ผมเลือกที่จะเก็บความรู้สึกดีๆไว้คนเดียว

กระทู้สนทนา
คุณผู้อ่านคงเคยมีประสบการณ์แอบส่องเฟสบุ๊คคนที่แอบชอบทุกวันได้ดูรูปโปรไฟว์เห็นเธอเช็คอิน เห็นอาหารที่เธอกิน ฯลฯ
ผมไม่ค่อยได้อ่านกระทู้ของห้อง”บางรัก”ซักเท่าไหร่ เพราะคิดว่าผมคงไม่สามารถช่วยออกความคิดเห็นให้กับใครได้เลย
ท่านที่มาแชร์ประสบการณ์ในห้องนี้อาจจะมีปัญหาในความรักและไม่สามารถหาทางออกได้ก็เลยมาระบาย
เช่นไม่สมหวังในความรัก อกหัก รักสามเศร้า แอบรักและแอบชอบเหมือนตัวของผมเองที่จะมาเล่าให้ฟัง...ดังนี้ครับ

     กันยายน 2560
หน่วยงานของผมได้รับเชิญให้ไปร่วมจัดแสดงงาน และผมก็ต้องไปอยู่ที่นั่น 3 วัน (ไปเช้าเย็นกลับ) ในขณะที่อยู่ในงานผมได้เจอ
ผู้คนมากมายได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้และแจกของพรีเมี่ยมของหน่วยงานให้กับคนที่เข้ามาในบูทจนผมได้พบกับผู้หญิงคน
หนึ่ง แรกเห็นก็รู้สึกเลยว่า เออ...ผู้หญิงคนนี้ดูดีนะอาจจะไม่น่ารักจนสะดุดตาผู้คน แต่เธอตรงสเป๊กผมครับ ลักษณะ ผิวขาวผม
ยาวประบ่า ดัดฟัน เธอไม่ใช่คนที่สวยอะไรมากมาย และเธอก็ใส่แว่นครับผมได้พูดคุยกับเธอเพียงแค่สองสามคำเท่านั้น
และให้ของกับเธอไป ในขณะที่เธอแวะมาที่บูทของผม เวลาที่เธออยู่ในบริเวณงาน ผมก็แอบมองเธออยู่บ่อยๆตลอดเวลา 3 วัน
.
.
.
                                                                        Chapter 1.....แอบมองเธออยู่นะจ๊ะ

     กันยายน 2561
     หน่วยงานของผมได้รับเชิญอีกครั้งให้ไปร่วมจัดงานอีกเช่นเคย  ในปีนี้ผมหวังว่าจะได้เจอสาวแว่นคนนั้นอีกครั้ง
และจะทำความรู้จัก ในวันแรกผมคอยมองหาเธออยู่ตลอดเวลา ผิดหวังครับ ผมไม่เห็นสาวแว่นคนนั้นเลย
ผมคิดว่าเธอคงยังไม่ว่างหรือวันนี้เธออาจจะยังไม่มาก็เป็นได้ ในความผิดหวังก็ยังมีเรื่องที่ดีดีเกิดขึ้นเสมอครับ
ในขณะที่ผมได้แต่มองหาสาวแว่น ผมก็ได้เห็นผู้หญิงคนหนึ่งครับ ใช่ครับ สเป๊กผมอีกแล้ว ผู้หญิงผิวขาว
คนนี้ไม่ใส่แว่นครับ เธอเดินไปมาภายในงานทำให้ผมได้เห็นเธออยู่บ่อยๆ ผมแอบมองเธอ ได้เห็นเธอหัวเราะ
เห็นพูดคุยอยู่กับเพื่อนๆ เวลาที่เธอยิ้ม ตาของเธอจะตี่ๆเล็กๆ ผมขอเรียกเธอว่าสาวตาตี่
ผมหยิบมือถือขึ้นมาพยายามแอบถ่ายรูปเธอ เธออยู่ไกล ผมพยายามซูมสุดๆเลยครับ และก็ได้รูปที่เธอกำลังยืนหัวเราะ
ประทับใจมากครับ เคยไหมครับแอบถ่ายรูปคนอื่นขยายจนรูปแตกรูปเบลอ แต่เราก็ยังแอบยิ้มและมีความสุขคนเดียว

