สวัสดีค่ะ
ด้วยเหตุผลและเหตุการณ์หลายอย่างทำให้เรามีโอกาสไปเที่ยวนิวซีแลนด์คนเดียว เราใช้เวลาทั้งหมด 16 วัน และเงินทั้งหมด 63,000 บาทในการเที่ยวครั้งนี้
เดิมทีเราเคยเที่ยวคนเดียวมาครั้งนึงที่ประเทศเกาหลี ซึ่งครั้งนั้นเที่ยวแค่ 3 วัน 2 คืนและเรารู้สึกไม่โอเคมากๆ แต่....ทริปนี้กลับมีเรื่องตื่นเต้นมากมาย ที่ทำให้รู้สึกตัดสินใจไม่ผิดเลยจริงๆ และเราอยากจะแชร์ประสบการณ์ต่างๆเหล่านี้เผื่อเป็นประโยชน์กับใครหลายๆคนค่ะ
ภาษาอังกฤษ เราไม่เก่งทั้งฟังและพูดเลยค่ะ อาศัย Yes, No, Ok, Not ok เป็นหลักค่ะ ฮ่าๆๆๆ
การถ่ายรูป Samsung Note8 ตลอดทริปและเราอาศัยไม้เซลฟี่ที่เป็นแบบขาตั้งและเพื่อนร่วมเดินทางนานาประเทศค่ะ
Visa เราขอวีซ่าออนไลน์ ทำตามรีวิวต่างๆใน Pantip นี่และค่ะ
ช่วงที่เราไปอากาศค่อนข้างเย็น เลขตัวเดียวใกล้ 0 ยกเว้นเกาะเหนือ 10 ต้นๆค่ะ เสื้อผ้าเน้นไปที่ ฮีทเทค ของ Uniqlo, แจ๊คเก็ตเป็น Columbia รุ่น 3 in 1 Interchange และ เสื้อกันลมและผ้าพันคอของ Zara, รองเท้า PureBoost ของ Adidas และ Casual shoe ของ Skechers.
กระเป๋าที่ใช้มี เป้คู่ใจ กับ กระเป๋าล้อลาก 4 ล้อ ขนาด 24 นิ้ว
เราเดินทางด้วยรถบัสที่ชื่อว่า Intercity Bus ตลอดทั้งทริป แผนการเดินทางเราเป็นดังนี้ค่ะ
31 สิงหาคม - 15 กันยายน 2561
31/08/61 : เดินทาง
01-02/09/61 : Christchurch
03/09/61 : Mt. Cook
04-08/09/61 : Queenstown and Wanaka
09-10/09/61 : Dunedin
11-12/09/61 : Wellington
13-15/09/61 : Auckland
เรื่องตื่นเต้นเริ่มกันตั้งแต่วันแรกเลยค่ะ เราเดินทางด้วย Qantas via Sydney ค่ะ แต่แล้วตอนตี 3 วันเดินทางได้รับอีเมลล์ว่า "ไฟล์ทขาเข้า กทม. ล่าช้า" แต่ Qantas เค้าก็แก้ไขสถานการณ์ได้ดีนะคะ เค้าเปลี่ยนไฟล์ทให้เรา BKK- SYD จาก Qantas เป็น Emirates แทนและไฟล์ทต่อไป Christchurch บินกับ Air New Zealand
ระหว่างที่นั่งรอที่เกท E4 สนามบินสุวรรณภูมิ ก็มีเสียงตามสายแจ้งว่า ไฟล์ทดีเลย์ เราก็เงิบๆแต่ทำใจดีสู้เสือ ล่าช้าแค่ 40 นาทีน่าจะต่อเครื่องทัน แต่ที่ไหนได้ ต่อเครื่องไม่ทันค่ะ รู้ตัวว่าไม่ทันตอนอยู่บนเครื่องแล้วค่า ก็นั่งเครียดตลอดไฟล์ทในหัวนี่คิดแต่ว่า "ลงเครื่องแล้วยังไง? ภาษาอังกฤษจะต้องพูดแบบไหน? ประโยคยังไง? คำศัพท์อะไร?" นี่เป็นครั้งแรกที่ต่อเครื่องแล้วไฟล์ทแรกดีเลย์ และเนื่องจาก Flight ที่ต่อเป็นสายการบินที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มเดียวกับ Qantas และ Emirates เราจึงได้ Boarding pass มาแค่ใบเดียว ส่วน Flight ไป Christchurch เราต้องติดต่อ Transfer Desk ที่สนามบิน Kingford smith เพื่อทำการออก Boarding pass อีกทีค่ะ ในหัวก็ "แล้ว Transfer desk อยู่ไหน เดินยากไหม ต้องพูดว่าอะไร ศัพท์ยังไง" มีแต่ความกังวลเต็มไปหมด
พอถึงซิดนีย์ ก็มีเจ้าหน้าที่ยืนถือป้ายเลข Flight ที่เราต้องต่อ เค้าก็แจ้งเราว่า Flight ใหม่ของคุณเป็น Flight นี้นะ และให้ Meal voucher กินอะไรก็ได้ในสนามบินKingford smith วงเงินประมาณ AUD15 (จำเลขเป๊ะๆไม่ได้ค่ะ) และเราก็ได้รับเมลล์จาก Emirates ว่า ไฟล์เราเปลี่ยนเป็นดังนี้
จากที่ถึง Christchurch เที่ยงของวันที่ 1 กันยา เป็น 2 ทุ่มครึ่งค่ะ T.T ทั้งหมดที่แพลนมาพัง!!!!
