สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
บ้านคุณเป็น 3 ชั้น
ควรเดินสาย LAN จากจุดกลางที่วาง Modem ไปยังทุก ๆ ชั้น แล้วหา Wireless Router ไปวาง
ในแต่ละชั้นครับ
ผมเคยตอบไว้กระทู้หนึ่ง ยาวพอควร
ขอยกมา ไว้ในนี้ เผื่อมีประโยชน์บ้าง ไม่มากก็น้อยครับ
เรื่องของ WiFi สิ่งที่จะกระทบ หรือมีปัญหา ต่อ WiFi คือ
A. เรื่อง Channel
เหมือนกับต่างคน ต่างก็จะออกอากาศสัญญาณ Net ของบ้านตัวเอง
ก็ย่อมจะชนกับเพื่อนบ้านบ้าง
ซึ่งหากสัญญาณชนกัน แต่บ้านอยู่ห่างกัน ก็ไม่เป็นไร เพราะ เราอยู่ใกล้ตัวออกอากาศ(ตัวปล่อย WiFi) ของบ้านเรา
เพื่อนบ้าน ก็อยู่ใกล้ตัว WiFi บ้านเขา สัญญาณบ้านเขามาถึงบ้านเรา แม้จะชน แต่ก็สัญญาณอ่อนสู้ของเราที่อยู่ใกล้กว่าไม่ได้
- หากใช้ 2.4GHz ก็จะมีช่องสัญญาณให้ เลือก 14 ช่อง (ช่อง 14 สำหรับอุปกรณ์จากโซนญี่ปุ่น)
- หากใช้ 5GHz ก็จะมีช่องสัญญาณให้เลือก มากกว่า เกือบเท่าตัว ครับ
ก็จะเห็นว่า 2.4GHz มีโอกาสชนเยอะกว่า (ทั้งขอบสัญญาณชน ก็ด้วย เพราะสัญญาณหนึ่ง ๆ ก็จะลามไปประมาณ 2 ช่องรอบ ๆตัว)
เช่น เพื่อนบ้าน ใช้ Channel 6 เราก็ต้องระวังอย่าไปใช้ Channel 4,5 เพราะว่า ขอบสัญญาณยังคงกวนกัน

B. เรื่องความเร็ว (G-Giga พันล้าน , Hz รอบต่อวินาที)
2.4GHz ก็คือ ประมาณ ความถี่ 2.4 พันล้านรอบต่อวินาที (2พัน4ร้อย ล้าน รอบต่อวินาที )
5GHz ก็คือ 5 พันล้านรอบต่อวินาที
ก็จะเห็นว่า ความถี่ผิดกันเกือบ 2 เท่า
การพาข้อมูลไปพร้อมความถี่สูง ๆ ก็ย่อมจะพาไปได้เร็วกว่า ครับ
C. ความไกล(ระยะทาง)
ถ้า อุปกรณ์ 2.4GHz ที่ใช้ตามบ้าน หากปล่อยในสนามโล่ง ๆ ก็จะไปได้ประมาณ 100 เมตร
ถ้า เป็น 5GHz ก็จะได้ประมาณ 30 เมตร ครับ
ซึ่งหากมีสิ่งกีดขวาง ก็จะยิ่งลดลงครับ
D. การทะลุทะลวงสิ่งกีดขวาง (นับทั้งผนัง ตู้เสื้อผ้า เสื้อผ้าในตู้ เพดาน พื้น ประตู ตู้หนังสือ ประตูกระจก)
- 2.4GHz นี่ผนังบ้าน 3 ชั้น ยังพอใช้งานได้
- 5GHz ผนังชั้นเดียว ก็เหลือไม่ถึงครึ่ง ครับ
(ยกตัวอย่างชัด ๆ ของเพื่อนผม ติด WiFi ใน Office วาง Router ไว้ห่างประตูกระจก Office ประมาณ 5 เมตร
เดินออกมานอก Office แล้วปิดประตูกระจกนั้น
5GHz เหลือไม่ถึงครึ่ง ... เดินออกไปกลางถนน หน้า Office ห่างประมาณ 2 คันรถ ... ไม่เหลือให้ใช้งาน
ในขณะที่ 2.4GHz นั้น ข้ามถนนไป ยังใช้ได้สบายครับ)
สำหรับการติดตั้งใช้งาน WiFi ในบ้าน
