สัสดีค่าา เอ้ย!!! สวัสดีค่า รีวิวนี้ "เกาะหลีเป๊ะ" 3 วัน 2 คืน ไปกับทัวร์ "Up 2 U Tour" จ้า
รีวิวแรกก็จะ งงๆ เบลอๆ หน่อยนะ 555+ เริ่มกันเล้ยยยย
ทริปหลีเป๊ะนี้เราไปกับแฟนสองคน โดยเลือกซื้อทัวร์ของ "Up 2 U Tour" จาก Line Account ทัวร์เลิศเลอเฟอร์เฟ็คมากนะเจ้า
เราเลือกโปรราคา 3,490.- บาท/คน ไม่รวมค่าเครื่องบินนะคะ เลือกที่พักชื่อ Salisa Resort เดินทางวันที่ 11-13 October 2018
ซึ่งเป็นช่วง Low season นะ เกาะยังเปิดไม่ครบดำน้ำได้แค่รอบๆ เกาะ เราไม่ต้องจ่ายเพิ่มนอกจากค่าท่าเรือและต่อเรือนะจ้ะ
รายละเอียด Promotion ต่างๆ ติดตามในเพจ Up 2 U Tour ได้เลยค่าา มีทริปให้เลือกมากมายก่ายกองเลยเด้อ
11/10/2018 - ออกเดินทาง
เดินทางด้วยสายการบินนกแอร์ ดอนเมือง - หาดใหญ่ Flight เวลา 06.00 ถึง 07.25 โดยประมาณ
พอถึงสนามบินหาดใหญ่เราก็แวะเติมพลังกันก่อนด้วย Burger King เพื่อรอรถตู้ของทัวร์มารับเราไปลงท่าเรือปากบาราที่ จ.สตูล
เราขึ้นรถตู้จากทัวร์ SIRIBARA ไปยังท่าเรือปากบารา จ.สตูล เพื่อข้ามไปเกาะหลีเป๊ะ รถตู้ออกจากสนามบินประมาณ 09.15 น. ใช้เวลาเดินทางถึงท่าเรือประมาณ 1.30
เมื่อถึงท่าเรือปากบาราแล้ว จะมีเจ้าหน้าที่ของทัวร์ที่ประสานงานกันอยู่มารับที่รถตู้ เพื่อพาเราไปขึ้นสปีดโบ๊ทกัน โดยเสียค่าธรรมเนียมผ่านท่า คนละ 20.- บาท แล้วก็รอเรียกคิวขึ้นสปีดโบ๊ทได้เลยจ้า
ไม่บรรยายว่าอาการนั่งเรือว่าสาหัสแค่ไหน 555+
และแล้วเราก็มาถึงโป๊ะที่เกาะหลีเป๊ะจ้า เราต้องมาต่อเรือที่โป๊ะข้ามไปเกาะ เสียไปอีกคนละ 50.- บาท ค่าต่อเรือนะ
เรือเสียบหาดจะพาเราขึ้นเกาะ ด้วยความโชคดีที่รีสอร์ทที่จองไว้อยู่ใกล้ท่าเรือที่ขึ้นหาดพอดิบพอดี๊ เราเลยเดินเลาะริมชายหาดไปถึงที่พักกันใช้เวลาไม่ถึง 5 นาทีก็ถึงแง้ว
ถึงเกาะเวลา 13.30 โดยประมาณ ก็ไปหน้าเคาร์เตอร์ Check-in กันคะ พนักงานให้ Welcome Drink คนละแก้วเป็นอัญชัญมะนาว แต่ถ่ายรูปไม่ทันนะ กระดกหมดเพราะเมาเรือกันหนักมาก 555+ พนักงานที่รีสอร์ทบริการดีมากกก ยิ้มแย้มน่ารัก พาเราเข้าห้องพักเรียบร้อย
ห้องพักสะอาด อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบ แอร์เย็นเจี๊ยบ วันนี้เราก็พักผ่อนกันก่อน เก็บแรงไว้พรุ่งนี้มี Trip ดำน้ำกับรีสอร์ท เวลา 8.45 น. คะ