     วันต่อมา ผมก็ยังคงมองหาสาวแว่นคนนั้นเช่นเคย แต่ก็ไม่เห็นครับ เห็นแต่สาวตาตี่ เธอไม่ได้เข้ามาที่บูท
ได้แต่เดินผ่านไปผ่านมา เวลาผ่านไป 2 วันแล้ว ผมก็ยังมีความสุขกับการแอบมองสาวตาตี่คนนั้นครับ
แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะมองหาสาวแว่นนะครับ

     วันสุดท้าย.....เหมือนเดิม เหมือนทุกวัน ผมยังคงมองหาสาวแว่นแต่ก็ไม่เจอเช่นเคย ผมคิดว่า เธอคงได้งานใหม่แล้ว
ผิดหวังนิดหน่อยครับ เวลาล่วงเลยมาเกือบเที่ยง ในขณะที่ผมกำลังนั่งเล่นมือถืออยู่ ผมเห็นสาวตาตี่กำลังเดินผ่านหน้าบูทผม
แล้วเธอหยุด มองมาที่ผมแล้วถามผมว่า “ปีนี้ไม่เอาของมาแจกเหรอคะ” ผมก็ตอบกลับไป เอ่อ...ครับ ปีนี้ไม่มีเลยครับ
จากนั้นเธอก็ยิ้มอ่อนๆแล้วก็เดินจากไป (ที่จริงของแจกก็มีครับ แต่มันมีน้อย ก็เลยคิดว่าอย่าเอามาเลยดีกว่า)
ผมงงสิครับ เธอรู้ได้ไงว่า ผมเคยเอาของมาแจก หรือเธอเคยมาเมื่อปีก่อน แต่เอ๊ะ...ทำไม่ผมไม่เคยเห็นผู้หญิงคนนี้นะ
ผมดีใจมากที่เธอเข้ามาทักทาย ถึงแม้ว่าจะมาถามหาของแจกก็ตาม ฮ่าๆๆ แล้วเวลาก็ผ่านไปจนถึงช่วงบ่าย
สุดท้ายก็ได้แต่เพียง “รูปเบลอๆที่เธอกำลังหัวเราะ”

จบงานครับ เก็บของกลับ  อย่าพึ่งอ้าวครับ เรื่องไม่จบเพียงแค่นี้.....
.
.
.

                                                                        Chapter 2.....Search

          กุกกักๆ ใช่แล้วครับ ผมกำลังหาของแจกเพื่อที่จะส่งไปให้สาวตาตี่คนนั้น นี่ไง...เจอแล้วครับ
ของที่หน่วยงานผลิตมาเพื่อใช้แจก ผมหยิบมาจำนวน ๑๐ ชิ้น ได้ล่ะเอาอันนี้แหละ เธอคงจะประทับใจ เธอต้องชอบแน่ๆ

          อ้าว.....เฮ้ย.....ยิ้มล่ะ..!!! แล้วจะส่งไปให้ใครล่ะ เธอชื่ออะไร นามสกุลอะไร อยู่แผนกไหน
รู้เพียงแต่ที่อยู่ที่ทำงานอย่างเดียว ทำไงดีว่ะ เอาไงดีว่ะ คิดคิดคิด.........
แบบนี้ล่ะกัน สมัยนี้เทคโนโลยีช่วยได้เยอะ ทุกหน่วยงาน ทั้งภาครัฐ เอกชน รัฐวิสาหกิจ บริษัท ห้าง ร้านต่างๆ
ต้องสร้างเพจในเฟสบุ๊คเป็นของตัวเองทุกหน่วยงาน นั่นไงมีจริงๆด้วย ผมเข้าไปที่เพจของหน่วยงานของเธอ
เพื่อที่จะดูว่าเธอเป็นแฟนเพจหรือป่าว เชี้ยยยยย.....!!! คนกดถูกใจเพจนี้เกือบหมื่นคน แล้วจะหายังไงว่ะเนี่ย ชื่อก็ไม่รู้จัก
แล้วถ้าเธอไม่ได้ไลค์เพจนี้หล่ะ ถ้าเธอไม่ได้ใช้รูปตัวเองหละ เอารูปการ์ตูน หมาแมว ท้องฟ้า ทะเล ภูเขา มาแทนรูปโปร์ไฟว์
ทำไงดีว่ะเนี่ย...เรียกได้ว่าไล่ดูแต่ล่ะคนเลยทีเดียว

