สวัสดีค่ะทุกคน
หลังจากที่มีโอกาสได้ร่วมทริป นุ่งโจงห่มสไบเที่ยวไทยภาคกลาง ที่จัดโดยผู้สนับสนุนดีใจอย่าง Pantip และ ททท. ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 28-30 กันยายน 2561 ที่ผ่านมา วันนี้ก็ได้ฤกษ์ตั้งกระทู้รีวิวบอกต่อความสนุกและประสบการณ์ที่ได้รับต่างๆในทริปนี้ค่ะ
***เนื่องจากกระทู้นี้เป็นกระทู้รีวิวครั้งแรก กล้องส่วนมากที่ถ่ายภาพมา จะใช้กล้องมือถือมากกว่า ถ่ายภาพอาจจะไม่ชำนาญเท่าที่ควรนะคะ หากมีอะไรผิดพลาดต้องขออภัยมาใน ณ ที่นี้ด้วยค่ะ ***
สำหรับคอนเซปของทริปนี้ก็คือ หนีพี่หมื่นเที่ยวพระนารายณ์ราชนิเวศน์ ตามแม่การะเกดมาเที่ยวตลาดกรุงศรีที่อยุธยา นุ่งโจงมากินกุ้งเผาที่สิงห์บุรี ตีซี้ป้าแอ๋วขอสูตรขนมตาลพับที่อ่างทอง
ทริปที่มีโอกาสได้ไปในครั้งนี้คือเส้นทางที่ 4 อ่างทอง – พระนครศรีอยุธยาค่ะ โดยมีนัดหมายให้มารวมตัวกันที่อาคารการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานใหญ่ และลงทะเบียน 7.00 น. เรามาถึงก่อนเพื่อน ส่วนเพื่อนบอกเลยว่าลาดพร้าวปวดร้าวทุกเช้าเย็นจริงๆ เนื่องจากวันศุกร์ตอนเช้าแถมเป็นสิ้นเดือนอีก งานนี้ต้องลงจาก Taxi ไปพึ่ง grab bike แทน
และนี่เป็นภาพบรรยากาศการลงทะเบียนในอาคารการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย อุ่นหนาฝาคั่งไปด้วยผู้โชคดีที่ได้มาร่วมทริปนี้
ลงทะเบียนเสร็จแล้ว ทีมงานแจกอาหารเช้าเป็นข้าวเหนียวหมู/เนื้อ รองท้องด้วยและมีของที่ระลึกน่ารักมาก แถมยังได้ใช้ในทริปเลยด้วย เสื้อ สมุดไกด์ พัด ป้ายห้อยคอและหมอนรองคอไว้นอนในรถ สบายย
จากนั้นผอ.ททท.กล่าวเปิดพิธี ให้ของที่ระลึกแล้วถ่ายรูปร่วมกัน
07:45 น.ล้อหมุน ออกเดินทางกันได้เลยยยย
บัสคันน้อยๆนั่งได้ประมาณ 20 คน ทริปนี้มีอาจารย์น้อย ไกด์นำเที่ยวจากททท. คอยแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆที่เราจะไปกันด้วยค่ะ
เส้นทางแรกที่เราจะมุ่งหน้าไปกันคือจ.ลพบุรีค่ะ เราใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชม. หลับๆตื่นๆ ก็ถึงที่หมาย คือพระปรางค์สามยอดและศาลพระกาฬ
ก่อนอื่นมาถึงที่นี่ ต้องเข้ามาสักการะ ขอพรศาลเจ้าพ่อพระกาฬ
ร้อนเนอะ หลบแดดหน่อย
พระปรางค์สามยอด น้องลิงเยอะมาก แนะนำว่าถ้าจะมาที่นี่ เก็บสัมภาระของท่านให้เรียบร้อย หมวก แว่น ไม่จำเป็นอย่าใส่นะคะ ไม่งั้นเจอลิงมาเฟียร์จับไปเรียกค่าไถ่แน่ๆ
อากาศวันนั้นร้อนมากจริงๆค่ะ ยังนึกห่วงลิงว่าเค้าจะร้อนกันแค่ไหน แล้วหันมาก็เจออ่างที่ให้ลิงลงไปเล่นน้ำคลายร้อน
จากนั้นพวกเราก็ออกเดินทางไปที่ตลาดโบราณบ้าน 4 ภาค ลพบุรี เข้ามาก็มี Welcome drink ให้เราดื่มกัน คือน้ำอัญชัญและน้ำเก๊กฮวย หวานเย็น ชื่นใจ คลายร้อนไปได้เยอะเลย
