พยัคฆ์ร้าย ศูนย์ ศูนย์ ก๊าก รีเทิร์น
ทีแรกกะว่าจะไม่ดูอยู่แล้วครับ เพราะสองภาคแรกนั้นผมก็ไม่ได้ดูในโรง แต่เช่ามาดูแทน ซึ่งก็บรรเทิงในระดับนึงครับ หนังแนวนี้เหมาะมากในการนอนดูกับครอบครัวในวันหยุด แต่เนื่องจากวันนี้ผมว่างครับ ว๊างว่าง ไม่มีอะไรทำ ก็เลยจะออกไปหาดูหนังซักเรื่องเพื่อผ่อนคลาย และหนังเรื่องนี้ก็คือทางเลือกที่ดีที่สุดแล้วในวีคนี้
เรื่องย่อ
เมื่อระบบความปลอดภัยของอังกฤษโดนแฮ็กโดยไม่ทราบที่มาและสาเหตุ ทาง MI:7 จึงต้องตามหาสายลับมือดี(?)ในการปฎิบัติภารกิจตามหาผู้ร้ายในครั้งนี้ และเขาคนนั้นก็คือ.....จอห์นนี่ อิงลิช (ตกใจ!😨)
"เนื้อหาตามสูตร แต่ความฮาไม่ตามใคร"
หากพิจารณาโดยรวมแล้ว ภาคนี้นั้นก็ไม่ต่างอะไรจากสองภาคแรกนัก นั่นคือเป็นหนังดูเพลิน ดูคลายเครียด ซึ่งตัวหนังทำหน้าที่ในการเอนเตอร์เทนคนดูได้ดีเลย จังหวะการปล่อยมุขก็ทำให้คนทั้งโรงขำได้ไม่น้อย ถ้าคุณจะไปดูคลายเครียดก็เชิญอุดหนุนเถอะครับ เพราะหนังก็ไม่ได้ดีเลิศอะไรมากมาย บทหนังก็ดูสูตรมาก เดาทางได้ง่ายมาก ผมเดาผู้ร้ายได้ตั้งแต่ต้นเรื่องครับ แถมเดาไม่ผิดด้วย และตอนจบมันก็เป็นไปตามที่ผมคาดไว้เป๊ะ แต่หนังก็ไม่ได้แย่ไปซะทุกด้านครับ หนังมีจุดขายอยู่ที่ "มุขตลก" ซึ่งยิงมาตลอด 5 นาที ทุกมุขใช้ได้ครับ เรียกเสียงหัวเราะจากคนดูทั้งโรงไปไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะฉาก VR นี่ขำขี้แตกขี้แตนกันเลยทีเดียว ครับ..หนังดูเป็นสูตรสำเร็จ แต่...ใครแคร์? ฉันมาดูเอาฮา ฉันไม่สนเนื้อเรื่อง แล้วฉันก็ได้ตามนั้น
"Rowan Atkinson เอาหนังอยู่ทั้งเรื่อง"
บอกเลยครับถ้าขาดพี่ Mr. Bean ไป ความสนุกจะหายไปโดยปริยาย พี่แกดูเต็มที่ครับ ยิ่งบทตลกหน้าตายนี่ผมขำส่วนหนึ่งเพราะพี่แกเลยนะ แค่พี่แกคนเดียวก็คุมหนังอยู่ครับ ส่วนดาราคนอื่นออกแนวสมทบครับ Kurylenko นี่ก็สวยเช้งเลยครับ มีเสน่ห์พอสมควรแต่โดนรัศมีความเด่นของพี่ Atkinson กลบหมด Thompson นี่ก็ออกมาน้อยครับ แต่เจ๊แกก็หน้าตายได้ฮาอยู่นะ คนสุดท้ายที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือ Miller ครับ เสริมความฮาได้เยอะอยู่นะ เคมีพี่แกกับ Atkinson ก็เข้ากันดีจนหนังดูสนุกมากขึ้น
สรุป
หนังดูเพลินครับ มีอะไรไม่ Make Sense อยู่บ้างแต่เนื่องจากหนังเสิร์ฟคสามฮาเข้ามาไม่ยั้ง ผมเลยเพลินกับหนังจนลืมข้อเสียที่ว่ามาเลยครับ
รอเช่าดูก็ได้นะ
