[CR] จดหมายจากอเมริกา...สื่อ...บทเพลงในพระราชนิพนธ์ (ที่คิดถึง)

จดหมายจากอเมริกาสื่อบทเพลงในพระราชนิพนธ์
............................................................................ 


                                        
                                          New York, USA
                     
ลูกภนที่รัก

วันนี้แม่มาตามหาฝัน เมื่อครั้งวัยเยาว์ของแม่
"อเมริกา"ประเทศแห่งเสรีภาพที่ปรากฎบ่อย
ครั้งในภาพยนตร์หลายๆเรื่อง ที่เราเคยนั่งดู
ไปด้วยกัน ลูกยังจำได้ไหม แม่เพิ่งลงเครื่อง
มาถึงยังเพลียเหลือเกิน  แม่คงต้องขอตัวไป
งีบซักตื่นแล้วแม่จะเขียนมาเล่าการเดินทาง
ในฝันให้ลูกฟังในฉบับต่อไปนะจ๊ะ ก่อนที่จะ
จบจดหมายฉบับนี้    การเดินทางตามฝันใน
ครั้งนี้ ทำให้แม่ได้นึกถึงบทเพลงในพระราช
นิพนธ์ลำดับที่  43 นั่นก็คือเพลงความฝันอัน
สูงสุดหรือ"The Impossible Dream" เพราะ
ถ้าชีวิตไร้ซึ่งความฝันก็คงเหมือนดั่งชีวิตที่ไร้
ซึ่ง..."ลมหายใจ"

"ขอฝันใฝ่ในฝันอันเหลือเชื่อ
 ขอสู้ศึกทุกเมื่อไม่หวั่นไหว
 ขอทนทุกข์รุกโรมโหมกายใจ
 ขอฝ่าฟันผองภัยด้วยใจทะนง"

"To dream ... the impossible dream ...
 To fight ... the unbeatable foe ...
 To bear ... with unbearable sorrow ...
 To run ... where the brave dare not go ..."

รักลูกภนเสมอ
แม่ของลูก
...........................................................................


                    
                              The Statue of Liberty, USA
                   
ลูกภนที่รัก

วันนี้แม่แพลนว่าจะไปชม  The Statue of Liberty
หรือเทพีแห่งเสรีภาพซึ่งเป็นของขวัญจากฝรั่งเศส
ที่ได้มอบไว้ให้กับประเทศสหรัฐอเมริกาในปี2419
โชคดีเหลือเกินที่ได้มากับแอนนาเพื่อนรักในสมัย
เรียนในรั้วราชภัฎ การเดินทางก็เลยยิ่งราบรื่นและ
เพลิดเพลิน   ลูกภนรู้ไหมว่าแอนนาคนนี้แหละที่ทำ
อาหารให้แม่กินตอนอุ้มท้องลูกแถมยังคอยมาช่วย
อุ้มเวลาลูกร้องไห้งอแงอีกแม่ช่างโชคดีเหลือเกินที่
มีแต่กัลยาณมิตรที่ดีอยู่เคียงข้างแม่เสมอมา   วันนี้
แม่ขอมอบเพลงแทนใจให้ลูกได้ฟัง ซึ่งก็คือหนึ่งใน
บทเพลงพระราชนิพนธ์ลำดับที่5 เพลง"ชะตาชีวิต"
หรือในชื่อภาษาอังกฤษ "H.M.Blues" เพราะถ้าแม่
ไร้มิตรสหายในครั้งนี้แม่ก็คงไม่ต่างจากนกที่โผบิน
อย่างเดียวดายเหมือนดั่งความหมายในบทเพลงๆนี้

"นกน้อยคล้อยบินมาเดียวดาย
 คิดคิดมิวายกังวลให้หม่นฤทัยหมอง
 ขาดมวลมิตรไร้คนสนิทคู่เคียงครอง
 หลงใหลหมายปองคนปรานี
 ขาดเรือนแหล่งพักพำนักนอน
 ขาดญาติบิดรและน้องพี่
 บาปกรรมคงมี
 จำทนระทม"

"We 've got the Hungry Men's Blues.
 You'll be hungry too, if you're in this band.
 Don't you think that our music is grand?
 We've got the Hungry Men's Blues.
 You've eaten now all of you.
 We'd like to eat with you too,
 That's why we've got the H.M. Blues"

รักลูกภนเสมอ
แม่ของลูก
............................................................................



