อย่างการเลือกตั้งที่จะมาถึง ชาวนาก็คงรอเลือกพรรคที่จะทำให้ราคาข้าวดี ชาวสวนก็คงเลือกพรรคที่ทำให้ราคาผลไม้ดี ชาวไร่อ้อยก็คงรอเลือกพรรคที่เขาคิดว่าจะทำให้ราคาอ้อยขายได้ราคา ฯลฯ
การเมืองเรื่องของผลประโยชน์ การที่เลือกพรรคที่ตัวเองอาจได้ผลประโยชน์หากพรรคการเมืองที่เลือกเป็นรัฐบาลและขับเคลื่นนโยบายถือเป็นสามัญสำนึกของคนปกติไหม คือก็ต้องเลือกในสิ่งที่ตัวเองได้ประโยชน์
แต่ทำไมการกระทำแบบนั้นถึงถูกหยาม ว่างอมืองอเท้า เห็นแก่ผลประโยชน์เล็กๆน้อยไปซะงั้น
คนทำธุรกิจระดับบริษัทมหาชน เขาเคยลุ้นไหมว่า อยากให้พรรคนั้นได้เป็นรัฐบาลเพราะน่าจะดีต่อธุรกิจของเขา คนเล่นหุ้น เคยลุ่นไหม ว่าอยากให้พรรคนั้นเป็นรัฐบาลเผื่อหุ้นตัวที่ถืออยู่จะไปลิ่ว ก็คงแอบลุ้นกันบ้างเหมือนกัน แล้วทำไมกลุ่มนี้ไม่เคยถูกเหยียดว่า งอมืองอเท้า เห็นแก่ผลประโยชน์ หรือเพราะมันดูใช้สมองและความสามารถวงในในการเก็งมากกว่า หรือเพราะผลประโยชน์ที่ได้รับถ้าเก็งถูกมันไม่เล็กๆน้อยๆเพราะพอร์ตหลายล้าน เลยว่าเห็นแก่ประโยน์เล็กๆน้อยๆไม่ได้ ต้องเปลี่ยนเป็นว่าเห็นแก่ประโยชน์มหาศาลที่นักการเมืองหยิบยืนห้เลยเชียร์พรรคนี้มั๊ยแทน
ตัวอย่างเช่น ผมมีวงในว่ามีคนชื่อ นามสกุล เหมือนลูกรัฐมนตรีเป๊ะ เที่ยววิ่งเต้นเรื่องโรงผลิตไฟฟ้าอยู่ ผมสืบเสาะมาได้ว่าเกี่ยวเนื่องกับโรงผลิตไฟฟ้าที่อยู่ในตลาดหุ้นแห่งหนึ่ง ผมจึงทุ่มซื้อหุ้นของโรงผลัตไฟฟ้านี้ไว้เลย แล้วรอเก็งผลการเลือกตั้ง ถ้าพรรคนี้ได้ขับเคลื่อนนโยบายหุ้นตัวนี้วิ่งฉิวแน่ เป็นต้น
ส่วนตัวผมเชื่อว่า ไม่ว่าชาวนา นักธุรกิจ หรือคนเล่นหุ้น ถ้าเห็นตรงหน้าว่าตัวเองจะได้ผลประโยชน์แน่ๆ ก็เลือกพรรคนั้นทั้งนั้นแหละ เพราะล้วนคือคนธธรรมดา และ การเมืองคือเรื่องของผลประโยชน์ นั้นคือในทางปฎิบัติ แต่ทำไมมีแต่ชาวนา ชาวสวน ชาวไร่ที่ถูกเหยียด
หรือในทางทฤษฎี ก็ต้องดูดีไว้ก่อนถึงจะโยนขี้ให้คนอื่นไปก็ตาม
ทำไมชาวนา ชาวไร่ ชาวสวน รอรับผลประโยชน์จากรัฐบาลถึงดูไม่ดีในสายตาอาชีพอื่น ?
การเมืองเรื่องของผลประโยชน์ การที่เลือกพรรคที่ตัวเองอาจได้ผลประโยชน์หากพรรคการเมืองที่เลือกเป็นรัฐบาลและขับเคลื่นนโยบายถือเป็นสามัญสำนึกของคนปกติไหม คือก็ต้องเลือกในสิ่งที่ตัวเองได้ประโยชน์
แต่ทำไมการกระทำแบบนั้นถึงถูกหยาม ว่างอมืองอเท้า เห็นแก่ผลประโยชน์เล็กๆน้อยไปซะงั้น
คนทำธุรกิจระดับบริษัทมหาชน เขาเคยลุ้นไหมว่า อยากให้พรรคนั้นได้เป็นรัฐบาลเพราะน่าจะดีต่อธุรกิจของเขา คนเล่นหุ้น เคยลุ่นไหม ว่าอยากให้พรรคนั้นเป็นรัฐบาลเผื่อหุ้นตัวที่ถืออยู่จะไปลิ่ว ก็คงแอบลุ้นกันบ้างเหมือนกัน แล้วทำไมกลุ่มนี้ไม่เคยถูกเหยียดว่า งอมืองอเท้า เห็นแก่ผลประโยชน์ หรือเพราะมันดูใช้สมองและความสามารถวงในในการเก็งมากกว่า หรือเพราะผลประโยชน์ที่ได้รับถ้าเก็งถูกมันไม่เล็กๆน้อยๆเพราะพอร์ตหลายล้าน เลยว่าเห็นแก่ประโยน์เล็กๆน้อยๆไม่ได้ ต้องเปลี่ยนเป็นว่าเห็นแก่ประโยชน์มหาศาลที่นักการเมืองหยิบยืนห้เลยเชียร์พรรคนี้มั๊ยแทน
ตัวอย่างเช่น ผมมีวงในว่ามีคนชื่อ นามสกุล เหมือนลูกรัฐมนตรีเป๊ะ เที่ยววิ่งเต้นเรื่องโรงผลิตไฟฟ้าอยู่ ผมสืบเสาะมาได้ว่าเกี่ยวเนื่องกับโรงผลิตไฟฟ้าที่อยู่ในตลาดหุ้นแห่งหนึ่ง ผมจึงทุ่มซื้อหุ้นของโรงผลัตไฟฟ้านี้ไว้เลย แล้วรอเก็งผลการเลือกตั้ง ถ้าพรรคนี้ได้ขับเคลื่อนนโยบายหุ้นตัวนี้วิ่งฉิวแน่ เป็นต้น
ส่วนตัวผมเชื่อว่า ไม่ว่าชาวนา นักธุรกิจ หรือคนเล่นหุ้น ถ้าเห็นตรงหน้าว่าตัวเองจะได้ผลประโยชน์แน่ๆ ก็เลือกพรรคนั้นทั้งนั้นแหละ เพราะล้วนคือคนธธรรมดา และ การเมืองคือเรื่องของผลประโยชน์ นั้นคือในทางปฎิบัติ แต่ทำไมมีแต่ชาวนา ชาวสวน ชาวไร่ที่ถูกเหยียด
หรือในทางทฤษฎี ก็ต้องดูดีไว้ก่อนถึงจะโยนขี้ให้คนอื่นไปก็ตาม