หากเพิ่งจะเริ่มติดตั้ง และ ยังเดินสายไฟ สาย LAN ได้ทัน ผมมีข้อแนะนำดังนี้ครับ
1. ใครเกิดทันสมัย โทรศัพท์บ้าน ยังเป็นสิ่งจำเป็น (ยังไม่มีโทรมือถือ)
จะเห็นว่า สมัยก่อน เราจะเดินสายพ่วงโทรศัพท์ไปไว้ในแต่ละห้อง เผื่อ ๆ กันไว้ ก็ยังได้
แล้วทำไม ปัจจุบัน เราไม่เดินสาย LAN ไปไว้ตามจุดต่าง ๆ ในบ้าน ซะ ให้เรียบร้อย
สายโทรศัพท์เดี๋ยวนี้ แทบไม่ใช้กันแล้ว.. เดินสาย LAN ไปหลาย ๆ จุดในบ้านดีกว่าครับ
ที่ว่าหลาย ๆ จุดนี้ ผมหมายรวมถึง การกระจายจากจุดหลัก ไปยังจุดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น
- ห้องนอนทุกห้อง
- โถงรวมกลาง ๆ ชั้นแต่ละชั้น
- ห้องครัว
คือ เดินสายไว้ก่อน จะใช้ไม่ใช้ค่อยว่ากัน
หากกังวล ว่า จุดรวมสาย จะมีช่องไม่พอเสียบ (เพราะเราเห็นว่า มีกันแค่ 4 ช่อง) ก็ซื้อ Switch Hub ราคาหลักร้อยมาเสริมก็ได้ ครับ
หากกังวลว่า ปลายสายทิ้งไว้ ไม่สวย ก็แค่ใส่เต้ารับตัวเมีย ติดผนังไว้ให้สวยงาม ก็ได้ครับ

2. อย่าคาดหวัง จะวาง Wireless Router ตัวเดียว แล้วให้กระจาย WiFi ได้ทั่วบ้าน
WiFi มีข้อจำกัด ครับ คือ แพ้สิ่งกีดขวาง
ณ วันที่เพิ่งเข้าอยู่บ้าน อาจรู้สึกว่า WiFi แรงดี เพิ่งติดตั้ง
แต่พออยู่ไป เฟอร์นิเจอร์เริ่มเยอะ ของเริ่มเยอะ สิ่งกีดขวางก็เยอะตาม ครับ
ดังนั้น ควรวาง Wireless Router กระจายทั่วบ้านจะดีกว่าครับ
3. หากคุณไปหาซื้อ Wireless Router ที่มีกำลังส่ง สูง ๆ ทะลุทะลวง ผนังบ้าน จากหน้าบ้าน ยันหลังบ้านได้
แต่ก็อย่าลืมว่า ถ้าคุณนั่งเล่น มือถือ ที่หลังบ้าน... มือถือคุณมองเห็น WiFi หน้าบ้าน
เชื่อมต่อได้ Download ได้ แต่... Upload หรือส่งข้อมูลกลับไป ไม่ไหว นะครับ
ก็เหมือนหน้าบ้านใช้โทรโข่ง เพื่อคุยกับหลังบ้าน แต่หลังบ้าน ใช้ปากคนตะโกนกลับไปหาหน้าบ้านครับ
4. การ กระจายตัวปล่อย WiFi ทั่ว ๆ บ้าน จะเป็นการชดเชยการชนกับ WiFi เพื่อนบ้านได้ดีมากครับ
ยิ่งทุกวันนี้ แต่ละบ้านก็แย่งกันปล่อย WiFi โอกาสชน ก็มีสูง
แต่ถึงแม้จะชน ถ้าเราอยู่ใกล้ตัวปล่อยมากกว่า ก็ ชดเชยปัญหาเรื่องการชนกันได้มาก ๆ เลยครับ
5. WiFi 5GHz นั้นได้ความเร็วสูง แต่ไปไม่ไกล / ไม่ทะลุผนัง
หากอยากใช้ความเร็วสูงในห้องนอน ห้องนั่งเล่น
ก็ควร เพิ่ม Wireless Router ไว้ในห้องนั่งเล่น / ห้องนอน ครับ จะใช้งานได้อย่างมีความสุข
6. หากคิดจะใช้ PowerLine (แปลงสาย LAN ส่งเข้าไปทางสายไฟบ้าน แล้วไปแปลงกลับ เป็นสาย LAN ที่ปลายทาง)