[CR] ##REVIEW## Johnny English Strikes Again (2018) พยัคฆ์ร้าย ศูนย์ ศูนย์ ก๊าก รีเทิร์น | ฮาโดยไม่ต้องพึ่งสาระ [ไร้ส้มป่อย]
ทีแรกกะว่าจะไม่ดูอยู่แล้วครับ เพราะสองภาคแรกนั้นผมก็ไม่ได้ดูในโรง แต่เช่ามาดูแทน ซึ่งก็บรรเทิงในระดับนึงครับ หนังแนวนี้เหมาะมากในการนอนดูกับครอบครัวในวันหยุด แต่เนื่องจากวันนี้ผมว่างครับ ว๊างว่าง ไม่มีอะไรทำ ก็เลยจะออกไปหาดูหนังซักเรื่องเพื่อผ่อนคลาย และหนังเรื่องนี้ก็คือทางเลือกที่ดีที่สุดแล้วในวีคนี้
เมื่อระบบความปลอดภัยของอังกฤษโดนแฮ็กโดยไม่ทราบที่มาและสาเหตุ ทาง MI:7 จึงต้องตามหาสายลับมือดี(?)ในการปฎิบัติภารกิจตามหาผู้ร้ายในครั้งนี้ และเขาคนนั้นก็คือ.....จอห์นนี่ อิงลิช (ตกใจ!😨)
หากพิจารณาโดยรวมแล้ว ภาคนี้นั้นก็ไม่ต่างอะไรจากสองภาคแรกนัก นั่นคือเป็นหนังดูเพลิน ดูคลายเครียด ซึ่งตัวหนังทำหน้าที่ในการเอนเตอร์เทนคนดูได้ดีเลย จังหวะการปล่อยมุขก็ทำให้คนทั้งโรงขำได้ไม่น้อย ถ้าคุณจะไปดูคลายเครียดก็เชิญอุดหนุนเถอะครับ เพราะหนังก็ไม่ได้ดีเลิศอะไรมากมาย บทหนังก็ดูสูตรมาก เดาทางได้ง่ายมาก ผมเดาผู้ร้ายได้ตั้งแต่ต้นเรื่องครับ แถมเดาไม่ผิดด้วย และตอนจบมันก็เป็นไปตามที่ผมคาดไว้เป๊ะ แต่หนังก็ไม่ได้แย่ไปซะทุกด้านครับ หนังมีจุดขายอยู่ที่ "มุขตลก" ซึ่งยิงมาตลอด 5 นาที ทุกมุขใช้ได้ครับ เรียกเสียงหัวเราะจากคนดูทั้งโรงไปไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะฉาก VR นี่ขำขี้แตกขี้แตนกันเลยทีเดียว ครับ..หนังดูเป็นสูตรสำเร็จ แต่...ใครแคร์? ฉันมาดูเอาฮา ฉันไม่สนเนื้อเรื่อง แล้วฉันก็ได้ตามนั้น
บอกเลยครับถ้าขาดพี่ Mr. Bean ไป ความสนุกจะหายไปโดยปริยาย พี่แกดูเต็มที่ครับ ยิ่งบทตลกหน้าตายนี่ผมขำส่วนหนึ่งเพราะพี่แกเลยนะ แค่พี่แกคนเดียวก็คุมหนังอยู่ครับ ส่วนดาราคนอื่นออกแนวสมทบครับ Kurylenko นี่ก็สวยเช้งเลยครับ มีเสน่ห์พอสมควรแต่โดนรัศมีความเด่นของพี่ Atkinson กลบหมด Thompson นี่ก็ออกมาน้อยครับ แต่เจ๊แกก็หน้าตายได้ฮาอยู่นะ คนสุดท้ายที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือ Miller ครับ เสริมความฮาได้เยอะอยู่นะ เคมีพี่แกกับ Atkinson ก็เข้ากันดีจนหนังดูสนุกมากขึ้น
หนังดูเพลินครับ มีอะไรไม่ Make Sense อยู่บ้างแต่เนื่องจากหนังเสิร์ฟคสามฮาเข้ามาไม่ยั้ง ผมเลยเพลินกับหนังจนลืมข้อเสียที่ว่ามาเลยครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้