**Transfer desk ที่ สนามบินKingford smith เมื่อผ่านการตรวจสัมภาระสำหรับ Transfer flight ก็เจอเลยค่ะ หาไม่ยากแต่ต้องสังเกตป้ายนิดนึง เราไม่ได้ถ่ายรูปมา ตอนนั้นในหัวอลหม่านมากไม่ได้คิดจะถ่ายรูปใดๆเลยค่ะ
เมื่อมาถึง Auckland เราหวั่นๆในใจและแล้วก็เป็นจริง ----กระเป๋าฉันอยู่ไหน???????
เราลงเครื่องมาตอน 16.40น. ผ่าน ตม. และรู้ว่ากระเป๋าเราไม่มากับไฟล์ทที่เรานั่งมาก็ตอน 17.30น. เราก็ไปติดต่อเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่ทำงานแบบใจเย็นมากเลยค่ะ ชวนเราคุยนั่น นี่ นู่น เราก็บอกเค้าว่า "เราต้องต่อเครื่องไป Christchurch เครื่องออกตอน 1 ทุ่มนะ" (ในใจอย่างเร่งเค้ามากเลยค่ะ แต่ไม่รู้ว่าต้องพูดภาษาอังกฤษยังไง) เค้าก็บอกเราว่า You're OK!!! ในใจเรานี่ "ฉันไม่โอเค" ไหนจะต้องผ่าน Custom ที่ขึ้นชื่อว่า ช้าและตรวจละเอียดอีก Domestic Terminal ก็อยู่อีกที่นึง ลองหาไฟล์ทถัดไปต้องจ่ายอีก 8-9 พัน โอ้แม้เจ้า ทำยังไงดี?? แล้วตอน 18.20 เราพุ่งตัวออกจากเคาท์เตอร์อย่างเร็ว โชคดี Custom วันนี้คนน้อยมาก เราใช้แค่ 5 นาทีค่ะ เราก็วิ่ง 4x100 ค่ะ สุดท้ายเราต้องเครื่องทัน โชคดีมากๆ
-----------------------
การรับกระเป๋าล่าช้าเราสามารถเลือกได้ดังนี้ค่ะ:
1. ให้เค้าส่งไปรษณีย์ให้เราตามที่อยู่ที่เราแจ้ง
2. รับเองที่สนามบินปลายทางค่ะ
Custom หลักๆที่เค้าถามเราคือ พวกอาหารสดทุกประเภทค่ะ
สิ่งที่เราพกไปแล้วผ่านฉลุยเลยคือ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป, ข้าวต้มกึ่งสำเร็จรูป, น้ำจิ้มซีฟู้ด, น้ำปลา, ซีอิ๊ว, พริกป่น, น้ำพริกปลาย่าง, ยาสามัญต่างๆ
-----------------------
กลับเข้าเรื่องกันดีกว่าค่ะ เราเลือกรับกระเป๋าเอาค่ะเพราะว่าเราเปลี่ยนที่พักทุกคืนใน 3 คืนแรกเราก็ไม่รู้ว่า กว่าเค้าจะส่งให้ต้องใช้กี่วัน เค้าแจ้งว่ากระเป๋าเราจะมากับ Flight ของ Qantas ที่จะถึง Christchurch ตอน 5 ทุ่มเราก็เลยแจ้งว่าเราจะรอรับเลยคืนนี้เพราะพรุ่งนี้เราต้องเดินทางไป Tekapo lake และพักที่นั้น
และเมื่อเรามาถึง Christchurch เราถามเจ้าหน้าที่เรื่องกระเป๋า เค้าแจ้งว่า "คุณจะรับกระเป๋าได้วันพรุ่งนี้หลัง 8 โมงเช้าเท่านั้นเพราะกระเป๋าคุณต้องผ่าน Custom ก่อน" โอ้ววววว นี่มันอะไรกัน!!!!