     แกรกๆๆๆ เสียงเลื่อนเม้าท์ผ่านไปครึ่งวัน...ก็ยังไม่มีวี่แววจะเจอ ทำไงดีเนี่ย เจอแต่คนสวยๆ แต่ไม่ใช่เธอ
แกรกๆๆๆ นั่นไง...อ่ะใช่แล้ว เจอครับเจอ เจอเพื่อนเธอครับ ผมจำหน้าเพื่อนของเธอได้แม่นเลยทีเดียว
เพราะเพื่อนเธอคนนี้ สวย น่ารัก สะดุดตา เด่นขึ้นมาทันทีเลย เพื่อนของเธอคนนี้เป็นผู้หญิงที่หน้าตาดีเลยทีเดียว
แต่ทำอะไรผมไม่ได้หรอกครับ เพราะผมชอบสาวตาตี่มากกว่า  แล้วผมก็เข้าไปดูในเฟสบุ๊คของเพื่อนเธอ
โอ้แม่เจ้า...ไม่ธรรมดาเลย เพื่อนในเฟส จากหลักหมื่น ลดลงมาหน่อยครับประมาณ ๒ พันกว่าคน เฮ้อออออ
แกรกๆๆๆ เหมือนเดิมครับ  เลื่อนแล้วก็คลิก จะหมดวันอยู่แล้ว วันนี้ทั้งวันยังไม่ได้ทำอะไรเลย ตามหาคนในเฟสบุ๊ค
อ่ะอ่ะอ่ะ เฮ้ย...นี่ไง เจอแล้ว เจอแล้วครับ เพื่อนของเธออีกแล้ว คนนี้ก็จำได้ครับ คนนี้ไม่สวย อ้วนๆ แล้วผมก็เข้าไปดู

(เอ่อ...ท่านผู้อ่านครับ คุณอาจจะคิดว่าผมโม้ แต่ที่ผมเล่ามาเนี่ยไม่ได้แต่งให้มันตลกนะครับ เรื่องจริงเลยครับ)

พอเข้ามาดูเพื่อนในเฟสคนนี้แล้ว ค่อยโลงหน่อยครับ มีเพื่อนหลักร้อยครับ พอไหวๆ แต่ผมเลื่อนดูฟีดที่โพสก่อนครับ
เพราะว่าเพื่อนคนนี้ตั้งค่าสาธารณะ เลยสามารถเห็นโพสทุกโพส แกรกๆๆๆ เห็นโพสมีงานประชุม มีไปเที่ยว มีงานอบรม เฮ้ยๆๆ อะไรแว๊ปๆ  

BINGO BINGO BINGO...........เจอแล้วคร้าบบบบบบบ  คราวนี้เจอจริงๆครับ เจอรูปที่เธอไปอบรมด้วยกันครับ เย้ๆๆๆ  
ไหนดูสิ คลิ๊กเข้าไปดู ช่ายยยยยเลยยยยยยย โดนใจฉันเลย ผมก็เลยเข้าไปดูรูปเพื่อว่าเพื่อนเธอจะแท็กชื่อเธอ
และแล้วก็มีจริงๆครับ ฮ่าๆๆ ผมคลิ๊กเข้าไปดูที่โปรไฟว์ของเธออย่างไม่รอช้าผมดูโปรไฟว์เธอ ดูรูปที่เธอโพส
ผมคิดว่าหลายๆคนก็คงเป็นเหมือนผม ณ นาทีนี้ อยากรู้การใช้ชีวิตคนที่เราชอบ วันหยุดทำอะไรบ้าง ไปเที่ยวไหน
ชอบอะไร รักสัตว์มั้ย และที่สำคัญอยากรู้ว่า “เธอมีแฟนหรือยัง”
.
.
.

