูฆ่าเวลา เพราะนอกจากจะมีเนื้อเรื่องที่สนุกจนเข้าถึงได้กับผู้คนทุกเพศทุกวัยแล้วมันยังเต็มไปด้วยไอเดียที่สร้างสรรค์จนทำให้คุณทึ่งกับกึ๋นของนักเขียนความเข้มข้นสลับซับซ้อนของเรื่องราวที่หลากหลายและใส่จินตนาการได้แบบไม่มีที่สิ้นสุด แถมหลายๆภาคยังมีแก่นเรื่องดีๆที่มีแนวคิดที่ลึกซึ้งแฝงเข้ามาเพื่อให้แง่คิดดีๆกับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ได้อีกด้วย(ผมว่าบางภาคจะมีแก่นเรื่องที่หนักเกินกว่าเด็กคนนึงจะเข้าใจได้ด้วยซ้ำ) และอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้อยากจะหยิบโดราเอมอนมาจัดอันดับในช่วงเวลานี้ก็เพราะผมเห็นว่ามันจะมีเดอะมูฟวี่ภาคใหม่มาเข้าฉายบ้านเราในเร็วๆนี้(ก็คือภาค เกาะมหาสมบัติของโนบิตะ ไม่แน่ใจว่าจะใช่ภาครีเมคของเมื่อปี 1998 รึป่าวนะ) ดันนั้นผมจึงคิดว่าไม่น่าจะมีช่วงเวลาไหนที่เหมาะแกการหยิบโดราเอมอนเดอะมูฟวี่มาพูดถึงเท่าช่วงนี้แล้วละ
ปล.ขอบอกอีกนิดนะครับต้องขอโทษด้วยที่อาจจะเสียเวลานิดหน่อย^^ คือในอันดับของผมจะไม่มีภาคใหม่ๆของช่วงนิวเจเนอเรชัน(2005–ปัจจุบัน)อยู่เลย เหตุผลเพราะผมไม่ค่อยจะชอบเท่าไรแม้จะยังคงความสนุกเอาไว้ได้ดีแต่ความเข้มข้นของเนื้อหามันก็ไม่อาจจะเทียบกับสมัยที่อาจารย์ฟูจิโกะ ฟูจิโอะเขียนเนื้อเรื่องเองได้เลย และก็อีกอย่างที่จะบอกตลอดการจัดอันดับนี้ผมจะขอเรียกโดราเอมอนว่าโดเรมอนเฉยๆและกันนะครับเพราะเป็นชื่อที่คนไทยส่วนใหญ่รวมถึงผมด้วยน่าจะคุ้นเคยกับชื่อนี้ที่สุดและ(เรียกกันมาตั้งแต่เด็ก 555)
เรื่องย่อ: เมื่อโนบิตะเกิดมโนขึ้นมาเองว่าอาณาจักรสวรรค์นั้นจะต้องมีอยู่จริง เดือดร้อนไปถึงโดราเอมอนจะต้องมาช่วย และด้วยของวิเศษของโดราเอมอนก็ทำให้สามารถสร้างอาณาจักรสวรรค์ขึ้นมาได้สำเร็จ แต่แล้วก็เกิดเหตุบังเอิญที่ทำให้โนบิตะและเพื่อนๆได้พบกับแดนสวรรค์ของจริง ที่นั้นพวกเขาได้พบกับภูติสวรรค์และพวกเขาก็ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี ทุกอย่างเหมือนจะเป็นไปได้ด้วยดีจนกระทั่งทุกคนเริ่มเห็นความผิดปกติของเหล่าภูติสวรรค์และดูเหมือนว่าเหล่าภูติสวรรค์จะมีจุดประสงค์ที่ไม่ดีต่อโลก พวกโนบิตะจึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อขัดขวางแผนร้ายของเหล่าภูติสวรรค์ให้ได้