จากเหตุการณ์นี้ทำให้เราต้องอยู่เที่ยว Christchurch 2 วัน จากเดิมแพลนไว้แค่ 1 วัน และคืนนั้นเรานอนทั้งที่ใส่ชุดเดิมแบบนั้นละคะ เราไม่ได้รับ Compensate ใดๆอีกนอกเหนือจาก Meal voucher นั้นค่ะ เพราะตอนเราไปถึง Christchurch ไม่มีเจ้าหน้าที่เช็คอินและไม่มีเคาท์เตอร์ของ Qantas หรือ Emirates และเราก็ไม่ได้ทำเรื่องเรียกร้องอะไรหลังจากนั้นค่ะ
-----------------------
การรับกระเป๋าล่าช้าที่สนามบินChristchurch:
นอกเหนือจาก Air New Zealand ที่เค้ามีเคาท์เตอร์ Baggage Service ของเค้าเอง ทุกสายการบินจะต้องโทรเข้าเบอร์นึงก่อน(จำไม่ได้อ่าค่ะ ถามจาก Information desk ได้เลย) เพื่อแจ้งชื่อ ไฟล์ท จากนั้นเค้าจะลากกระเป๋าเราออกมาให้ค่ะ แต่!!!.....เรามีตัวช่วยค่ะ เราโทรเข้าไปแล้วฟังไม่รู้อะ เราก็เลยเดินไปหาพนักงานเช็คอินให้เค้าช่วยค่ะ
-----------------------
- โดยรวมสำหรับการเดินทางด้วย 3 ไฟล์ทนี้ เราชอบทั้งอาหารและการบริการของ Emirates มากที่สุด แต่ สำหรับ Qantas ขา Sydney - Auckland เราไม่ค่อยประทับใจค่ะ แต่ไฟล์ทขากลับกรุงเทพฯดีมากๆเลยค่ะ
-----------------------
Intercity bus:
https://www.intercity.co.nz/
เราซื้อ Flexipass 20 ชั่วโมง ราคา NZD 172 ข้อดีคือยกเลิกฟรีได้ล่วงหน้า 2 ชั่วโมง สามารถเติมจำนวนชั่วโมงได้และหากใช้ไม่หมดสามารถขายต่อได้ด้วยค่ะ เมื่อเราซื้อ Pass เราจะได้ User มาเพื่อใช้ในการจองรถ และชั่วโมงจะลดลงตามจำนวนชั่วโมงที่เราอยู่บนรถค่ะ เช่น Christchurch - Tekapo เดินทาง 3 ชั่วโมงครึ่ง ชั่วโมงที่เหลือก็คือ 16 ชั่วโมงครึ่ง
แต่ในทุกรอบและเส้นทางเค้าจะมีตั๋ว 1 เหรียญ ซึ่งจะต้องเป็นคนแรกที่ซื้อตั๋วสำหรับรถรอบนั้น ถ้าใครได้โปรนี้อาจไม่ต้องพึ่ง Flexipass ค่ะ แต่เราเช็คราคารายเที่ยวถ้าจองแยกเราต้องจ่าย NZD 550 ดังนั้น Flexipass ถูกกว่าค่ะ
การขึ้นรถ ก่อนขึ้นรถคนขับรถจะเช็คชื่อเราค่ะ
หากจองรถได้รอบหรือเส้นทางข้ามเมืองใหญ่ๆ บางรอบคนขับรถเค้าจะบรรยายให้ความรู้เราว่าพื้นที่นี้เป็นยังไง มีที่มายังไงตลอดทางเลยค่ะ เราก็ฝึกสกิลการฟังวนไปค่ะ ส่วนมากเราจะฟังไม่ออก แหะๆ >//<
-----------------------
ที่พักเราพัก Hostel และจองผ่าน Booking.com ค่ะ วันแรกๆเราก็พักแบบห้องรวมค่ะ แต่วันท้ายๆเราย้ายไปนอนห้อง Single room หลังจากที่เจอเหตุการณ์ไม่คาดฝัน!!!!