                                                                         Chapter 3.....คดีพลิก

          ผมนั่งดู นอนดูเฟสบุ๊กเธอทั้งคืน แปลกใจมากครับ ทำไมรูปโปรไฟว์เป็นรูปที่ไม่ใส่แว่น แต่รูปที่เธอโพสไปเที่ยว
ตามสถานที่ต่างๆ หรือที่ทำงานส่วนใหญ่เธอใส่แว่น คุณพระ...! หรือว่าเธอคือผู้หญิงที่ใส่แว่นคนนั้น ต้องใช่แน่ๆ ใช่แล้ว ใช่เลย ชัวร์แล้ว
โอ้มายกอด นี่ผมชอบผู้หญิง 2 คน แต่เค้าคือคนคนเดียวกันใช่ไหม...ตอนนี้ผมบอกตรงๆเลยนะครับว่าผมรู้สึกดีใจมาก
ที่สาวตาตี่คือสาวแว่นที่ผมคอยมองหาตลอดระยะเวลาสามวัน แล้วผมก็ได้ชื่อ-นามสกุลเธอครับ โชคดีมากครับ
เธอใช้ชื่อจริงนามสกุลจริง แต่เป็นภาษาอังกฤษ ที่สำคัญ เธอตั้งสเตตัสว่า “โสด” เธอน่ารักมากครับ

          ผมไปไปรษณีย์แต่เช้า ส่งพัสดุลง EMSให้เธอ อยากให้ของได้ถึงไวๆ แล้วก็เขียนโพสอิทข้อความสั้นๆใส่ลงไปด้วยครับ
ผมส่งของวันอังคาร คิดว่าคงจะถึงวันพฤหัสหรืออย่างช้าน่าจะวันศุกร์ สองสามวันมานี้ผมส่องเฟสบุ๊กเธอเป็นประจำเลยครับ
จนถึงเย็นวันศุกร์ผมก็ตัดสินใจ แอดเฟรนด์เพื่ออยากจะถามว่าได้ของที่ส่งไปให้หรือยัง แค่นั้นจริงๆ คืนวันศุกร์ผ่านไป
วันเสาร์ผ่านไป และวันอาทิตย์ก็ผ่านไป ผมรอให้เธอตอบรับ แต่เธอไม่รับผมเป็นเพื่อน ผมรู้สึกผิดหวังนิดหน่อย
แต่ก็คิดว่าเค้าคงได้แล้วแหละ ไม่เป็นไรครับ เช้าวันจันทร์ผมยกเลิกคำขอเป็นเพื่อน แต่ก็ยังแอบดูแอบส่องเฟสเธออยู่ครับ

          1 อาทิตย์ผ่านไป ผมได้รับพัสดุครับ เพื่อนร่วมงานกำลังเดินเอามาให้ ในใจคิด เอ๊ะช่วงนี้เราไม่สั่งอะไรในลาซาด้านี่หว่า
พอเห็นหน้าซองก็ตกใจมากครับ เธอส่งของมา ตอนนั้นสมองผมคิดอย่างเดียวเลยครับ เธอ...ส่ง...ของ...มา...คืน
ผมใจไม่ดีเลยครับ ไม่อยากเปิดดูเลย พลางถอนหายใจแล้วค่อยๆแกะพัสดุออกดูอย่างหดหู่  หืมมมมม ไม่ใช่อย่างที่คิดครับ
ของที่เธอส่งมาให้คือ ของที่หน่วยงานเธอทำขึ้นสำหรับผู้ที่มาลงทะเบียนเข้าร่วมงานที่ผมไป ซึ่งผมก็ยังไม่ได้เลยครับ
ผมดีใจมากครับที่เธอส่งของมาให้ แล้วเธอก็มีโพสอิทข้อความสั้นๆเช่นกัน  ผมนั่งดูของที่เธอส่งมาให้พร้อมอ่านข้อความสั้นๆจากโพสอิท
ตอนนี้ผมความรู้สึกที่ประทับใจสุดๆ  ผมอยากจะขอบคุณเธอ แต่ไม่รู้จะบอกไปทางไหนดี เพราะขอแอดเฟรนด์เธอก็ไม่รับแอด
คงมีวิธีนี้วิธีเดียวแหละครับ คือ “ส่งจดหมาย”