สู้เดินสาย LAN กระจาย รอไว้ จะได้ความเร็วดีกว่า / ประหยัดกว่า / เสถียรกว่า ครับ
7. หากคิดจะใช้ WiFi Repeater/WiFi Range Extender (ทวนสัญญาณ WiFi กลางทาง แบบไร้สาย)
ให้รับทราบก่อนว่า ความเร็วจะหดหายไปเป็นครึ่ง ๆ เลยครับ
เหมือนคุณจะคุยกับแฟน แล้วจ้างคน มายืนตรงกลาง เพื่อส่งข้อความคุณไปหาแฟน แล้วรับข้อความแฟน หันกลับมาบอกคุณ
ก็ต้องหันซ้ายทีขวาที เพื่อรับข้อความส่งไปมา ครับ (แค่เปรียบเทียบคร่าว ๆ)
8. ควรวาง Router กระจายทั่วบ้าน ทุกชั้น
ดีกว่าไปหา Router แรง ๆ ตัวเดียวแล้ว พยายามฝืนส่งสัญญาณให้ทั่วบ้านและทะลุหลาย ๆ ชั้น
9. ปัญหา สัญญาณ 2.4 GHz ชนกับเพื่อนบ้าน แก้ได้โดยวาง Router อยู่ใกล้ ๆ กับผู้ใช้ เช่นในห้องเดียวกัน ยิ่งดี
10. ปัญหา สัญญาณชนกับเพื่อนบ้าน แก้ได้โดยใช้ WiFi 5GHz
11. ปัญหา WiFi แรง แต่ไม่เร็ว แก้ได้โดยใช้ WiFi 5GHz
12. ปัญหา WiFi 5GHz ไม่ทะลุผนัง และไปไม่ไกล ไม่ข้ามชั้น ไม่ข้ามห้อง แก้ได้โดย วาง Router อยู่ใกล้ ๆ กับผู้ใช้ เช่นในห้องเดียวกัน ยิ่งดี
13. ปัญหาการไม่อยากเดินสาย แต่มีงบประมาณ เยอะ
ก็เลี่ยงโดยใช้ PowerLine และ Mesh (วาง Router กระจายหลาย ๆ ตัวทั่วบ้าน เสมือนตาข่าย ให้สัญญาณวิ่งหากันเองทาง WiFi)
จะเห็นว่า ในเนื้อหา ผมไม่ค่อยจะกล่าวถึง Access Point แต่มักจะแนะนำเป็น Router
เพราะผมมีความเห็นโดยส่วนตัว ว่า
Access Point ส่วนใหญ่ ก็คือ อุปกรณ์ที่ใช้แปลง สาย LAN ให้ออกเป็น WiFi
ส่วนใหญ่ ก็เลยมีช่อง LAN ช่องเดียว (ยกเว้นบางรุ่น)
นั่นก็คือ เสียบแล้ว ก็หมด จบ ไม่เหลือ
ดังนั้น หากคุณเอา Access Point ไปเสียบสาย LAN ปลายทาง
แล้วเกิดอยากใช้คอมพ์ตั้งโต๊ะ / Smart TV/ กล้องวงจรปิด ฯลฯ
แล้วจะทำอย่างไร
ในขณะที่ Wireless Router นั้น ปัจจุบัน ก็ราคาไม่แพง แถมยังมีตัวเลือก เยอะกว่า Access Point ด้วย
Wireless Router จะมีช่อง WAN ที่ต่างจากเพื่อนมา1 ช่อง และมีช่อง LAN เหลืออีก (ส่วนใหญ่ มี 4)
Wireless Router สามารถตั้งค่า ให้ทำงานในแบบ Router ก็ได้ (สายเข้าทางช่อง WAN)
Wireless Router สามารถตั้งค่า ให้ทำงานในแบบ Access Point ก็ได้ (สายเข้าทางช่อง LAN และต้องตั้งค่าอีก 2 อย่าง)
Wireless Router พอใช้เป็น Access Point แล้ว ก็จะยังมี ช่อง LAN เหลือให้ต่ออย่างอื่นเพิ่มได้อีก
ควรเดินสาย LAN จากจุดกลางที่วาง Modem ไปยังทุก ๆ ชั้น แล้วหา Wireless Router ไปวาง
ในแต่ละชั้นครับ
ผมเคยตอบไว้กระทู้หนึ่ง ยาวพอควร