รายชื่อที่พักดังนี้ค่ะ เด๋วจะมารีวิวแต่ละที่ได้ฟังนะคะ อาจจะเป็นรูปแบบบรรยายนะคะ เราไม่ค่อยถ่ายรูปพวกที่พักอ่าค่า
ตอนที่เราอยู่ Queenstown ที่พักที่เราจองมีแต่ห้องรวมชายหญิง ซึ่งเพื่อนเราหลายคนแนะนำที่นี่มากๆ ซึ่งก็ดีจริงๆค่ะ เราจองห้อง 4 คน และ คิดว่าคนดูแลที่พักคงไม่ใจร้ายเรานอนกับผู้ชาย 3 คน เราพักที่นี่ 4 คืน ซึ่ง 2 คืนแรก ผู้ร่วมห้องคือผู้หญิงชาวออสซี่ 2 คน แต่...คืนที่ 3-4 ผู้ร่วมห้องคือ ชาย 3 คนจากเวลลิงตันค่า เรานี่นอนตัวแข็งเกร็งไปหมด ห้องน้ำในห้องก็ไม่กล้าใช้ เราก็ไปใช้ห้องน้ำรวมเอาค่ะ
-----------------------
**นี่เป็นการเขียนรีวิวครั้งแรกค่ะ อาจจะมีผิดพลาดบ้างนะคะ
เดี๋ยวจะมาต่อเรื่องที่พัก, สถานที่ท่องเที่ยว และสรุปค่าใช้จ่ายให้นะคะ
ขอบคุณค่ะ
[CR] เดินเล่นชิวๆที่ NEW ZEALAND ผู้หญิงคนเดียวก็ชิวได้!!!
สวัสดีค่ะ
ด้วยเหตุผลและเหตุการณ์หลายอย่างทำให้เรามีโอกาสไปเที่ยวนิวซีแลนด์คนเดียว เราใช้เวลาทั้งหมด 16 วัน และเงินทั้งหมด 63,000 บาทในการเที่ยวครั้งนี้
เดิมทีเราเคยเที่ยวคนเดียวมาครั้งนึงที่ประเทศเกาหลี ซึ่งครั้งนั้นเที่ยวแค่ 3 วัน 2 คืนและเรารู้สึกไม่โอเคมากๆ แต่....ทริปนี้กลับมีเรื่องตื่นเต้นมากมาย ที่ทำให้รู้สึกตัดสินใจไม่ผิดเลยจริงๆ และเราอยากจะแชร์ประสบการณ์ต่างๆเหล่านี้เผื่อเป็นประโยชน์กับใครหลายๆคนค่ะ
ภาษาอังกฤษ เราไม่เก่งทั้งฟังและพูดเลยค่ะ อาศัย Yes, No, Ok, Not ok เป็นหลักค่ะ ฮ่าๆๆๆ
การถ่ายรูป Samsung Note8 ตลอดทริปและเราอาศัยไม้เซลฟี่ที่เป็นแบบขาตั้งและเพื่อนร่วมเดินทางนานาประเทศค่ะ
Visa เราขอวีซ่าออนไลน์ ทำตามรีวิวต่างๆใน Pantip นี่และค่ะ
ช่วงที่เราไปอากาศค่อนข้างเย็น เลขตัวเดียวใกล้ 0 ยกเว้นเกาะเหนือ 10 ต้นๆค่ะ เสื้อผ้าเน้นไปที่ ฮีทเทค ของ Uniqlo, แจ๊คเก็ตเป็น Columbia รุ่น 3 in 1 Interchange และ เสื้อกันลมและผ้าพันคอของ Zara, รองเท้า PureBoost ของ Adidas และ Casual shoe ของ Skechers.