และเราก็มาเดินสำรวจหาร้านอาหารกินมื้อกลางวันบริเวณภายในเกาะหลีเป๊ะก่อน จนได้เมนูข้าวผัดอบสับปะรดกับต้มจืดสาหร่ายเต้าหู้หมูสับมาเติมพลัง ค่าเสียหายประมาณ 200+ คะ แอบกระซิบว่าของและอาหารที่เกาะราคาคูณสองเลยนะจ๊ะ พกเงินมาเยอะหน่อยนะ เดี๋ยวไม่พอกิน 555+ บนเกาะมีเซเว่น และเย็นๆ ก็จะมี Walking Street ด้วย แต่เราไปช่วงวันธรรมดาของก็จะน้อยๆ หน่อย
พอช่วงเย็นเราก็มาเดิน Walking Street อาหารทะเลแพงมาก ก. ไก่ล้านตัว เราจึงหันหน้าไปกินอาหารอินเดียแทนกันคะ 555+
เมนูที่สั่งคือ นาน อินเดียเรียก นาน คะ เป็นแป้งพิซซ่าอบด้วยโอ่งจนกรอบและเป็นเมนูแนะนำของที่ร้าน กินคู่กับแกงกะหรี่ไก่สูตรต้นตำหรับอินเดียแท้ๆ รสชาติถือว่าผ่านเลยคะ อร่อยกว่าโคโค่อีกนะก๊ะ สั่งมาแค่นี้แต่ปริมาณเยอะมาก อิ่มจุกกันไปเลยหล่ะคะ ค่าเสียหายก็ประมาณ 300+ จ้ะ ละเราก็กลับไปนอนพักเก็บแรงกันค่าา
12/10/2018 - ดำน้ำกันให้ตัวดำ
เช้านี้เราตื่นมาชมพระอาทิตย์ขึ้นคะ เนื่องจากรีสอร์ท Salisa Resort ตั้งอยู่บริเวณหาด sunrise เป็นฝั่งที่พระอาทิตย์ขึ้นพอดีคะ
แจ้งนิดนึงว่าช่วงที่เราไปเป็นช่วงหน้าฝนอยู่และเกาะปิดทำให้ตอนกลางคืนมีฝนตกตลอดทั้งคืน เมฆจะเยอะกว่าปกติ
เมฆจะเยอะๆ หน่อยคะ เลยเห็นพระอาทิตย์ไม่เต็มดวงเท่าที่หวังไว้ แต่ก็สวยอยู่
เช้าแล้วก็มากินอาหารเช้ากันคะ โดยทางรีสอร์ทจะมีชุดอาหารให้เลือกเป็น Breakfast หลากหลายรูปแบบ 1 คน/ 1 เซทนะคะ และมีข้าวต้มกุ้งสำหรับใครที่ไม่ชอบอาหารเช้าแบบฝรั่งๆ ส่วนน้ำส้ม นม ผลไม้ ขนมปัง ซีเรียลต่างๆ เป็นบุฟเฟ่ต์ตักได้เลย
เวลา 08.45 น. ทางรีสอร์ทให้เราไปขึ้นเรือเสียบหาดเพื่อเตรียมตัวดำน้ำรอบๆ เกาะที่เปิดให้ดำช่วง Lowseason คะ
โดยโปรแกรมดำน้ำไปทั้งหมด 3 จุด เช้า 2 จุด พักทานข้าวเที่ยงที่อุทยาน บ่ายต่ออีก 1 จุดคะ
น้ำใสมากถึงมากที่สุด ปะการังถือว่าสมบูรณ์ นี่โม่ก็มานะคะ ฟิน ไม่อยากคิดถึงช่วง High season ว่าจะแจ่มว้าวขนาดไหน
ปลื้มในทริปดำน้ำครั้งนี้มากคือ พี่คนขับเรือลงไปดำน้ำพร้อมๆ กับเราเพื่อดูแลความปลอดภัยของสมาชิกและเป็นตากล้องตามถ่ายรูปใต้น้ำ
ให้ด้วยนะคะ เป็นบริการจากทางรีสอร์ทคะ รูปเราจะอัพให้ในโปรแกรมของทางรีสอร์ท เราสามารถเข้าไปโหลดรูปเราได้ เราก็เลยได้รูปสวยๆ
ถูกใจมากเลยคะ เริศ!!!