ขอยกมา ไว้ในนี้ เผื่อมีประโยชน์บ้าง ไม่มากก็น้อยครับ
เรื่องของ WiFi สิ่งที่จะกระทบ หรือมีปัญหา ต่อ WiFi คือ
A. เรื่อง Channel
เหมือนกับต่างคน ต่างก็จะออกอากาศสัญญาณ Net ของบ้านตัวเอง
ก็ย่อมจะชนกับเพื่อนบ้านบ้าง
ซึ่งหากสัญญาณชนกัน แต่บ้านอยู่ห่างกัน ก็ไม่เป็นไร เพราะ เราอยู่ใกล้ตัวออกอากาศ(ตัวปล่อย WiFi) ของบ้านเรา
เพื่อนบ้าน ก็อยู่ใกล้ตัว WiFi บ้านเขา สัญญาณบ้านเขามาถึงบ้านเรา แม้จะชน แต่ก็สัญญาณอ่อนสู้ของเราที่อยู่ใกล้กว่าไม่ได้
- หากใช้ 2.4GHz ก็จะมีช่องสัญญาณให้ เลือก 14 ช่อง (ช่อง 14 สำหรับอุปกรณ์จากโซนญี่ปุ่น)
- หากใช้ 5GHz ก็จะมีช่องสัญญาณให้เลือก มากกว่า เกือบเท่าตัว ครับ
ก็จะเห็นว่า 2.4GHz มีโอกาสชนเยอะกว่า (ทั้งขอบสัญญาณชน ก็ด้วย เพราะสัญญาณหนึ่ง ๆ ก็จะลามไปประมาณ 2 ช่องรอบ ๆตัว)
เช่น เพื่อนบ้าน ใช้ Channel 6 เราก็ต้องระวังอย่าไปใช้ Channel 4,5 เพราะว่า ขอบสัญญาณยังคงกวนกัน

B. เรื่องความเร็ว (G-Giga พันล้าน , Hz รอบต่อวินาที)
2.4GHz ก็คือ ประมาณ ความถี่ 2.4 พันล้านรอบต่อวินาที (2พัน4ร้อย ล้าน รอบต่อวินาที )
5GHz ก็คือ 5 พันล้านรอบต่อวินาที
ก็จะเห็นว่า ความถี่ผิดกันเกือบ 2 เท่า
การพาข้อมูลไปพร้อมความถี่สูง ๆ ก็ย่อมจะพาไปได้เร็วกว่า ครับ
C. ความไกล(ระยะทาง)
ถ้า อุปกรณ์ 2.4GHz ที่ใช้ตามบ้าน หากปล่อยในสนามโล่ง ๆ ก็จะไปได้ประมาณ 100 เมตร
ถ้า เป็น 5GHz ก็จะได้ประมาณ 30 เมตร ครับ
ซึ่งหากมีสิ่งกีดขวาง ก็จะยิ่งลดลงครับ
D. การทะลุทะลวงสิ่งกีดขวาง (นับทั้งผนัง ตู้เสื้อผ้า เสื้อผ้าในตู้ เพดาน พื้น ประตู ตู้หนังสือ ประตูกระจก)
- 2.4GHz นี่ผนังบ้าน 3 ชั้น ยังพอใช้งานได้
- 5GHz ผนังชั้นเดียว ก็เหลือไม่ถึงครึ่ง ครับ
(ยกตัวอย่างชัด ๆ ของเพื่อนผม ติด WiFi ใน Office วาง Router ไว้ห่างประตูกระจก Office ประมาณ 5 เมตร
เดินออกมานอก Office แล้วปิดประตูกระจกนั้น
5GHz เหลือไม่ถึงครึ่ง ... เดินออกไปกลางถนน หน้า Office ห่างประมาณ 2 คันรถ ... ไม่เหลือให้ใช้งาน
ในขณะที่ 2.4GHz นั้น ข้ามถนนไป ยังใช้ได้สบายครับ)
สำหรับการติดตั้งใช้งาน WiFi ในบ้าน
หากเพิ่งจะเริ่มติดตั้ง และ ยังเดินสายไฟ สาย LAN ได้ทัน ผมมีข้อแนะนำดังนี้ครับ
1. ใครเกิดทันสมัย โทรศัพท์บ้าน ยังเป็นสิ่งจำเป็น (ยังไม่มีโทรมือถือ)
จะเห็นว่า สมัยก่อน เราจะเดินสายพ่วงโทรศัพท์ไปไว้ในแต่ละห้อง เผื่อ ๆ กันไว้ ก็ยังได้