กระเป๋าที่ใช้มี เป้คู่ใจ กับ กระเป๋าล้อลาก 4 ล้อ ขนาด 24 นิ้ว
เราเดินทางด้วยรถบัสที่ชื่อว่า Intercity Bus ตลอดทั้งทริป แผนการเดินทางเราเป็นดังนี้ค่ะ
31 สิงหาคม - 15 กันยายน 2561
31/08/61 : เดินทาง
01-02/09/61 : Christchurch
03/09/61 : Mt. Cook
04-08/09/61 : Queenstown and Wanaka
09-10/09/61 : Dunedin
11-12/09/61 : Wellington
13-15/09/61 : Auckland
เรื่องตื่นเต้นเริ่มกันตั้งแต่วันแรกเลยค่ะ เราเดินทางด้วย Qantas via Sydney ค่ะ แต่แล้วตอนตี 3 วันเดินทางได้รับอีเมลล์ว่า "ไฟล์ทขาเข้า กทม. ล่าช้า" แต่ Qantas เค้าก็แก้ไขสถานการณ์ได้ดีนะคะ เค้าเปลี่ยนไฟล์ทให้เรา BKK- SYD จาก Qantas เป็น Emirates แทนและไฟล์ทต่อไป Christchurch บินกับ Air New Zealand
ระหว่างที่นั่งรอที่เกท E4 สนามบินสุวรรณภูมิ ก็มีเสียงตามสายแจ้งว่า ไฟล์ทดีเลย์ เราก็เงิบๆแต่ทำใจดีสู้เสือ ล่าช้าแค่ 40 นาทีน่าจะต่อเครื่องทัน แต่ที่ไหนได้ ต่อเครื่องไม่ทันค่ะ รู้ตัวว่าไม่ทันตอนอยู่บนเครื่องแล้วค่า ก็นั่งเครียดตลอดไฟล์ทในหัวนี่คิดแต่ว่า "ลงเครื่องแล้วยังไง? ภาษาอังกฤษจะต้องพูดแบบไหน? ประโยคยังไง? คำศัพท์อะไร?" นี่เป็นครั้งแรกที่ต่อเครื่องแล้วไฟล์ทแรกดีเลย์ และเนื่องจาก Flight ที่ต่อเป็นสายการบินที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มเดียวกับ Qantas และ Emirates เราจึงได้ Boarding pass มาแค่ใบเดียว ส่วน Flight ไป Christchurch เราต้องติดต่อ Transfer Desk ที่สนามบิน Kingford smith เพื่อทำการออก Boarding pass อีกทีค่ะ ในหัวก็ "แล้ว Transfer desk อยู่ไหน เดินยากไหม ต้องพูดว่าอะไร ศัพท์ยังไง" มีแต่ความกังวลเต็มไปหมด
พอถึงซิดนีย์ ก็มีเจ้าหน้าที่ยืนถือป้ายเลข Flight ที่เราต้องต่อ เค้าก็แจ้งเราว่า Flight ใหม่ของคุณเป็น Flight นี้นะ และให้ Meal voucher กินอะไรก็ได้ในสนามบินKingford smith วงเงินประมาณ AUD15 (จำเลขเป๊ะๆไม่ได้ค่ะ) และเราก็ได้รับเมลล์จาก Emirates ว่า ไฟล์เราเปลี่ยนเป็นดังนี้
จากที่ถึง Christchurch เที่ยงของวันที่ 1 กันยา เป็น 2 ทุ่มครึ่งค่ะ T.T ทั้งหมดที่แพลนมาพัง!!!!
**Transfer desk ที่ สนามบินKingford smith เมื่อผ่านการตรวจสัมภาระสำหรับ Transfer flight ก็เจอเลยค่ะ หาไม่ยากแต่ต้องสังเกตป้ายนิดนึง เราไม่ได้ถ่ายรูปมา ตอนนั้นในหัวอลหม่านมากไม่ได้คิดจะถ่ายรูปใดๆเลยค่ะ
เมื่อมาถึง Auckland เราหวั่นๆในใจและแล้วก็เป็นจริง ----กระเป๋าฉันอยู่ไหน???????