                                       Times Square, USA

ลูกภนที่รัก

แม่พร้อมแล้วที่จะออกไปตะลุยนิวยอร์กในยาม
ราตรี เพื่อที่จะไปชมแสงสีแห่งมหานครแห่งนี้ที่
Times Square   และถ้าลูกจำได้กับภาพยนตร์
หลายๆเรื่อง ที่ถ่ายทำในไทม์สแควร์แห่งนี้ รวม
ทั้งภาพยนตร์เรื่องโปรดของลูกด้วย    นั่นก็คือ Transformers   แม่หวังว่าคืนนี้ลูกจะนอนหลับ
ฝันดี ราตรีสวัสดิ์นะจ๊ะลูกรัก  แม่ขอส่งเพลงใน
พระราชนิพนธ์ลำดับที่ 4  คือ "ใกล้รุ่ง"  หรือใน
ภาษา อังกฤษที่ชื่อ  "Near Dawn" มาให้ลูกฟัง
ก่อนนอนคืนนี้
 
"หมู่มวลวิหคบินผกมาแต่รังนอน
 เฝ้าเชยชิดช้อนลิ้มชมบัวบาน
 ยินเสียงบรรเลงดังเพลงขับขาน
 สอดคล้องกังวานซาบซ่านจับใจ"

"Dew fresh and cool.
 The town awakes from sleep
 Its throb I hear:car, speeding, hum.
 Of love and hope the birds sing, dear
 Come, rise don't mope,
 The dawn is near"

รักลูกภนเสมอ
แม่ของลูก
...........................................................................


                           
                                     Top of The Rock, USA
                       
ลูกภนที่รัก

การมาเยือนนิวยอร์กของแม่คงไม่สมบูรณ์นักถ้า
ขาดการขึ้นไปชมวิวสวยบนตึกสูงระฟ้า  นั่นก็คือ
Top of The Rock  ซึ่งที่นี่พิเศษตรงที่กระจกเป็น
แผ่นใหญ่ไร้ซึ่งกรอบ  ทำให้มองวิว 360 องศาได้งดงามยิ่งนัก   และโดยเฉพาะอย่างยิ่งวิวบนนี้ยัง
สามารถมองเห็นตึก Empire State อย่างชัดเจน
เห็นไหมลูกว่ายิงปืนทีเดียวได้นกถึงสองตัว  ก็แม่
ของลูกได้ทำการบ้านมาอย่างดีกับทริปนี้ แม่หวัง
ว่าลูกคงจะถูกใจกับภาพที่แนบมาในฉบับนี้เพราะ
ความสูงของตึกซึ่งได้ทะยานเคียงคู่กับท้องฟ้าทำ
ให้แม่ได้นึกถึงบทเพลงในพระราชนิพนธ์ลำดับที่6
นั่นก็คือเพลง"ดวงใจกับความรัก" หรือในชื่อภาษา
อังกฤษว่า"Never Mind the Hungry Men's Blues"
ซึ่งเนื้อหาในบทเพลงนี้แม่ขอให้ลูกลองหลับตาแล้ว
จินตนาการดูว่า  ถ้าแม่ได้มาเยือนที่นี่ในยามค่ำคืน 
แล้วละก็ลูกคิดว่าแม่น่าจะเห็นอะไรบ้างและจะตรง
กับเนื้อหาของบทเพลงๆนี้หรือไม่ อย่างไร 

"ค่ำคืนนภาดาราพราว
 ประกายแสงดาวพราวตา
 ดาษเรียงเคียงแสงดวงจันทรา
 เพลินชมแสงพรายนภาเห็นดวงดาราล้อมจันทร์

We used to be so hungry, 
We used to be so blue
But now we know that you all
Enjoy the song we play along
The whole night through"

รักลูกภนเสมอ
แม่ของลูก
.........................................................................


                                       
                                             Central Park, USA
                         
ลูกภนที่รัก

ฤดูกาลในนิวยอร์กยามนี้  จะมีอะไรที่จะดีไปกว่า
การไปเดินเล่นชมสวนสวยที่ Central Parkสวนที่
เปรียบดั่งหัวใจของมหานครนิวยอร์กแห่งนี้ทำให้
แม่สดชื่นทุกครั้งจนเพลินให้ไปนึกถึงบทเพลงใน
พระราชนิพนธ์ลำดับที่2 คือ "ยามเย็น" หรือในชื่อ
"Love at Sundown" ในภาษาอังกฤษ

"แดดรอนรอน
 เมื่อทินกรจะลับเหลี่ยมเมฆา
 ทอแสงเรืองอร่ามช่างงามตา
 ในนภาสลับจับอัมพร"

"Tis sundown
 The golden sunlight tints the blue sea,
 Paints the hill and gilds the palm tree.
 Happy be, my love, at sundown."

รักลูกภนเสมอ
แม่ของลูก
........................................................................


                                   
                                 The Met Museum, USA

ลูกภนที่รัก

วันนี้แม่ขอเริ่มทริปแรกที่พิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุด
ในโลกกับThe Metropolitan Museum of Art
หรือที่คนทั่วไปเรียกสั้นๆว่า The Met  โดยภาย
ในจะแบ่งออกเป็นถึง 19 แผนกและยังมีผลงาน
ศิลปะถาวรกว่า 2 ล้านชิ้น เรียกว่าเดินกันทั้งวัน
ก็ยังชมได้ไม่ครบ   แม่จึงขอจบจดหมายฉบับนี้
แต่เพียงเท่านี้ก่อนนะจ๊ะ...อ้อ!  แม่ลืมบอกว่าคติ
ประจำใจของแม่ช่างตรงกับบทเพลงในพระราช
นิพนธ์ลำดับที่   16  ซะเหลือเกิน   นั่นก็คือเพลง 
"ยิ้มสู้" หรือในชื่อภาษาอังกฤษว่า "Smiles"