มื้อเที่ยงของเราเป็นข้าวกล่องคะ ทางรีสอร์ทเตรียมมาให้ ข้าวกระเพาไก่สับกับไข่ต้ม พร้อมแตงโมหวานๆ และแฟนต้าคนละกระป๋องคะ ฟินสุดๆ ไปเลยค่าา
ดำน้ำเสร็จประมาณ 14.30 น. คะ เราก็เลยมาว่ายน้ำจ๋อมแจ๋มอยู่หน้ารีสอร์ทสักพักก็ขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ท้องเริ่มร้องละคะ บวกกับฝนตกหนักมากหลังจากดำน้ำเสร็จพอดี เลยถือโอกาสอุดหนุนอาหารของทางรีสอร์ทซะเลย
เมนูแรก กุ้งทอดราดซอสมะขาม = กรอบนอกนุ่มใน ซอสแอบเผ็ดน้อยๆ กุ้งเยอะและสดมาก รสชาติ 10/10 ไปเลย
เมนูสอง ปลาหมึกทอดซอสปู = ปลาหมึกสด หนึบหนับ หอมพริกไทยดำสุด แต่แอบบ งง ซอสปูว่ามันคือตรงไหน 555+ รสชาติ 8/10
เมนูสุดท้าย แกงส้มกุ้ง = กุ้งสดมาก พริกแกงใต้เผ็ดดุวัวตายควายสำลัก ทางร้านใช้สับปะรดแทนมะละกอด้วยนะ รสชาติ 8/10
น้ำมะม่วงปั่นและน้ำแอปเปิ้ลมะนาวปั่น สดชื๊นสดชื่นเลยจ้า
ค่าเสียหายทั้งหมด 700+ จ่ะ แต่คุณภาพและปริมาณอิ่มถึงกระเดือกเลย
ปิดจ็อบดำน้ำไปได้สวย ฟิน และประทับใจมากๆ ทั้งบริการจากทางรีสอร์ท และวิวของทะเลไทย ต้องลองมากันนะคะ น่าจะต้องมีรอบสองแหละ
13/10/2018
วันนี้เพลียคะไม่ได้ตื่นเช้ามาดูพระอาทิตย์ และฝนตกปรอยๆ พอดีเลยนอนยาวจนตื่นมากินอาหารเช้า ละกลับเข้าห้องแพ็คกระเป๋าเตรียม Check-out เวลา 11.00 น. ทางรีสอร์ทให้พนักงานขับรถมอไซค์พ่วงไปส่งเราที่ท่าเรือคะ
เราก็ไปซื้อตั๋วที่ท่าเรือเพื่อไปโป๊ะต่อเรือสปีดโบ๊ทกันคะ ราคาเดิม คนละ 50.- บาท จะให้เรือเสียบหาดไปส่งที่โป๊ะคะ
ขากลับก็เหมือนขามาเลยคะ กลับสปีดโบ๊ทแล้วขึ้นที่ท่าเรือปากบารา มีรถตู้ของทัวร์มารอรับเราอยู่
ซึ่งรถตู้จะแบ่งเป็น 2 เส้นทางที่จะไปส่งลูกทัวร์นะคะ คือ ส่งสนามบินหาดใหญ่ กับส่งในตัวเมืองหาดใหญ่ ,ตลาดกิมหยง แต่เราต้องแจ้งทัวร์ตั้งแต่จองทัวร์นะคะว่าลงที่ไหน เราเองไม่รู้ว่าต้องแจ้งล่วงหน้าเลยต้องไปลงสนามบินหาดใหญ่คะ
แต่ แต่ แต่ เรามีเพื่อนอยู่ที่หาดใหญ่พอดิบพอดี เพื่อนเลยอาสามารับพาทัวร์หาดใหญ่และซื้อของฝากกลับกรุงเทพฯ คะ
Flight ขากลับ หาดใหญ่ - ดอนเมือง เวลา 21.55 น. เราเลยมีเวลา ช็อป และ กิน กิน กิน!!