เราลงเครื่องมาตอน 16.40น. ผ่าน ตม. และรู้ว่ากระเป๋าเราไม่มากับไฟล์ทที่เรานั่งมาก็ตอน 17.30น. เราก็ไปติดต่อเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่ทำงานแบบใจเย็นมากเลยค่ะ ชวนเราคุยนั่น นี่ นู่น เราก็บอกเค้าว่า "เราต้องต่อเครื่องไป Christchurch เครื่องออกตอน 1 ทุ่มนะ" (ในใจอย่างเร่งเค้ามากเลยค่ะ แต่ไม่รู้ว่าต้องพูดภาษาอังกฤษยังไง) เค้าก็บอกเราว่า You're OK!!! ในใจเรานี่ "ฉันไม่โอเค" ไหนจะต้องผ่าน Custom ที่ขึ้นชื่อว่า ช้าและตรวจละเอียดอีก Domestic Terminal ก็อยู่อีกที่นึง ลองหาไฟล์ทถัดไปต้องจ่ายอีก 8-9 พัน โอ้แม้เจ้า ทำยังไงดี?? แล้วตอน 18.20 เราพุ่งตัวออกจากเคาท์เตอร์อย่างเร็ว โชคดี Custom วันนี้คนน้อยมาก เราใช้แค่ 5 นาทีค่ะ เราก็วิ่ง 4x100 ค่ะ สุดท้ายเราต้องเครื่องทัน โชคดีมากๆ
-----------------------
การรับกระเป๋าล่าช้าเราสามารถเลือกได้ดังนี้ค่ะ:
1. ให้เค้าส่งไปรษณีย์ให้เราตามที่อยู่ที่เราแจ้ง
2. รับเองที่สนามบินปลายทางค่ะ
Custom หลักๆที่เค้าถามเราคือ พวกอาหารสดทุกประเภทค่ะ
สิ่งที่เราพกไปแล้วผ่านฉลุยเลยคือ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป, ข้าวต้มกึ่งสำเร็จรูป, น้ำจิ้มซีฟู้ด, น้ำปลา, ซีอิ๊ว, พริกป่น, น้ำพริกปลาย่าง, ยาสามัญต่างๆ
-----------------------
กลับเข้าเรื่องกันดีกว่าค่ะ เราเลือกรับกระเป๋าเอาค่ะเพราะว่าเราเปลี่ยนที่พักทุกคืนใน 3 คืนแรกเราก็ไม่รู้ว่า กว่าเค้าจะส่งให้ต้องใช้กี่วัน เค้าแจ้งว่ากระเป๋าเราจะมากับ Flight ของ Qantas ที่จะถึง Christchurch ตอน 5 ทุ่มเราก็เลยแจ้งว่าเราจะรอรับเลยคืนนี้เพราะพรุ่งนี้เราต้องเดินทางไป Tekapo lake และพักที่นั้น
และเมื่อเรามาถึง Christchurch เราถามเจ้าหน้าที่เรื่องกระเป๋า เค้าแจ้งว่า "คุณจะรับกระเป๋าได้วันพรุ่งนี้หลัง 8 โมงเช้าเท่านั้นเพราะกระเป๋าคุณต้องผ่าน Custom ก่อน" โอ้ววววว นี่มันอะไรกัน!!!!
