ไออยากทำธุรกิจที่ไทย ยูสามารถช่วยได้ไหม?

ขออนุญาตตั้งกระทู้ใหม่เพื่อเล่าความคืบหน้าจากกระทู้เก่าด้านล่างนี้นะคะ

https://m.ppantip.com/topic/38022884?

เพื่อนชายลูกครึ่งชาวอียิปต์อิตาเลียนคนเดียวและคนเดิมได้ติดต่อมาเมื่อสามวันก่อนค่ะ

เขาทักทายมาทางข้อความเฟสบุ๊คและอิสตาแกรมหลังจากขาดการติดต่อกันไป เมื่อเขากลับถึงดูไบประมาณหนึ่งสัปดาห์ เพราะเราบล็อกทุกช่องทางที่เคยใช้ติดต่อกัน

นับจากวันนั้น เราไม่ได้ติดต่อกันเกือบครบเดือน
หนึ่งเดือน แม้เป็นเวลาไม่นาน แต่ก็นานพอช่วยให้เข้มแข็งขึ้น พอเริ่มตัดใจได้ ใช้ชีวิตได้ปกติ ชีวิตเริ่มสนุกกับการได้ทดลองทำอะไรใหม่ๆเพื่อดูแลและฟื้นฟูร่างกายและจิตใจของตัวเอง

ไม่คิดว่าเขาจะติดต่อมา เพราะน่าจะรู้แล้วว่า “เราจบกันแล้ว”

แล้วไม่คาดคิดว่าจะทักมาทางนี้ได้ เพราะเราไม่เคยเป็นเพื่อนกันบนเฟสบุ๊คและอินสตาแกรม

เราไม่เคยใช้ช่องทางนี้ในการติดต่อกัน

เขายังคง “งง” ว่าเราบล็อกช่องทางสื่อสารที่ใช้คุยกับเขาทำไม?!?

เขาผิดอะไร?!?

เขากล่าวหาว่า เราคิดไปเองคนเดียวว่าเขาไม่จริงใจ

เขายืนยันหนักแน่นว่า จริงใจ จริงจังในความสัมพันธ์ ไม่เคยคิดเลิก และจะไม่มีวันเลิกเด็ดขาด

เขาบอกว่า การตามหาเราจากสองช่องทางนี้ เพื่อพูดคุยปรับความเข้าใจ คือสิ่งที่พิสูจน์ว่า ฉันจริงใจกับเธอและรักเธอจริงๆ

และจะพิสูจน์โดยการบินมาหาเดือนหน้า
ถ้าเธอไม่มารับฉัน ฉันก็จะไปหาเธอและเยี่ยมพ่อแม่เธอที่บ้าน เพราะฉันรู้จักบ้านของเธอ

แล้วก็จะมาหาทุกเดือน

เขาเล่าปิดท้ายว่า งานการสายบินที่ทำอยู่ ทำให้เขาป่วยบ่อย สุขภาพแย่ลง อยากออกจากงานมาเริ่มต้นธุรกิจของตัวเอง

โดยยิงคำถามว่า ถ้าทำธุรกิจที่ประเทศไทย ยากไหม เราสามารถช่วยเขาได้ไหม

โดยร่างแผนธุรกิจมานำเสนอด้วยค่ะ
กลุ่มเป้าหมายหลัก ขายคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวจากUAE

โดยอาศัยคอนเนคชั่น2ฝั่ง
1 ฝั่งเรา เพื่อนฝูงและนักท่องเที่ยวในไทย
2 ฝั่งเขา เพื่อนฝูงและนักท่องเที่ยวจากUAE
ผ่านประสบการณ์งานสายบินที่เคยทำและการใช้ชีวิตที่นั่นมา10ปี

เขาบอกเหตุผลหลักที่อยากทำธุรกิจที่ไทย 3ข้อ
1 สุขภาพแย่ ป่วยบ่อย ทำให้อยากลาออกจากงาน
2 พอแล้วกับการทำงานให้คนอื่น อยากทำงานของตัวเองบ้าง
3 สร้างเนื้อสร้างตัว เพื่อเตรียมสร้างครอบครัวกับเรา

เขาบอกว่า ไม่อยากให้เราไปอยู่ดูไบ เพราะเขาไม่มีสมบัติอะไรที่นั่น ไม่ว่าบ้าน หรือลู่ทางทำธุรกิจ และมีเงินไม่มากพอใช้ชีวิตสุขสบาย

ส่วนเราเองก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ถ้าจะต้องไปเริ่มงานใหม่ที่นั่น เลยไม่อยากให้มาลำบาก แล้วก็ไม่อยากพาไปอยู่อียิปต์ด้วย