มาหาดใหญ่ก็ต้องติ๋มซำ บักกุ๊ดเต๋ แน่นอนอยู่แล้วคะ เราเลยไปถล่มร้านโชคดีติ่มซำ สาขา 2 คะ เพราะเพื่อนแนะนำว่าคนไม่เยอะเท่าสาขาแรกและติดแอร์ด้วย มาดูว่าเราจัดอะไรไปบ้าง
แน่นอนครับท่านผู้โชม บักกุ๊ดเต๋ เป็นกระดูกหมูตุ๋นยาจีนใส่เห็ดเข็มทองและฟองเต้าหู้ รสกลมกล่อมม๊วก ราคาหม้อเล็ก 120.- บาทจ้า
"เกาะหลีเป๊ะ" กับสองหมูออนทัวร์ 3 วัน 2 คืน
รีวิวแรกก็จะ งงๆ เบลอๆ หน่อยนะ 555+ เริ่มกันเล้ยยยย
ทริปหลีเป๊ะนี้เราไปกับแฟนสองคน โดยเลือกซื้อทัวร์ของ "Up 2 U Tour" จาก Line Account ทัวร์เลิศเลอเฟอร์เฟ็คมากนะเจ้า
เราเลือกโปรราคา 3,490.- บาท/คน ไม่รวมค่าเครื่องบินนะคะ เลือกที่พักชื่อ Salisa Resort เดินทางวันที่ 11-13 October 2018
ซึ่งเป็นช่วง Low season นะ เกาะยังเปิดไม่ครบดำน้ำได้แค่รอบๆ เกาะ เราไม่ต้องจ่ายเพิ่มนอกจากค่าท่าเรือและต่อเรือนะจ้ะ
รายละเอียด Promotion ต่างๆ ติดตามในเพจ Up 2 U Tour ได้เลยค่าา มีทริปให้เลือกมากมายก่ายกองเลยเด้อ
11/10/2018 - ออกเดินทาง
เดินทางด้วยสายการบินนกแอร์ ดอนเมือง - หาดใหญ่ Flight เวลา 06.00 ถึง 07.25 โดยประมาณ
พอถึงสนามบินหาดใหญ่เราก็แวะเติมพลังกันก่อนด้วย Burger King เพื่อรอรถตู้ของทัวร์มารับเราไปลงท่าเรือปากบาราที่ จ.สตูล
เราขึ้นรถตู้จากทัวร์ SIRIBARA ไปยังท่าเรือปากบารา จ.สตูล เพื่อข้ามไปเกาะหลีเป๊ะ รถตู้ออกจากสนามบินประมาณ 09.15 น. ใช้เวลาเดินทางถึงท่าเรือประมาณ 1.30
เมื่อถึงท่าเรือปากบาราแล้ว จะมีเจ้าหน้าที่ของทัวร์ที่ประสานงานกันอยู่มารับที่รถตู้ เพื่อพาเราไปขึ้นสปีดโบ๊ทกัน โดยเสียค่าธรรมเนียมผ่านท่า คนละ 20.- บาท แล้วก็รอเรียกคิวขึ้นสปีดโบ๊ทได้เลยจ้า
ไม่บรรยายว่าอาการนั่งเรือว่าสาหัสแค่ไหน 555+
และแล้วเราก็มาถึงโป๊ะที่เกาะหลีเป๊ะจ้า เราต้องมาต่อเรือที่โป๊ะข้ามไปเกาะ เสียไปอีกคนละ 50.- บาท ค่าต่อเรือนะ
เรือเสียบหาดจะพาเราขึ้นเกาะ ด้วยความโชคดีที่รีสอร์ทที่จองไว้อยู่ใกล้ท่าเรือที่ขึ้นหาดพอดิบพอดี๊ เราเลยเดินเลาะริมชายหาดไปถึงที่พักกันใช้เวลาไม่ถึง 5 นาทีก็ถึงแง้ว
ถึงเกาะเวลา 13.30 โดยประมาณ ก็ไปหน้าเคาร์เตอร์ Check-in กันคะ พนักงานให้ Welcome Drink คนละแก้วเป็นอัญชัญมะนาว แต่ถ่ายรูปไม่ทันนะ กระดกหมดเพราะเมาเรือกันหนักมาก 555+ พนักงานที่รีสอร์ทบริการดีมากกก ยิ้มแย้มน่ารัก พาเราเข้าห้องพักเรียบร้อย