แล้วทำไม ปัจจุบัน เราไม่เดินสาย LAN ไปไว้ตามจุดต่าง ๆ ในบ้าน ซะ ให้เรียบร้อย
สายโทรศัพท์เดี๋ยวนี้ แทบไม่ใช้กันแล้ว.. เดินสาย LAN ไปหลาย ๆ จุดในบ้านดีกว่าครับ
ที่ว่าหลาย ๆ จุดนี้ ผมหมายรวมถึง การกระจายจากจุดหลัก ไปยังจุดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น
- ห้องนอนทุกห้อง
- โถงรวมกลาง ๆ ชั้นแต่ละชั้น
- ห้องครัว
คือ เดินสายไว้ก่อน จะใช้ไม่ใช้ค่อยว่ากัน
หากกังวล ว่า จุดรวมสาย จะมีช่องไม่พอเสียบ (เพราะเราเห็นว่า มีกันแค่ 4 ช่อง) ก็ซื้อ Switch Hub ราคาหลักร้อยมาเสริมก็ได้ ครับ
หากกังวลว่า ปลายสายทิ้งไว้ ไม่สวย ก็แค่ใส่เต้ารับตัวเมีย ติดผนังไว้ให้สวยงาม ก็ได้ครับ

2. อย่าคาดหวัง จะวาง Wireless Router ตัวเดียว แล้วให้กระจาย WiFi ได้ทั่วบ้าน
WiFi มีข้อจำกัด ครับ คือ แพ้สิ่งกีดขวาง
ณ วันที่เพิ่งเข้าอยู่บ้าน อาจรู้สึกว่า WiFi แรงดี เพิ่งติดตั้ง
แต่พออยู่ไป เฟอร์นิเจอร์เริ่มเยอะ ของเริ่มเยอะ สิ่งกีดขวางก็เยอะตาม ครับ
ดังนั้น ควรวาง Wireless Router กระจายทั่วบ้านจะดีกว่าครับ
3. หากคุณไปหาซื้อ Wireless Router ที่มีกำลังส่ง สูง ๆ ทะลุทะลวง ผนังบ้าน จากหน้าบ้าน ยันหลังบ้านได้
แต่ก็อย่าลืมว่า ถ้าคุณนั่งเล่น มือถือ ที่หลังบ้าน... มือถือคุณมองเห็น WiFi หน้าบ้าน
เชื่อมต่อได้ Download ได้ แต่... Upload หรือส่งข้อมูลกลับไป ไม่ไหว นะครับ
ก็เหมือนหน้าบ้านใช้โทรโข่ง เพื่อคุยกับหลังบ้าน แต่หลังบ้าน ใช้ปากคนตะโกนกลับไปหาหน้าบ้านครับ
4. การ กระจายตัวปล่อย WiFi ทั่ว ๆ บ้าน จะเป็นการชดเชยการชนกับ WiFi เพื่อนบ้านได้ดีมากครับ
ยิ่งทุกวันนี้ แต่ละบ้านก็แย่งกันปล่อย WiFi โอกาสชน ก็มีสูง
แต่ถึงแม้จะชน ถ้าเราอยู่ใกล้ตัวปล่อยมากกว่า ก็ ชดเชยปัญหาเรื่องการชนกันได้มาก ๆ เลยครับ
5. WiFi 5GHz นั้นได้ความเร็วสูง แต่ไปไม่ไกล / ไม่ทะลุผนัง
หากอยากใช้ความเร็วสูงในห้องนอน ห้องนั่งเล่น
ก็ควร เพิ่ม Wireless Router ไว้ในห้องนั่งเล่น / ห้องนอน ครับ จะใช้งานได้อย่างมีความสุข
6. หากคิดจะใช้ PowerLine (แปลงสาย LAN ส่งเข้าไปทางสายไฟบ้าน แล้วไปแปลงกลับ เป็นสาย LAN ที่ปลายทาง)
สู้เดินสาย LAN กระจาย รอไว้ จะได้ความเร็วดีกว่า / ประหยัดกว่า / เสถียรกว่า ครับ
7. หากคิดจะใช้ WiFi Repeater/WiFi Range Extender (ทวนสัญญาณ WiFi กลางทาง แบบไร้สาย)
ให้รับทราบก่อนว่า ความเร็วจะหดหายไปเป็นครึ่ง ๆ เลยครับ