เรามาที่นี่เพื่อรวมตัวกัน พบปะพูดคุยกับคุณอภิศิลป์ ตรุงกานนท์ Co-founding Pantip เรื่องเทคนิคการเขียนรีวิวยังไงให้น่าสนใจและพูดคุยกับคุณจีจี้ กิจจา ลาโพธิ์ หัวหน้าฝ่ายเครื่องแต่งกายละครบุพเพสันนิวาส หลายคนอาจจะไม่คุ้นชื่อคุณจีจี้ แต่พอบอกว่าคุณจีจี้เป็นผู้รับบท “สาลี่” ในละครบุพเพสันนิวาสนั่นต้องอ๋อแน่นอน คุณจีจี้มาพูดคุยในเรื่องของแฟชั่นชุดไทยที่เราก็สามารถนำมาประยุกต์ใส่ในชีวิตประจำวันค่ะ
บ่ายแล้ว ท้องก็จะร้องหน่อยๆ ถึงเวลาของมื้อเที่ยง ร้านที่เราไปทานกัน “ฉัตรนารา”
เมนูออเดิร์ฟ รองท้อง รวมมิตรของทอด
ข้าวผัดปู
หลนใส่เนื้อหมูและกุ้งพร้อมผักเคียง
ต้มยำทะเล
ปลากระพงทอดราดน้ำปลา
เป็ดตุ๋นพะโล้ทอดกรอบทานคู่กับผักดองและเส้นหมี่ทอด อร่อยดีค่ะ เนื้อไม่เหนียว
ยำถั่วพลูใส่กุ้งสด
หมึกชุบแป้งทอดผัดไข่เค็ม
ตบท้ายผลไม้ล้างปาก
อิ่มพุงจิแตก แต่เราก็ยังไม่หยุดเที่ยวต่อนะคะ สถานีต่อไปคือ พิพิธภัณฑสถานพระนารายณ์ค่ะ โชคดีที่เราไปไม่มีฝนเลย แต่แดดก็ร้อนมากๆเช่นกัน 5555
พระนารายณ์ราชนิเวศน์ เป็นพระราชวังที่สมเด็จพระนารายณ์มหาราชโปรดให้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2209 เพื่อใช้เป็นที่ประทับ ล่าสัตว์ ออกว่าราชการ และต้อนรับแขกเมือง แบ่งเป็น 3 เขต เขตพระราชฐานชั้นนอก เขตพระราชฐานชั้นกลาง และ เขตพระราชฐานชั้นใน เราแยกย้ายกลุ่มตามอาจารย์ไกด์ไปตำแหน่งต่างๆ เพื่อฟังประวัติของแต่ละสถานที่
เมื่อก่อนพูดถึงพระเจ้าเหาบ่อยๆว่ามีจริงมั้ย เรามาดูตึกพระเจ้าเหากัน
หมู่ตึกสิบสองท้องพระคลัง แลนด์มาร์คสุดฮิตใครมาก็ต้องถ่ายรูป
ตึกเลี้ยงต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง
เราเดินเข้าประตูมาเขตพระราชฐานชั้นกลาง ที่เห็นตรงกำแพงมีรูเยอะแยะ อาจารย์น้อยบอกว่า สมัยก่อนเค้าเอาไว้ใส่ตะเกียงตอนกลางคืน เห็นแล้วก็นึกคิดว่า ในอดีตจะสวยขนาดไหน
มาถึงตึกที่เป็นไฮไลท์ของที่นี่อีกที่หนึ่ง
พระที่นั่งจันทรพิศาลที่คณะราชทูตฝรั่งเศสเข้าเฝ้าสมเด็จพระนารายณ์ เข้าไปแล้ว ขนลุกเลย เหมือนเราเห็นในละคร รู้ประวัติ จนได้มาเห็นของจริง
ด้านหลังมีพระที่นั่งพิมานมงกุฎ เป็นอาคารสูง 3 ชั้น สร้างขึ้นในรัชกาลที่ 4 หรือพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นสถาปัตยกรรมแบบจีน สมัยก่อนเป็นที่สำหรับเป็นที่ประทับส่วนพระองค์ แต่ปัจจุบันได้กลายเป็นห้องจัดแสดงโบราณวัตถุต่างๆ เช่น พระพุทธรูป ภาชนะดินเผา เครื่องมือเครื่องใช้ของคนในสมัยก่อน
นาฬิกาแดดค่ะ มีใครทราบวิธีดูมั้ยคะ