ห้องพักสะอาด อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบ แอร์เย็นเจี๊ยบ วันนี้เราก็พักผ่อนกันก่อน เก็บแรงไว้พรุ่งนี้มี Trip ดำน้ำกับรีสอร์ท เวลา 8.45 น. คะ
และเราก็มาเดินสำรวจหาร้านอาหารกินมื้อกลางวันบริเวณภายในเกาะหลีเป๊ะก่อน จนได้เมนูข้าวผัดอบสับปะรดกับต้มจืดสาหร่ายเต้าหู้หมูสับมาเติมพลัง ค่าเสียหายประมาณ 200+ คะ แอบกระซิบว่าของและอาหารที่เกาะราคาคูณสองเลยนะจ๊ะ พกเงินมาเยอะหน่อยนะ เดี๋ยวไม่พอกิน 555+ บนเกาะมีเซเว่น และเย็นๆ ก็จะมี Walking Street ด้วย แต่เราไปช่วงวันธรรมดาของก็จะน้อยๆ หน่อย
พอช่วงเย็นเราก็มาเดิน Walking Street อาหารทะเลแพงมาก ก. ไก่ล้านตัว เราจึงหันหน้าไปกินอาหารอินเดียแทนกันคะ 555+เมนูที่สั่งคือ นาน อินเดียเรียก นาน คะ เป็นแป้งพิซซ่าอบด้วยโอ่งจนกรอบและเป็นเมนูแนะนำของที่ร้าน กินคู่กับแกงกะหรี่ไก่สูตรต้นตำหรับอินเดียแท้ๆ รสชาติถือว่าผ่านเลยคะ อร่อยกว่าโคโค่อีกนะก๊ะ สั่งมาแค่นี้แต่ปริมาณเยอะมาก อิ่มจุกกันไปเลยหล่ะคะ ค่าเสียหายก็ประมาณ 300+ จ้ะ ละเราก็กลับไปนอนพักเก็บแรงกันค่าา
12/10/2018 - ดำน้ำกันให้ตัวดำ
เช้านี้เราตื่นมาชมพระอาทิตย์ขึ้นคะ เนื่องจากรีสอร์ท Salisa Resort ตั้งอยู่บริเวณหาด sunrise เป็นฝั่งที่พระอาทิตย์ขึ้นพอดีคะ
แจ้งนิดนึงว่าช่วงที่เราไปเป็นช่วงหน้าฝนอยู่และเกาะปิดทำให้ตอนกลางคืนมีฝนตกตลอดทั้งคืน เมฆจะเยอะกว่าปกติ
เมฆจะเยอะๆ หน่อยคะ เลยเห็นพระอาทิตย์ไม่เต็มดวงเท่าที่หวังไว้ แต่ก็สวยอยู่
เช้าแล้วก็มากินอาหารเช้ากันคะ โดยทางรีสอร์ทจะมีชุดอาหารให้เลือกเป็น Breakfast หลากหลายรูปแบบ 1 คน/ 1 เซทนะคะ และมีข้าวต้มกุ้งสำหรับใครที่ไม่ชอบอาหารเช้าแบบฝรั่งๆ ส่วนน้ำส้ม นม ผลไม้ ขนมปัง ซีเรียลต่างๆ เป็นบุฟเฟ่ต์ตักได้เลย
เวลา 08.45 น. ทางรีสอร์ทให้เราไปขึ้นเรือเสียบหาดเพื่อเตรียมตัวดำน้ำรอบๆ เกาะที่เปิดให้ดำช่วง Lowseason คะ
โดยโปรแกรมดำน้ำไปทั้งหมด 3 จุด เช้า 2 จุด พักทานข้าวเที่ยงที่อุทยาน บ่ายต่ออีก 1 จุดคะ
น้ำใสมากถึงมากที่สุด ปะการังถือว่าสมบูรณ์ นี่โม่ก็มานะคะ ฟิน ไม่อยากคิดถึงช่วง High season ว่าจะแจ่มว้าวขนาดไหน
ปลื้มในทริปดำน้ำครั้งนี้มากคือ พี่คนขับเรือลงไปดำน้ำพร้อมๆ กับเราเพื่อดูแลความปลอดภัยของสมาชิกและเป็นตากล้องตามถ่ายรูปใต้น้ำ
ให้ด้วยนะคะ เป็นบริการจากทางรีสอร์ทคะ รูปเราจะอัพให้ในโปรแกรมของทางรีสอร์ท เราสามารถเข้าไปโหลดรูปเราได้ เราก็เลยได้รูปสวยๆ
ถูกใจมากเลยคะ เริศ!!!