เขาบอกว่าอียิปต์เป็นประเทศที่เลวร้ายมาก เลวร้ายยังไง เขาไม่ได้บอกชัด บอกเพียงว่า ไม่น่าอยู่ ใช้ชีวิตได้ไม่อิสระ และไม่มีช่องทางทำมาหากิน ได้ดีเท่าอยู่เมืองไทย

สำคัญที่สุด เราจะได้ไม่ต้องห่างครอบครัว ส่วนตัวเขาเอง อยู่ไกลบ้านมา10ปีแล้ว

ถ้าอีกครึ่งชีวิตที่เหลือจะไกลก็ไม่เป็นไร เขาชินแล้ว

#%<}{][$€¥!?,.\%*$$

เขากลับมาก่อกวน(โสตประสาท)อีกแล้วค่ะ
น่ากลัวเหลือเกินค่ะ

คราวนี้ เรามีภูมิคุ้มกันดีขึ้นมากจากคำแนะนำดีๆที่ทุกคนหวังดีกับเราในกระทู้ที่แล้ว จนสามารถจบปัญหาและตัดใจได้

แต่พอมาเจอแบบนี้อีกหน แถมลูกล่อลูกชนเยอะขึ้น

ขอความเมตตา ช่วยฉีดวัคซีนกระทุ้งไข้ใจอีกสักเข็มค่ะ ขอตัวที่แรงกว่าเดิมค่ะ ให้เข็มนี้เป็นเข็มสุดท้ายนะคะ (ไม่อยากดื้อยา😢)

ขอบคุณมากค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
สวัสดีฮะน้อง

พี่เอง จากกระทู้ที่แล้วนะฮะ

//

อ่านดูแล้ว เขาช่างเป็นผู้ชายที่ทำเป็น "ตีมึนเก่ง" หน้าหนา หน้าทนมาก สามารถทำได้ทุกอย่าง "เพื่อตนเองเท่านั้น"

//

ผู้ชายคนนี้ มีความพยายามสูงมาก

เขาฉลาด ตื๊อเก่ง พูดเก่ง

เป็นพ่อค้า เป็นนักสู้ นักต่อรอง นักเอาตัวรอดที่เก่งมากๆ พี่ขอชม

คนแบบนี้ น่าชื่นชม แต่ถ้าเอาไว้ใกล้ตัว ไม่ดีแน่

//

ใจแข็งเอาไว้ก่อนนะฮะ คุณหนูอย่างน้อง ทันเขานะ น้องไม่ใช่คนโง่ แต่น้องยังเด็กนักเกี่ยวกับเรื่องคบผู้ชายต่างชาติ
เขาจะทำให้น้องน้ำตาเช็ดหัวเข่า มีแต่เรื่องกลุ้มใจ

เพราะเขารู้ว่าน้องรักเขา น้องไม่เคยมีแฟนมาก่อน และ ที่สำคัญ คือน้องมีจิตใจดี มาจากครอบครัวดี
ชีวิตไม่เคยพบกับความยากลำบาก เรื่องเลวร้ายไม่มี

เพราะฉนั้น พื้นฐานจิตใจคือความมีเมตตา ความไม่มีลับลมคมใน ความไม่มีเล่ห์เหลี่ยม

//

คนไทยที่ดีๆ หน่ะ พื้นฐานคือใจดี ใจอ่อน ขี้สงสาร มีเมตตา
และ มักจะเมตตาคนต่างชาติ พลัดบ้านพลัดเมือง

//

ณ ตอนนี้ พี่บอกได้คำเดียวก่อนว่า อย่าหลวมตัว

//

เขาหน่ะ ตอนที่คบกับน้อง เขาก็ประเมินแล้วจากฐานะ การศึกษา ครอบครัว หน้าที่การงานของน้อง
ว่าถ้าเขาจับน้องอยู่ เขาก็จะมีช่องทาง มีลู่ทางทำมาหากินใหม่ๆ ในชีวิต

เขาคงคิดแพลน คิดวางแผนเอาไว้ในหัวเป็นพล็อตๆ แล้ว



คือขอให้น้องจำเอาไว้ว่า น้องไม่ใช่ทูตสันทวไมตรีของยูเอ็น หรือ ไม่ใช่ จนท ของหน่วยงานช่วยเหลือคนต่างชาตินะ
เพราะฉนั้น ไม่ต้องไปช่วยเขา โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับธุรกิจ และ เงินๆ ทองๆ หรือ เกี่ยวกับการเข้าเมืองของต่างชาติ
การช่วยวิ่งเต้นให้ต่างชาติเปิดธุรกิจ

ถ้าอยากทำจริง ให้เขาไปจ้างคนทำเอง อย่าให้เขามาหลอกใช้น้อง

ผู้ชายคนนี้ อยากจะจับน้อง เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวของตนเองล้วนๆ