ความรู้สึก: ผมเชื่อว่าเด็กหลายๆคนย่อมเคยมีความคิดที่ว่าถ้าเราขึ้นไปสร้างบ้านอยู่บนก้อนเมฆได้มันคงจะเป็นอะไรที่พิเศษมากๆ และโดเรมอนภาคนี้ก็เป็นอีกหนึ่งภาคที่ทำให้จินตนาการของเด็กหลายๆคนกลายเป็นจริง แถมยังเล่นใหญ่กว่าที่เราคิดด้วยการสร้างอาณาจักรอันยิ่งใหญ่บนก้อนเมฆ นับว่าเป็นอีกภาคที่ทำให้เราตื่นตาตื่นใจกับมันมากๆ แต่ผมว่าหัวใจหลักจริงๆของภาคนี้กับไม่ใช่ไอเดียเรื่องการสร้างอาณาจักรบนก้อนเมฆ แต่ภาคนี้ต้องการจะส่งmessageสะท้อนไปถึงสันดานชั่วในตัวมนุษย์ ความผิดบาปที่มนุษย์กระทำไว้กับโลกและการตั้งคำถามที่ว่า “มนุษย์สมควรจะมีชีวิตอยู่บนโลกนี้อีกต่อไปไหม” บอกตรงๆว่านี่คือโดเรมอนภาคที่มีประเด็นที่เป็นผู้ใหญ่ที่สุดเท่าที่ผมเคยดู และเนี่ยแหละครับคือเหตุผลที่ผมชอบภาคนี้น้อยสุดใน15อันดับ ไม่ใช่ว่าไม่ดีนะครับภาคนี้นับเป็นภาคที่มีเนื้อหาดีมากภาคนึง แต่ด้วยความที่มันเป็นภาคที่จริงจังมากๆผมดูทีไรแล้วรู้สึกเครียดทุกทีเลย 555 เนี่ยแหละครับเหตุผล แหะๆ (ส่วนตัวสุดๆ)
เรื่องย่อ: โดราเอมอนได้รางวัลปลอบใจจากงานประมูลที่ศตวรรษที่22เป็นคูปองไปยังดาวเคราะห์อันไร้ค่า แต่เมื่อโนบิตะลองใช้ประตูไปที่ไหนก็ได้เปิดดูจนถึงใบสุดท้ายกับพบว่ามันเปิดไปยังดวงดาวอันกว้างใหญ่และเขียวขจี ที่นั้นโนบิตะและเพื่อนๆได้ใช้ของวิเศษที่ชื่อไขลานให้ชีวิตทำให้ตุ๊กตาและของเล่นของพวกเขามีชีวิตขึ้นมาและได้ร่วมกันสร้างเมืองตุ๊กไขลานขึ้น ทุกอย่างเหมือนจะเป็นไปได้อย่างสนุกสนานจนกระทั่งได้มีโจรแหกคุกบังเอิญหลงเข้ามาที่ดาวดวงนี้ผ่านประตูไปที่ไหนก็ได้ เรื่องราวยุ่งๆจึงได้เริ่มต้นขึ้น
ความรู้สึก: ผมว่าภาคนี้น่าจะเป็นภาคที่มักจะถูกแฟนๆลืมและไม่ค่อยมีใครพูดถึง แต่ส่วนตัวผมกับชอบภาคนี้มากๆ บอกก่อนว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะนี่คือเดอะมูฟวี่ภาคแรกที่ผมได้ดู ผมรู้จักโดเรมอนได้ก็เพราะเดอะมูฟี่ภาคนี้แหละ มันจึงมีคุณค่ากับทางจิตใจของผมมากๆ นอกเหนือจากความชอบในส่วนนั้นแล้วผมยังชอบไอเดียของหนังที่เป็นการสร้างเมืองตุ๊กตาขึ้นมา ดูเหมือนจะเป็นไอเดียง่ายๆแต่ผมว่าเขาแอบแฝงประเด็นในเชิงการปกครอบบ้านเมืองเข้ามาผ่านสังคมของพวกเหล่าตุ๊กตาแบบเนียนๆ แต่เหนือสิ่งอื่นใดแล้วสิ่งที่ผมกับชอบมากที่สุดในภาคนี้คือตัวร้าย ซึ่งถ้าจะให้บอกกันตามตรงผมว่าตัวร้ายในโดเรมอนเดอะมูฟวี่ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยน่าจดจำเท่าไรเพราะมักจะเป็นตัวร้ายแบบสูตรสำเร็จทั่วไปไม่คิดทำลายโลกก็คิดจะครองโลกอะไรประมานนี้ และเอาจริงๆภาคนี้ก็ไม่ได้ต่างกันมากหลอกแต่สิ่งที่ผมรู้สึกว่ามันพิเศษเหนือกว่าภาคอื่นๆก็คือเอกลักษณ์ของมันและก็Plotเรื่องในส่วนของตัวร้ายที่ค่อนข้างจะพิสดารมากๆ เลยกลายมาเป็นตัวร้ายสายฮาที่หลายๆคนจะต้องจดจำกับฉายาที่สุดแสนจะน่าเกรงขาม(รึป่าว) “จอมโจรไอ้เคราหมี”