เหมือนคุณจะคุยกับแฟน แล้วจ้างคน มายืนตรงกลาง เพื่อส่งข้อความคุณไปหาแฟน แล้วรับข้อความแฟน หันกลับมาบอกคุณ
ก็ต้องหันซ้ายทีขวาที เพื่อรับข้อความส่งไปมา ครับ (แค่เปรียบเทียบคร่าว ๆ)
8. ควรวาง Router กระจายทั่วบ้าน ทุกชั้น
ดีกว่าไปหา Router แรง ๆ ตัวเดียวแล้ว พยายามฝืนส่งสัญญาณให้ทั่วบ้านและทะลุหลาย ๆ ชั้น
9. ปัญหา สัญญาณ 2.4 GHz ชนกับเพื่อนบ้าน แก้ได้โดยวาง Router อยู่ใกล้ ๆ กับผู้ใช้ เช่นในห้องเดียวกัน ยิ่งดี
10. ปัญหา สัญญาณชนกับเพื่อนบ้าน แก้ได้โดยใช้ WiFi 5GHz
11. ปัญหา WiFi แรง แต่ไม่เร็ว แก้ได้โดยใช้ WiFi 5GHz
12. ปัญหา WiFi 5GHz ไม่ทะลุผนัง และไปไม่ไกล ไม่ข้ามชั้น ไม่ข้ามห้อง แก้ได้โดย วาง Router อยู่ใกล้ ๆ กับผู้ใช้ เช่นในห้องเดียวกัน ยิ่งดี
13. ปัญหาการไม่อยากเดินสาย แต่มีงบประมาณ เยอะ
ก็เลี่ยงโดยใช้ PowerLine และ Mesh (วาง Router กระจายหลาย ๆ ตัวทั่วบ้าน เสมือนตาข่าย ให้สัญญาณวิ่งหากันเองทาง WiFi)
จะเห็นว่า ในเนื้อหา ผมไม่ค่อยจะกล่าวถึง Access Point แต่มักจะแนะนำเป็น Router
เพราะผมมีความเห็นโดยส่วนตัว ว่า
Access Point ส่วนใหญ่ ก็คือ อุปกรณ์ที่ใช้แปลง สาย LAN ให้ออกเป็น WiFi
ส่วนใหญ่ ก็เลยมีช่อง LAN ช่องเดียว (ยกเว้นบางรุ่น)
นั่นก็คือ เสียบแล้ว ก็หมด จบ ไม่เหลือ
ดังนั้น หากคุณเอา Access Point ไปเสียบสาย LAN ปลายทาง
แล้วเกิดอยากใช้คอมพ์ตั้งโต๊ะ / Smart TV/ กล้องวงจรปิด ฯลฯ
แล้วจะทำอย่างไร
ในขณะที่ Wireless Router นั้น ปัจจุบัน ก็ราคาไม่แพง แถมยังมีตัวเลือก เยอะกว่า Access Point ด้วย
Wireless Router จะมีช่อง WAN ที่ต่างจากเพื่อนมา1 ช่อง และมีช่อง LAN เหลืออีก (ส่วนใหญ่ มี 4)
Wireless Router สามารถตั้งค่า ให้ทำงานในแบบ Router ก็ได้ (สายเข้าทางช่อง WAN)
Wireless Router สามารถตั้งค่า ให้ทำงานในแบบ Access Point ก็ได้ (สายเข้าทางช่อง LAN และต้องตั้งค่าอีก 2 อย่าง)
Wireless Router พอใช้เป็น Access Point แล้ว ก็จะยังมี ช่อง LAN เหลือให้ต่ออย่างอื่นเพิ่มได้อีก
แสดงความคิดเห็น
ตัวขยายสัญญาณสามตัวนี้ตัวไหนดีกว่าครับ???
ระยะทาง20จากเมตรเราเตอร์สิ่งกีดขวางคือกำแพงระหว่างชั้นมีเครื่องใช้7เครื่อง งบไม่เกิน4500
ยี่ห้อที่สนใจคือtp-link
1.tp-link AC1200 Wi-Fi Range Extender
RE350
2.AC1750 Wi-Fi Range Extender
RE450
3.AC1900 Wi-Fi Range Extender
RE500
เลือกตัวไหนดีครับหรือมีเสนอเพิ่มก็ได้นะครับ