//

เขาไม่ได้ทำเพื่อน้อง แต่ชีวิตเขาดิ้นรน ปท เขาอยู่ลำบาก ทุกคนต้องเอาตัวรอด (คนไทย คนชาติไหนๆ ก็ต้องเอาตัวรอดเช่นกัน)

แต่น้องไม่ใช่ยูเอ็นเอชซีอาร์ ที่จะต้องยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือเขา

//

น้องอย่าเอาชีวิตทั้งชีวิตของตนเอง ที่เป็นชีวิตดีๆ ไปอุทิศให้เขา เขาไม่ได้มีค่าพอขนาดนั้น

ถ้าน้องแต่งกับเขา ถ้าเขามาอยู่ไทย เขาจะให้น้องมีลูก เพื่อเอาลูกไว้เป็นตัวประกันให้น้องไม่ทิ้งเขา
แล้วคุณพ่อคุณแม่ของน้องก็จะต้องเห็นแก่น้อง เห็นแก่หลาน เขารู้ว่าเขาจะปลอดภัย

มีคนคุ้มศีรษะ ถ้าเขามาอยู่เมืองไทย มาแต่งกับน้อง เพราะเขารู้ว่าคุณพ่อคุณแม่ของน้องต้องช่วยอุ้มชู
ค้ำจุนน้อง (และ หลาน - ลูกของน้องที่ถ้าหากจะเกิดจากเขาในอนาคต)

เขามีเงินเก็บแค่ล้านกว่า เอามาลงทุนกำกิจการไม่พอหรอก  

ยิ่งเขาเห็นบ้านของน้องแล้ว พี่ก็คิดว่า น้องต้องมีฐานะความเป็นอยู่ที่ดีมาก

เขาก็อยากจะจับน้องเอาไว้ให้มั่น ให้เป็นหลักประกันให้กับชีวิตของเขา


//

ในดูไบหน่ะ มีคนต่างชาติตั้งหลายล้านคน จากทั่วโลก ที่ส่วนใหญ่ทำงานทางด้านงานบริการ

มีเป็นแสนๆ คนที่ทำงานสายการบิน ทำงานสนามบิน ทำงานร้านอาหาร ทำงานร้านขายของ

แล้วส่วนใหญ่คนต่างชาติในดูไบที่ทำงานทางด้านงานบริการ เงินเดือนเขาได้กันคิดเป็นเงินไทยก็

หมื่นบาทปลายๆ , 2-3 หมื่นบาท, 3-5 หมื่นบาท มีไม่มากหรอกที่จะได้แสนกว่าแบบอีตาคนนี้

(หรือ ต้องเป็นพวกแอร์ สจ๊วต ที่อายุงานนานๆ หรือ ตำแหน่งสูงๆ ถึงจะได้เงินเดือนมากกว่าอีตาคนนี้
งานในวงการงานบริการ เงินเดือนไม่สูงมากหรอก หรือ กว่าจะได้เงินเดือนสูง ก็ต้องทำมานาน ความรับผิดชอบมาก)


แล้วคนอื่นๆ ที่เขาเงินเดือนน้อยๆ นิดๆ เขาเช่าห้องอยู่รวมกัน ห้องนึงไม่กว้าง มีเตียง 2 ชั้น
อัดกันเข้าไปอยู่ห้องละ 6-10 คน

ต้องหุงหาอาหารกินเอง หรือ อดมื้อกินมื้อ บางคนไม่มีเงินขึ้นรถเมล์ ก็เดินไปทำงาน เขายังอยู่กันได้เลย

ส่วนอีตานี่ มีห้องพักฟรีที่บริษัทเช่าให้มิใช่หรือ อยู่คนเดียวด้วย

ชีวิต และ เงินเดือน จัดว่าสบายกว่าคนทำงานด้านงานบริการในดูไบอีกมากมาย

เขาจะมาบ่นอะไรอีก มีงานทำในดูไบ ก็ดีกว่าอยู่อียิปต์มากมายแล้ว เงินเก็บก็มี

//

ผู้ชายคนนี้ ขืนน้องเผลอไปแต่งกับเขา เขาก็จะแบล็คเมล์ทางอารมณ์น้องไปตลอดชีวิต
ล้อเล่นกับความรู้สึกของน้องไปตลอดชีวิต ปั่นหัวน้องไปตลอดชีวิต และ เมื่อทำผิด ก็จะตีมึน ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
แถไปได้เรื่อยๆ

อยากได้อะไร ก็จะแบล็คเมล์ทางอารมณ์ผู้อื่น จะเอาแต่ที่ตนเองต้องได้ ต้องชนะ ต้องบรรลุจุดประสงค์
แต่ส่วนตนเพียงฝ่ายเดียว