เรื่องย่อ: เหตุเกิดเมื่อโนบิตะและโดราเอมอนเกิดอุตริใช้ตู้โทรศัพท์สารพัดนึกเปลี่ยนโลกปกติให้กลายเป็นโลกเวทย์มนตร์และดันไม่สามารถเปลี่ยนกลับไปเป็นโลกปกติได้ ในขณะที่โลกเวทย์มนตร์ก็กำลังเกิดปัญหาใหญ่เมื่อมีจอมปีศาจจากดาวปีศาจผู้ชั่วร้ายต้องการจะครอบครองโลก โนบิตะและเพื่อนๆจึงต้องร่วมมือกับมิโยโกะสาวน้อยนักเวทย์ผู้ถูกสาปในการปราบจอมปีศาจร้ายให้สำเร็จให้จงได้
ความรู้สึก: หลังจากดูจบไอ้ของวิเศษอย่างตู้โทรศัพท์สารพัดนึกก็กลายเป็นอีกหนึ่งของวิเศษที่ผมอยากได้มากๆ ลองนึกดูว่าถ้าเราสามารถเปลี่ยนโลกของเราให้กลายเป็นโลกแบบไหนก็ได้ตามจินตนาการของเรามันจะน่าสนุกขนาดไหน และนี่ก็คือเหตุผลส่วนนึงที่ทำให้ผมชอบภาคนี้แต่แน่นอนว่าสาเหตุที่ทำให้ผมชอบภาคนี้ไม่ได้มีแค่นี้แน่นอน อีกอย่างที่อยากจะชมคือหนังวางPlotไว้ได้น่าสนใจและชวนให้อยากติดตามตั้งแต่ต้น เช่น การโยนปริศนาเรื่องรูปปั้นหินเข้ามา แต่หนังก็ไม่ยอมให้เราจดจ่ออยู่กับปริศนาเพียงอย่างเดียว หนังพยายามจะให้เราสนุกกับการผจญภัยด้วยโดยการพาตัวละครไปที่โลกปีศาจซึ่งก็นับเป็นอีกช่วงที่สนุกมากของหนัง(ผมชอบตอนไจแอนท์ร้องเพลงไล่นางเงือกมากอย่างฮา 555) แต่สุดท้ายก็กับมาTwistถึงปริศนาที่เคยปูไว้จนทำให้เราทึ่งกับความฉลาดของบทไปเลย
เรื่องย่อ: โดราเอมอนได้ตั๋วรถไฟปริศนามาและได้ชวนให้โนบิตะไปขึ้นรถไฟท่องกาแล็คซี่ด้วยกัน ภายหลังชิซุกะ ไจแอนท์และซึเนโอะขอตามไปด้วย การเดินทางในตอนแรกเหมือนจะดำเนินไปได้ด้วยดีแต่แล้วก็เกิดเรื่องยุ่งๆเมื่อมีโจรสลัสอวกาศพยายามจะโจมตีขบวนรถไฟแต่พวกเขาก็หาทางแก้ปัญหาจนหนีรอดมาได้ และได้เดินทางมาถึงดาวแห่งสวนสนุกดรีมเมอร์แลนด์ ทุกคนเที่ยวเล่นกันในสวนสนุกอย่างมีความสุขจนกระทั่งพวกตัวร้ายได้ลอบเข้ามาเล่นงานพวกเขาอีกครั้ง โนบิตะและเพื่อนๆจึงต้องร่วมมือกันจัดการเหล่าตัวร้าย
ความรู้สึก: เป็นอีกหนึ่งภาคที่ไอเดียล้ำมากๆอีกแล้วววว พูดกันตามตรงแค่บอกจะทำหนังเกี่ยวกับการผจญภัยในอวกาศมันก็น่าสนุกและนะ แต่นี่เล่นเพิ่มความน่าสนใจเข้าไปอีกด้วยการท่องอวกาศด้วยรถไฟ และแน่นอนด้วยความที่เป็นโดเรมอนไอ้รถไฟคันนี้มันต้องไม่ธรรมดาอยู่แล้ว คงไม่ต้องบอกนะว่าด้านในรถไฟคันนี้มันเจ๋งขนาดไหน เรียกได้ว่าอาจารย์แกเติมแต่งจินตนาการได้แบบไม่มีที่สิ้นสุดจริงๆ แต่ถ้าคิดว่าช่วงที่อยู่บนรถไฟนั้นคือช่วงที่สนุกที่สุดแล้วผมบอกเลยยังครับปลายทางที่รถไฟจะไปต่างหากคือจุดที่พีคที่สุด นั้นก็คือดวงดาวแห่งสวนสนุกนั้นเองส่วนตัวผมชอบช่วงที่อยู่ในดาวดวงนี้มากๆเพราะเหมือนเราได้รับอรรถรสความสนุกในหลายๆรูปแบบเลย ไม่ว่าจะเป็นการผจญภัยในดาวคาวบอยของโนบิตะกับโดเรมอนที่ให้อารมณ์แบบหนังWesternนิดๆ การไปเกรียนโลกนินจาของไจแอนท์และซึเนโอะรึแม้กระทั่งการไปดาวไดโนเสาร์ คือ