จากเหตุการณ์นี้ทำให้เราต้องอยู่เที่ยว Christchurch 2 วัน จากเดิมแพลนไว้แค่ 1 วัน และคืนนั้นเรานอนทั้งที่ใส่ชุดเดิมแบบนั้นละคะ เราไม่ได้รับ Compensate ใดๆอีกนอกเหนือจาก Meal voucher นั้นค่ะ เพราะตอนเราไปถึง Christchurch ไม่มีเจ้าหน้าที่เช็คอินและไม่มีเคาท์เตอร์ของ Qantas หรือ Emirates และเราก็ไม่ได้ทำเรื่องเรียกร้องอะไรหลังจากนั้นค่ะ
-----------------------
การรับกระเป๋าล่าช้าที่สนามบินChristchurch:
นอกเหนือจาก Air New Zealand ที่เค้ามีเคาท์เตอร์ Baggage Service ของเค้าเอง ทุกสายการบินจะต้องโทรเข้าเบอร์นึงก่อน(จำไม่ได้อ่าค่ะ ถามจาก Information desk ได้เลย) เพื่อแจ้งชื่อ ไฟล์ท จากนั้นเค้าจะลากกระเป๋าเราออกมาให้ค่ะ แต่!!!.....เรามีตัวช่วยค่ะ เราโทรเข้าไปแล้วฟังไม่รู้อะ เราก็เลยเดินไปหาพนักงานเช็คอินให้เค้าช่วยค่ะ
-----------------------
- โดยรวมสำหรับการเดินทางด้วย 3 ไฟล์ทนี้ เราชอบทั้งอาหารและการบริการของ Emirates มากที่สุด แต่ สำหรับ Qantas ขา Sydney - Auckland เราไม่ค่อยประทับใจค่ะ แต่ไฟล์ทขากลับกรุงเทพฯดีมากๆเลยค่ะ
-----------------------
Intercity bus: https://www.intercity.co.nz/
เราซื้อ Flexipass 20 ชั่วโมง ราคา NZD 172 ข้อดีคือยกเลิกฟรีได้ล่วงหน้า 2 ชั่วโมง สามารถเติมจำนวนชั่วโมงได้และหากใช้ไม่หมดสามารถขายต่อได้ด้วยค่ะ เมื่อเราซื้อ Pass เราจะได้ User มาเพื่อใช้ในการจองรถ และชั่วโมงจะลดลงตามจำนวนชั่วโมงที่เราอยู่บนรถค่ะ เช่น Christchurch - Tekapo เดินทาง 3 ชั่วโมงครึ่ง ชั่วโมงที่เหลือก็คือ 16 ชั่วโมงครึ่ง
แต่ในทุกรอบและเส้นทางเค้าจะมีตั๋ว 1 เหรียญ ซึ่งจะต้องเป็นคนแรกที่ซื้อตั๋วสำหรับรถรอบนั้น ถ้าใครได้โปรนี้อาจไม่ต้องพึ่ง Flexipass ค่ะ แต่เราเช็คราคารายเที่ยวถ้าจองแยกเราต้องจ่าย NZD 550 ดังนั้น Flexipass ถูกกว่าค่ะ
การขึ้นรถ ก่อนขึ้นรถคนขับรถจะเช็คชื่อเราค่ะ
หากจองรถได้รอบหรือเส้นทางข้ามเมืองใหญ่ๆ บางรอบคนขับรถเค้าจะบรรยายให้ความรู้เราว่าพื้นที่นี้เป็นยังไง มีที่มายังไงตลอดทางเลยค่ะ เราก็ฝึกสกิลการฟังวนไปค่ะ ส่วนมากเราจะฟังไม่ออก แหะๆ >//<
-----------------------
ที่พักเราพัก Hostel และจองผ่าน Booking.com ค่ะ วันแรกๆเราก็พักแบบห้องรวมค่ะ แต่วันท้ายๆเราย้ายไปนอนห้อง Single room หลังจากที่เจอเหตุการณ์ไม่คาดฝัน!!!!
รายชื่อที่พักดังนี้ค่ะ เด๋วจะมารีวิวแต่ละที่ได้ฟังนะคะ อาจจะเป็นรูปแบบบรรยายนะคะ เราไม่ค่อยถ่ายรูปพวกที่พักอ่าค่า
ตอนที่เราอยู่ Queenstown ที่พักที่เราจองมีแต่ห้องรวมชายหญิง ซึ่งเพื่อนเราหลายคนแนะนำที่นี่มากๆ ซึ่งก็ดีจริงๆค่ะ เราจองห้อง 4 คน และ คิดว่าคนดูแลที่พักคงไม่ใจร้ายเรานอนกับผู้ชาย 3 คน เราพักที่นี่ 4 คืน ซึ่ง 2 คืนแรก ผู้ร่วมห้องคือผู้หญิงชาวออสซี่ 2 คน แต่...คืนที่ 3-4 ผู้ร่วมห้องคือ ชาย 3 คนจากเวลลิงตันค่า เรานี่นอนตัวแข็งเกร็งไปหมด ห้องน้ำในห้องก็ไม่กล้าใช้ เราก็ไปใช้ห้องน้ำรวมเอาค่ะ
-----------------------
**นี่เป็นการเขียนรีวิวครั้งแรกค่ะ อาจจะมีผิดพลาดบ้างนะคะ
เดี๋ยวจะมาต่อเรื่องที่พัก, สถานที่ท่องเที่ยว และสรุปค่าใช้จ่ายให้นะคะ
ขอบคุณค่ะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้