"โลกจะสุขสบายนั้นเป็นได้หลายทาง
 ต้องหลบสิ่งกีดขวางหนทางให้พ้นไป
 จะสบความสุขสันต์สำคัญที่ใจ
 สุขและทุกข์อย่างไรเพราะใจตนเอง"

"Don't you think a smile is quite a strange 
 thing?
 When you start to smile, it wrinkles your face,
 And when it is gone, you cannot find
 Its peculiar secret hidding place"

รักลูกภนเสมอ
แม่ของลูก
..........................................................................



                                          Coney Island, USA

ลูกภนที่รัก  
              
วันนี้แอนนาเพื่อนรักของแม่อาสาพาแม่ไปขับรถ
กินลมชมวิวทั่วมหานครนิวยอร์ก และก็ไม่พลาด
ที่จะพาแม่มาชมทะเลที่นี่  ซึ่งลูกคงแปลกใจสิว่านิวยอร์กก็มีทะเลด้วยหรือนี่ แต่ทะเลนิวยอร์กไม่
สวยเหมือนกับทะเลที่เมืองไทยหรอกจ้ะ แต่การ
ที่เมืองๆหนึ่งมีทั้งความเป็นเมืองแห่งมหานคร ใน
ขณะเดียวกันก็มี ชายหาด และท้องทะเลรวมอยู่
ด้วย  แม่ว่ามันช่างมีเสน่ห์เย้ายวนใจเซะหลือเกิน
โชคดีในวันที่แม่ไปเยือนไม่มีนักท่องเที่ยวเลยทำ
ให้ภาพที่ถูกบันทึกได้ดูงดงามแต่ในขณะเดียวกัน
ก็ดูช่างอ้างว้างและเดียวดาย นั่นคงเป็นเพราะเจ้า
สายฝนที่หอบนำความชุ่มฉ่ำมาให้พร้อมกับสายลม
ที่หนาวเย็นก็เป็นได้ ความรู้สึกเช่นนี้จึงทำให้แม่ได้
ระลึกถึงบทเพลงในพระราชนิพนธ์ ลำดับที่ที่ 3 นั่น
ก็คือเพลง "สายฝน"  หรือ "Falling Rain"  ในภาษา
อังกฤษเพราะห้วงขณะที่แม่ได้อยูที่ Coney Beach
ก็จะมีละอองฝนกระเซ็นป็นสาย   อยู่ตลอดเวลา
ทำให้แม่หนาวสั่นจึงต้องกล่าวคำอำลาก่อนที่แม่
จะแข็งตายไปซะก่อนหน่ะจ้ะลูกรัก

"สาดเป็นสายพรายพลิ้วทิวทุ่ง
 แดดทอรุ้งอร่ามตา
 รุ้งเลื่อมลายพร่างพลายนภา
 ยามเมื่อฝนมาแต่ไกล"

"Bright the rainbow comes in view.
 All the world's cool and clean.
 Angels's tears the flowers renew.
 Nature glistens in green"

รักลูกภนเสมอ
แม่ของลูก
.........................................................................   


                             
                                        Brooklyn Bridge, USA
                      
ลูกภนที่รัก

วันนี้เป็นวันสุดท้ายในมหานครแห่งนี้ แม่จึงเลือกที่
จะมาชมความงดงามที่ Brooklyn Bridge เพื่อเป็น
การกล่าวคำลา ก่อนที่จะกลับไปซบไอดินถิ่นแดน
สยามซึ่งก็ทำให้ได้นึกถึงบทเพลงในพระราชนิพนธ์ลำดับที่ 34แผ่นดินของเราหรือ"Alexandra"ในชื่อ
ภาษาอังกฤษซึ่งเนื้อหาในบทเพลงช่างตรงกับความ
รู้สึกของแม่ยิ่งนักเพราะถึงแม่จะรักการเดินทาง
เพียงใดก็ตามแต่สถานที่ที่แม่จะรู้สึกถึงความเป็น
บ้านได้ ก็มีอยู่เพียงที่เดียวบนโลกใบนี้เท่านั้นนั่นก็
คือ..."เมืองไทยของเรา"

"ถึงอยู่แคว้นใด ไม่สุขสำราญ 
 เหมือนอยู่บ้านเรา ชื่นฉ่ำค่ำเช้าสุขทวี 
 ทรัพย์จากผืนดิน สินจากนที 
 มีสิทธิ์เสรี สันติครองเมือง"

"Welcome to thee 
 Here in this land of sunshine and of flowers 
 May ye be blessed by the blessing 
 That has made our country happy"

รักลูกภนเสมอ
แม่ของลูก
............................................................................

เครดิต : เพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จ
พระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดช
ชื่อสินค้า:   New York, America, USA, เพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดช
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่