          วันต่อมาผมเริ่มลงมือพิมพ์จดหมายฉบับสั้นๆ โดยในจดหมายผมได้บอกกับเธอว่า ผมได้รับของที่ส่งมาให้แล้ว
และไม่รู้จะขอบคุณมาทางไหน บลา บลา บลา...ขอบคุณนะครับ ยังไงก็รักษาสุขภาพด้วยนะครับ แล้วผมก็ส่งจดหมายไปให้เธอครับ
คืนนั้นผมนั่งอ่านหนังสือและเล่นคอมไปด้วย ผมเปิดเฟสบุ๊คของผมโดยผมไม่เคยเปิดดูข้อความที่คนส่งมาให้เลย
เพราะคนส่วนน้อยสมัยนี้คุยแชททางแอพพลิเคชั่นไลน์มากกว่าทางเฟสบุ๊ค เอ๊ะ...!!! ใครพิมพ์ข้อความมาหาเรานะ
ผมคลิ๊กเข้าไปดู แล้วก็ตกใจมากๆ เฮ้ยยยนั่นเธอ พิมพ์มา แต่ต้องตกใจมากยิ่งขึ้น เพราะเป็นข้อความที่ส่งมาตั้งแต่อาทิตย์ก่อน
ผมไม่เคยดูข้อความเข้านานขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย เป็นข้อความที่เธอทักทายมาและสติ๊กเกอร์ ผมไม่รอช้า
ส่งสติ๊กเกอร์กลับไปและทักทายเธอเช่นกัน ตามด้วยข้อความขอโทษที่ไม่ได้อ่านข้อความ เธออ่านและหัวเราะ
ผมบอกกับเธอว่า วันนี้พึ่งส่งจดหมายขอบคุณไปให้เองครับ เธอส่งสติกเกอร์กลับมาและผมกับเธอก็คุยกันอีกเล็กน้อย
ก่อนที่เธอจะขอบคุณและส่งสติ๊กเกอร์มา และผมส่งสติ๊กเกอร์กลับไป...........

_______________________________________________________________________________________________


          เรื่องของผมจบแล้วครับ หลายๆท่านคงคิดนะครับว่า ทำไม่ไม่แชตต่อไปเรื่อยๆ คุยต่อ หรือจีบเลยสิ
ส่วนตัวผม ผมคิดดีแล้วครับ และคิดว่าทำถูกแล้วที่เลือกจะแอบชอบและประทับใจอยู่ฝ่ายเดียว ไม่เริ่ม ไม่สานต่อ
เพราะผมไม่รู้ว่าเธออาจจะมีใครหรือคบใครอยู่หรือป่าว เธออาจจะไม่มีใครก็ได้ครับ
     ทุกวันนี้จากที่เคยแอบส่องเฟสแทบทุกชั่วโมง เหลือวันละแค่ 2-3 ครั้ง เพราะผมยังรู้สึกดีกับเธอ
และเคยคิดเล่นๆว่าถ้าได้เป็นแฟนกัน ผมจะไม่มีวันทำให้เธอเสียใจ ณ ตอนนี้ถ้าพูดตรงๆก็ยังนึกถึงเธอ
และซักวันนึงผมคงจะเลิกดูเฟสของเธอและลืมเธอได้.....นี่แหละครับผมเลือกที่จะเก็บความรู้สึกดีๆไว้ในความทรงจำคนเดียว

ขอบคุณนะครับที่เข้ามาอ่านประสบการณ์ของผม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่