จะบอกว่ามีของให้ดูเยอะมาก เก็บภาพไม่หมดจริงๆค่ะ เพราะมีถึง3 ชั้น กับเวลาที่จำกัด อยากเห็นมากกว่าต้องมาเที่ยวที่พระนารายณ์ราชนิเวศน์กันนะคะ
กลับขึ้นรถตากแอร์เย็นๆ เหมือนทีมงานจะรู้ใจว่าอากาศร้อนมากแค่ไหน รีบเอาน้ำอัดลมเย็นๆมาแจกให้ดื่มคลายร้อนกัน จากนั้นเรามุ่งหน้าไปเช็คอินที่โรงแรมโอทู ได้คีย์การ์ดปุ๊บก็ขึ้นห้องเลย
เปิดประตูมาก็ว๊าวเลย โรงแรมที่นี่สะอาดค่ะ สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน แถมที่จอดรถก็ยิ่งใหญ่สะเหลือเกินอย่างกับรันเวย์สนามบิน บริเวณรอบๆก็มีร้านอาหารด้วย 7-11 ก็มา ไม่ต้องห่วงว่าจะไม่มีอะไรกินเลย
กลับมาปุ๊บ นั่งพักแป๊บๆก็รีบอาบน้ำ แต่งหน้า แต่งตัวตีมชุดไทย เพื่อจะไปทานอาหารเย็นกันที่ตลาดโบราณบ้าน 4 ภาคค่ะ ช่วยกันแต่งตัวกับเพื่อนเสร็จ ก็รีบลงมาขึ้นรถ เงยหน้าขึ้นมาก็ตะลึง เพราะแต่ละคนจัดเต็มกันมาก ไม่มีใครยอมใครทั้งสิ้น 5555
นุ่งโจงห่มสไบเที่ยวไทย เที่ยวภาคกลางที่ อ่างทอง ลพบุรี อยุธยา กับ Pantip และททท.
หลังจากที่มีโอกาสได้ร่วมทริป นุ่งโจงห่มสไบเที่ยวไทยภาคกลาง ที่จัดโดยผู้สนับสนุนดีใจอย่าง Pantip และ ททท. ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 28-30 กันยายน 2561 ที่ผ่านมา วันนี้ก็ได้ฤกษ์ตั้งกระทู้รีวิวบอกต่อความสนุกและประสบการณ์ที่ได้รับต่างๆในทริปนี้ค่ะ
***เนื่องจากกระทู้นี้เป็นกระทู้รีวิวครั้งแรก กล้องส่วนมากที่ถ่ายภาพมา จะใช้กล้องมือถือมากกว่า ถ่ายภาพอาจจะไม่ชำนาญเท่าที่ควรนะคะ หากมีอะไรผิดพลาดต้องขออภัยมาใน ณ ที่นี้ด้วยค่ะ ***
ทริปที่มีโอกาสได้ไปในครั้งนี้คือเส้นทางที่ 4 อ่างทอง – พระนครศรีอยุธยาค่ะ โดยมีนัดหมายให้มารวมตัวกันที่อาคารการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานใหญ่ และลงทะเบียน 7.00 น. เรามาถึงก่อนเพื่อน ส่วนเพื่อนบอกเลยว่าลาดพร้าวปวดร้าวทุกเช้าเย็นจริงๆ เนื่องจากวันศุกร์ตอนเช้าแถมเป็นสิ้นเดือนอีก งานนี้ต้องลงจาก Taxi ไปพึ่ง grab bike แทน
และนี่เป็นภาพบรรยากาศการลงทะเบียนในอาคารการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย อุ่นหนาฝาคั่งไปด้วยผู้โชคดีที่ได้มาร่วมทริปนี้
ลงทะเบียนเสร็จแล้ว ทีมงานแจกอาหารเช้าเป็นข้าวเหนียวหมู/เนื้อ รองท้องด้วยและมีของที่ระลึกน่ารักมาก แถมยังได้ใช้ในทริปเลยด้วย เสื้อ สมุดไกด์ พัด ป้ายห้อยคอและหมอนรองคอไว้นอนในรถ สบายย
07:45 น.ล้อหมุน ออกเดินทางกันได้เลยยยยบัสคันน้อยๆนั่งได้ประมาณ 20 คน ทริปนี้มีอาจารย์น้อย ไกด์นำเที่ยวจากททท. คอยแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆที่เราจะไปกันด้วยค่ะ