มื้อเที่ยงของเราเป็นข้าวกล่องคะ ทางรีสอร์ทเตรียมมาให้ ข้าวกระเพาไก่สับกับไข่ต้ม พร้อมแตงโมหวานๆ และแฟนต้าคนละกระป๋องคะ ฟินสุดๆ ไปเลยค่าา
ดำน้ำเสร็จประมาณ 14.30 น. คะ เราก็เลยมาว่ายน้ำจ๋อมแจ๋มอยู่หน้ารีสอร์ทสักพักก็ขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ท้องเริ่มร้องละคะ บวกกับฝนตกหนักมากหลังจากดำน้ำเสร็จพอดี เลยถือโอกาสอุดหนุนอาหารของทางรีสอร์ทซะเลย
เมนูแรก กุ้งทอดราดซอสมะขาม = กรอบนอกนุ่มใน ซอสแอบเผ็ดน้อยๆ กุ้งเยอะและสดมาก รสชาติ 10/10 ไปเลย
เมนูสอง ปลาหมึกทอดซอสปู = ปลาหมึกสด หนึบหนับ หอมพริกไทยดำสุด แต่แอบบ งง ซอสปูว่ามันคือตรงไหน 555+ รสชาติ 8/10
เมนูสุดท้าย แกงส้มกุ้ง = กุ้งสดมาก พริกแกงใต้เผ็ดดุวัวตายควายสำลัก ทางร้านใช้สับปะรดแทนมะละกอด้วยนะ รสชาติ 8/10
น้ำมะม่วงปั่นและน้ำแอปเปิ้ลมะนาวปั่น สดชื๊นสดชื่นเลยจ้า
ค่าเสียหายทั้งหมด 700+ จ่ะ แต่คุณภาพและปริมาณอิ่มถึงกระเดือกเลย
ปิดจ็อบดำน้ำไปได้สวย ฟิน และประทับใจมากๆ ทั้งบริการจากทางรีสอร์ท และวิวของทะเลไทย ต้องลองมากันนะคะ น่าจะต้องมีรอบสองแหละ
13/10/2018
วันนี้เพลียคะไม่ได้ตื่นเช้ามาดูพระอาทิตย์ และฝนตกปรอยๆ พอดีเลยนอนยาวจนตื่นมากินอาหารเช้า ละกลับเข้าห้องแพ็คกระเป๋าเตรียม Check-out เวลา 11.00 น. ทางรีสอร์ทให้พนักงานขับรถมอไซค์พ่วงไปส่งเราที่ท่าเรือคะ
เราก็ไปซื้อตั๋วที่ท่าเรือเพื่อไปโป๊ะต่อเรือสปีดโบ๊ทกันคะ ราคาเดิม คนละ 50.- บาท จะให้เรือเสียบหาดไปส่งที่โป๊ะคะ
ขากลับก็เหมือนขามาเลยคะ กลับสปีดโบ๊ทแล้วขึ้นที่ท่าเรือปากบารา มีรถตู้ของทัวร์มารอรับเราอยู่
ซึ่งรถตู้จะแบ่งเป็น 2 เส้นทางที่จะไปส่งลูกทัวร์นะคะ คือ ส่งสนามบินหาดใหญ่ กับส่งในตัวเมืองหาดใหญ่ ,ตลาดกิมหยง แต่เราต้องแจ้งทัวร์ตั้งแต่จองทัวร์นะคะว่าลงที่ไหน เราเองไม่รู้ว่าต้องแจ้งล่วงหน้าเลยต้องไปลงสนามบินหาดใหญ่คะ
แต่ แต่ แต่ เรามีเพื่อนอยู่ที่หาดใหญ่พอดิบพอดี เพื่อนเลยอาสามารับพาทัวร์หาดใหญ่และซื้อของฝากกลับกรุงเทพฯ คะ
Flight ขากลับ หาดใหญ่ - ดอนเมือง เวลา 21.55 น. เราเลยมีเวลา ช็อป และ กิน กิน กิน!!
มาหาดใหญ่ก็ต้องติ๋มซำ บักกุ๊ดเต๋ แน่นอนอยู่แล้วคะ เราเลยไปถล่มร้านโชคดีติ่มซำ สาขา 2 คะ เพราะเพื่อนแนะนำว่าคนไม่เยอะเท่าสาขาแรกและติดแอร์ด้วย มาดูว่าเราจัดอะไรไปบ้าง
แน่นอนครับท่านผู้โชม บักกุ๊ดเต๋ เป็นกระดูกหมูตุ๋นยาจีนใส่เห็ดเข็มทองและฟองเต้าหู้ รสกลมกล่อมม๊วก ราคาหม้อเล็ก 120.- บาทจ้า