คนอื่นจะเป็นอย่างไร เขาไม่สน

//

น้องมีชีวิตอยู่อย่างสุขสบายสบายๆ มาทั้งชีวิต อาจจะเหงาบ้าง อยากมีแฟนบ้าง อยากแต่งงานบ้าง

แต่ถ้าไปเจอคนแบบผู้ชายคนนี้ พี่ถามคำเดียว น้องอยากแต่งด้วยเหรอ

อยากเอาชีวิตไปจมอยู่กับความทุกข์ เพียงเพราะแค่อยากมีสามีอยากมีแฟนแค่นั้นเหรอ

ไม่เอานะ เรียนมาตั้งสูง งานก็ดี ครอบครัวก็ดี ชีวิตมีพร้อมทุกอย่าง อย่าหลงทางเพราะผู้ชายคนนี้นะ

ถ้าแต่งกับเขา ชีวิตดีๆ ที่น้องมีอยู่ คือ จะจบ คำเดียวสั้นๆ เลย คือ จบ

แล้วเขาจะทำให้น้องเป็นผู้หญิงที่มีแต่ความทุกข์ ความกังวล ความวิตก ไม่จบไม่สิ้น

น้องอยากเป็นแบบไหนหล่ะ เลือกเอานะ

//

นี่คือความคิดเห็นจากคนแปลกหน้า ที่มิได้มีส่วนได้ส่วนเสีย กับชีวิตของน้องเลย

และ นี่แหละ คือความคิดเห็นที่เป็นกลางที่สุดแล้ว

เพราะเป็นความคิดเห็นจากคนที่มองมาจากข้างนอก

โดยที่ใช้การวิเคราะห์ และ ประสบการณ์ชีวิตทั้งชีวิตในการดีลและคลุกคลีกับคนมาหลายชาติมอง

//

ผู้ชายคนนี้ น้องต้องตัดให้เด็ดขาดนะ แรกๆ จะลำบาก แต่ในระยะยาว มันจะดีต่อตัวของน้องเอง

//

น้องเป็นลูกคนเดียว และ เป็นลูกสาว

ถ้าน้องเลือกผู้ชายผิด จะทำให้คุณพ่อคุณแม่มีทุกข์

และ ผู้ชายคนนี้จะนำพาแต่ความทุกข์มาให้น้อง

เมื่อน้องทุกข์ คุณพ่อคุณแม่ก็จะทุกข์ไปด้วย และ จะพยายามช่วยน้อง เพราะท่านรักน้องมาก เพราะครอบครัวสนิทสนมกันมาก

และ มีคุณยายด้วยใช่ไหม ก็จะทำให้คุณยายทุกข์ใจไปด้วยนะ

//

ลืมเล่าให้ฟังว่า ที่กระทู้เก่าของน้อง ที่น้องเล่าใน คห ท้ายๆ ว่า ผู้ชายจะไม่ยอมกลับไปทำงาน
ถ้าน้องไม่ไปส่งที่สนามบินสุวรรณภูมิ แต่จะนั่งคุกเข่าอยู่ที่หน้าบ้านน้องหรืออะไรนี่แหละ

ที่พี่ไปกด "สยอง" ให้หน่ะ คือพี่สยองกับพฤติกรรมของเขา ดราม่าสุดๆ อีคิวไม่สูง

บอกตรงๆ เลยนะ ว่าเขา "สะตอเบอรี่" มากเลย

ถ้าพี่เป็นน้อง จะปล่อยให้เขาไปสนามบินเอง แบบที่เขาทำกับน้อง

และ เขาไม่กล้าที่จะไม่กลับดูไบหรอก เพราะถ้าไม่กลับ ก็หมายความว่า ขาดงานนะ

คือเขาขู่ เขาแบล็คเมล์ทางอารมณ์ ทำแบบนี้ตลอดเลย ไม่เป็นสุภาพบุรุษเลย

ผู้ชายแบบนี้ จะเอามาเป็นสามีเหรอฮะ?

แล้วผู้ชายลูกครึ่งอียิปต์อิตาเลี่ยนเนี่ย ลูกครึ่งจริงหรือเปล่า

หรือ ว่าอียิปต์ 100% แล้วบอกว่าครึ่งอิตาเลี่ยนเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับตนเอง

ผู้ชายแขกๆ บางคนทำแบบนี้นะ เพราะเขารู้ว่าถ้าบอกว่ามีเชื้อสายฝรั่งจะทำให้เขาดูดีกว่าบอกว่า
เป็นคนจาก ปท กำลังพัฒนาล้วนๆ 100% หน่ะ และ หน้าตาบางคน ก็พอจะหลอกย้อมแมวได้บ้างอยู่


แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่